ข่าวคริปโต|ข่าวคริปโตวันนี้|สรุปข่าวคริปโตประจำวัน: ตลาดเหรียญมีมทรุด ขณะที่นักวิเคราะห์มอง Bitcoin ลุ้นแตะ 5 แสนดอลลาร์ ท่ามกลางการแฮกที่ยังระบาด

ไฮไลท์ของข่าวคริปโตวันนี้

• ตลาดมีมดิ่งเหว ยอดเหรียญใหม่ร่วง 80% นักลงทุนเสียความเชื่อมั่น

• Standard Chartered ทำนาย Bitcoin อาจพุ่งแตะ 5 แสนดอลลาร์ก่อน Trump พ้นตำแหน่ง

• เหตุแฮ็ก Bybit มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนสถาบัน

• สัญญาณอันตราย พบธุรกรรมน่าสงสัยจากกระเป๋าผู้ก่อตั้ง Mask Network มูลค่ากว่า 4 ล้านดอลลาร์

ตลาดมีมดิ่งเหว ยอดเหรียญใหม่ร่วง 80% นักลงทุนเสียความเชื่อมั่น

แพลตฟอร์มซื้อขายเหรียญมีม Pump.fun กำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ หลังจำนวนเหรียญใหม่ที่ผ่านกระบวนการ Bonding Curve (ระบบการสร้างสภาพคล่องก่อนเข้าซื้อขายในตลาด) ดิ่งลงกว่า 80% จากจุดสูงสุดในเดือนมกราคม โดยข้อมูลจาก Dune Analytics ระบุว่า ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ มีเหรียญที่ผ่านกระบวนการเพียง 200 เหรียญ จากที่เคยสูงถึง 1,200 เหรียญในช่วง 23-24 มกราคม

ไม่เพียงเท่านั้น จำนวนการเปิดตัวเหรียญใหม่ทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะผ่านกระบวนการ Bonding หรือไม่ ก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากสูงสุดกว่า 70,000 เหรียญในวันที่ 23 มกราคม เหลือเพียงประมาณ 25,000 เหรียญในวันที่ 26 กุมภาพันธ์

สาเหตุสำคัญมาจากเหตุความวุ่นวายหลายครั้งในวงการเหรียญมีม โดยเฉพาะกรณีเหรียญ Libra ที่อ้างว่าได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดี Javier Milei ของอาร์เจนตินา ซึ่งมูลค่าตลาดหายไปกว่า 4.4 พันล้านดอลลาร์ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเปิดซื้อขาย รวมถึงเหรียญ TRUMP ที่ทำให้นักลงทุนกว่า 800,000 รายสูญเงินรวม 2 พันล้านดอลลาร์ ซ้ำร้ายตัว Pump.fun เองก็ตกเป็นเหยื่อการแฮ็กบัญชี X เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ถูกใช้โปรโมทเหรียญปลอม “PUMP”

แหล่งที่มา: Dune Analytics

บทวิเคราะห์: เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าตลาดเหรียญมีมอาจกำลังเข้าสู่จุดอิ่มตัว นักลงทุนเริ่มระมัดระวังมากขึ้นหลังเผชิญการหลอกลวงหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม อีกสาเหตุน่าจะมาจากตอนนี้ Bitcoin กำลังปรับตัวลดลง ซึ่งพาให้ตลาดโดยรวมซบเซาลงไปด้วย

Standard Chartered ทำนาย Bitcoin อาจพุ่งแตะ 5 แสนดอลลาร์ก่อน Trump พ้นตำแหน่ง

Geoffrey Kendrick หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของธนาคาร Standard Chartered คาดการณ์ว่าราคา Bitcoin มีโอกาสพุ่งแตะ 200,000 ดอลลาร์ในปีนี้ และอาจทะลุ 500,000 ดอลลาร์ก่อนที่ประธานาธิบดี Trump จะหมดวาระ โดยมีปัจจัยหนุนจากการเข้ามาของสถาบันการเงินและความชัดเจนด้านกฎระเบียบ

แม้ราคา Bitcoin จะร่วงจากจุดสูงสุดที่ 109,000 ดอลลาร์ในเดือนมกราคม มาอยู่ที่ระดับ 80,000 ดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าหลัง Trump ขู่ขึ้นภาษีสินค้าจากจีน แคนาดา และเม็กซิโก แต่ Kendrick มองว่าความผันผวนจะลดลงเมื่อมีสถาบันการเงินเข้ามาในตลาดมากขึ้น

C แหล่งที่มา: CNBC

บทวิเคราะห์: การเข้ามาของสถาบันการเงินขนาดใหญ่อย่าง BlackRock และ Standard Chartered จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพและความปลอดภัยให้ตลาดคริปโต โดยเฉพาะด้านการเก็บรักษาสินทรัพย์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแฮ็ก ขณะที่การขยายตัวของ ETF Bitcoin ที่มีเงินไหลเข้ากว่า 37 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2024 แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน

เหตุแฮ็ก Bybit มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนสถาบัน

เหตุการณ์แฮ็กเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์จากเว็บเทรด Bybit โดยกลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus Group จากเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันในการทำ Staking ETH จากคำกล่าวของ Bohdan Opryshko ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ Everstake ผู้ให้บริการ Staking รายใหญ่

เหตุการณ์นี้ยังเร่งให้เกิดการถอนเงินออกจากศูนย์ซื้อขายรวมศูนย์ (CEX) โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา จำนวน ETH ที่ถูก Stake บน CEX ลดลง 7% จาก 8.6 ล้าน ETH เหลือ 8 ล้าน ETH และลดลงอีก 0.5% ทันทีหลังเกิดเหตุแฮ็ก Bybit

 แหล่งที่มา: Etherscan

บทวิเคราะห์: แม้ว่าการแฮ็กครั้งนี้อาจทำให้การอนุมัติ ETF ที่อนุญาตให้ทำ Staking ในสหรัฐฯ ล่าช้าออกไป แต่แนวโน้มการย้ายไปใช้บริการแบบไม่รวมศูนย์ (Non-custodial) และกระเป๋าเก็บเหรียญแบบ Hardware Wallet จะเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้งานให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากขึ้น

สัญญาณอันตราย พบธุรกรรมน่าสงสัยจากกระเป๋าผู้ก่อตั้ง Mask Network มูลค่ากว่า 4 ล้านดอลลาร์

แพลตฟอร์มความปลอดภัย Cyvers ตรวจพบการโอนเงินคริปโตมูลค่ากว่า 4 ล้านดอลลาร์ออกจากกระเป๋าที่เชื่อมโยงกับ Suji Yan ผู้ก่อตั้ง Mask Network เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ สินทรัพย์ที่ถูกโอนออกประกอบด้วย ETH 113 เหรียญ (มูลค่ากว่า 265,000 ดอลลาร์) WETH 923 เหรียญ ezETH 301 เหรียญ weETH 156 เหรียญ pufET 90 เหรียญ MASK 48,400 เหรียญ USDT 50,000 เหรียญ และ swETH 15 เหรียญ

หลังจากการโจมตีครั้งแรก เงินทั้งหมดถูกแปลงเป็น ETH และถูกส่งผ่านกระเป๋าดิจิทัล 6 บัญชี โดย Meir Dolev ผู้ร่วมก่อตั้ง Cyvers ระบุว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของภัยคุกคามในพื้นที่ Web3 และความจำเป็นในการติดตามธุรกรรมแบบเรียลไทม์

 แหล่งที่มา: Cyvers Alerts

บทวิเคราะห์: การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุแฮ็ก Bybit และ Pump.fun เพียงไม่กี่วัน สะท้อนให้เห็นว่าแฮกเกอร์มีความซับซ้อนและเป็นมืออาชีพมากขึ้น วงการคริปโตจำเป็นต้องยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยและระบบเฝ้าระวังอย่างเร่งด่วน

ดัชนี Fear and Greed Index : 16

Source: https://alternative.me/crypto/