Harmonic pattern คืออะไร? ใช้ยังไง? รูปแบบกราฟสำหรับคนเทรด FOREX ต้องรู้
หนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้การเทรดฟอเร็กซ์ของคุณประสบความสำเร็จและเป็นไปตามความคาดหมายก็คือการมีตัวช่วยเทรดที่เหมาะกับคุณ โดยเฉพาะการมีสัญญาณการซื้อขายที่แม่นยำจะเป็นตัวแปรหนึ่งที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายนั้นได้ และด้วย Harmonic pattern ที่เป็นรูปแบบโครงสร้างหลากหลายรูปแบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเทรดฟอเร็กซ์ของคุณได้อย่างมาก ในบทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับโครงสร้างนี้แบบเข้าใจง่ายและใช้ได้จริง
Harmonic pattern คืออะไร
Harmonic pattern หรือ รูปแบบกราฟฮาร์มอนิก เป็นรูปแบบหนึ่งของการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ความสัมพันธ์ทางเรขาคณิตแบบเฉพาะระหว่างราคาและเวลาเพื่อระบุจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นในตลาดคิดค้นครั้งแรกโดย Harold McKinley Gartley รูปแบบเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับแนวคิดของอัตราส่วนฟิโบนัชชี่ที่สอดคล้องกับพื้นที่ของแนวรับและแนวต้าน ฟีเจอร์ที่สำคัญของรูปแบบนี้คือ Potential Reverse Zone หรือ PRZ ที่จะเป็นการบอกสัญญาณซื้อขายให้กับเทรดเดอร์และบอกโอกาสที่ราคาจะกลับตัวที่จะเป็นประโยชน์แก่เทรดเดอร์ได้อย่างมาก
ความสำคัญหลักของรูปแบบกราฟฮาร์มอนิกกับการเทรดฟอเร็กซ์ คือมีลักษณะเป็นรูปแบบแผนภูมิที่ใช้ในการทำนายการเคลื่อนไหวของราคา, การคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคต, ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุแนวโน้มของราคา, การเปลี่ยนแปลงของราคาที่เป็นไปได้หรือการกลับตัวของแนวโน้มได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
รูปแบบกราฟนี้มีหลายแบบ และแต่ละแบบอาจใช้เพื่อระบุแนวโน้มบางอย่างได้ จุดประสงค์ของกราฟในแต่ละแบบนี้ก็เพื่อให้สามารถทำการตัดสินใจซื้อขายได้ดีที่สุดและรวดเร็วที่สุดที่เทรดเดอร์สามารถนำรูปแบบใด ๆ มาใช้ร่วมกับเทคนิคการวิเคราะห์กับการเทรดของคุณเองได้
สำหรับวิธีใช้งานของรูปแบบนี้จะทำงานร่วมกับหลักการฟิโบนัชชี่หรือ Fibonacci เพื่อระบุจุดเปลี่ยนที่แน่นอน ด้วยการหารูปแบบของขนาดและความยาวที่แตกต่างกันและใช้ค่าสัมประสิทธิ์ฟีโบนัชชีนี้ นักเทรดรายวันยังสามารถใช้ในการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวในอนาคตของตราสารทางการเงิน เช่น หุ้น ออปชัน และอื่น ๆ ได้
ดังนั้น โดยภาพรวมแล้วการเทรดแบบฮาร์มอนิก ตรงกันข้ามกับกลยุทธ์การเทรดยอดนิยมอื่น ๆ เพราะเทคนิคนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวในอนาคต โดยใช้ตัวเลขฟีโบนัชชีเข้ามาคำนวณและเป็นกุญแจสำคัญในการระบุการกลับตัวของราคาและแสดงลักษณะการเคลื่อนไหวของราคาที่เฉพาะเจาะจงมากจึงได้ชื่อว่าเป็นเครื่องมือที่แม่นยำมากเครื่องมือหนึ่ง
ความเกี่ยวข้องกันกับหลักการฟิโบนัชชี่
ข้อได้เปรียบหลักของรูปแบบกราฟฮาร์มอนิกคือคุณไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการคาดเดาเพราะคุณสามารถใช้หลักตัวเลขฟีโบนัชชีอย่างเฉพาะเจาะจงได้ harmonic pattern คิดค้นโดยเลโอนาร์โด ฟีโบนัชชี สำหรับอัตราส่วนฟิโบนัชชี่พื้นฐาน คืออัตราส่วนทองคำ (1.618) หมายเลขฟีโบนัชชีเป็นลำดับของตัวเลขโดยแต่ละหมายเลขเป็นผลรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า ใช้อัตราส่วนฟิโบนัชชี่ตามลำดับฟิโบนัชชี่ เช่น ตัวเลขแต่ละตัวที่ตามหลัง 0 และ 1 จะเท่ากับผลบวกของตัวเลขก่อนหน้าสองตัว สิ่งนี้สร้างชุดต่อไปนี้ ได้แก่ 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34 เป็นต้น
ชุดของฟิโบนัชชี่เริ่มต้นดังนี้ 1,1,2,3,5,8,13,21,34,55,89,144,233,317,610….
ชุดสำคัญของอัตราส่วนฟิโบนัชชี่สำหรับการเทรด คือ 0.382, 0.618, 0.786, 1.0, 1, 1, 2.0, 2.62, 3.62, 4.62
ชุดรองของอัตราส่วนฟิโบนัชชี่สำหรับการเทรดคือ 0.236, 0.886, 1.13, 2.236, 3.14, 4.236
มีการใช้งานฟิโบนัชชี่ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย ประเภทของฟิโบนัชชี่ได้แก่ retracement, extension, projection และ expansion swing สำหรับฟิโบนัชชี่ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้แก่ Fibonacci retracements โดยสามารถเลือกใช้งานได้จากหน้ากระดานเทรดของ Mitrade ได้เลย
ข้อดีและข้อเสียของ Harmonic pattern
Harmonic pattern มีทั้งข้อดีและข้อเสียดังต่อไปนี้
ข้อดีของ Harmonic pattern
ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ที่แม่นยำด้วยการคาดการณ์ล่วงหน้าและบอกราคาหยุดในอนาคตได้
มีความสม่ำเสมอ เชื่อถือได้ และช่วยกำหนดค่าที่มีความเป็นไปได้สูง
ใช้อัตราส่วนฟิโบนัชชี่เพื่อกำหนดขั้นตอนการเทรดให้เป็นมาตรฐาน
ปฏิบัติตามแนวทางการวัดการเคลื่อนไหว ความสมมาตร และบริบทของตลาด
สามารถใช้งานได้ในตราสารตลาดและกรอบเวลาทั้งหมด
ข้อเสียของ Harmonic pattern
ค่อนข้างซับซ้อนและมีความเป็นเทคนิคสูงจึงทำให้มือใหม่เข้าใจยาก
การจดจำรูปแบบกราฟฮาร์มอนิกและระบบอัตโนมัติอย่างถูกต้องอาจต้องใช้เวลา
Fibonacci retracements/projection ที่ขัดแย้งกันสามารถสร้างความยากลำบากในการระบุโซน reversal หรือ projection zones จึงอาจให้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนหากรูปแบบกราฟฮาร์มอนิกเกิดขึ้นในกรอบเวลาที่ทับซ้อนกัน
ปัจจัยความเสี่ยงหรือผลตอบแทนจากรูปแบบที่ไม่สมมาตร
วิธีวาดและเทรด Harmonic pattern
รูปแบบฮาร์มอนิกอาจมองด้วยตาเปล่าได้ยาก แต่เมื่อเทรดเดอร์เข้าใจโครงสร้างรูปแบบแล้ว ก็จะสามารถเห็นรูปแบบเหล่านี้ได้ค่อนข้างง่ายด้วยเครื่องมือ Fibonacci รูปกราฟแบบอาจมีโครงสร้างรูปตัว "M" หรือ "W" หรืออาจเป็นรูปแบบ "M" และ "W" รวมกันใน
รูปแบบฮาร์มอนิกหลัก ๆ คือ Gartley, Butterfly, Crab, Bat, Shark, Cypher มีหลักการและโครงสร้างที่คล้ายคลึงกัน แม้ว่าจะแตกต่างกันในแง่ของอัตราส่วนความยาวของขาและตำแหน่งของที่ตั้ง X, A, B, C, D แต่เมื่อคุณเข้าใจรูปแบบหนึ่งแล้ว ก็จะค่อนข้างง่ายที่จะเข้าใจรูปแบบอื่น ๆ เทรดเดอร์สามารถใช้ซอฟต์แวร์การจดจำรูปแบบอัตโนมัติเพื่อระบุรูปแบบเหล่านี้แทนที่จะใช้ตาเปล่าเพื่อค้นหารูปแบบที่ถูกต้องได้
ในการวาดรูปแบบฮาร์มอนิกเพื่อเทรดจะเริ่มต้นเมื่อหา 3 ขาแรกได้แล้วโดยมองหา 5 จุดตัวอย่างเช่น ในรูปแบบ Gartley Bullish หาขา XA, AB และ BC เสร็จแล้วและเริ่มสร้างขา CD คุณอาจจะพอระบุได้การเทรดที่เป็นไปได้ การลากเส้นโครงสร้างคร่าว ๆ และการย้อนกลับของขา XA และ BC พร้อมกับอัตราส่วนฟีโบนัชชี จะสามารถสร้างราคาเพื่อระบุรูปแบบที่เป็นไปได้ ดังนั้น การเริ่มต้นใช้รูปแบบกราฟฮาร์มอนิกในการเทรดสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
มองหาการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางที่เป็นขาขึ้นหรือขาลง
ค้นหาระดับการย้อนกลับที่สำคัญด้วยอัตราส่วน Fibonacci
สร้างรูปแบบ
ตีความรูปแบบการกลับตัวหรือต่อเนื่อง
เปิดการซื้อหรือขาย
รูปแบบของ Harmonic pattern กับการเทรด Forex
รูปแบบฮาร์มอนิกอาจมองด้วยตาเปล่าได้ยาก แต่เมื่อเทรดเดอร์เข้าใจโครงสร้างรูปแบบแล้ว ก็จะสามารถเห็นรูปแบบเหล่านี้ได้ค่อนข้างง่ายด้วยเครื่องมือ Fibonacci รูปกราฟแบบอาจมีโครงสร้างรูปตัว "M" หรือ "W" หรืออาจเป็นรูปแบบ "M" และ "W" รวมกันใน
รูปแบบฮาร์มอนิกหลัก ๆ คือ Gartley, Butterfly, Crab, Bat, Shark, Cypher มีหลักการและโครงสร้างที่คล้ายคลึงกัน แม้ว่าจะแตกต่างกันในแง่ของอัตราส่วนความยาวของขาและตำแหน่งของที่ตั้ง X, A, B, C, D แต่เมื่อคุณเข้าใจรูปแบบหนึ่งแล้ว ก็จะค่อนข้างง่ายที่จะเข้าใจรูปแบบอื่น ๆ เทรดเดอร์สามารถใช้ซอฟต์แวร์การจดจำรูปแบบอัตโนมัติเพื่อระบุรูปแบบเหล่านี้แทนที่จะใช้ตาเปล่าเพื่อค้นหารูปแบบที่ถูกต้องได้
ในการวาดรูปแบบฮาร์มอนิกเพื่อเทรดจะเริ่มต้นเมื่อหา 3 ขาแรกได้แล้วโดยมองหา 5 จุดตัวอย่างเช่น ในรูปแบบ Gartley Bullish หาขา XA, AB และ BC เสร็จแล้วและเริ่มสร้างขา CD คุณอาจจะพอระบุได้การเทรดที่เป็นไปได้ การลากเส้นโครงสร้างคร่าว ๆ และการย้อนกลับของขา XA และ BC พร้อมกับอัตราส่วนฟีโบนัชชี จะสามารถสร้างราคาเพื่อระบุรูปแบบที่เป็นไปได้ ดังนั้น การเริ่มต้นใช้รูปแบบกราฟฮาร์มอนิกในการเทรดสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
มองหาการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางที่เป็นขาขึ้นหรือขาลง
ค้นหาระดับการย้อนกลับที่สำคัญด้วยอัตราส่วน Fibonacci
สร้างรูปแบบ
ตีความรูปแบบการกลับตัวหรือต่อเนื่อง
เปิดการซื้อหรือขาย
รูปแบบที่ง่ายที่สุดในบรรดารูปแบบทั้งหมด รูปแบบ ABCD (หรือ AB=CD) ประกอบด้วยการเคลื่อนไหว 3 แบบและมี 4 จุด ประการแรก มีการที่ตลาดเคลื่อนไหวไปทางใดทางหนึ่ง (AB) จากนั้นเป็นการเคลื่อนไหวแบบตรง (BC) และการที่ตลาดเคลื่อนไหวไปทางใดทางหนึ่ง (DC) ที่ไปในทิศทางเดียวกันกับ AB
เมื่อใช้เครื่องมือ Fibonacci retracement บนขา AB ขา BC ควรไปถึง 0.618 อย่างแม่นยำ เส้น CD จะยาวเท่ากับเส้น AB และเวลาที่ราคาไปจาก A ถึง B ควรเท่ากับเวลาที่ใช้ไปจาก C ถึง D
เทรดเดอร์สามารถเลือกที่จะวางคำสั่งเข้าใกล้กับจุด C ซึ่งกำหนดเป็น Potential Reversal Zone (PRZ) หรือสามารถรอจนกว่ารูปแบบทั้งหมดจะเสร็จสิ้นก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่ง long หรือ short จากจุด D ได้
Gartley pattern
เป็นรูปแบบแผนภูมิฮาร์มอนิกที่พบมากที่สุด สำหรับ Gartley pattern จะทำงานบนสมมติฐานว่าลำดับฟีโบนัชชีสามารถใช้สร้างโครงสร้างทางเรขาคณิตได้ เช่น การฝ่าวงล้อมและการดีดตัว (retracement) ประโยชน์หลักของรูปแบบกราฟประเภทนี้คือการให้ข้อมูลเชิงลึกเฉพาะเจาะจงทั้งในด้านเวลาและขนาดของการเคลื่อนไหวของราคาแทนที่จะดูเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
นักวิเคราะห์ทางเทคนิคหลายคนใช้ Gartley pattern ร่วมกับรูปแบบแผนภูมิหรือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น สำหรับเทรดเดอร์ที่มุ่งเน้นไปที่การเทรดแบบระยะสั้นในทิศทางของแนวโน้มที่คาดการณ์ไว้ รูปแบบนี้อาจให้ภาพรวมว่าราคามีแนวโน้มจะไปในทิศทางใดในระยะยาว โดยจะเป็นการดูเป้าหมายราคาที่เคลื่อนทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่ตั้งการฝ่าวงล้อม สำหรับจุด stop-loss มักจะอยู่ที่จุด 0 หรือ X และจุดทำกำไรมักตั้งไว้ที่จุด C ในการเทรดจริงควรใช้รูปแบบ Gartley ร่วมกับรูปแบบอื่น ๆ ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่จะช่วยการยืนยันราคาที่แม่นยำมากขึ้นได้
Butterfly pattern
สำหรับ Butterfly pattern จะแตกต่างจาก Gartley ตรงที่ผีเสื้อมีจุด D ยื่นเลยจุด X รูปแบบผีเสื้อถูกค้นพบโดย Bryce Gilmore ซึ่งใช้การผสมผสานอัตราส่วฟิโบนัชชี่ที่แตกต่างกันเพื่อระบุการย้อนกลับที่อาจเกิดขึ้น เป็นรูปแบบการกลับรายการที่ประกอบด้วยสี่ขา โดยมีเครื่องหมาย X-A, A-B, B-C และ C-D
อัตราส่วนที่สำคัญที่สุดในการกำหนดคือ 0.786 การย้อนกลับของขา XA สิ่งนี้ช่วยในการวางแผนจุด B ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์ระบุ PRZ ได้
Bat pattern
รูปแบบค้างคาว ได้ชื่อมาจากรูปภาพที่เหมือนกับค้างคาว คิดค้นโดย Scott Carney ในปี 2001 มีขามากกว่ารูปแบบ ABCD หนึ่งขา และมีจุดพิเศษอีกหนึ่งจุด ซึ่งเราจะเรียกว่า X ขาแรก (XA) จะนำไปสู่การเคลื่อนที่ย้อนกลับของ BC หากการย้อนกลับขึ้นไปที่จุด B หยุดที่ 50% ของการเคลื่อนไหว XA เริ่มต้น คุณอาจกำลังมองหารูปแบบ BAT
ส่วนขยาย CD ต้องมีอย่างน้อย 1.618 ของขา BC และสามารถสูงถึง 2.618 ส่วนขยาย CD ต้องไม่น้อยกว่า BC มิฉะนั้นตัวเลขจะใช้ไม่ได้ จุดสิ้นสุด (D) สร้าง PRZ ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะเพื่อซื้อขายได้ทั้งการกลับตัวของราคาที่เป็นขาขึ้นหรือการผกผันของราคาที่เป็นขาลง
Crab pattern
การค้นพบของ Scott Carney เป็นไปตามรูปแบบ X-A, A-B, B-C และ C-D ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์เข้าสู่ตลาดที่ราคาสูงหรือต่ำมาก คุณลักษณะที่สำคัญที่สุดของรูปแบบปูคือส่วนขยาย 1.618 ของการเคลื่อนไหว XA ที่กำหนด PRZ
ในเวอร์ชันตลาดหมีของ Crab ขาแรกเกิดขึ้นเมื่อราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากจุด X ไปยังจุด A ขา AB ถอยกลับระหว่าง 38.2% และ 61.8% ของ XA ตามด้วยการประมาณค่า BC ที่รุนแรง (2.618 - 3.14 - 3.618) ซึ่งระบุพื้นที่ที่ถูกต้องสำหรับความสมบูรณ์ของรูปแบบและการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นของแนวโน้มปัจจุบัน
สรุป
เทรดเดอร์ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในการเทรดด้วยการทั้งสิ้น ดังนั้น การมองหาเครื่องมือสำหรับการเทรดที่มีประสิทธิภาพจะจะเป็นตัวช่วยให้คุณบรรลุความตั้งใจได้อย่างแน่นอน หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพต่อการเทรดฟอเร็กซ์อย่างยิ่งคือ harmonic pattern เพราะช่วยบอกสัญญาณเข้าซื้อและขายในอนาคตได้ค่อนข้างแม่นยำด้วยการวาดโครงสร้างและหลักการคำนวณแบบฟิโบนั่ชชี่ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าการเทรดแบบฮาร์มอนิกก็อาจมีข้อผิดพลาดที่เป็นกฎขั้นพื้นฐานเช่นเดียวกับเครื่องมือการเทรดฟอเร็กซ์อื่น ๆ
ดังนั้น เพื่อให้รูปแบบกราฟฮาร์มอนิกมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น อย่าลืมดูแนวรับและแนวต้านพร้อมกับการกลับตัวของการเคลื่อนไหวของราคา รวมทั้งใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำให้กับการเทรดมากยิ่งขึ้น สุดท้ายแล้วอย่าลืมตั้งค่าหยุดการขาดทุนและตั้งเป้าหมายทำกำไรที่สมเหตุสมผลด้วยทุกครั้ง
1.harmonic pattern ใช้ยังไง?
2.ความแม่นยำของ harmonic pattern ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์?
3.กรอบเวลาใดดีที่สุดสำหรับการเทรดใน harmonic pattern ?
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน