เครื่องขุดบิทคอยน์รุ่นไหนดี? แนะนำ 8 อันดับเครื่องขุด Bitcoin 2025

รีวิวเครื่องขุดบิทคอยน์รุ่นไหนดีสำหรับปี 2025 ที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้าง Passive Income ด้วยการขุด Bitcoin จากที่บ้าน สำหรับการลงทุนในเครื่องขุด Bitcoin นี้จะทำให้คุณเป็นเจ้าของ Bitcoin ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินซื้อแถมยังสามารถสร้างกระแสเงินสดในระยะยาวได้อีกด้วย 

หากใครยังไม่ทราบว่าเครื่องขุด Bitcoin คืออะไร มีวิธีเลือกสเป็กยังไง รวมถึงมีลิสต์เครื่องขุดบิทคอยน์รุ่นไหนดีในปี 2025 บ้างก็ตามมาดูกันได้เลย เพราะในบทความนี้เรารวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาไว้ให้แล้ว!

เครื่องขุดบิทคอยน์เป็นอุปกรณ์เฉพาะที่ใช้ในการขุด Bitcoin โดยจะทำการคำนวณที่ซับซ้อนเพื่อตรวจสอบธุรกรรมและเพิ่มธุรกรรมเหล่านี้เข้าไปในบล็อคเชน เครื่องเหล่านี้มักใช้วงจรรวมเฉพาะแอปพลิเคชัน (ASIC) เพื่อประสิทธิภาพและความเร็วสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการรับรางวัลจากการขุดในเครือข่าย Bitcoin ที่มีการแข่งขันสูง 

นักขุดต้องการหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) หรือวงจรรวมเฉพาะแอปพลิเคชัน (ASIC) เพื่อขุดสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการขุดแบบดั้งเดิมสามารถทำได้โดยใช้หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ในช่วงแรก แต่ความซับซ้อนที่เพิ่มมากขึ้นของปริศนาการเข้ารหัสและการแข่งขันระหว่างนักขุดทำให้จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์เฉพาะทางมากขึ้น

เดิมพัน GPU ได้รับการออกแบบมาเพื่อการเรนเดอร์กราฟิกในวิดีโอเกมและแอปพลิเคชันระดับมืออาชีพ สามารถคำนวณได้หลายอย่างพร้อมกัน ทำให้เหมาะสำหรับงานขุด อย่างไรก็ตาม เมื่อความยากในการขุดเพิ่มขึ้น GPU เพียงอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอสำหรับการขุดที่มีประสิทธิภาพ สิ่งนี้นำไปสู่การพัฒนาและการนำ ASIC มาใช้ ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบเองโดยปรับให้เหมาะสมสำหรับอัลกอริทึมเฉพาะที่ใช้ในการขุดสกุลเงินดิจิทัล

ASIC มีประสิทธิภาพและทรงพลังมาก โดยมีอัตราแฮชที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ GPU ซึ่งทำให้สามารถไขปริศนาได้เร็วขึ้นและมีโอกาสได้รับรางวัลจากการขุดมากขึ้น การใช้ ASIC ได้กลายเป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสำหรับการขุด Bitcoin เนื่องจากมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและประสิทธิภาพด้านพลังงาน ดังนั้น นักขุดที่จริงจังจึงลงทุนใน ASIC เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากการพึ่งพา GPU หรือ CPU เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำกำไรได้อีกต่อไปในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน

1. Bitmain Antminer S21 Pro

แหล่งที่มา:shop.bitmain

Bitmain Antminer S21 Pro เป็นเครื่องขุดบิทคอยน์เรือธงประจำปี 2025 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชิป 5nm รุ่นล่าสุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงานลง 35% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ตัวเครื่องมีขนาด 195 x 290 x 370 มม. น้ำหนัก 14.5 กก. กะทัดรัดเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้รับ

ด้านระบบระบายความร้อนมาพร้อมพัดลม 4 ตัวแบบใหม่ ช่วยควบคุมอุณหภูมิได้ดีและลดเสียงรบกวนเหลือเพียง 72 dB ทำงานได้อย่างเสถียรในอุณหภูมิ -5°C ถึง 40°C เพิ่มความยืดหยุ่นในการติดตั้ง

จุดเด่นคือประสิทธิภาพพลังงาน 19.2 J/TH ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน ประหยัดค่าไฟได้มากกว่า 35% เทียบกับรุ่น S19 รองรับการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่าน OTA ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในอนาคตโดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์

แม้ราคาสูงที่ $5,200 แต่ด้วยอัตราแฮช 180 TH/s ทำให้สร้างรายได้ประมาณ 0.00047 BTC ต่อวัน ($39.01 ที่ราคา BTC $83,000) หลังหักค่าไฟ $19.83 ต่อวัน (ที่ $0.24/kWh) เหลือกำไรสุทธิ $19.18 ต่อวัน หรือประมาณ $7,000 ต่อปี ระยะเวลาคืนทุนเพียง 271 วัน

★สรุป Features:

• ราคา: $5,200

• แรงขุด (อัตราแฮช): 180 TH/s

• ประสิทธิภาพพลังงาน: 19.2 J/TH

• ปริมาณการใช้ไฟฟ้า: 3,450W

• ความดัง: 72 เดซิเบล

• ผลการขุด Bitcoin ต่อวัน: 0.00047 BTC

• ค่าไฟฟ้าต่อวัน: $19.83 (ที่ $0.24/kWh)

• กำไรเฉลี่ยต่อวัน: $19.18 (ที่ราคา BTC $83,000)

• ระยะเวลาคืนทุน: ~271 วัน

2. MicroBT WhatsMiner M60S

แหล่งที่มา: shop.whatsminer

MicroBT WhatsMiner M60S มาพร้อมอัตราแฮช 165 TH/s และเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ Hydro-Dynamic Cooling ลดอุณหภูมิการทำงานลง 15% ตัวเครื่องขนาด 200 x 304 x 350 มม. น้ำหนัก 13.8 กก. เบากว่ารุ่นก่อนหน้า 12% ทำให้ติดตั้งและขนย้ายง่าย

ออกแบบให้มีเสียงรบกวนลดลงเหลือ 71 dB เงียบกว่ารุ่นก่อนหน้า 8% เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่ควบคุมเสียง มาพร้อมซอฟต์แวร์จัดการระบบแบบใหม่ อินเตอร์เฟซใช้งานง่าย รองรับการปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือประหยัดพลังงาน พร้อมระบบตรวจจับความผิดปกติอัตโนมัติ

ด้วยประสิทธิภาพพลังงาน 20.0 J/TH ทำให้สามารถสร้างรายได้ 0.00043 BTC ต่อวัน ($35.69 ที่ราคา BTC $83,000) หลังหักค่าไฟ $18.32 ต่อวัน เหลือกำไรสุทธิ $17.37 ต่อวัน หรือ $6,340 ต่อปี ระยะเวลาคืนทุนอยู่ที่ 276 วัน

★สรุป Features:

• ราคา: $4,800

• แรงขุด (อัตราแฮช): 165 TH/s

• ประสิทธิภาพพลังงาน: 20.0 J/TH

• ปริมาณการใช้ไฟฟ้า: 3,300W

• ความดัง: 71 เดซิเบล

• ผลการขุด Bitcoin ต่อวัน: 0.00043 BTC

• ค่าไฟฟ้าต่อวัน: $18.32 (ที่ $0.24/kWh)

• กำไรเฉลี่ยต่อวัน: $17.37 (ที่ราคา BTC $83,000)

• ระยะเวลาคืนทุน: ~276 วัน

3. Canaan AvalonMiner A1366 Pro

แหล่งที่มา: minerstat

Canaan AvalonMiner A1366 Pro มาพร้อมการปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งด้านพลังงานและความเสถียร ตัวเครื่องขนาด 310 x 410 x 445 มม. น้ำหนัก 13.4 กก. ออกแบบให้ติดตั้งง่ายและซ้อนเรียงกันได้สะดวกสำหรับฟาร์มขนาดใหญ่

ระบบระบายความร้อนได้รับการออกแบบใหม่ ใช้พัดลมแรงดันสูง 4 ตัวทำงานในโหมดอัจฉริยะ ปรับความเร็วตามความต้องการระบายความร้อน ประหยัดพลังงานและลดเสียงรบกวนในสภาวะอุณหภูมิไม่สูงเกินไป ระดับเสียงเฉลี่ย 73 dB

มาพร้อมชิปประมวลผลเฉพาะทางรุ่นใหม่ผลิตด้วยกระบวนการ 7nm ปรับปรุงใหม่ อัตราแฮช 140 TH/s และประสิทธิภาพพลังงาน 23.0 J/TH ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า 18% มีระบบป้องกันไฟกระชากและภาวะแรงดันไฟฟ้าไม่คงที่

ที่ราคา $3,900 สร้างรายได้ประมาณ 0.00037 BTC ต่อวัน ($30.71 ที่ราคา BTC $83,000) หลังหักค่าไฟ $18.55 ต่อวัน เหลือกำไรสุทธิ $12.16 ต่อวัน หรือ $4,438 ต่อปี ระยะเวลาคืนทุน 321 วัน

★สรุป Features:

• ราคา: $3,900

• แรงขุด (อัตราแฮช): 140 TH/s

• ประสิทธิภาพพลังงาน: 23.0 J/TH

• ปริมาณการใช้ไฟฟ้า: 3,220W

• ความดัง: 73 เดซิเบล

• ผลการขุด Bitcoin ต่อวัน: 0.00037 BTC

• ค่าไฟฟ้าต่อวัน: $18.55 (ที่ $0.24/kWh)

• กำไรเฉลี่ยต่อวัน: $12.16 (ที่ราคา BTC $83,000)

• ระยะเวลาคืนทุน: ~321 วัน

4. Bitmain Antminer S19 XP Pro

แหล่งที่มา: shop.bitmain

Bitmain Antminer S19 XP Pro แม้ไม่ใช่รุ่นล่าสุด แต่ยังคงมีความคุ้มค่าในปี 2025 ด้วยอัตราแฮช 130 TH/s และการใช้ไฟฟ้า 3,180W ตัวเครื่องขนาด 195 x 290 x 370 มม. น้ำหนัก 13.2 กก. เหมาะกับพื้นที่จำกัด

ได้รับการยอมรับในเรื่องความเสถียร ระบบระบายความร้อนที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยพัดลม 4 ตัวควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับเหมาะสม ระดับเสียงประมาณ 75 dB

ข้อดีคือราคาที่ลดลงจากเดิมมาก จาก $7,800 ในช่วงเปิดตัว เหลือ $3,500 ในปัจจุบัน ทำให้คุ้มค่ากับการลงทุนมากขึ้น อะไหล่และการซ่อมบำรุงหาได้ง่ายเนื่องจากเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

สามารถสร้างรายได้ 0.00034 BTC ต่อวัน ($28.22 ที่ราคา BTC $83,000) หักค่าไฟ $18.32 ต่อวัน เหลือกำไรสุทธิ $9.90 ต่อวัน หรือ $3,614 ต่อปี ระยะเวลาคืนทุน 354 วัน น่าสนใจสำหรับผู้เริ่มต้นด้วยงบประมาณจำกัด

★สรุป Features:

• ราคา: $3,500

• แรงขุด (อัตราแฮช): 130 TH/s

• ประสิทธิภาพพลังงาน: 24.5 J/TH

• ปริมาณการใช้ไฟฟ้า: 3,180W

• ความดัง: 75 เดซิเบล

• ผลการขุด Bitcoin ต่อวัน: 0.00034 BTC

• ค่าไฟฟ้าต่อวัน: $18.32 (ที่ $0.24/kWh)

• กำไรเฉลี่ยต่อวัน: $9.90 (ที่ราคา BTC $83,000)

• ระยะเวลาคืนทุน: ~354 วัน

5. iPollo G1 Ultra

แหล่งที่มา: ipollo.

iPollo G1 Ultra เป็นเครื่องขุดจากแบรนด์ใหม่ที่เข้ามาแข่งขันด้วยจุดเด่นด้านประสิทธิภาพพลังงานและนวัตกรรมระบายความร้อน ตัวเครื่องขนาด 220 x 330 x 380 มม. น้ำหนัก 13.5 กก. รูปทรงทันสมัยและวางซ้อนกันได้อย่างมั่นคง

ใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ Immersion-Ready สามารถใช้ได้ทั้งแบบระบายความร้อนด้วยอากาศและการจุ่มในของเหลวระบายความร้อนสำหรับฟาร์มที่ต้องการประสิทธิภาพ

สูงสุด ระบบอากาศมาพร้อมพัดลมความเร็วต่ำขนาดใหญ่ ให้การระบายความร้อนที่ดีโดยมีระดับเสียงเพียง 70 dB

ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ออกแบบโดยทีมวิศวกรจากซิลิคอนวัลเลย์ อัตราแฮช 145 TH/s ประสิทธิภาพพลังงาน 22.6 J/TH มาพร้อมอินเทอร์เฟซผู้ใช้ทันสมัย รองรับการจัดการระยะไกลผ่านแอพสมาร์ทโฟน และระบบติดตามประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์

ที่ราคา $3,800 สร้างรายได้ 0.00038 BTC ต่อวัน ($31.54 ที่ราคา BTC $83,000) หักค่าไฟ $18.89 ต่อวัน เหลือกำไรสุทธิ $12.65 ต่อวัน หรือ $4,617 ต่อปี ระยะเวลาคืนทุน 300 วัน

★สรุป Features:

• ราคา: $3,800

• แรงขุด (อัตราแฮช): 145 TH/s

• ประสิทธิภาพพลังงาน: 22.6 J/TH

• ปริมาณการใช้ไฟฟ้า: 3,280W

• ความดัง: 70 เดซิเบล

• ผลการขุด Bitcoin ต่อวัน: 0.00038 BTC

• ค่าไฟฟ้าต่อวัน: $18.89 (ที่ $0.24/kWh)

• กำไรเฉลี่ยต่อวัน: $12.65 (ที่ราคา BTC $83,000)

• ระยะเวลาคืนทุน: ~300 วัน

6. MicroBT WhatsMiner M50S

แหล่งที่มา: shop.whatsminer

MicroBT WhatsMiner M50S มีความคุ้มค่าสูงในแง่ราคาต่อประสิทธิภาพ ตัวเครื่องขนาด 210 x 312 x 340 มม. น้ำหนัก 13.0 กก. กะทัดรัดและติดตั้งง่าย มาพร้อมพัดลมระบายความร้อน 4 ตัวที่ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอุณหภูมิสูง (ช่วง -5°C ถึง 45°C) ระดับเสียงประมาณ 74 dB

จุดเด่นคือความน่าเชื่อถือในการทำงานระยะยาว MicroBT มีชื่อเสียงในการผลิตเครื่องขุดที่มีอัตราการเสียต่ำและอายุการใช้งานยาวนาน มาพร้อมซอฟต์แวร์จัดการที่ปรับปรุงใหม่ให้มีความเสถียรมากขึ้น สามารถตั้งค่าการทำงานได้หลากหลายตามความต้องการ

ที่ราคา $2,900 ให้ความคุ้มค่าดีเยี่ยม สร้างรายได้ 0.00033 BTC ต่อวัน ($27.39 ที่ราคา BTC $83,000) หักค่าไฟ $18.14 ต่อวัน เหลือกำไรสุทธิ $9.25 ต่อวัน หรือ $3,376 ต่อปี ระยะเวลาคืนทุนเพียง 314 วัน

★สรุป Features:

• ราคา: $2,900

• แรงขุด (อัตราแฮช): 126 TH/s

• ประสิทธิภาพพลังงาน: 25.0 J/TH

• ปริมาณการใช้ไฟฟ้า: 3,150W

• ความดัง: 74 เดซิเบล

• ผลการขุด Bitcoin ต่อวัน: 0.00033 BTC

• ค่าไฟฟ้าต่อวัน: $18.14 (ที่ $0.24/kWh)

• กำไรเฉลี่ยต่อวัน: $9.25 (ที่ราคา BTC $83,000)

• ระยะเวลาคืนทุน: ~314 วัน

7. Goldshell KS6

แหล่งที่มา: bt-miners.

Goldshell KS6 เหมาะสำหรับนักขุดที่มีงบประมาณจำกัด ตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด 180 x 275 x 330 มม. น้ำหนักเพียง 10.5 กก. ติดตั้งง่ายแม้ในพื้นที่จำกัด เหมาะสำหรับการขุดในที่พักอาศัย

มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่มีเสียงรบกวนต่ำเพียง 68 dB เงียบกว่าเครื่องขุดส่วนใหญ่ในท้องตลาด ทำให้ใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความเงียบ เช่น อพาร์ทเมนท์หรือบ้านพักอาศัย

แม้จะมีอัตราแฮชต่ำกว่ารุ่นอื่นที่ 100 TH/s แต่ใช้พลังงานน้อยกว่าเพียง 2,750W ทำให้มีประสิทธิภาพพลังงาน 27.5 J/TH ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ มาพร้อมอินเทอร์เฟซใช้งานง่ายเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มีระบบติดตามและแจ้งเตือนอัตโนมัติ

ที่ราคา $2,200 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น สร้างรายได้ 0.00026 BTC ต่อวัน ($21.58 ที่ราคา BTC $83,000) หักค่าไฟ $15.84 ต่อวัน เหลือกำไรสุทธิ $5.74 ต่อวัน หรือ $2,095 ต่อปี ระยะเวลาคืนทุน 383 วัน

★สรุป Features:

• ราคา: $2,200

• แรงขุด (อัตราแฮช): 100 TH/s

• ประสิทธิภาพพลังงาน: 27.5 J/TH

• ปริมาณการใช้ไฟฟ้า: 2,750W

• ความดัง: 68 เดซิเบล

• ผลการขุด Bitcoin ต่อวัน: 0.00026 BTC

• ค่าไฟฟ้าต่อวัน: $15.84 (ที่ $0.24/kWh)

• กำไรเฉลี่ยต่อวัน: $5.74 (ที่ราคา BTC $83,000)

• ระยะเวลาคืนทุน: ~383 วัน

8. Bitmain Antminer S19j Pro+

แหล่งที่มา: shop.bitmain

Bitmain Antminer S19j Pro+ เป็นรุ่นปรับปรุงของ S19j Pro มาพร้อมอัตราแฮช 104 TH/s ตัวเครื่องขนาด 195 x 290 x 370 มม. น้ำหนัก 13.0 กก. ขนาดมาตรฐานเหมาะกับการติดตั้งทั่วไป

จุดเด่นคือการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานให้ดีขึ้นเป็น 29.8 J/TH จากรุ่นเดิมที่ 34.5 J/TH ทำให้มีต้นทุนการดำเนินงานต่ำลงและกำไรเพิ่มขึ้น มีการปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดอุณหภูมิการทำงานและยืดอายุการใช้งาน

มีความน่าเชื่อถือสูงตามมาตรฐาน Bitmain มาพร้อมซอฟต์แวร์ควบคุมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีการอัพเดทเฟิร์มแวร์สม่ำเสมอ ระบบการติดตั้งและตั้งค่าทำได้ง่าย เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและนักขุดมืออาชีพ

ที่ราคา $1,900 ซึ่งต่ำที่สุดในรายการนี้ มีความคุ้มค่าสูงมาก สร้างรายได้ 0.00027 BTC ต่อวัน ($22.41 ที่ราคา BTC $83,000) หักค่าไฟ $17.86 ต่อวัน เหลือกำไรสุทธิ $4.55 ต่อวัน หรือ $1,661 ต่อปี ระยะเวลาคืนทุนเพียง 417 วัน เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีงบประมาณจำกัด

★สรุป Features:

• ราคา: $1,900

• แรงขุด (อัตราแฮช): 104 TH/s

• ประสิทธิภาพพลังงาน: 29.8 J/TH

• ปริมาณการใช้ไฟฟ้า: 3,100W

• ความดัง: 75 เดซิเบล

• ผลการขุด Bitcoin ต่อวัน: 0.00027 BTC

• ค่าไฟฟ้าต่อวัน: $17.86 (ที่ $0.24/kWh)

• กำไรเฉลี่ยต่อวัน: $4.55 (ที่ราคา BTC $83,000)

• ระยะเวลาคืนทุน: ~417 วัน

สำหรับเคล็ดลับการเลือกซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์รุ่นไหนดีในปี 2025 เพื่อให้ผลตอบแทนที่สูงเราก็ต้องคำนึงถึงสเป็กของเครื่องขุดที่ให้โอกาสในการได้รับผลตอบแทน (Bitcoin reward) สูง ขณะเดียวกันก็มีต้นทุนต่ำ รวมถึงฟังก์ชั่นในการดูแลรักษาอื่น ๆ ได้แก่

• ราคา

เพราะเครื่องขุดบิทคอยน์เป็นต้นทุนจมก้อนใหญ่ที่ต้องจ่ายออกไปและมีราคาสูง แต่ราคาเครื่องขุดที่สูงก็มักจะตามมาด้วยสเป็กเครื่องที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการขุด Bitcoin ได้ ราคาของเครื่องขุดจึงเป็นปัจจัยแรก ๆ ที่ต้องคำนึงถึงและชั่งน้ำหนักว่าราคาเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม

• เหรียญที่สามารถขุดได้

เครื่องขุดบิทคอยน์มักไม่ได้สามารถขุดได้เพียงแค่ Bitcoin เท่านั้น ซึ่งหากเราสนใจการขุดเหรียญอื่น ๆ ด้วยก็ควรเลือกเครื่องที่มีสเป็กครอบคลุมการขุดเหรียญนั้น ๆ ด้วย

• แรงขุด

แรงขุดของเครื่องขุดบิทคอยน์มีผลต่อโอกาสและผลตอบแทนที่จะได้รับกลับมา เครื่องที่มีแรงขุดสูงมักจะให้โอกาสในการได้รางวัลสูงตามไปด้วย

• กำลังไฟที่ใช้

แรงขุดของเครื่องขุดบิทคอยน์ที่สูงมักจะตามมาด้วยการกินไฟมาก ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนหลักอีกส่วนหนึ่งของการขุด Bitcoin นั่นก็คือต้นทุนค่าไฟ และกำลังไฟที่เครื่องขุด Bitcoin ใช้จะช่วยให้เราประมาณต้นทุนส่วนนี้ได้

• ความดังของตัวเครื่องขณะทำงาน

เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงจากการหาที่ติดตั้งตัวเครื่อง เพื่อไม่ให้เสียงรบกวนพื้นที่รอบข้างได้

ในปี 2025 การลงทุนในเครื่องขุดบิทคอยน์กลับมาคุ้มค่าอีกครั้งด้วยราคาบิทคอยน์ที่สูงถึง $83,000 ทำให้ระยะเวลาคืนทุนลดลงเหลือเพียง 9-14 เดือนเท่านั้น เครื่องขุดรุ่นใหม่มาพร้อมเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทั้งในด้านประสิทธิภาพพลังงานและอัตราแฮช ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลตอบแทนที่ดี

กลุ่มเครื่องขุดระดับสูงอย่าง Bitmain Antminer S21 Pro และ MicroBT WhatsMiner M60S ให้อัตราแฮชสูงถึง 180 TH/s และ 165 TH/s ตามลำดับ แม้จะมีราคาสูงแต่ก็ให้ผลตอบแทนและระยะเวลาคืนทุนที่ดีที่สุด ส่วนรุ่นราคาปานกลางอย่าง Canaan AvalonMiner A1366 Pro และ iPollo G1 Ultra เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและเงินลงทุน ขณะที่ Bitmain Antminer S19j Pro+ และ Goldshell KS6 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีงบประมาณจำกัด

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเครื่องขุดบิทคอยน์ยังมีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงนอกเหนือจากต้นทุนค่าเครื่อง เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าบำรุงรักษา พื้นที่ติดตั้ง และการระบายความร้อน รวมถึงความผันผวนของราคาบิทคอยน์ที่อาจส่งผลต่อผลตอบแทนในอนาคต ทำให้การพิจารณาเลือกเครื่องขุดที่เหมาะสมกับสถานการณ์และเงินลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนจากการขุดบิทคอยน์ในปี 2025

มาเทรดบิทคอยน์โดยไม่ต้องการเป็นเจ้าของบิทคอยน์กับโบรกเกอร์ Mitrade ฝึกฝนเทรดด้วยเงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ >>>

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้ 

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

**หมายเหต

การคำนวณผลตอบแทนจากเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 คิดจาก 

- อัตราแลกเปลี่ยน 35 THB/USD

- อัตราค่าไฟ 3.2482 บาท/ยูนิต (0.0928 USD/kWh)

- ราคาบิทคอยน์ 28,094.08 USD/BTC

- Block Reward 6.25

- Difficulty 47887764338536.00

ข้อมูลอ้างอิง

Top 10 Bitcoin Mining Hardware

How Long does It Take to Mine 1 Bitcoin?

Bitcoin Mining Calculator