Solana(SOL) คืออะไร? เหรียญ SOL ดีไหม? อนาคตของเหรียญ SOL จะเป็นไงบ้าง?
Solana เหรียญสาย Smart Contract น้องใหม่ไฟแรงที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว วันนี้เรามาสำรวจกันว่า Solana(SOL) คืออะไร เหรียญ SOL ดีไหมและอนาคตของเหรียญ SOL จะเป็นไงบ้าง
Solana(SOL) คืออะไร?
Solana (SOL) คือ แพลตฟอร์ม Blockchain ที่มีความรวดเร็ว ขยายได้เร็วที่สุด มีความปลอดภัย ซึ่งมีระบบการทำงานเหมือนกันกับ ETH ที่อยู่ภายใต้อัลกอริทึ่มแบบ Proof of Stake (Proof of Stake: POS – วิธีการทำงานของระบบตรวจสอบและบันทึกธุรกรรม หรือเรียกว่า Consensus บนบล็อกเชน) จนได้ฉายาว่า "Ethereum Killer" (ผู้ที่จะมาฆ่า Ethereum)
ที่มาของฉายา "Ethereum Killer" ของเหรียญ SOL เนื่องจากว่า Solana นั้น เป็นทั้งสกุลเงินดิจิทัลและแพลตฟอร์มแบบยืดหยุ่นที่รองรับแอปแบบไม่รวมศูนย์ (dapp) ทุกแบบ โดยเริ่มตั้งแต่ Degenerate Apes ไปจนถึงแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบไม่รวมศูนย์ (หรือ DEX) Serum นวัตกรรมหลักของ Solana คือความเร็ว ซึ่งเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีหลายอย่างร่วมกัน รวมถึงกลไกฉันทามติที่เรียกว่า Proof of History (PoH) Solana ประมวลผลธุรกรรมได้ประมาณ 50,000 รายการต่อวินาที ในขณะที่ Ethereum ประมวลผลธุรกรรมได้ไม่เกิน 15 รายการต่อวินาที นอกจากนี้เครือข่าย ETH ยังมีค่าธรรมในการทำธุรกรรมที่แพงกว่าอีกด้วย
ด้วยความที่ Solana มีการประมวลผลเร็วมากบวกกับมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ นักพัฒนาหวังว่าการมีความเร็วสูงและค่าธรรมเนียมต่ำจะทำให้ Solana เติบโตขึ้นจนสามารถแข่งขันกับผู้ประมวลผลการชำระเงินแบบรวมศูนย์อย่าง Visa ได้เป็นอย่างดี
▲ ประเด็นสำคัญ
Solana เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ออกแบบมาเพื่อโฮสต์แอปพลิเคชันที่มีการกระจายอำนาจและปรับขนาดได้
Solana สามารถประมวลผลธุรกรรมได้มากขึ้นต่อวินาที และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำกว่าบล็อกเชนของคู่แข่งอย่าง Ethereum
Solana เป็นบล็อคเชนแบบ Proof-of-Stake (PoS) แต่ปรับปรุงด้วยกลไกที่เรียกว่า Proof-of-History (PoH) ซึ่งใช้การประทับเวลาแบบแฮชเพื่อตรวจสอบว่าธุรกรรมเกิดขึ้นเมื่อใด
ผู้สร้าง Solana เป็นใคร?
Solana ถูกก่อตั้งขึ้นในช่วง พฤศจิกายนในปี 2017 โดย Anatoly Yakovenko ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นที่วิศวกรอาวุโสของ Qualcomm และเป็นวิศวกรซฟอต์แวร์ของ Mesosphere และ Dropbox และเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ที่ Mesosphere และ Dropbox เขายังทำงานร่วมกับอดีตผู้ร่วมงานของเขา Greg Fitzgerald, Stephen Akridge และ Raj Gokal ในการพัฒนาบล็อกเชน
เดือนกุมภาพันธ์ 2018 Greg Fitzgerald เริ่มมีการสร้างต้นแบบการใช้งานแบบ Open Source ครั้งแรกสำหรับ Whitepaper และต่อมา Yakovenko ได้เปิดตัวโครงการครั้งแรกแสดงให้เห็นว่ามีการธุรกรรมที่รวดเร็ว โดยสามารถตรวจสอบได้ว่าทำธุรกรรมไป 10,000 รายการ ภายในเวลาเพียงครึ่งวินาที หลังจากนั้น Stephen Akridge ยังได้เข้ามาช่วยปรับปรุงเรื่องความสามารถ เพื่อทำให้สามารถทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
จุดเริ่มต้นของ Solana นั้น ชื่อเดิมของโปรเจกต์ Solana นั้นคือ Loom แต่ช่วงนั้น Ethereum มีการปล่อย Loom Network ไป ทำให้ชื่อซ้ำกัน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้คนสับสน นักพัฒนาจึงเลือกที่จะเปลี่ยนชื่อโปรเจกต์จาก Loom เป็น Solana แทน ได้แรงบันดาลใจมาจากชายหาดเล็กๆ แถว San Diego ที่ Yakovenko เคยทำงานอยู่ที่ Qualcomm และใช้ชื่อบริษัทว่า Solana Labs ซึ่งบริษัทนี้ก่อตั้งอยู่ที่เมืองเจนีวา ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ในช่วงปี 2019 Solana ได้เปิดตัวการขายเหรียญเป็นครั้งแรก ด้วยการระดมทุน ยอดโดยรวมอยู่ที่ 20 ล้านดอลลาห์ ต่อจากนั้นก็ได้มีการเผยแพร่โปรโตคอล และเหรียญ SOL ในช่วงปี 2020
เป้าหมายของพวกเขาจะสร้างโปรโตคอลที่น่าเชื่อถือ และมีประสิทธิภาพในการกระจายศุนย์ ซึ่งจะทำให้สามารถปรับขนาดได้มากขึ้น ขณะนี้ทีมงานได้รับการสนับสนุนจากประสบการณ์จากองค์กรชั้นนำของโลก ได้แก่ Apple, Qualcomm, Intel, Google, Microsoft, Twitter, Dropbox และอื่นๆ ผลตอบรับที่ Solana สร้างขึ้นนั้น ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก ซึ่งรวมถึง Multicoin Capital, Foundation Capital, SLOW Capital, CMCC Global, Abstract Ventures และอื่นๆ เป็นต้น
Solana ทำงานอย่างไร?
บล็อกเชนของ Solana คือ Proof of History ซึ่งจะแตกต่างไปจากระบบของ Proof of Stake และ Proof of Work โดยลักษณะของ Proof of History นั้น จะใช้การลำดับคำนวณที่ให้บันทึกระบบดิจิทัลยืนยันว่ามีการทำธุรกรรมเกิดขึ้นบนเครือข่ายในช่วงเวลาหนึ่ง มีความสามารถในการเข้ารหัสที่ทำให้สามารถทำธุรกรรมบนเครือข่ายพร้อมกันได้ พร้อมกับการสร้างข้อมูลลงบนโครงสร้างไปด้วย
Solana ใช้อัลกอริธึมแฮชที่ปลอดภัย 256 บิท (SH-256) เป็นชุดของฟังก์ชั่นการเข้ารหัสที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งส่งออกค่า 256 บิต เครือข่ายสุ่มตัวอย่างตัวเลขและแฮช SHA-256 เป็นระยะเวลาแบบเรียลไทม์ตามชุดแฮชที่รวมอยู่ในหน่วยประมวลผลกลาง การประทับเวลาสำหรับธุรกรรมจะถูกสร้างขึ้นหลังจากมีการป้อนข้อมูลส่วนนี้เข้าไป เพื่อให้สามารถทำธุรกรรมจำนวนมากได้ และการสร้างบล็อกขึ้นมาใหม่ในช่วงเวลานั้น โหนดทั้งหมดในเครือข่ายต้องมีนาฬิกาเข้ารหัสเพื่อติดตามเหตุการณ์แทนที่จะรอให้ผู้ตรวจสอบความถูกต้องรายอื่นตรวจสอบธุรกรรม
นอกจากนี้ระบบ Proof of History หรือ PoH ยังถือได้ว่าเป็นฟังก์ชันหน่วงเวลาตรวจสอบความถี่สูง (VDF) ซึ่งเป็นฟังก์ชันสามอย่าง (การตั้งค่า การประเมิน และการตรวจสอบ) เพื่อสร้างเอาต์พุตที่ไม่ซ้ำใครและเชื่อถือได้ VDF รักษาความสงบ และความเรียบร้อยภายในเครือข่าย
เหรียญ SOL คืออะไร? ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
สกุลเงินดิจิตอลของ Solana คือ SOL เป็นโทเค็นดั้งเดิม และ Utility ของ Solana ที่ให้วิธีการในการถ่ายโอนมูลค่า เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2020 และพยายามอย่างมากที่จะเป็นหนึ่งใน 10 สกุลเงินดิจิตอลอันดับต้น ๆ บนโลกคริปโต
รูปแบบการดำเนินการโทเค็น SOL นั้นคล้ายกับที่ใช้ใน Ethereum blockchain แม้ว่าจะทำหน้าที่คล้ายคลึงกัน แต่ผู้ถือโทเค็น Solana ก็สามารใช้โทเค็นเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมผ่านกลไกฉันทามติของ Proof of History นอกจากนี้ยังสามารถใช้โทเค็น Solana เพื่อรับรางวัล และชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ในขณะที่อีกด้านหนึ่งสำหรับผู้ที่ถือเหรียญ SOL จะสามารถมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลระบบนิเวศของ Solana อีกด้วย
จุดเด่นของ Solana
มาลองดูกันบ้างว่าในส่วนของจุดเด่นของ Solana หรือ SOL คืออะไร? ทำไม่เหล่านักลงทุนถึงให้ความสนใจกันมาก โดยจุดเด่นของ Solana นั้นมีทั้งหมด 8 ตัวอย่างด้วยกัน ตามข้อข้างล่างดังต่อไปนี้
1. Proof of History
เป็นระบบกลไกของบล็อกเชนในด้านของ “เวลา” ที่อยู่ภายใน Node ที่มีชื่อเรียกว่า Cryptographic clock บนบล็อกเชน Solana เพื่อให้เครือข่ายสามารถเข้าถึงเวลาในการทำธุรกรรมบนเครือข่ายได้ การเข้ารหัสเหล่านี้จะเป็นการยืนยันธุรกรรมที่กำลังเกิดขึ้น โดย Solana สามารถทำธุรกรรมบนบล็อกเชนได้ 65,000 ธุรกรรม ต่อวินาที เฉลี่ยการสร้างบล็อกที่ 400 มิลลิวินาทีต่อบล็อก และที่สำคัญคือค่าธรรมเนียมถูกมาก
2. Tower BFT
เป็นอัลกอริทึม Byzantine Fault Toleration หรืออัลกอริธึมร่วมกันนั้นเอง โดย PBFT นั้นเหมาะสำหรับเครือข่าย Proof of History เป็นเหมือนองค์ประกอบสำคัญในการทำความเข้าใจว่าเกี่ยวกับบล็อคเชนของ Solana โดยอ้างอิงถึงผลในทางปฏิบัติ Tower BFT ใช้ประโยชน์จากนาฬิกาที่ซิงโครไนซ์ใน Proof of History ดังนั้นจึงสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้โดยไม่ทำให้เกิดความล่าช้าในการทำธุรกรรมในการส่งข้อมูลจำนวนมาก
3. Turbine
จุดเด่นอีกอย่างบนเครือข่าย Solana คือ Turbine ซึ่งเป็นโปรโตคอลการแพร่กระจายบล็อกบนเครือข่าย โปรโตคอล Turbine รองรับการส่งข้อมูลไปยังโหนดบล็อคเชนได้ง่ายขึ้น โปรโตคอล Turbine สามารถส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยแบ่งข้อมูลออกเป็นรูปแบบที่เล็กลง เป็นผลให้ Solana บล็อกเชน สามารถจัดการกับข้อกังวลที่เกี่ยวกับแบนด์วิดธ์ได้อย่างง่ายดายควบคู่ไปกับการเพิ่มความจุโดยรวมสำหรับการชำระธุรกรรมที่รวดเร็วขึ้น
4. Gulf Stream
คุณสมบัติการทำงานอื่นในการออกแบบแพลตฟอร์มบล็อกเชนของ SOL คือ Gulf Stream ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบทบาทสำคัญในการดำเนินการแคชธุรกรรมไปยังขอบของเครือข่าย ด้วยเหตุนี้ผู้ตรวจสอบความถูกต้องจึงสามารถดำเนินการธุรกรรมได้ล่วงหน้า ควบคู่ไปกับการลดเวลาในการยืนยัน กัลฟ์สตรีมยังอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผู้ตรวจสอบได้เร็วขึ้น ในส่วนของโปรโตคอล Gulf Stream มีหน้าที่รับรองธุรกรรม 50,000 รายการต่อวินาที
5. Sealevel
เครื่องมือประมวลผลธุรกรรมแบบ Hyper-parallelized ที่ใช้สำหรับการปรับขนาดใน SSD และ GPU ต่างๆ เครือข่าย SOL สามารถทำงานได้ดีขึ้นด้วยประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นพร้อมกันบนบล็อคเชนสถานะเดียวกัน
6. Pipeline
หน่วยประมวลผลธุรกรรมที่ทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบ กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการกำหนดข้อมูลอินพุตให้กับส่วนประกอบฮาร์ดแวร์ต่างๆ ด้วยเหตุนี้ กลไกเหล่านี้จึงสามารถสนับสนุนการตรวจสอบ ความถูกต้อง และการจำลองข้อมูลธุรกรรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้นทั่วทั้งโหนดต่างๆ ในเครือข่าย
7. Cloudbreak
ฐานข้อมูลบัญชีของ Solana บล็อคเชน ช่วยในการเพิ่มระดับความสามารถในการปรับขนาดที่ต้องการบนเครือข่าย SOL โครงสร้างข้อมูลโดยพื้นฐานแล้ว Cloudbreak เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการดำเนินการอ่านและเขียนพร้อมกันทั่วทั้งเครือข่าย
8. Archivers
นวัตกรรมใหม่ที่ขยายขอบเขตของ Solana ในรูปแบบที่น่าสนใจมาก คุณสามารถใช้ Archivers เป็นที่จัดเก็บบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ อีกทั้งยังสามารถถ่ายโอนข้อมูลจากเครื่องมือตรวจสอบไปยังเครือข่ายของโหนดได้ โหนดหรือผู้จัดเก็บนั้นมีน้ำหนักเบาและอยู่ภายใต้การตรวจสอบเพื่อความสมบูรณ์ของข้อมูล
ความเสี่ยงของ Solana
ในด้านความเสี่ยงของ Solana นั้นก็นับว่ายังมีอยู่ ถึงแม้จะบอกว่าเป็นการทำงานแบบกระจายศูนย์ แต่ Solana นั้นยังมีจำนวนผู้ตรวจสอบไม่มาก เพราะว่าไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาเป็นผู้ตรวจสอบได้ แต่ไม่ง่ายขนาดนั้น เนื่องจากการจะเข้ามาเป็นผู้ตรวจสอบจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาตรวจสอบเป็นจำนวนมหาศาล หากอ้างอิงจาก Solana.com จะเห็นได้ว่า บล็อกเชนของ Solana นั้นมีผู้ตรวจสอบอยู่เพียง 1,056 Validators กลับกันกับฝั่งของ Ethereum พี่ใหญ่ในวงการที่มีมากถึง 247,443 Validators ข้อมูลจาก launchpad.ethereum.org
อีกทั้ง Solana ยังมีความใหม่อยู่มากเพราะเพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน เครือข่ายยังต้องมีการทดสอบอีกเยอะทำให้ผู้ใช้งานอาจจะสามารถเจอปัญหาต่างๆ หรือการดีเลย์ในหารใช้งานขึ้นได้ ที่ผ่านมานั้นเครือข่ายของ Solana เองก็เคยล่มถึง 2 ครั้ง ภายในระยะเวลาเดือนเดียวเท่านั้น ในด้านการแก้ไขปัญหาก็กินเวลาค่อนข้างนานอยู่หลายช่วโมง กว่าจะสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างปกติ
ด้วยสาเหตุเหล่านี้ ทำให้นักลงทุนจึงเกิดความไม่แน่ใจในตัวของ Solana ขึ้นมา ว่าแท้จริงประสิทธิภาพอาจจะไม่ดีพอที่จะลงทุน และใช้งาน จ้องมารอดูว่าสุดท้ายแล้ว Solana จะสามารถพัฒนาเพื่อทำลายจุดอ่อนตรงข้อนี้ได้ไหม
Solana vs. Ethereum
Solana ได้รับรางวัลมากมายในด้านความเร็วและประสิทธิภาพ และยังได้รับการขนานนามว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดเหรียญหนึ่งในสาย Smart Contract เช่น Ethereum ดังนั้น Solana จะเป็นเรื่องที่นักลงทุนต่างสนใจว่า จะสามารถมาฆ่า Ethereum ได้จริงหรือเปล่า
ในแง่ของความเร็วในการประมวลผล Solana สามารถทำได้ และค่อนข้างโดดเด่น เนื่องจากคาดว่าจะมีความเร็วมากกว่า 50,000 ธุรกรรมต่อวินาที Solana ใช้อัลกอริธึมฉันทามติที่แตกต่างกันเพื่อหลีกเลี่ยงการยืนยันธุรกรรมที่ช้า ฟีเจอร์นี้ทำให้ Solana เป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่เร็วที่สุดในโลกคริปโต ซึ่งถือว่าแซงหน้าเหรียญอื่นๆ ไปอีก
เมื่อเทียบกับจำนวนธุรกรรมที่ค่อนข้างเยอะแบบนี้แล้ว การพิสูจน์การทำงานของ Ethereum ที่ปรับขนาดได้ต่ำในปัจจุบันสามารถรองรับ 15 ธุรกรรมต่อวินาทีเท่านั้น ดูเหมือนจะน้อยกว่า Solana ไปหลายเท่า อีกทั้งค่าธรรมเนียมก็ค่อนข้างแตกต่างกันมากอีกด้วย ดังนั้น Solana จึงเร็วกว่า Ethereum หลายพันเท่า ข้อได้เปรียบอีกประการหนึ่งของ Solana คือความคุ้มค่าของเครือข่าย เนื่องจากโครงการใช้โทเค็นแบบใหม่เพื่อค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า
เหรียญ SOL น่าลงทุนไหม
Solana ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่นาน แม้แต้คนที่เพิ่งเข้ามาลงทุนหลังๆ ก็ยังสามารถทำกำไรได้ นอกเหนือไปจากการทำกำไรแล้ว มันคือเรื่องของพื้นฐานมากกว่า นักลงทุนต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อนว่าเหรียญ Solana มีไว้เพื่ออะไร
ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า Solana นั้นมีศักยภาพที่ค่อนข้างโดดเด่นในด้านของความเร็ว และราคาต้นทุนที่ทำธุรกรรมค่อนข้างต่ำ ทำให้ทุกคนต่างหันไปใช้มากกว่า Ethereum ระบบของ Solana กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นทางเลือกต่าๆง ให้กับผู้ใช้งาน ถึงแม้ว่าเหรียญจะเพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน แต่หากลองสังเกตดีๆ แล้ว อัตราการเติบโตนั้นค่อนข้างไปไกลมาก
ดังนั้น Solana จึงเป็นเหรียญคริปโตอีกเหรียญที่มีความน่าสนใจ หากได้อ่านหรือศึกษาในตัวของ Solana แล้วจะรู้ได้เลยว่าถือเป็นอีกโปรเจกต์ที่น่าจับตา และถือรอไว้เพื่อรอวันเวลาที่จะโตอย่างเต็มที่จริงๆ
อนาคตเหรียญ SOL
หากลองสังเกตให้ดี Solana เป็นอีกหนึ่งบล็อกเชนที่นักพัฒนาเข้ามาใช้งานมากที่สุด เนื่องจากระบบต่างๆ อย่าง Open Source ทำให้สะดวกต่อผู้พัฒนา ทำให้เราคาเหรียญ SOL สามารถพุ่งไปได้ไกลขนาดนั้น ถึงแม้ว่าช่วงนี้ราคาจะตกลงไปเยอะ แต่ถ้ามองจากโปรเจกต์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องยอมรับเลยว่ามีความน่าสนใจในการลงทุนจริง เพราะ Solana นั้น ได้มีการขยายไปยังตลาด NFT และ DeFi อยู่ด้วย ซึ่งมีธุรกิจยักษ์ใหญ่หลายแห่งเลือกเข้ามาพัฒนาบนระบบของ Solana กันมากมาย อีกทั้งยังมีแพลตฟอร์มชื่อดังหลายแห่งเองที่ก็ถูกพัฒนา และตั้งอยู่บนระบบบล็อกเชนของ Solana เช่นกัน
แม้ว่าราคาเหรียญคริปโตอย่าง SOL ของ Solana จะอยู่ในช่วงขาลง แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะเป็นจังหวะที่ดีที่จะสามารถเข้าไปลงทุรได้ หากเกิดความผิดพลาดขึ้น คุณก็อาจจะยังนำเหรียญ SOL ไปใช้ฟีเจอร์อื่นๆ บนแพลตฟอร์มที่พัฒนาด้วยระบบบล็อกเชนของ Solana ได้ เพราะหากมองในแง่ของความเติบโตนั้น SOL เพิ่งถูกปล่อยใช้งานได้ไม่นาน แต่ที่ผ่านมาก็ได้รับการยกย่องจากหลายๆ ทที่ ดังนั้นจึงเหมือนเป็นอีกเรื่องที่เราจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหรียญ SOL นั้นยังดูน่าสนใจสำหรับการลงทุนอยู่ดี
ในการคาดการณ์ครั้งนี้นั้นไม่ได้เป็นการชี้แนะให้ลงทุนแต่อย่างไร นักลงทุนควรทำความเข้าใจด้วยว่าสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยงค่อนข้างสร้าง ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดของโปรเจกต์ให้ดีก่อนการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทุกครั้ง
การคาดการณ์ราคาเหรียญ SOL
ราคาเหรียญ SOL แบบเรียลไทม์
คาดการณ์ของเหรียญ Solana หรือ SOL นั้น จากเว็บไซต์ของ Cryptonewz ได้มีการวิเคราะห์ และมีแนวโน้มว่า ในเวลานี้ช่วงเดือนกรกฎาคม 2022 ดูเหมือนว่าราคาของ SOL จะไม่ค่อยดีมากเท่าไหร่ เนื่องจากปัจจัยหลายๆ อย่างรวมกัน รวมไปถึงที่ช่วงนี้ราคาบิทคอยน์ลงหนัก ทำให้เหรียญคริปโตอื่นๆ ในตลาดพากันลงตามไปด้วย ณ เวลาหากจะเก็งกำไรในระยะสั้นก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่เหมาะเท่าไหร่นัก นอกจากนี้ SOL ยังมีปัญหาในรบบบล็อกเชนบางอย่างที่เกิดจากการผิดพลาดทางระบบ โดยต้องปิดการใช้งานนนานถึง 4 ชั่วโมง เพื่อเข้าแก้ไข ข้อผิดพลาดเหล่านี้ทำให้การทำธุรกรรมทั้งหมดชะงัก ต้องรอจนกว่านักพัฒนาจะแก้ไขข้อผิดพลาดเหล่านั้นให้ได้ก่อน อีกทั้งเครื่องข่ายยังพบจุดบกพร่องอีกที่ ทำให้ต้องปิดระบบนานกว่า 8 ชั่วโมง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม Solana อาจจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ โดยคาดการณ์ว่าน่าจะไปอยู่ที่ราคาประมาณ 40 ดอลลาห์ และราคาถัวเฉลี่ยอาจจะอยู่ที่ประมาณ 35 ดอลลาห์ ต้องมารอคอยดูกันว่าหาก SOL สามารถแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ได้ จะได้ความเชื่อถือจากนักลงทุนกลับไปบ้างไหม ในกรณีแบบนั้นอาจจะทำให้ราคาสามารถไปได้ไกลมากยิ่งขึ้นก็ได้
อ้างอิง
ใครคือคู่แข่งของ Solana(SOL)
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน