วิเคราะห์แนวโน้มราคาบิทคอยน์ 2025 จะไปในทิศทางใด

ราคาบิทคอยน์วันนี้ (ที่มา: MiTrade)  

เทรด BTC เดี๋ยวนี้ >  

*เปิดบัญชีภายใน 3 นาที ⌛

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

*เงินเสมือนจริง $50, 000 ดอลลาร์ 💰

ราคาบิทคอยน์ในปี 2025 มีการคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 200,000 ถึง 250,000 ดอลลาร์ โดยการประเมินนี้มาจากการวิเคราะห์วัฏจักรของบิทคอยน์ในอดีตที่มักจะสร้างจุดสูงสุดใหม่ทุก 4 ปี ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจจะนำบิทคอยน์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองประเทศ

บิทคอยน์ (Bitcoin) สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางปัจจัยของการ Having รวมถึงการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และเริ่มเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก โดยเฉพาะประธานาธิบดีคนใหม่แต่หน้าเก่าอย่าง Donal Trump

แต่คำถามที่หลายคนน่าจะอยากรู้ก็คือ แล้ว “แนวโน้มราคาบิทคอยน์ 2025” จะไปทางไหน? ในบทความนี้ เราจะมาย้อนดูผลงานของบิทคอยน์ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อวิเคราะห์ถึงแนวโน้มราคาบิทคอยน์ 2025 กัน

ที่มา coinmarketcap

จากภาพจะเป็นราคาของบิทคอยน์ย้อนหลังเริ่มตั้งแต่ปี 2011 - 2025 ซึ่งทางผู้เขียนจะทำการอธิบายรายละเอียดของแต่ละปีดังต่อไปนี้

• ปี 2011

ตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ในต่างประเทศได้มีการนำเหรียญบิทคอยน์เข้ามาให้มีการซื้อขายด้วยสกุลเงิน USD ส่งผลให้ราคาเหรียญเติบโตขึ้น 2,960% ภายในปีนั้น และทำให้ผู้คนเริ่มรู้จักบิทคอยน์เพิ่มมากขึ้น

• ปี 2012

Bitcoin ได้เกิดปรากฎการ์ณ Bitcoin Halving ครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งหลังจากเหตุการ์ณดังกล่าวเกิดขึ้นนั้น ส่งผลให้ราคาของเหรียญพุ่งสูงขึ้นไปถึง $270.94 USD/BTC คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ราคาเพิ่มขึ้น 13,480% หลังจากนั้นราคาเหรียญลดลงมาตามลำดับมีมูลค่าราคาเฉลี่ยต่อเหรียญอยู่ที่ $123 USD/BTC ในช่วงเดือนตุลาคมของปี 2012

• ปี 2013

เป็นปีที่ราคาเหรียญบิทคอยน์มีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง เกิดความผันผวนสูงมากในปีนั้น ในช่วงต้นปีราคาได้มีการพุ่งอยู่ที่ $220 USD/BTC จากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงในราคาของเหรียญกลับมามูลลดลงอยู่ที่ประมาณ $70 USD/BTC และในช่วงเดือนธันวาคมของปี ราคาเหรียญได้พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ $1,156 USD/BTC จากนั้นราคาก็แกว่งลงอย่างรุนแรงกลับมาอยู่ระดับราคา $315 USD/BTC ซึ่งส่งสัญญาณว่าเป็นช่วงขาลงของบิทคอยน์ในปีถัดไป

• ปี 2014 - 2015

จากวิกฤตการ์ณราคาของบิทคอยน์ที่ร่วงลงเป็นอย่างมากในปี 2013 ส่งผลให้ราคาเหรียญเป็นช่วงลงที่ต่ำที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยลงไปทำระดับต่ำสุดอยู่ที่ $314 USD/BTC ด้วยเหตุผลกระแสลบจาก People’s Bank of China ได้ประกาศห้ามสถาบันทางการเงินในประเทศทำธุรกรรมใด ๆ ด้วยบิตคอยน์ ส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ลดลงอย่างหนักในปีนี้นั่นเอง

• ปี 2016

เกิดเหตุการ์ณ Bitcoin Halving ครั้งที่สองอีกครั้ง ซึ่งเหตุการ์ณในปีนี้ราคาในช่วงแรกไม่ค่อยหวือหวาสักเท่าไหร่ แต่ว่าก็มีการขยับราคาขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับ $998 USD/BTC ในช่วงเวลาของสิ้นปีนั้น

• ปี 2017

ถือว่าเป็นช่วงเวลาขาขึ้นของบิทคอยน์ในปีนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุผลหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นผลเชิงบวที่มาจากการอัปเดตเครือข่ายบิทคอยน์ครั้งยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า Segwit (Segregated Witness) และปัจจัยเชิงบวกจากเหตุการ์ณ Bitcoin Halving ครั้งที่สอง ส่งผลให้ราคาเหรียญบิทคอยน์ในปีนี้มีมูลค่าอยู่ที่ $20,000 USD/BTC คิดเป็นเปอร์เซ็นต์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 3100% ในระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งปีเศษ 

ที่มา: tradingview

• ปี 2018 - 2019

เป็นช่วงจังหวะเวลาของราคาเหรียญบิทคอยน์เริ่มย่อตัวลง หลังจากที่ทำระดับราคาสูงสุดในปีที่ผ่านมา และในประเทศไทยนักลงทุนเริ่มเข้ามาให้ความสนใจในการลงทุนกับบิทคอยน์เพิ่มมากขึ้น

• ปี 2020

เป็นปีที่ทุกสินทรัพย์ได้รับผลกระทบกันอย่างรุนแรง จ่กพิษโควิด ซึ่งทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกต้องหยุดชะงักตัวลง ธนาคารต่างๆ ทั่วโลกมีการอัดฉีดเงินเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดสภาวะเงินเฟ้อ และเป็นจังหวะเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยเริ่มให้ความสนใจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ “บิทคอยน์” ซึ่งส่งผลให้ราคาเหรียญในปีนี้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดอีกครั้งจากราคาเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ $9,000 USD/BTC พุ่งขึ้นทำราคาสูงสุดอยู่ที่ระดับราคา $20,000 USD/BTC ในช่วงปลายปีและกระแสยาวในปีถัดมา

• ปี 2021

ราคาบิตคอยน์ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนไปถึง 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ (All-time High) ในช่วงปีนี้บิตคอยน์เริ่มเป็นที่รู้จักและเป็นที่พูดทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยด้วย เป็นผลต่อเนื่องมาจากวิกฤตโควิด ส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น MicroStrategy ที่เลือกถือ บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรอง หรือ Morgan Stanley ที่เริ่มให้บริการเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี เรียกได้ว่าเป็นปีที่มีผู้เล่นรายใหญ่เข้ามาในวงการกันอย่างล้นหลาม รวมถึงรัฐบาลประเทศเอลซัลวาดอร์ ที่เดินหน้าอนุมัติให้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเป็นประเทศแรกของโลก ส่งผลให้นักลงทุนกลับมามุมมองที่ดีต่อตลาดคริปโตฯ

สำหรับในปี 2022 ถือว่าเป็นช่วงที่สินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ในสภาวะตลาดหมี (Bear Market) มูลค่าของบิตคอยน์ในตลาดโลกลดลงถึง 60% ถือว่าผิดคาดจากนักวิเคราะห์หลายคนที่คาดการ์ณว่าราคาเหรียญในปี 2022 อาจจะมีการฟื้นตัวขึ้น แต่ในทางกลับกันภาพรวมราคาของเหรียญลดลง จากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นข่าวเชิงลบที่ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ทำให้ในช่วงปลายปีเดือนธันวาคมของปี 2022 บิทคอยน์ได้มีการทำราคาอยู่ที่คา 15,000-17,000 ดอลลาร์สหรัฐ (5.2 แสนบาท) ทั้งนี้ภาพใหญ่ของ Bitcoin (BTC) ได้เกิดแท่งเทียน “Bearish Engulfing” ขนาดใหญ่ขึ้นในกรอบเวลา (Timeframe) 12 เดือน ราคาบิทคอยน์สามารถทำลายแพทเทิร์นดังกล่าวได้ในช่วงต้นมกราคาของปี 2023 กลับมาทำราคาทะลุ 28,900 ดอลลาร์สหรัฐ (1 ล้านบาท) อีกครั้ง

ราคา Bitcoin ในปี  2023 ยังไม่เป็นที่น่าประทับใจเท่าไหร่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกมากมาย เช่น มรบริษัทใหญ่ ๆ ที่ขายการถือครอง BTC ออกไป รวมทั้ง อัตราเงินเฟ้อลดลงในขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูง สิ่งเหล่านี้จึงกระตุ้นให้นักลงทุนเปลี่ยนจากการถือ BTC เป็นการถือเงินสดแทน ยิ่งไปกว่านั้นการเพิ่มการตรวจสอบตลาด crypto โดยหน่วยงานกำกับดูแลทำให้นักลงทุนสถาบันจำนวนมากหวาดกลัวซึ่งยังเป็นอีกสาเหตุที่ได้ลดการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลลง อย่างไรก็ตาม ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 ราคาของ Bitcoin ได้ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนต่างกลับมามีความเชื่อมั่นต่อตลาดคริปโตรวมถึงบิทคอยน์จึงอาจเป็นไปได้ว่าในปี 2024 นี้จะมีข่าวดีสำหรับนักลงทุน BTC ก็เป็นได้

ในปี 2024 Bitcoin แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่น่าประทับใจ โดยเริ่มต้นปีที่ระดับราคา $42,000 และปิดท้ายปีที่ $93,000 คิดเป็นผลตอบแทนถึง 120% ซึ่งถือเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ Bitcoin สร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น ต่อเนื่องจากปี 2023 ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 155% เมื่อพิจารณารูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาตลอดทั้งปี พบว่ามีความคล้ายคลึงกับปี 2023 อย่างมีนัยสำคัญ แม้จะมีความแตกต่างในรายละเอียดปลีกย่อยบ้างก็ตาม

ความน่าสนใจอีกประการหนึ่งคือการที่ Bitcoin สามารถครองความเป็นผู้นำตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีส่วนแบ่งการตลาด (Dominance) อยู่ที่ 58% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การ Halving ครั้งล่าสุด หากพิจารณาจากรูปแบบในอดีต Bitcoin มักจะรักษาความเป็นผู้นำตลาดได้ประมาณ 3 ปีก่อนที่จะเริ่มลดลง ซึ่งรอบนี้อาจจะดำเนินไปจนถึงปี 2025 

ขณะที่ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin ในปี 2024 ที่สำคัญได้แก่ การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐและการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งส่งผลกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม รวมถึง Bitcoin และหุ้น บางความเห็นมองว่าสถานการณ์นี้อาจเกิดจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ทำให้ตลาดพันธบัตรต้องมีการปรับตัว อย่างไรก็ตาม โครงสร้างตลาดโดยรวมของ Bitcoin ในรอบนี้ดูแข็งแกร่งกว่ารอบก่อนๆ เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ได้เผชิญกับปัญหารุนแรงเหมือนในอดีต

จากการวิเคราะห์ข้อมูลบิทคอยน์ เราเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาในระยะถัดไป โดยในปี 2024 บิทคอยน์สร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นถึง 150% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากความคืบหน้าด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่เอื้ออำนวย และความกระตือรือร้นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น

เมื่อพิจารณาวัฏจักรของบิทคอยน์ในอดีต เราพบรูปแบบที่น่าสนใจ คือราคามักจะสร้างจุดสูงสุดใหม่ทุก 4 ปี โดยในสองรอบที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2017 ราคาปรับตัวขึ้น 2300% และ 1700% ตามลำดับ ก่อนที่จะเกิดการปรับฐานลง 70-80% ปัจจุบันราคาได้ปรับตัวขึ้นประมาณ 600% จากจุดต่ำสุดที่ 16,000 ดอลลาร์เมื่อสองปีก่อน ซึ่งบ่งชี้ว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอีกสองปีข้างหน้า 

ที่มา: coinglass

ปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนราคาในปี 2025 มาจากนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Trump ที่ประกาศนโยบายสนับสนุนคริปโตเคอเรนซี รวมถึงแผนที่จะนำบิทคอยน์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองของประเทศ โดยวุฒิสมาชิก Cynthia Lummis ได้เสนอแผนการซื้อบิทคอยน์ปีละไม่เกิน 200,000 เหรียญเป็นเวลา 5 ปี หรือประมาณ 1% ของอุปทานทั้งหมด หากแผนนี้เป็นจริง คาดว่าราคาบิทคอยน์อาจพุ่งไปถึง 1 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงจากการปรับฐาน สาเหตุมาจากการขายทำกำไรและความระมัดระวังของนักลงทุนที่รอดูนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาลชุดใหม่ การวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ว่าแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 90,000 ดอลลาร์ และหากหลุดระดับนี้อาจปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 73,000 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์หลายรายยังคงมองบวกต่อแนวโน้มในปี 2025 โดยคาดการณ์ราคาเป้าหมายที่ 200,000 และ 250,000 ดอลลาร์ตามลำดับ ปัจจัยสนับสนุนมาจากสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้น การเข้ามาของเงินทุนสถาบันในระดับที่มากขึ้นกว่าที่เคย และแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกที่จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของสินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิทคอยน์

ทางด้าน MVRV Z-Score ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการระบุจุดสูงสุดและต่ำสุดของวัฏจักรตลาดบิทคอยน์ โดยในปัจจุบัน MVRV Z-Score บ่งชี้ว่าตลาดบิทคอยน์ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยจากการพิจารณาข้อมูลในอดีตพบว่า แม้วัฏจักรก่อนหน้านี้ค่า Z-Score จะสูงถึงระดับ 7 แต่ก็ควรเริ่มระมัดระวังเมื่อค่านี้ขึ้นไปเกิน 6 และควรพิจารณาตัวชี้วัดอื่นๆ ประกอบเพื่อระบุจุดสูงสุดของตลาด

ที่มา:  Bitcoin Magazine Pro

สถานการณ์ปัจจุบันมีความคล้ายคลึงกับช่วงเดือนพฤษภาคม 2017 ซึ่งในขณะนั้นราคาบิทคอยน์อยู่ที่เพียงไม่กี่พันดอลลาร์เท่านั้น การเปรียบเทียบในบริบทนี้ชี้ให้เห็นว่าราคาบิทคอยน์ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกหลายร้อยเปอร์เซ็นต์จากระดับปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์หลายรายที่คาดการณ์เป้าหมายราคาที่ระดับ 200,000-250,000 ดอลลาร์ในปี 2025

อย่างไรก็ตามก็เป็นเพียงการแค่กาวิเคราะห์และการคาดการ์ณราคาเหรียญไว้พียงเท่านั้น ราคาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่กับปัจจัยภายนอกอื่นๆ ที่อาจจะทำให้ราคาไม่ได้เป็นไปตามที่วิเคราะห์ไว้ ดังนั้นนักลงทุนทุกท่านจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลและติดตามสถาการ์ณข่าวสารให้ดีก่อนลงทุน เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนสูงมากกว่าสินทรัพย์อื่นๆ อาจจะทำให้คุณสูญเสียเงินจากการลงทุนก็เป็นได้

คว้าโอกาสการเทรดบิทคอย์กับโบรกเกอร์ชั้นนำ Mitrade เดี๋ยวนี้ 👇️👇️👇️ 

     

 ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำ  

 เปิดบัญชีภายใน 3 นาที     

  ฝากถอนเงินฟรีและรวดเร็ว   

  เงินทุนมีความปลอดภัยในระดับสูง               

 โบนัสสำหรับลูค้าใหม่ $100 ดอลลาร์             

 ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริงฟรี $50, 000 ดอลลาร์                

เปิดบัญชีเดี๋ยวนี้     

ตราสารอนุพันธ์อาจจะทำให้คุณขาดทุนทั้งหมด โปรดอ่านพิจรนา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของเรา นำเสนอ โดย Mitrade Holding Ltd.SIB License 1612446