เทรด Bitcoin ที่ไหนดี? 6 เว็บเทรด Bitcoin ที่นิยมใช้งานมากที่สุดปี 2025

อย่างที่เราต่างทราบกันดีว่าราคา Bitcoin มีการผันผวนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะชะลอตัวลงหลังจากราคาพุ่งขึ้น แต่ก็เพิ่มขึ้น 60% ในหกเดือนซึ่งได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ปี 2025 นี้นักลงทุนยังคงมีความหวัง โดยคาดการณ์ว่าราคาอาจแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์

สำหรับนักลงทุนรายย่อยอย่างเรา ๆ นั้นก็สามารถเข้ามาแสวงหาโอกาสในตลาดนี้ได้ด้วยเว็บเทรด Bitcoin เช่นกัน และคราวนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ ไปดู 6 เว็บเทรด Bitcoin ที่คนไทยนิยมใช้กันในปี  2025 พร้อมข้อดีและข้อเสียของทุกเว็บด้วย ตามมาดูกันเลย

ต่อไปนี้เราจะแนะนำ 6 เว็บเทรด Bitcoin ที่คนไทยนิยมใช้งานมากที่สุดปี 2025 ที่เราแนะนำที่จะมีทั้งเว็บเทรด Bitcoin แบบ Exchange และ เว็บเทรด Bitcoin ผ่าน CFD จะมีที่ไหนบ้างนั้นตามไปดูกันได้เลย

เว็บเทรด Bitcoin แบบ Exchange

1Binance

เป็นเว็บเทรด Bitcoin แบบ Exchange ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2017 ลูกค้าชาวไทยสามารถเปิดบริการผ่านเว็บไซต์ และเข้าใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นหรือเว็บเทรดที่ Binance พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งนับเป็นเว็บเทรด Bitcoin ที่ค่อนข้างครบ แต่ยังไม่สนับสนุนบริการทางการเงินผ่านธนาคารไทย

• เป็นเว็บเทรด Bitcoin ระดับโลก: Binance เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

  
  

• มีสกุลเงินดิจิทัลให้เลือกกว่า 350+ สกุลเงิน: รองรับสกุลเงินดิจิทัลกว่า 350+ สกุล เช่น Bitcoin และ Ethereum

  
  

• เปิดให้บริการซื้อขาย 24/7: ให้บริการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบฝากถอนที่รวดเร็ว

  
  

• ค่าธรรมเนียมต่ำ: มีค่าธรรมเนียมต่ำ พร้อมส่วนลดพิเศษเมื่อใช้ Binance Coin (BNB)

  
  

• ฟีเจอร์หลากหลาย: มีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น Staking, Margin, Trading เเละอีกมากมาย

  
  

• ความปลอดภัยสูง: มีมาตรการความปลอดภัยสูง เช่น การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (2FA) และกองทุน SAFU

• ยังไม่สามารถใช้เงินบาทซื้อ Bitcoin ได้โดยตรง: ผู้ใช้ชาวไทยจะต้องแลกเปลี่ยนเงินบาทผ่าน P2P หรือบริการภายนอก เนื่องจากไม่รองรับการฝากเงินผ่านธนาคารไทยโดยตรง

• ฟีเจอร์และบริการซับซ้อน: ฟีเจอร์หลากหลายอาจทำให้ผู้ใช้งานใหม่สับสน

• ระบบในช่วงเวลาเร่งด่วน: ระบบอาจมีการล่าช้าในช่วงที่มีผู้ใช้งานสูง

2 Orbix

Orbix คือเว็บไซต์เทรด Bitcoin ที่เป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน (Exchange) สัญชาติไทยแห่งแรก ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2017 และในปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนในวงการคริปโต โดยมีฟีเจอร์หลากหลายที่ทันสมัยและครบครัน

เว็บไซต์นี้รองรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้มากถึง 38 สกุลด้วยเงินบาท ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับนักลงทุนไทย นอกจากนี้ยังรองรับการทำธุรกรรมผ่านธนาคารไทยอย่างสะดวก ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายและจัดการการเงินของตนได้อย่างง่ายดาย

• ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ไทย: ปลอดภัยและน่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนชาวไทย

• ฝากถอนผ่านธนาคารไทย: ทำธุรกรรมได้รวดเร็ว ไม่มีค่าธรรมเนียม

• มีสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยม: รองรับ Bitcoin, Ethereum, USDT และเหรียญที่คนไทยนิยม

• อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย: รองรับภาษาไทย เหมาะสำหรับมือใหม่

• ความปลอดภัยสูง: มีระบบ 2FA และ Cold Storage ป้องกันการแฮ็ก

• สกุลเงินดิจิทัลจำกัด: มีสกุลเงินให้เลือกน้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่น

• ปริมาณการซื้อขายต่ำ: มีสภาพคล่องต่ำ ทำให้การซื้อขายจำนวนมากทำได้ยากเมื่อเทียบกับการเทรดระดับโลก

• ขาดฟีเจอร์ขั้นสูง: ไม่มีฟีเจอร์ Margin Trading หรือการให้ยืมเหรียญ

3Bitkub

เป็นเว็บเทรด Bitcoin แบบกระดานซื้อขายแลกเปลี่ยน (Exchange) สัญชาติไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2018 โดยมีการพัฒนาฟีเจอร์ปรับปรุงการใช้งานและเพิ่มเหรียญเข้ามาตอบสนองความต้องการเทรดอย่างสม่ำเสมอ และยังตอบสนองความต้องการของนักลงทุนไทยด้วยการฝากถอนเป็นเงินบาทผ่านธนาคารไทย หรือ QR Code ด้วยระบบฝากถอนทันที และยังมีสภาพคล่องสูงสำหรับสกุลเงินคริปโตตัวหลัก ๆ อย่างครบครัน

• ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายเหรียญคริปโตและโทเค็นจากกลต.เรียบร้อยแล้ว

• เป็นเว็บเทรด Bitcoin ในไทยที่มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันมากที่สุด

• การซื้อขายทำให้นักลงทุนเป็นเจ้าของเหรียญจริง ๆ และสามารถโอนย้าย หรือฝากเพื่อสร้างผลกำไรได้

• มีเหรียญโทเค็นเป็นของตัวเอง (KUB) ซึ่งสามารถนำมาเทรดหรือแลกเป็นเครดิตค่าธรรมเนียมการซื้อขายในกระดานได้

• มีแพลตฟอร์มสวยงาม ใช้งานง่าย สนับสนุนภาษาไทยเต็มรูปแบบ

• มีขั้นตอนการลงทะเบียนเปิดบัญชีซับซ้อน จำเป็นต้องยืนยันตัวตนตามกฎของกลต.

• แม้ว่า Bitkub จะมีมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่ก็เคยประสบกับการละเมิดความปลอดภัยมาก่อน

• แม้จะมีเหรียญให้เทรดหลากหลาย แต่จะมีสภาพคล่องมากเฉพาะสกุลที่ได้รับความนิยม ส่วนสกุลอื่น ๆ มักจะมีสภาพคล่องไม่มาก 

• มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายสูง คิดเป็น 0.25% 

เว็บเทรด Bitcoin ผ่าน CFD 

4 Mitrade

เทรด Bitcoin ที่ไหนดี? ลองดู Mitrade เป็นโบรกเกอร์ CFD ที่เน้นให้บริการในสินทรัพย์ต่างๆที่นอกจาก Bitcoin และคริปโตชนิดอีกหลายแล้ว 

ยังสามารถเทรดผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ รวมทั้ง ทองคำ หุ้น forex ดัชนี นำ้มันที่มีเลเวอเรจให้เลือกตั้งแต่ 1x, 2x, 5x, 10x พร้อมการบริการภาษาไทย 

อีกทั้งได้รับการควบคุมโดย ASIC, CIMA และ FSC ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเชื่อถือได้ ยิ่งไปกว่านั้นในการเทรด Bitcoin  ยังดำเนินการได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องติดตั้ง Crypto wallet หรือกระเป๋าเงินคริปโต 

โดยสามารถเริ่มต้นเปิดบัญชีและเทรดได้ในเวลาเพียง 3 นาที โดยรวมแล้ว Mitrade เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาเองเพื่อให้ใช้งานง่าย 

● รองรับการใช้งานในประเทศไทย มีแพลตฟอร์มสนับสนุนภาษาไทย สามารถฝากถอนเงินผ่านธนาคารไทยและ QR Code ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

● เปิดบัญชีได้ง่ายและรวดเร็วภายใน 3 นาที

● มีแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่าย ไม่ซับสอน

● ไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย สเปรดต่ำ

● เทรดด้วยเลเวอเรจที่ยืดยุ่น 1x/2x/5x/10x สามารถปรับค่าเลเวอเรจเองได้ 

● มีฝ่ายบริการลูกค้าที่สนับสนุนภาษาไทยตลอด 24/5

● มีเครื่องมือจัดการความเสี่ยง Stop-loss และระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบให้ใช้งานได้ฟรี

● ไม่มีค่าคอมมิชชั่นในการฝากถอนเงิน*

● ไม่มี copy trade

  * จะมีจำนวนการถอนเงินฟรี 1-2 ครั้งต่อเดือน

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้ 

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

5 Exness

Exness เป็นโบรกเกอร์ CFD ที่มีความน่าเชื่อถือสูงและให้บริการเทรด Bitcoin รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ อย่างทองคำ, น้ำมัน, และ Forex การเปิดบัญชีกับ Exness นั้นสะดวกรวดเร็ว รองรับการฝากถอนผ่านธนาคารไทย ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากถอน

• ค่าสเปรดต่ำ: Exness มีค่าสเปรดต่ำ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดมีสภาพคล่องสูง ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับนักเทรดที่ต้องการลดต้นทุนในการเทรด

  
  

• การฝากถอนเงินรวดเร็ว: การฝากถอนเงินผ่านธนาคารไทยสามารถทำได้รวดเร็ว และไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากถอน ทำให้สะดวกสำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย

  
  

• แพลตฟอร์มหลากหลาย: Exness รองรับแพลตฟอร์มเทรดหลายรูปแบบ เช่น MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมในวงการเทรด

  
  

• ความปลอดภัยสูง: Exness มีการควบคุมและได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่มีชื่อเสียง เช่น CySEC และ FCA ทำให้มีความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

  
  

• เลเวอเรจสูง: Exness เสนอเลเวอเรจที่สูงสุดไม่จำกัดสำหรับบางบัญชี ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดด้วยเงินทุนที่มากขึ้น

• ไม่มีโบนัสหรือโปรโมชั่น: Exness ไม่ได้เสนอโปรโมชั่นหรือโบนัสที่ดึงดูดลูกค้าใหม่เหมือนโบรกเกอร์บางราย

• ฟีเจอร์ Copy Trade ไม่สมบูรณ์: แม้ว่าจะมีแพลตฟอร์มการเทรดที่ครบถ้วน แต่ฟีเจอร์การคัดลอกการเทรด (Copy Trading) ยังไม่เป็นที่นิยมและไม่สมบูรณ์เท่ากับโบรกเกอร์อื่นๆ ที่เน้นฟีเจอร์นี้

• ไม่รองรับการเทรดหุ้นแบบจริงจัง: Exness ให้บริการเทรดหุ้นผ่าน CFD เท่านั้น หากนักเทรดต้องการซื้อหุ้นจริงๆ Exness อาจไม่เหมาะสม

• ฝ่ายบริการลูกค้าในช่วงวันหยุดจำกัด: แม้ว่าจะมีฝ่ายบริการลูกค้าภาษาไทย แต่บริการนี้จะไม่ครอบคลุม 24/7 และมีเวลาที่จำกัดในช่วงวันหยุด

6 eToro

eToro ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 และได้พัฒนาเป็นโบรกเกอร์การเงินชั้นนำ ด้วยการบุกเบิกการเทรดแบบ social trading หรือ copy trading บนแพลตฟอร์มของ eToro ผู้ใช้งานไม่เพียงแค่สามารถเทรดสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น สกุลเงิน หุ้น คริปโต และ ETF ได้เอง แต่ยังสามารถคัดลอกการเทรดของเทรดเดอร์คนอื่น ๆ ได้โดยอัตโนมัติผ่านฟีเจอร์ copy trading ที่สะดวกและใช้งานง่าย

นอกจากนี้ eToro ยังช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าสังคมกับเทรดเดอร์อื่น ๆ ศึกษากลยุทธ์การเทรด แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับตลาด และคัดลอกการเทรดได้อย่างละเอียด หากคุณเป็นผู้นำที่มีคนคัดลอกการเทรด คุณสามารถได้รับผลตอบแทนจากการเป็นที่นิยมได้

• ฟีเจอร์ Copy Trading: ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถคัดลอกการเทรดจากนักลงทุนมืออาชีพได้โดยอัตโนมัติ เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่เชี่ยวชาญในการเทรด

  
  

• แพลตฟอร์มใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ทำให้การเทรดสะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่าย

  
  

• โซเชียลเทรดดิ้ง: ผู้ใช้สามารถศึกษาโปรไฟล์และกลยุทธ์ของเทรดเดอร์อื่นๆ และพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับตลาด

  
  

• สินทรัพย์ที่หลากหลาย: รองรับการเทรดสินทรัพย์หลายประเภท เช่น คริปโต, หุ้น, สกุลเงิน และ ETF

  
  

• ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล: eToro ได้รับใบอนุญาตจาก FCA, ASIC, และ CySEC ทำให้มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย

• ค่าธรรมเนียมการถอน: มีค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน ซึ่งอาจเป็นภาระสำหรับผู้ที่ทำธุรกรรมบ่อยครั้ง

• ไม่เหมาะสำหรับนักเทรดมืออาชีพ: การคัดลอกการซื้อขายมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากผลงานของเทรดเดอร์บางรายอาจไม่สามารถคาดเดาได้

• ฟีเจอร์ Copy Trading มีความเสี่ยง: การคัดลอกการเทรดของผู้อื่นอาจมีความเสี่ยงสูง หากผู้นำการเทรดมีการตัดสินใจที่ไม่ดี

• ไม่รองรับการซื้อหุ้นจริง: การเทรดหุ้นเป็น CFD ไม่ใช่การซื้อหุ้นจริง ทำให้ผู้ลงทุนไม่ได้สิทธิในหุ้นหรือปันผลจากบริษัท

จบไปแล้วกับ 6 เว็บเทรด Bitcoin ที่เราแนะนำ และหวังว่าเพื่อน ๆ จะได้พบเว็บเทรด Bitcoin ที่เหมาะกับสไตล์และความต้องการนะครับ

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้ 

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

เมื่อเลือกเว็บเทรด Bitcoin โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น สิ่งสำคัญคือต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม และสภาพคล่องสูง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณา ได้แก่ สินทรัพย์ที่รองรับ อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และการสนับสนุนลูกค้าที่รวดเร็ว ในหัวข้อนี้จะมาสรุปวิธีเลือกเว็บเทรด Bitcoin แบบกระชับให้ได้อ่านกัน

1.มาตรการรักษาความปลอดภัย

เมื่อเลือกเว็บเทรด Bitcoin ความปลอดภัยควรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของคุณ เว็บเทรด Bitcoin อาจมีฟีเจอร์การซื้อขายที่ยอดเยี่ยม แต่หากไม่มีความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง เงินของคุณก็จะมีความเสี่ยง เลือกการแลกเปลี่ยนที่ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเสมอ

ดังนั้น มือใหม่ควรเริ่มจากการค้นหาประวัติความปลอดภัยของเว็บ และให้ดูฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบปัจจัยสองประการ (2FA) และรายการถอนที่ปลอดภัยจะเพิ่มชั้นการป้องกันพิเศษ การเปิดใช้การป้องกันเหล่านี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินของคุณ การแลกเปลี่ยนที่ปลอดภัยทำให้คุณมั่นใจ ช่วยให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การซื้อขายโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

2.ค่าธรรมเนียมของเว็บเทรด Bitcoin

แม้ว่าค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมอาจดูเล็กน้อย แต่เมื่อมีค่าธรรมเนียมหลายอย่างรวมกันก็อาจส่งผลต่อต้นทุนเทรดได้ โดยทั่วไปแล้วเว็บเทรด Bitcoin บางแห่งอาจมีค่าธรรมเนียมจากการฝากเงิน การไม่เคลื่อนไหวบัญชี หรือแม้แต่ค่าธรรมเนียมบล็อกเชน ดังนั้น ควรพิจารณาและตรวจสอบค่าธรรมเนียมก่อนเลือกสมัครให้ดี

3.ใช้งานในประเทศไทยและรองรับสกุลเงินบาทหรือไม่

เว็บเทรด Bitcoin แต่ละเว็บมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ดังนั้นควร ตรวจสอบความพร้อมใช้งานของแพลตฟอร์มในพื้นที่ของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สะดวกในอนาคต และอย่าลืมยืนยันว่าเว็บที่เลือกนั้นสามารถฝากเงินด้วยสกุลเงินบาทเพื่อความสะดวกของผู้ใช้งานได้หรือไม่

4.อินเทอร์เฟซและประสบการณ์ของผู้ใช้

การแลกเปลี่ยนที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นควรมีการออกแบบที่ใช้งานง่าย การนำทางที่ชัดเจน และเครื่องมือที่เรียบง่าย คุณสมบัติเช่น "ซื้อด้วยคลิกเดียว" และการซื้อซ้ำจะทำให้การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลง่ายขึ้น แพลตฟอร์มที่รองรับอุปกรณ์พกพายังช่วยเพิ่มการเข้าถึงได้อีกด้วย

5.สื่อการเรียนรู้

เว็บเทรด Bitcoin ชั้นนำมักจะมีแหล่งข้อมูลการเรียนรู้ รวมถึงบทช่วยสอน บล็อก และคำถามที่พบบ่อย ที่มีหลายเว็บนำเสนอประสบการณ์การเล่นเกม ช่วยให้ผู้เริ่มต้นเข้าใจตลาดได้อย่างง่ายดาย

6.ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า 

ทีมสนับสนุนลูกค้าที่ตอบสนองความต้องการมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว มองหาการแลกเปลี่ยนที่เสนอแชทสด ความช่วยเหลือทันทีสำหรับปัญหาเร่งด่วน การสนับสนุนทางอีเมล สำหรับการสอบถามข้อมูลโดยละเอียด การสนับสนุนทางโทรศัพท์ แพลตฟอร์มบางแห่งให้ความช่วยเหลือโดยตรง พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ตลาดคริปโตดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการสนับสนุนตลอดเวลาจึงมีความจำเป็น