5 อันดับเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนระยะยาวในปี 2023

ในโลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โอกาสย่อมเป็นของคนที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้เป็นคนแรก ๆ ในช่วงที่โลกเริ่มเปลี่ยนผ่านจากยุคอุตสาหกรรมเข้าสู่เทคโนโลยีดิจิตอล สองเทคโนโลยีอย่าง Big Data และ Blockchain ก็เริ่มเข้ามาดิสรัปอุตสาหกรรมต่าง ๆ กันไปบ้างแล้ว ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมการเงิน และโฉมหน้าระบบการเงินในอนาคตย่อมหนีไม่พ้นโลกของเหรียญคริปโต (Cryptocurrency) หรือ สกุลเงินดิจิตอล (Digital Currency) 

เพื่อให้นักลงทุนไม่พลาดรถขบวนนี้เราจึงมาชวนดูว่าสกุลเงินแห่งโลกอนาคตอ่างเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนยาวนั้น เราจะสามารถลงทุนกับมันได้อย่างไร และมีโอกาสอะไรแฝงอยู่ในการลงทุนกับเหรียญคริปโตนั้นบ้าง

เทรดคริปโตเดี๋ยวนี้ >>    

『 ค่าคอมฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 』

『 เงินเสมือนจริงฟรี $50, 000 ดอลลาร์ 💰 』

『 โบนัสสำหรับลูค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁 』

เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนเป็นที่พูดถึงกันมาก่อนหน้านี้บ้างแล้ว แต่เพิ่งเริ่มมาเป็นที่นิยมแพร่หลายเมื่อไม่กี่ปีหลังมานี้เอง ทำให้หลายท่านนึกสงสัยขึ้นมาว่าทำไมสินค้านี้จึงได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลกจนกลายมาเป็นหนึ่งในสินค้าที่หลายคนต้องมีติดพอร์ตเอาไว้ และคำตอบนั้นไม่ซับซ้อนเลย

1. เหรียญคริปโตให้ผลตอบแทนได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 

ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วไปมีการเติบโตอย่างมากที่สุดราว 20% ต่อปี แต่สำหรับเหรียญคริปโตแล้วมีการเติบโตสูงกว่านั้นมากอย่างไม่น่าเชื่อ โดยห้าปีย้อนหลัง สินค้าเหรียญคริปโตอย่าง Bitcoin สามารถให้ผลตอบแทนเฉลี่ยถึงกว่า 300% ต่อปีทีเดียว

2. เหรียญคริปโตเป็นสินค้าทางเลือก (Alternative Investment) 

ขณะที่สินค้าทางการเงินอื่น ๆ ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเมื่อเกิดวิกฤตตลาดการเงิน สินค้าอย่างเหรียญคริปโตกลับกลายเป็นหลุมหลบภัยและมีราคาปรับตัวขึ้นสวนกระแสขึ้นมาได้ เหรียญคริปโตจึงกลายเป็นทางเลือกในการลงทุนในภาวะที่นักลงทุนรู้สึกว่าตลาดการเงินมีความเสี่ยงสูงขึ้นได้

3. เหรียญคริปโตเป็นสินค้าที่มีสภาพคล่องสูง 

สินค้าอย่างเหรียญคริปโตในปัจจุบันมีสภาพคล่องสูงขึ้นมาก ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขที่ดีให้นักลงทุนซื้อขายได้ในราคาที่ดีตามที่ต้องการ

ถึงอย่างนั้นสินค้าอย่างเหรียญคริปโตก็ยังมีลักษณะคล้ายการลงทุนในรูปแบบอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูง นั่นคือมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงด้วยเช่นกัน ซึ่งหากนักลงทุนสามารถจัดการกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ก็สามารถคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าปกติได้

ปัจจุบันมีเหรียญคริปโตมากมายในตลาดให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน เหรียญคริปโตแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติหน้าที่การใช้งานเฉพาะตัว และแน่นอนว่าก่อนที่จะลงทุนสินค้าตัวใดเราก็ควรทำความรู้จักสินค้านั้นให้ดีเสียก่อนเพื่อให้ทราบและสามารถจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ และในคราวนี้เราจะขอยกตัวอย่างเหรียญคริปโตที่น่าสนใจมาพูดคุยให้ฟังกัน 5 ตัวคือ bitcoin, bitcoin cash, ethereum ,ripple และ litecoin

1. Bitcoin

Bitcoin เป็นเหรียญคริปโตชนิดแรก ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาใช้เพื่อแก้ปัญหาต้นทุนธุรกรรมทางการเงิน เช่น การฝาก ถอน โอน ที่โดยปกติมักจะมีการคิดค่าธรรมเนียมโดยตัวกลางอย่างธนาคาร ซึ่ง Bitcoin เลือกที่จะตัดตัวกลางตัวนี้ออกไป และใช้การประมวลผลธุรกรรมจากสมาชิกในชุมชน (Decentralize) แทน โดยสมาชิกที่ทำการถอดรหัสได้ก็จะได้รับ Bicoin เป็นผลตอบแทน หรือที่เรียกกันว่าการขุดเหรียญ (Bitcoin Mining) นั่นเอง

ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวด้านการแก้ปัญหาธุรกรรมทางการเงินนี้ ทำให้โอกาสในการเติบโตของ Bicoin ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ของผู้ที่เห็นร่วมกันว่าการมีตัวกลางในการทำธุรกรรมการเงินนั้นมีต้นทุนที่แพงเกินไป และหันมาใช้ Bitcoin แทน ซึ่งหากมีผู้ใช้จำนวนมากขึ้น ก็มีโอกาสที่ราคา Bitcoin จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระบบของ Bitcoin มีการออกแบบมาให้ในระยะยาวจำนวนเหรียญในระบบมีอยู่อย่างจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น

ในโอกาสนี้ยังมีความเสี่ยงที่ต้องระวังสำหรับนักลงทุน เนื่องจากเริ่มมีคู่แข่งในตลาดที่มากขึ้น เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมการเงินทำให้ค่าธรรมเนียมตัวกลางเริ่มถูกลง ขณะที่เมื่อมีผู้ใช้ Bitcoin จำนวนมากจะทำให้เวลาที่ใช้ในการประมวลผลนานขึ้น ซึ่งจะกระทบกับปริมาณผู้ใช้ได้ในระยะยาว และเราได้ทำการสรุปข้อมูลที่ควรทราบสำหรับ Bicion มาให้แล้ว

2. Ethereum

ขณะที่ Bitcoin และ Bitcoin Cash สร้างขึ้นเพื่อลดต้นทุนธุรกรรม Ethereum นั้นแตกต่างออกไป Ethereum ถูกพัฒนาขึ้นเป็นระบบการเงินที่ใช้ในแพลตฟอร์มพัฒนาแอปพลิเคชั่น โดยระบบนี้จะเป็นการกระจายศูนย์ให้สมาชิกในชุมชนร่วมกันประมวลผลการทำงานของแอปพลิเคชั่นบนแพลตฟอร์ม และสมาชิกที่ร่วมการประมวลผลจะได้เหรียญ Ethereum เป็นการตอบแทน ขณะที่ผู้พัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นที่ลงบนแพลตฟอร์มนี้จำเป็นต้องจ่าย Ethereum เป็นค่าแก๊ส (Gas) ในการประมวลผลแอปพลิเคชั่น ถ้าต้องการให้แอปพลิเคชั่นเร็วก็ยิ่งต้องจ่ายมากขึ้น Ethereum เป็นที่น่าสนใจมากสำหรับนักลงทุน เนื่องจากปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์เป็นบริษัทพัฒนาโปรแกรมและแอปพลิเคชั่นยักษ์ใหญ่หลายเจ้าเข้ามามีส่วนร่วม

การเติบโตของ Ethereum ในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการขยายตัวของผู้รันแอปพลิเคชั่นบนแพลตฟอร์มนี้ นั่นคือหากมีผู้เข้ามาใช้ Ethereum (แพลตฟอร์ม) มาก ก็จะมีความต้องการใช้เหรียญเป็นค่าแก๊สมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งการเติบโตของธุรกิจและอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ก็ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องและน่าจับตามอง ทำให้เหรียญ Ethereum ค่อนข้างมีความน่าสนใจในอนาคตตามการเติบโตของอุตสาหกรรม

3. Ripple

เหรียญคริปโต XRP ถูกพัฒนาขึ้นโดย Ripple Lab ในลักษณะที่คล้ายกับ Bitcoin คือการตั้งเป้าลดค่าธรรมเนียมธุรกรรมทางการเงินลง โดยเฉพาะธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศที่เดิมมีค่าธรรมเนียมสูงมากและใช้เวลานานมาก แต่ในขณะที่ Bitcoin เลือกที่จะตัดตัวกลางอย่างธนาคารออกไป XRP กลับเลือกที่จะเป็นพาร์ทเนอร์กับธนาคารยักษ์ใหญ่ทั่วโลก โดยพัฒนา Blockchain ที่ประมวลผลหาเส้นทางหรือการโอนเงินระหว่างประเทศที่สั้นที่สุด ที่มีค่าธรรมเนียมน้อยที่สุดออกมาได้ และ XRP ก็คือเหรียญคริปโตที่ใช้หมุนเวียนอยู่ในระบบนี้

การเติบโตของ XRP ในอนาคตจึงขึ้นอยู่กับปริมาณการทำธุรกรรมโอนเงินและสินทรัพย์ระหว่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้นตามความเป็นโลกาภิวัฒน์ที่โลกเปิดเสรีมากขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงยังคงเป็นคู่แข่งอย่างระบบ Swift ยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าตลาดการโอนเงินระหว่างประเทศก็กำลังพัฒนาระบบ Blockchain ของตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว จึงเป็นที่น่าสนใจว่าในอนาคต Ripple จะยังคงความเป็นผู้นำด้านนี้ต่อไปได้หรือไม่

4. Litecoin

หากจะเทียบกับเหรียญคริปโตตัวอื่นแล้ว Litecoin คงจะมีความใกล้เคียงกับ Bitcoin Cash มากที่สุด เนื่องจากเหรียญคริปโตทั้งสองนั้นพัฒนามาจาก Bitcoin เช่นเดียวกัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดต้นทุนธุรกรรมทางการเงินของตัวกลางลง และเพื่อปิดจุดอ่อนของ Bitcoin คือการประมวลผลที่ช้า ทำให้ทั้ง Litecoin และ Bitcoin Cash ถูกพัฒนามาให้มีประบบประมวลผลที่รวดเร็วขึ้น โดย Litecoin มีการใช้เวลาประมวลผลธุรกรรมต่อบล็อกที่ 2.5 นาที ซึ่งเร็วกว่า Bitcoin ที่ใช้เวลาถึง 10 นาที ถือว่า Litecoin จะทำธุกรรมได้เร็วกว่า Bitcoin ถึง 4 เท่าทีเดียว

และเช่นเดียวกับเหรียญคริปโตอื่น ๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายในการลดต้นทุนทางธุรกรรมของตัวกลาง ราคาของ Litecoin ก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้เหรียญเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ โดยหากมีผู้สนใจใช้ Litecoin เพิ่มมากขึ้นราคาเหรียญคริปโตชนิดนี้ก็จะเพิ่มสูงขึ้นตาม แต่อย่างไรก็ดียังมีเหรียญคริปโตอีกหลายตัวที่สร้างขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายนี้และจะกลายมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญ โดยเฉพาะ Bitcoin Cash ที่ปัจจุบันใช้เวลาในการทำธุกรรมได้น้อยลงกว่า Litecoin อยู่พอสมควร

5. Bitcoin Cash

Bitcion Cash เป็นเหรียญคริปโตที่พัฒนามาทีหลัง โดยมีการพัฒนาต่อยอดมาจาก Bitcoin ทำให้ยังคงหน้าที่หลักของเหรียญคริปโตอย่าง Bitcion ไว้ คือ Bitcoin Cash ยังคงต้องการลดต้นทุนธุรกรรมทางการเงินโดยตัดตัวกลางอย่างธนาคารออกไปและให้สมาชิกในชุมชนมีส่วนร่วมในการประมวลผลร่วมกัน แต่ Bicoin Cash ได้เข้ามาแก้ปัญหาที่ Bitcoin เผชิญอยู่คือการการประมวลผลที่ช้าและใช้เวลานาน ซึ่งตัว Bicoin Cash มีการปรับปรุงระบบ Blockchain ของตัวเองให้สามารถประมวลผลได้เร็วกว่ามาก

ด้วยคุณสมบัติของเหรียญ Bitcion Cash ที่ใกล้เคียงกับ Bitcoin ทำให้โอกาสการเติบโตของเหรียญคริปโตตัวนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการใช้เหรียญของคนในชุมชนในอนาคต ที่จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งอีกมากมายเช่นกัน และเราก็ได้ทำการสรุปข้อมูลที่ควรทราบสำหรับ Bicion Cash มาให้แล้ว

ข้อมูลเหรียญด้านบนนี้อ้างอิงจาก Coinmarketcap.com ณ วันที่ 18/05/2023

ด้านบนนี้ก็คือเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนยาวที่เราแนะนำ เราสามารถสรุปได้ว่าการลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลที่มีความมั่นคงและมีศักยภาพเพื่อการลงทุนยาวนาน จะเป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างความมั่งคั่งในอนาคต ในสิ่งที่เราลงทุนลงไปในโลกดิจิตอลเป็นความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหว มิใช่แค่การลงทุนในสกุลเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนในอนาคตที่ไม่เคยหยุดพัฒนา และอาจเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างกลับกลายในชีวิตของเรา