Bitcoin Wallet อันไหนดี? 9 กระเป๋าบิทคอยน์ที่คนไทยนิยมใช้กัน 2024
Bitcoin Wallet อันไหนดี? 9 กระเป๋าบิทคอยน์ที่คนไทยนิยมใช้กัน 2024 จะมีอะไรบ้างในบทความนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้กับ Bitcoin Wallet คืออะไร มีกี่ประเภท พร้อมทั้งเปรียบเทียบให้เห็นข้อดี ข้อเสีย ของ Wallet แต่ละชนิด เพื่อให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเลือกกระเป๋าแบบไหน
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมือเก่าก็สามารถติดตั้ง Bitcoin Wallet ได้ด้วยตัวเอง ใครที่มีกระเป๋า Bitcoin ในใจ หรือกำลังมองหากระเป๋า Bitcoin ที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดสำหรับตัวเอง บทความนี้มีคำตอบให้คุณ
วิธีการเลือก Bitcoin Wallet ที่ดีที่สุด?
สำหรับวิธีการเลือกใช้ Bitcoin Wallet ที่ดีที่สุดต่อผู้ใช้งาน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งานมีเป้าหมายในการลงทุนอย่างไร เช่น ต้องการลงทุนในรระยะสั้น หรือ ต้องการลงทุนในระยะยาว ตลอดจนถึงในเรื่องความต้องการถือครองเพียงบิทคอยน์หรือเพียงสกุลเงินดิจิทัลอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นหลักหรือไม่ หรือต้องการที่จะถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายสกุลเงินที่ไม่ใช่เพียงแต่บิทคอยน์เท่านั้น เพราะบางกระเป๋าก็รองรับเพียงแค่ Bitcoin อย่างเดียว
ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่นักลงทุนทุกคนต้องรู้ นั่นก็คือ วัตถุประสงค์ในการใช้งานของตนเองว่าเราต้องการถือสินทรัพย์ไว้เพื่อทำธุรกรรมอะไร โดยเราสามารถเลือก Bitcoin Wallet ที่ดีที่สุดสำหรับได้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
กระแสการลงทุน Cryptocurrency (สินทรัพย์ดิจิทัล) ในช่วงที่ผ่านมา ก็ทำให้เราได้เห็นทั้งข่าวดีและข่าวไม่ดีเกิด โดยเฉพาะในเรื่องของการโดนแฮ็กสินทรัพย์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่นักลงทุนเป็นจำนวนมาก จนมีผู้เชี่ยวชาญออกมมาแนะนำวิธีการดูแลสินทรัพย์ของคุณที่มีความปลอดภัยสูง นั่นก็คือการเก็บเหรียญไว้ใน Hardware Wallet ซึ่งเป็นบิทคอยน์ วอลเล็ท ประเภทกระเป๋าเงินเย็นนั่นเอง นอกจากที่ Hardware Wallet จะมีความปลอดภัยสูงแล้วนั้น ยังมีคุณสมบัติพิเศษในของการเก็บข้อมูลอย่าง Private Key ที่เปรียบเสมือนลายเซ็นของเราเพื่อเข้าใช้งานบนบล็อคเชนในแต่ละครั้ง เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าตัวรหัส Private Key เป็นตัวอักษรที่ค่อนข้างยาว ซึ่งยากต่อการจำและง่ายต่อการกรอกรหัสผิดพลาด
9 กระเป๋าบิทคอยน์ที่คนไทยนิยมใช้กัน 2024
Bitcoin Wallet | Ledger Nano X | Trezor Model T | Bitbox | SafePal S1 | Keepkey | Cool WalletS x Binance Chain | Ellipal Titan | SecuX w10 | Bitkub |
ประเภท | Cold | Cold | Cold | Cold | Cold | Cold | Cold | Cold | Hot |
ความยากง่าย | ง่าย | ง่าย | ง่าย | ง่าย | ง่าย | ง่าย | ง่าย | ง่าย | ง่าย |
ความปลอดภัย | สูงมาก | สูงมาก | สูงมาก | สูงมาก | สูง | สูง | สูง | สูง | สูง |
จำนวนสกุลเงิน | 5500+ | 1600 | <30 | 1000+ | <50 | 1000+ | 10,000+ | 1000+ | 50+ |
ภาษาไทย | ไม่ | ไม่ | ไม่ | ไม่ | ไม่ | ไม่ | ไม่ | ไม่ | รับ |
ราคา | ฿5,688 | ฿10,450 | ฿1,290 | ฿2,190 | ฿6,990 | ฿3,990 | ฿10,930 | ฿4,990 | ฟรี |
1. Ledger Nano X (Bitcoin Cold Wallet) ชนิด Hardware ดีที่สุดโดยรวม
สำหรับบริษัท Ledger คือ ผู้พัฒนา Bitcoin Cold Wallet ที่มีประสิทธิภาพมากและได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานจริงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะกระเป๋า Bitcoin อย่างเช่น Ledger Nano X ที่มีการพัฒนามาจาก Nano S รุ่นเก่า เพิ่มศักยภาพในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรองรับสกุลที่มากขึ้นกว่าเดิม ความเสถียรภาพในการใช้งาน ขนาดเล็กพกพาสะดวก สามารถซื้อได้ง่าย ทั้งยังโดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยที่ถือว่าสูงมากวัดจากมาตรฐาน CC EAL5+ เลยทีเดียว
※ ปัจจัยที่ทำให้ Ledger Nano X เป็น Bitcoin Wallet ที่ดีที่สุดในปี 2024
ในยุคแห่งกการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล Cryptocurrency ปัจจัยหลักที่เราควรคำนึงก็คือในเรื่องของความปลอดภัยของสินทรัพย์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ Ledger Nano X ก็ยืนหนึ่งในเรื่องของความปลอดภัย อีกทั้งในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานก็ยังเหมาะสำหรับนักลงทุนทุกกลุ่ม ไม่ว่าคุณจะทำการซื้อขายอยูเป็นประจำก็สามารถทำได้โดยทันที จุดเด่นของ Ledger Nano X อีกหนึ่งข้อก็คือในเรื่องของพื้นที่ในการจัดเก็บเหรียญที่มีมากกว่า 100 สกุลเงิน ซึ่งประเด็นนี้ค่อนข้างตอบโจทย์นักลงทุนเป็นอย่างมาก ในเรื่องของการใช้งานไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ใช้งานง่าย มีกระเทรดแลกเปลี่ยนอยู่ในตัวที่สามารถทำการซื้อขายได้ทันที ทั้งนี้ยังสามารถรองรับอุปกรณ์ทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็น Smartphone ในรูปแบบ Android, IOS หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกรูปแบบ สามารถหาซื้อได้ง่ายในประเทศไทยก็มีจำหน่ายเช่นกัน
※ ข้อดีของ Ledger Nano X
ระดับความปลอดภัยสูงตามมาตรฐาน CC EAL5+
รองรับสกุลเงินจำนวนมากมาย พร้อมทั้งมีพื้นที่การจัดเก็บเหรียญมากกว่า 5000 เหรียญ
มีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว พร้อมทั้งมี Ledger Live
ใช้งานง่าย พกพาสะดวก ขนาดกะทัดรัด มีความเสถียรภาพสูง
※ ข้อเสียของ Ledger Nano X
ค่าธรรมเนียมในการรับ-ส่งข้อมูลแต่ละครั้งมีราคาสูง
2. TREZOR Model T (Bitcoin Cold Wallet) ชนิด Hardware
TREZOR ถือว่าเป็น Hardware Wallet ที่โดดเด่นในเรื่องศักยภาพเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นบริษัทที่เปิดมานาน แต่ยังคงได้รับการยอมรับมาโดยตลอด และที่สำคัญก็เป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งของกระเป๋าบิทคอยน์ชื่อดังอย่างเช่น Ledger อีกด้วย
TREZOR Model T เป็นรุ่นที่ได้มีการพัฒนามาจาก TREZOR Model one คือ รองรับสกุลเงินดิจิทัลได้มากกว่า 1600 + สกุลเงิน พร้อมอัปเดตการรองรับสกุลเงินใหม่ๆ ตามตลาดอีกด้วย โดดเด่นในรูปแบบของ Product ที่ถูกออกแบบมาแบบไม่เหมือนใคร ในตัวของวอลเล็ทนั้นมีขนาดเล็กพกพาสะดวก หน้าจอใช้งานง่ายด้วยวิธีการ Touch Screen ในเรื่องของความปลอดภัยก็ได้รับการรองรับแบบมาตรฐาน เพราะทุกครั้งที่เข้าใช้งานผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องกรอกรหัส PIN ก่อนเข้าใช้งานอยู่แล้ว ดังนั้นสามารถสบายใจทุกครั้งที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้
วิธีการใช้งาน ใช้งานง่าย มีการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป โน้ตบุ๊ค และสมาร์ทโฟน รองรับทุกระบบปฏิบัติการ โดยใช้ USB Type C ในการถ่ายส่งข้อมูลอย่างรวดเร็วและมีความเสถียรภาพสูงสุด
※ ข้อดี TREZOR Model T
ความปลอดภัยมีมาตรฐานสูง รองรับอุปกรณ์ทุกชนิด
มีการอัปเดตเหรียญใหม่ตามตลาดอยู่ตลอดเวลา
รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากว่า 1600 สกุลเงิน
ติดตั้งง่ายไม่ยุ่งยาก ระบบการทำงานทันสมัยสามารถสั่งคำสั่งผ่านระบบทัชสกรีน
※ ข้อเสีย TREZOR Model T
ราคาแพงมากกว่ากระเป๋าบิทคอยน์ชนิดอื่นๆ ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณ
3. Bitbox (Bitcoin Cold Wallet) ชนิด Hardware
Bitbox Wallet กระเป๋าบิทคอยน์จิ๋วแต่แจ๋วคุณภาพครบครันอย่างแน่นอน สำหรับแบรนด์นี้ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2017 แม้ว่าจะไม่ได้รองรับสกุลเงินดิจิทัลที่หลากหลายเหมือนกันฮาร์ดแวร์ชนิดอื่นๆ แต่ในเรื่องของความปลอดภัยที่ค่อนโดดเด่นและรอบครอบเป็นอย่างมาก
จุดเด่นของ Bitbox Wallet ก็คือฟังก์ชันบนหน้าจอจะไม่มีการโชว์ข้อมูลธุรกรรม เนื่องจากทางทีมผู้พัฒนามองเห็นปัญหาที่ว่าเหล่าบรรดาแฮกเกอร์สามารถแฮกข้อมูลตรงนี้ได้ และจุดเด่นอีกข้อก็คือรูปแบบของผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบมาพร้อมกับ Micro SD Card ทำการติดตั้งระบบรวดเร็วขึ้นและสามารถเก็บข้อมูลได้นานถึง 50 ปีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าไม่ต้องกังวลใจเลยว่าข้อมูลหรือเหรียญของเราจะหายไปตามกาลเวลา
※ ข้อดี Bitbox Wallet
ขนาดเล็กพกพาสะดวก ใช้งานง่าย สามารถเชื่อมต่อกับ USB ได้ทันที
ราคาถูก เหมาะสำหรับคนงบน้อย
ความปลอดภัยสูง
มีกระดานเทรดแลกเปลี่ยนในตัว
※ ข้อเสีย Bitbox Wallet
รองรับสกุลเงินน้อย มีพื้นที่จำกัดในการจัดเก็บเหรียญ
ระบบยังไม่รองรับการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนโดยตรง
4. SafePal S1 (Bitcoin Cold Wallet) ชนิด Hardware
SafePal S1 ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Hardware ที่มีความน่าสนใจมาก เพราะได้รับการระดมทุนมากจากบริษัทกระดานคริปโตอันหนึ่งของโลก อย่าง Binance Labs ทั้งนี้ยังโดดเด่นในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานบนระบบออฟไลน์ 100% อย่างแท้จริง กล่าวคือ ระบบการทำงานจะไม่รองรับการทำงานผ่าน Wi-Fi หรือ บลูทูธ เนื่องจากว่าอาจจะทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้และง่ายต่อการโดนจลกรรมทางออนไลน์นั่นเอง มีความปลอดภัยสูงเหมือนกับ
แบรนด์อื่นๆ พร้อมทั้งยังเป็นวอลเล็ทที่สามารถทำธุรกรรมบนอุปกรณ์ได้อย่างมากมาย ไม่เพียงแต่ทำการจัดเก็บเหรียญเท่านั้น เช่น การซื้อขาย การฟาร์มเงิน รวมถึง NFT และมีการอัปเดตการรองรับเหรียญใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถทำธุรกรรมผ่านการ Scan QR Code ได้อีกด้วย ตัวฮาร์ดแวร์มีขนาดเล็กกระทัดรัดราคาถูก และที่ไม่แนะนำไม่ได้เลยก็คือเป็นกระเป๋าเงินที่มีกล้องในตัวซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทำการสแกนคิวอาร์โค้ดได้ด้วยนั่นเอง
※ ข้อดี SafePal S1
สามารถทำธุรกรรมได้หลากหลาย
ราคาถูก คุ้มค่าเกินราคา
เป็น Bitcoin Wallet ที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีคลวามปลอดภัยสูง
สามารถใช้งานได้นาน แบตเตอรี่ทนทาน
※ ข้อเสีย SafePal S1
เป็นบริษัทน้องใหม่ยังไม่ค่อยเป็นรู้จักในวงกว้าง
5. Keepkey (Bitcoin Cold Wallet) ชนิด Hardware
Keepkey hardware อีกหนึ่งกระเป๋าบิทคอยน์ราคาถูก จากบริษัทชื่อดัง Shapeshift ที่มีความปลอดภัยสูง มีกระดานเทรดซื้อขายภายในตัว สามารถทำการรับส่งเหรียญหรือทำการซื้อขายได้เช่นกัน วิธีการใช้งานได้ง่ายรองรับทุกอุปกรณ์ แต่อาจจะมีข้อจจำกัดในสกุลเงินเหรียญที่รองรับมีน้อยกว่า 50 สกุลเงิน ดังนั้นนักลงทุนทุกท่านจะต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่า หากจะใช้งาน Wallet นี้รองรับเหรียญที่ท่านต้องการจะถือหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามการรองรับสกุลเงินที่น้อยมากกว่ากระเป๋าอื่นๆ ก็ไม่ได้มีผลต่อการใช้งาน เพราะแบรนด์นี้เน้นในเรื่องของใช้งานเป็นหลัก โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดส่งข้อมูลที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว ระบบการทำงานมีความเสถียรภาพ ไม่มีอาการค้าง ในขณะที่ทำธุรกรรม ถือว่าอีกกระเป๋าบิทคอยน์ที่ดีเหมาะสำหรับบนักลงทุนทุกกลุ่มและผู้เริ่มต้นในการลงทุนอีกด้วย
※ ข้อดี Keepkey
ราคาถูก ความปลอดภัยสูง
มีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว ใช้งานง่าย
ตัวฮาร์ดแวร์มีความเสถียรภาพในการใช้งาน
จัดส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
※ ข้อเสีย Keepkey
มีพื้นที่จำกัดในการรองรับสกุลเงินดิจิทัล
6. Cool WalletS x Binance Chain (Bitcoin Cold Wallet) ชนิด Hardware
ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Hardware Wallet ที่ออกออกแบบมาในรูปแบบ Card ที่มีลักษณะคล้ายกับบัตรเครดิต ที่เอื้อต่อการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งยังสามารถใช้ชำระสินค้าที่ได้อีกด้วย ด้วยแผนพัฒนาร่วมกับ Binance Chain ผู้ใช้งานสามารถวางใจได้เลยในเรื่องของความปลอดภัย ระยะเวลาใช้งานในแต่ละครั้งก็ยาวนานถึง 3 เดือน ชาร์จแบตเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งนี้ยังสามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างไม่จำกัด รองรับสกุลชื่อดังจำนวนมากมายและเหรียญใหม่ๆ ประเภท ERC20 ทุกเหรียญ
※ ข้อดี Cool WalletS x Binance Chain
ตัวผลิตภัณฑ์ออกแบบมาให้พกพาง่าย สามารถจัดเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน
ระยะเวลาการใช้งานแต่ละครั้งยาวนาน ระบบเสถียรไม่มีติดขัด
รองรับสกุลเงินที่หลากหลาย พร้อมอัปเดตเหรียญใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
สามารถทำธุรกรรมได้หลากหลาย รวมถึงยังสามารถใช้ชำระสินค้าหรือค่าบริการอื่นๆได้อีกด้วย
※ ข้อเสีย Cool Wallet S x Binance Chain
ราคาแพง เมื่อเทียบกับ Ledger Nano X
7. Ellipal Titan (Bitcoin Cold Wallet) ชนิด Hardware
สำหรับ Ellipal Titan ถือว่าเป็น Hardware Wallet ที่มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ในเรื่องคุณภาพถือว่าคุ้มเกินราคา เนื่องจากว่าตัวฮาร์ดแวร์นั้น มีลักษณะคล้ายกับสมาร์ทโฟนทั่วไป ทำจากวัสดุที่มีความทนทานสูง ใช้งานในระยะยาวได้เป็นอย่างดี มีจอแสดงผลรายละเอียดอย่างชัดเจน สามารถเช็คข้อมูลการทำธุรกรรมต่างๆได้อย่างเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น MacOS, Windows, IOS และ Android และยังสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นบนมือถือได้อีกด้วย ในเรื่องของความปลอดภัยถือว่าอยู่ในมาตรฐานที่สูงเหมือนแบรนด์อื่นๆ ทั้งยังรองรับสกุลเงินดิจิทัลอย่างมากมาย เรียกได้ว่าเป็น Cool Wallet ที่ใช้งานง่ายและตอบโจทย์ยุคสมัยนี้เป็นอย่างมาก
※ ข้อดี Ellipal Titan
ใช้งานง่าย สามารถเชื่อมต่อการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนบนแอพพลิเคชั่นโดยตรง
มีความปลอดภัยสูง ใช้ Pin 6 หลัก และระบบ 2 Factor ทุกครั้งในการใช้งาน
ตัว Hardware Wallet สร้างมาวัสดุที่มีความทนทานสูง สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีในระยะยาว
※ ข้อเสีย Ellipal Titan
เป็นบริษัทที่ไม่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักน้อย
หาซื้อได้ยาก ของปลอมมีเยอะ ผู้ซื้อจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนซื้อ
8. SecuX w10 (Bitcoin Cold Wallet) ชนิด Hardware
SecuX w10 กระเป๋าบิทคอยน์ขนาดเล็กกระทัดรัดที่มีขนาดหน้าจอเพียงแค่ 2.8 นิ้วและน้ำหนักเพียงแค่ 490 กรัม บางเบาพกพาสะดวก มาพร้อมกับฟังก์ชันที่น่าสนใจมากมาย สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทุกระบบปฏิบัติการ ทั้งนี้ตัว Hardware ยังสามารถรองรับสกุลเงินดิจิทัลได้มากถึง 1000 สกุลเงิน ทำให้ผู้ใช้งานมีทางเลือกในการจัดเก็บเหรียญที่หลากหลาย ในเรื่องของความปลอดภัยสามารถวางใจได้เลย เพราะปลอดภัยได้มาตรฐานอย่างแน่นอน หาซื้อง่าย ใครที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ผ่านแอพช้อปปิ้งในไทยได้เช่นกัน แต่แนะนำว่าระวังของปลอมเยอะ
※ ข้อดี SecuX w10
มีขนาดเล็กกระทัด พกพาสะดวก ดูแลรักษาง่าย
สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย
สามารถใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน
รองรับสกุลเงินดิจิทัลได้มากถึง 1000 สกุลเงิน
※ ข้อเสีย SecuX w10
แม้ว่าจะหาซื้อได้ง่าย แต่ก็มีของปลอมเยอะ
9. Bitkub (Hot Wallet) ชนิด Exchange Wallet
แนะนำ Bitcoin Cold Wallet ไปมากแล้ว ตัวสุดท้ายเราขอแนะนำเป็น Hot Wallet ที่เป็นกระดานเทรดคริปโตชื่อดังจากคนไทยอย่าง Bitkub แน่นอนว่าในเรื่องความปลอดภัยของกระเป๋าเงิน Hot Wallet จะอาจจะต่ำกว่าแบบ Cold Wallet แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีความปบอดภัยเลย สำหรับกระเป๋าดิจิทัลนี้ ถือว่าเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่เลยก็ว่าได้ เพราะคุณสามารถสร้างกระเป๋าได้ด้วยตัวเองแบบฟรีๆ มีผู้ดูแลข้อมูลให้คุณ ทั้งนี้ยังสามารถทำธุรกรรมทั่วไปได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรับ-ส่งเหรียญ หรือการจัดเก็บเหรียญ ค่าธรรมเนียมในแต่ละครั้งถูก มีการรองสกุลเงินสูงถึง 100 สกุลเงิน มีฟังก์ชันที่น่าสนใจคอยอัปเดตอย่างต่อเนื่อง สามารถเข้าใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนทั่วไป ทุกครั้งที่ต้องเข้าใช้งานจะต้องใส่รหัส Pin 6 หลัก และทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมจะต้องยืนยันตัวตนด้วยรหัส 2 Factor ความปลอดภัยค่อนข้างที่จะรัดกุม ใช้งานง่าย รองรับภาษาไทย ใครที่เป็นมือใหม่ที่กำลังหัดเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดคริปโท การที่คุณเลือกใช้กระเป๋าบิทคอยน์แบบร้อนในเบื้องต้นก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด
※ ข้อดี Bitkub
ใช้งานง่าย รองรับภาษาไทย เหมาะสำหรับมือใหม่
สามารถสร้างกระเป๋าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
สามารถใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์ม
มีกระดานเทรดในตัว ระบบมีเสถียรภาพ รับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
※ ข้อเสีย Bitkub
ในเรื่องความปลอดภัยอาจจะน้อยกว่า Cold wallet
รองรับสกุลเงินน้อย
เนื่องจากแบรนด์ไทย มีปัญหาจุกจิกเยอะ ระบบปิดแก้ไขปัญหาบ่อย
Bitcoin Wallet คืออะไร
Bitcoin Wallet หรือ Crypto Wallet ถ้าอธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เปรียบเสมือนแอปธนาคารที่เราทำการเก็บเงินหรือฝากเงินไว้ในนั้น แต่ในตลาดคริปโตนั้น Bitcoin Wallet ก็คือ กระเป๋าเก็บบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ นั่นเอง
หน้าที่การทำงานของ “Bitcoin Wallet” จะทำการรับเหรียญ ส่งเหรียญ ตลอดจนถึงการจัดเก็บเหรียญบิทคอยน์และเหรียญดิจิทัลตัวอื่นที่เราได้ทำการครอบครองไว้
สำหรับ Bitcoin Wallet จะมีรูปแบบการใช้งานด้วยกันอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ Hot Wallet และ Cold Wallet ซึ่ง Wallet ทั้ง 2 ประเภทนี้ก็จะมีระดับความยากง่ายในการใช้งานรวมถึงทั้งข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของตนเอง
ทั้งนี้เราสามารถมี Bitcoin Wallet กี่อันก็ได้แบบไม่จำกัด เพราะแต่ละกระเป๋าที่สร้างขึ้นมาใหม่นั้นก็จะมีคีย์หรือโค้ดของกระเป๋าแต่ละอันที่ไม่ซ้ำกันอยู่แล้ว หรือเรามักจะได้ยินกันบ่อยครั้งก็คือ คีย์ส่วนตัว (Private Key) และคีย์สาธารณะ (Public Key) โดยที่คีย์หรือเหล่านี้ จะเป็นตัวที่ทำสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่มี อีกทั้งยังอนุญาตให้สามารถรับ-ส่งบิทคอยน์หรือสกุลเงินอื่นๆที่ Wallet นั้นๆได้ทำการรองรับอีกด้วย
Cold Wallet และ Hot Wallet ต่างกันอย่างไร
ปัจจุบันนี้ Bitcoin Wallet ถูกแบ่งออกมาเป็น 2 ประเภทตามระบบการทำงานที่แตกต่างกัน นั่นก็คือ Cold Wallet และ Hot Wallet โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. Cold Wallet คืออะไร
Cold Wallet หรือ กระเป๋าเงินเย็น เป็นรูปแบบกระเป๋าเงินที่ไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่าวิธีการใช้งานที่ค่อนข้างจะยุ่งยาก แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นกระเป๋าเงินที่มีความปลอดภัยสูงซึ่งยากต่อการโดนแฮ็กเพราะว่าทุกครั้งที่จะทำธุรกรรมบน Cold Wallet จะต้องมีการยืนยันตัวตนด้วย Private Key ที่มีลักษณะเป็นอักขระอักษรพิเศษและตัวเลขยาวๆ สลับกันไป
แต่ปัจจุบันนี้ถูกเปลี่ยนมาใช้เป็นคำภาษาอังกฤษ 12 คำหรือเราเรียกว่า Seed Phares โดยผู้ใช้งานห้ามลืมหรือห้ามทำหายโดยเด็ดขาด ซึ่งเราจะทำการเก็บ Private Key นี้ ไว้ใน Paper Wallet ที่เป็นการจดข้อมูลไว้ในกระดาษเพียงแค่ 1 แผ่น หรืออีกรูปแบบหนึ่งที่ผู้ใช้งานส่วนมากนิยมใช้กันคือ Hardware Wallet เช่น Ledger Nano X กระเป๋าเงินเย็น ที่เอาไว้เป็นอุปกรณ์เก็บรหัส Private Key
ทั้งนี้กระเป๋าเงินเย็นยังถูกยอมรับด้วยว่าเป็นกระเป๋าเงินที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถเก็บทั้งบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆได้อีกมากมาย พร้อมมีการอัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยพิเศษมากขึ้นภายใต้กระแสของตลาดที่เป็นขาลงอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่าเป็น Wallet ที่ตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
ข้อดีของ Cold Wallet คือ รับประกันความปลอดภัยสูง โอกาสที่จะโดนโจรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นไปได้ยาก
ข้อเสีย Cold Wallet คือ วิธีใช้งานยุ่งยาก เสียเวลา มีค่าใช้จ่ายในการซื้อ Hardware Wallet ที่มีประสิทธิภาพ มีค่าธรรมในการทำธุรกรรมแต่ละครั้งค่อนที่จะแพง
2. Hot Wallet คืออะไร
Hot Wallet หรือกระเป๋าเงินร้อน จะเป็นรูปแบบกระเป๋าเงินที่เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับคนที่ทำการเทรดเหรียญบิทคอยน์หรือสกุลเงินดิจิทัลอยู่เป็นประจำ หรือนักลงทุนระยะสั้น วิธีการใช้งานสามารถใช้งานผ่าน Application หรือ ระบบ Software ทั่วไป สามารถใช้งานได้ผ่านสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ IT ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตได้นั่นเอง ตัวอย่างลักษณะของ Hot Wallet ที่เรามักจะเห็นอยู่ทั่วไป เช่น Mobile Wallet Application และ Exchange Wallet เป็นต้น
ข้อดี คือ ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็วครอบคลุมทุกธุรกรรม อีกทั้งยังสามารถสร้าง Hot Wallet ขึ้นมาได้ ด้วยตัวเองแบบฟรีๆ
ข้อเสีย คือ ความปลอดภัยน้อย โอกาสที่จะสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นได้ง่ายกว่า Cold Wallet
วิธีการสร้าง Bitcoin Wallet
จากที่เราได้ทำการแนะนำไปแล้วว่า กระเป๋าบิทคอยน์ ที่ดีที่สุดและคุ้มทุนที่สุด คือ กระเป๋าเงินเย็น Cold Wallet ซึ่งในบทความนี้ทางผู้เขียนก็ได้ทำการยกตัวอย่างวิธีการสร้าง Bitcoin Paper Wallet มาให้นักลงทุนทุกท่านได้ศึกษากันแบบเข้าใจง่ายๆ สาเหตุที่เราเลือกวิธีการสร้างกระเป๋าบิทคอยน์แบบ offline มานั้น เพราะเป็นวิธีการสร้างกระเป๋าบิทคอยน์ที่มีความปลอดภัยสูง มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
เนื่องจากการสร้างกระเป๋าบิทคอยน์ แบบ Cold Wallet จะต้องมีการใช้ Java Script Web Generator เพื่อที่จะสร้างไว้เป็น Address ไว้รับเหรียญนั่นเอง มี 3 หลักการ หลักๆ ดังต่อไปนี้
เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม แนะนำให้สร้างบนคอมพิวเตอร์ หรือ แล็ปท็อป ทั่วไป จากนั้นให้ทำการลง Window ให้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ทั้งนี้เพื่อกันไม่ให้เกิดไวรัสตามมาภายหลัง
ในขณะที่เราทำการ Generate Key ไม่ควรทำการเชื่อมต่อจาก Wi-Fi หรือควรทำการตัดการเชื่อมต่อจากระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลเรารั่วไหลสู่ภายนอกนั่นเอง เพื่อความปลอดในการสร้างกระเป๋าบิทคอยน์ของเรานั่นเอง
ทำการติดตั้งเครื่องปริ้นท์ที่ปลอดภัย เนื่องจากว่าเมื่อเราทำการ Generate Key เสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น เราจะต้องทำการ Print กระดาษออกมานั่นเอง
Bitcoin Wallet หรือกระเป๋าเงินบิทคอยน์ มีหลากหลายแบรนด์ให้เราได้เลือกใช้งาน เราหวังว่าการแนะนำ 9 Bitcoin Wallet ดีสำหรับคนไทยในปี 2024 จะไขข้อสงสัย 'Bitcoin Wallet อันไหนดี' ของคุณแล้ว วัตถุประสงค์ในบทความนี้ต้องการที่จะแชร์เกร็ดความรู้เกี่ยวกับกระเป๋า Bitcoin เพื่อจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการตัดสินใจเลือกวอลเล็ทที่ดีในการเก็บสินทรัพย์ของนักลงทุนทุกท่าน
อย่างไรก็ตาม หากคุณมีเป้าหมายที่ต้องการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาบิทคอยน์หรือสกุลเงินดิจิตอลในระยะสั้น การที่ย้ายเข้าและเข้าออกทุกครั้งอาจจะยุ่งยากไปหน่อยและไม่คุ้มทุนด้วย สำหรับนักลงทุนแบบนี้ การเทรดบิทคอยน์หรือสกุลเงินดิจิตอลด้วย CFD หรือ สัญญาซื้อขายส่วนต่างอาจจะเหมาะสมมากกว่าเพราะด้วยวิธีนี้ นักลงทุนไม่ต้องการถือครองเหรียญบิทคอยน์หรือสกุลเงินดิจิตอลก็ยังสามารถทำกำเทรดได้ และยังสามารถเทรดด้วยอัตราทดด้วย
มาคว้าโอกาสการเทรดแบบ CFD กับ Mitrade กันเถอะ ฝึกเทรดบิทคอยน์ด้วยด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี👇️👇️👇️
Bitcoin wallet เป็นไฟล์ที่ใช้เก็บข้อมูลอะไร?
Petra Wallet คืออะไร?
Crypto Wallet อันไหนดี?
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน