คริปโตคืออะไรและเล่นยังไง？วิธีเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่ 2023

คริปโต หรือ สกุลเงินดิจิตอล หรือ สกุลเงินดิจิทัล เป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจมากในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในยุคดิจิทัลนี้ สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการซื้อขายและระบบการเงินของเรา 

ซึ่งในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับทุกอย่างเกี่ยวกับคริปโต ว่า คริปโตคืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร มีอะไรบ้างและแบ่งออกเป็นกี่ประเภท คุณสมบัติมีอะไรบ้าง ประวัติของคริปโต คริปโตใช้มาทำอะไรได้บ้าง รวมถึงคริปโตเล่นยังไง พร้อมสอนวิธีเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่ 2023 ตามมาดูกันเลย

คริปโต หรือ สกุลเงินดิจิตอล, สกุลเงินดิจิทัล, เงินดิจิทัล (ภาษาอังกฤษว่า crypto, cryptocurrency) คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและการจัดการสินทรัพย์

คริปโตดำเนินการอย่างอิสระจากธนาคารกลางและสามารถโอนได้โดยตรงระหว่างบุคคลหรือหน่วยงานโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางเช่นธนาคาร สกุลเงินดิจิทัลเป็นระบบที่กระจายอยู่และใช้งานบนบัญชีสาธารณะแบบกระจายที่เรียกว่าบล็อกเชน (blockchain)  

บิตคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัลแรกและมีชื่อเสียงมากที่สุด แต่ในปัจจุบันมีสกุลเงินดิจิทัลมากกว่าพันชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะและคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

ความปลอดภัยและคุณสมบัติที่ไม่ต้องใช้สถาบันกลางของสกุลเงินดิจิทัลนั้นมาจากเทคโนโลยีบล็อกเชนและการเข้ารหัสของรหัสวิทยาศาสตร์ บล็อกเชนเป็นฐานข้อมูลแบบกระจายที่ไม่มีสถาบันกลางและมีหลายๆ โหนดร่วมดูแลและอัปเดต เพื่อให้บันทึกการทำธุรกรรมไม่สามารถถูกแก้ไขหรือย้อนกลับได้ การเข้ารหัสของรหัสวิทยาศาสตร์เป็นเทคโนโลยีทางคณิตศาสตร์ที่ใช้เพื่อป้องกันการโจมตีและรักษาความปลอดภัยของบันทึกการทำธุรกรรมและสินทรัพย์ โดยการทำธุรกรรมของสกุลเงินดิจิทัลประกอบด้วย:

1. ผู้ใช้ทำการซื้อขายโดยการส่งข้อมูลการซื้อขายไปยังโหนดทั้งหมดในเครือข่าย

2. โหนดตรวจสอบและตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายและเพิ่มบันทึกการซื้อขายลงในบล็อกเชน

3. เมื่อผ่านไปเวลาๆ บันทึกการทำธุรกรรมจะถูกเพิ่มขึ้นในบล็อกเชนโดยโหนดอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งทำให้ไม่สามารถแก้ไขหรือย้อนกลับได้ และมีความปลอดภัยอย่างมาก

ตัวอย่างเช่น Bitcoin ซึ่งเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลแรกๆ ในกระบวนการซื้อขาย Bitcoin ผู้ใช้งานจะใช้ซอฟต์แวร์กระเป๋า Bitcoin ของตนเองเพื่อเริ่มต้นซื้อขาย ข้อมูลการซื้อขายนั้นจะถูกเผยแพร่ไปยังโหนดทั้งหมดในเครือข่าย โหนดจะตรวจสอบข้อมูลและเพิ่มบันทึกการซื้อขายลงในบล็อกเชนของ Bitcoin จนกว่าบันทึกการซื้อขายจะได้รับการยืนยันโดยหลายๆ โหนด และจะโอน Bitcoin ให้กับผู้รับ กระบวนการนี้เป็นระบบที่ไม่มีจุดกลางและปลอดภัย ทำให้การซื้อขาย Bitcoin มีความปลอดภัยและเป็นอนุมัติได้โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน

1.  กระจายอำนาจ

การกระจายอำนาจของ cryptocurrencies หมายความว่าไม่มีหน่วยงานกลางหรือตัวกลางควบคุมการออกและการซื้อขาย ซึ่งหมายความว่าสามารถทำธุรกรรมแบบจุดต่อจุด（peer-to-peer）ได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเวลาในการทำธุรกรรม

2. ความไม่สามารถย้อนกลับและความปลอดภัย

เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลมีการใช้งานวิธีการเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง จึงมีการรับประกันความปลอดภัยของการทำธุรกรรมและทรัพย์สิน และเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะถูกดัดแปลงหรือถูกขโมย เมื่อธุรกรรมได้รับการยืนยันและเพิ่มลงในบล็อกเชนแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือถอนออกได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าบันทึกธุรกรรมจะไม่สามารถย้อนกลับได้และมีความปลอดภัย 

3. ความไม่เปิดเผยตัวตนและไม่สามารถติดตามได้

การทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มีเพียงการเปิดเผยกุญแจสาธารณะเท่านั้น ซึ่งช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ เนื่องจากบันทึกการทำธุรกรรมกระจัดกระจายและบันทึกไว้ในบล็อกเชน จึงไม่สามารถแก้ไขหรือลบบันทึกธุรกรรมได้โดยง่าย ทำให้มั่นใจได้ว่าธุรกรรมนั้นไม่สามารถติดตามได้

ปัจจุบันมี cryptocurrencies ที่แตกต่างกันหลายพันชนิด ซึ่งคริปโตที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ Bitcoin นอกเหนือจาก Bitcoin แล้ว ยังมี cryptocurrencies อื่น ๆ อีกมากมาย และนี่คือบางส่วนของที่รู้จักกันดี:

- Ethereum（ETH）

- Ripple（XRP）

- Bitcoin Cash（BCH）

- Dogecoin（DOGE）

- Litecoin（LTC）

- EOS

- BNB Coin（Binance Coin）

- TRX Coin（TRON）

- Link Coin（Chainlink）

- Polkadot  (DOT) 

แต่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลเป็นตลาดที่มีความเคลื่อนไหวสูง โดยมีสกุลเงินดิจิทัลใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากหายไปด้วยสาเหตุหลายประการ นี่เป็นเพียงรายการของรายการทั่วไป ไม่ใช่รายการที่ครอบคลุม

สกุลเงินดิจิทัลสามารถจำแนกตามวิธีการออก วัตถุประสงค์ในการใช้งาน เทคโนโลยีที่นำมาใช้ ฯลฯ

ต่อไปนี้คือการแบ่งประเภททั่วไปของสกุลเงินดิจิทัล:

สกุลเงินที่ใช้ Bitcoin : สกุลเงินเหล่านี้ใช้เทคโนโลยีและหลักการพื้นฐานแบบเดียวกับ Bitcoin แต่ได้รับการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในบางวิธีเพื่อเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมและลดต้นทุนการทำธุรกรรม เช่น Litecoin และ Bitcoin Cash

สกุลเงินที่ใช้ Ethereum : สกุลเงินเหล่านี้เป็นสัญญาอัจฉริยะที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Ethereum ซึ่งสามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้มากขึ้น เช่น แอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจและสัญญาอัจฉริยะ เช่น โทเค็น ERC-20

เหรียญความเป็นส่วนตัว : เหรียญเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้โดยการทำให้งงงวยและเข้ารหัสบันทึกธุรกรรม ทำให้ธุรกรรมติดตามได้ยาก เช่น Monero และ Dash

Stablecoins : สิ่งเหล่านี้ถูกตรึงไว้กับสกุลเงิน fiat ซึ่งมักจะออกในอัตราส่วน 1:1 และได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ค่าสกุลเงินมีเสถียรภาพมากขึ้นและลดความเสี่ยงจากความผันผวน เช่น USDT และ USDC

สกุลเงินชุมชน : สกุลเงินเหล่านี้สร้างขึ้นและควบคุมโดยชุมชน ซึ่งมักไม่มีจุดประสงค์ทางการค้าที่ชัดเจน แต่ถูกมองว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการแสดงออกและความบันเทิงของชุมชน เช่น Dogecoin และ Nasdaq

นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของการจัดประเภทสกุลเงินดิจิทัล และยังมีอื่นๆ อีกมากมาย

1.  การกระจายอำนาจ

สกุลเงินดิจิทัลไม่ได้ถูกควบคุมโดยหน่วยงานกลาง เช่น รัฐบาลหรือธนาคาร ซึ่งทำให้ต้านทานการเซ็นเซอร์และการยักย้ายถ่ายเทได้มากขึ้น

2.  ความปลอดภัย 

สกุลเงินดิจิตอลใช้เทคนิคการเข้ารหัสขั้นสูงเพื่อรักษาความปลอดภัยการทำธุรกรรมและปกป้องเงินของผู้ใช้จากการโจรกรรมและการฉ้อโกง

3. ความโปร่งใส

การทำธุรกรรมบนบล็อกเชนนั้นเปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความรับผิดชอบ

4. ค่าธรรมเนียมต่ำ

การทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิตอลโดยทั่วไปมีค่าธรรมเนียมต่ำเมื่อเทียบกับวิธีการธนาคารแบบดั้งเดิม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนและการชำระเงินขนาดเล็ก

5. ความเร็ว

ธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลได้รับการประมวลผลอย่างรวดเร็ว มักจะใช้เวลาไม่กี่นาที การโอนเงินเป็นไปได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ

6. การเข้าถึง

สกุลเงินดิจิทัลสามารถเข้าถึงได้โดยทุกคนที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งที่ตั้งหรือสถานะทางการเงิน ซึ่งสามารถเพิ่มการเข้าถึงทางการเงินได้

7. ความสามารถในการโปรแกรม（Programmability）

สัญญาอัจฉริยะและแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (DApps) สามารถสร้างได้บนแพลตฟอร์มบล็อกเชนบางแพลตฟอร์ม ซึ่งช่วยให้เกิดกรณีการใช้งานใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรมนอกเหนือจากการทำธุรกรรมสกุลเงินเพียงอย่างเดียว

มีการใช้สกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นในภาคการเงิน ปัจจุบัน บริษัทและบุคคลจำนวนมากเริ่มยอมรับสกุลเงินดิจิตอล เป็นวิธีการชำระเงินสกุลเงินดิจิตอล ยังใช้ในการโอนเงินข้ามพรมแดน และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำและความเร็วการทำธุรกรรมที่รวดเร็วทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากนี้ สกุลเงินดิจิตอลยังใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการลงทุนและซื้อขาย นักลงทุนจำนวนมากใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน และเข้าร่วมในการซื้อขายและเก็งกำไรสกุลเงินดิจิทัลเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น

สกุลเงินดิจิทัลยังมีการะประยุกต์ใช้ในฟิลด์อื่น ๆ นอกเหนือจากฟิลด์การเงิน ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถใช้เพื่อสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจและสัญญาอัจฉริยะที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้การควบคุมจากตัวกลาง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ cryptocurrencies ในด้านต่าง ๆ เช่น Internet of Things และการจัดการห่วงโซ่อุปทานเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของข้อมูลและการตรวจสอบย้อนกลับ

ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและนวัตกรรมของตลาดสกุลเงินดิจิทัลผู้คนจึงเต็มไปด้วยความคาดหวังสำหรับการพัฒนาในอนาคตและโอกาสของ cryptocurrency เนื่องจากผู้คนยอมรับและใช้สกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดตลาดก็จะขยายตัวต่อไป นอกจากนี้ หลายคนเชื่อว่าสกุลเงินดิจิทัลสามารถเปลี่ยนระบบการเงินและเศรษฐกิจที่มีอยู่ได้ผ่านการกระจายอำนาจ ส่งเสริมนวัตกรรมและความก้าวหน้าต่อไป แม้ว่าตลาด cryptocurrency ยังคงเผชิญกับความท้าทายและความไม่แน่นอน เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่า สกุลเงินดิจิตอลมีโอกาสในการใช้งานในวงกว้างและมีศักยภาพในการพัฒนา

สกุลเงินดิจิตอลที่มีการซื้อขายไม่มากนักหรือสกุลเงินดิจิตอลแบบใหม่อาจมีโอกาสจำกัดในการเทรด ซึ่งอาจหมายถึงจะมีผู้ซื้อน้อยลงเมื่อถึงเวลาขาย 

ดังนั้น เราเสนอให้เทรดเดอร์มือใหม่เน้นการเทรดในสกุลเงินดิจิตอลมีปริมาณซื้อขายสูงมากกว่า เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดความเสี่ยงในการเทรด เช่น Bitcoin(BTC), Bitcoin Cash(BCH), Litecoin(LTC), Ethereum(ETH), Ripple(XRP), Cardano(ADA), ApeCoin(APE), Cosmos(ATOM), Dogecoin(DOGE), Solana(SOL), Uniswap(UNI), Polkadot(DOT), EOS, Avalanche(AVAX) และ Polygon(MATIC)

โดยทั่วไปแล้ว มีแนวทางในการเทรดสกุลเงินดิจิตอลประเภทต่างๆ : การซื้อเหรียญดิจิตอลผ่านเว็บเทรดสกุลเงินดิจิตอลด้วยความหวังว่าสกุลเงินดิจิตอลนั้นจะเพิ่มมูลค่าหรือเก็งกำไรในราคาของสกุลเงินดิจิตอลผ่านโบรกเกอร์ CFD โดยไม่ต้องถือครองเหรียญดิจิตอล

1 ซื้อขายเหรียญดิจิตอลผ่านเว็บเทรดสกุลเงินดิจิตอล     

คุณอาจตัดสินใจซื้อเหรียญดิจิตอลผ่านเว็บเทรดสกุลเงินดิจิตอล ซึ่งหมายความว่าคุณจะเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของสกุลเงินดิจิตอลทันที ด้วยความตั้งใจที่จะถือมันไว้ในกระเป๋าเงินดิจิตอลและแสวงหาผลกำไรหากสกุลเงินดิจิตอลที่คุณซื้อนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้น

ก่อนที่จะเริ่มต้น คุณจะต้องมีกระเป๋าเงินดิจิตอลและเปิดบัญชีบนเว็บเทรดสกุลเงินดิจิตอล ซึ่งอาจมีหลายขั้นตอนสำหรับกระบวนการและคุณอาจต้องเข้าร่วมรายการรอบัญชี

นอกจากนี้ คุณต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากสกุลเงินดิจิตอลเป็นเป้าหมายที่ง่ายดายสำหรับแฮกเกอร์ รวมถึงยังมีความเสี่ยงในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลที่ประเทศของคุณอาจผิดกฎหมาย

และสำหรับนักลงทุน สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดคือคุณสามารถทำกำไรได้แต่เมื่อมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าคุณอาจต้องรอเป็นระยะเวลานานเป็นเดือนเป็นปีก่อนที่จะได้รับผลตอบแทนโดยเฉพาะในตลาดหมี

2 เทรดสกุลเงินดิจิตอลผ่านโบรกเกอร์ CFD     

CFD(Contract for Difference) หรือ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง เป็นสัญญาที่นักลงทุนสามารถทำกำไรจากส่วนต่างของความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิงโดยไม่ต้องทำการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงจริงแต่เป็นสัญญาที่ทำการซื้อขายได้ทันทีเพียงส่งคำสั่งซื้อขาย และสิ่งที่ดึงดุดใจที่สุดคือ CFD ได้เสนอความได้เปรียบด้านอัตราทด (Leverage) ให้กับเทรดเดอร์ ทำให้สามารถวางเงินเพียงจำนวนหนึ่งแต่ก็ยังจะได้รับผลตอบแทนเท่ากับการซื้อขายสินค้านั้นจริง ๆ

CFD ได้ลดความซับซ้อนของกระบวนการเทรดสกุลเงินดิจิตอล ช่วยให้นักลงทุนสามารถเดิมพันในราคาของสกุลเงินดิจิตอล เนื่องจากไม่ต้องทำการซื้อขายจริง ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่มองหาขั้นตอนการเทรดที่ง่ายกว่า - โดยไม่ต้องยุ่งยากในการจัดเก็บเพื่อลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลต่างๆ - การเทรดสกุลเงินดิจิตอลด้วย CFD จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก การเทรดสกุลเงินดิจิตอลด้วย CFD ทำให้เทรดเดอร์มีความได้เปรียบกว่าเครื่องมืออื่น ๆ หลายอย่าง เช่น      

ต่างจากการซื้อเหรียญดิจิตอลจริง การเทรดผ่าน CFD คุณเทรดได้ทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและขาลงด้วยการเปิดคำสั่งซื้อขาย ทำให้โอกาสในการทำกำไรได้เพิ่มขึ้น

ด้วยการใช้เลเวอเรจ นักลงทุนสามารถขยายกำไร (ขาดทุน) เป็นหลายเท่าได้ ทำให้คุณสามารถเทรดด้วยเงินทุนจำนวนน้อยแทนที่จะต้องมีเงินจำนวนเต็มอยู่ในบัญชี ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่มีเงินทุนเริ่มต้นไม่มากนัก 

★ ตัวอย่างเช่น เมื่อราคาบิทคอยน์คือ $30,000 USD คุณคาดว่ามันจะมีการเพิ่มขึ้นในอนาคต คุณเปิดสถานะซื้อ ขนาดซื้อขาย 0.1 ล็อต ด้วยเลเวอเรจ 1：10 คุณเพียงฝากเงินมาร์จิ้น $300 USD ($30,000*0.1ล็อต/10) ไว้ก็สามารถเปิดคำสั่งที่มีมูลค่า $30,000 USD ได้แล้ว และเมื่อราคาเพิ่มขึ้นถึง $36,000 USD คุณก็จะได้กำไร 600 USD ด้วยเงินทุน $600 USD  อัตราผลตอบแทนคือ 200%

* เลเวอเรจเป็นดาบคมสองด้าน ไม่ใช่ยิ่งสูงยิ่งดี เพราะก็สามารถขยายขาดทุนเช่นกัน นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจสูงเกินโดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ และควรจัดความเสี่ยงให้ดีๆ 

เริ่มเทรดสกุลเงินดิจิตอล CFD กับ Mitrade โดยเราแนะนำให้เทรดเดอร์มือใหม่เปิดบัญชีทดลองก่อน เพื่อฝึกฝนทักษะการเทรดโดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ รับเงินเสมือนจริง $50, 000 ดอลล่าร์ เดี๋ยวนี้ ↓↓

การลงทุนใน cryptocurrencies อาจเผชิญกับความเสี่ยงดังต่อไปนี้:

1. ความผันผวนสูง 

เนื่องจากตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีขนาดเล็กและปริมาณการซื้อขายต่ำเมื่อเทียบกับตลาดการเงินอื่นๆ ราคาสกุลเงินดิจิทัลจึงอ่อนไหวต่ออารมณ์และความตื่นเต้นในตลาดของผู้ค้าจำนวนมาก ความผันผวนนี้อาจนำไปสู่การแกว่งตัวของราคา ซึ่งบางครั้งอาจขึ้นหรือลงหลายร้อยหรือหลายพันดอลลาร์ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือหลายวัน

2. การควบคุมตลาด

ตลาดสามารถถูกควบคุมได้เนื่องจากขาดระเบียบและความโปร่งใส นักลงทุนหรือตลาดหลักทรัพย์รายใหญ่บางรายอาจควบคุมราคาตลาดผ่านการซื้อและขายจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อผลประโยชน์ของนักลงทุนรายอื่น

3. การละเมิดความปลอดภัย

แม้ว่าการทำธุรกรรม cryptocurrency จะใช้เทคนิคการเข้ารหัสขั้นสูง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการละเมิดความปลอดภัยและการโจมตีทางไซเบอร์ แฮกเกอร์อาจโจมตีตลาดแลกเปลี่ยนและซื้อขาย (Exchange) หรือกระเป๋าคริปโตและขโมยทรัพย์สินของนักลงทุน

4. ปัญหาทางกฎหมายและข้อบังคับ

เนื่องจากลักษณะการกระจายอำนาจของสกุลเงินดิจิทัล จึงเป็นเรื่องยากสำหรับหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินแบบดั้งเดิมที่จะควบคุมดูแลตลาดสกุลเงินดิจิทัลโดยตรง ซึ่งนำความท้าทายด้านกฎหมายและกฎระเบียบมากมายมาสู่ตลาด นอกจากนี้ สกุลเงินดิจิทัลยังเกี่ยวข้องกับปัญหาทางกฎหมาย ตัวอย่างเช่น เนื่องจากลักษณะของสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ระบุชื่อและกระจายอำนาจ จึงมีโอกาสสูงที่จะถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

5. ความเสี่ยงทางเทคนิค

เทคโนโลยี Cryptocurrency ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และอาจเผชิญกับความเสี่ยงของความล้มเหลวทางเทคนิคหรือช่องโหว่ นักลงทุนอาจประสบความสูญเสียหากสกุลเงินดิจิทัลไม่สามารถส่งมอบตามสัญญาหรือพบปัญหาทางเทคนิค

การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลมีลักษณะของความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนสูง นักลงทุนจำเป็นต้องมีความรู้เพียงพอและตระหนักถึงความเสี่ยง และใช้มาตรการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม

●  ทำการวิจัยก่อนการลงทุน

ก่อนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลใดๆ ควรทำการวิจัยและเข้าใจเทคโนโลยี ตลาด และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นที่เกี่ยวข้อง

●  เลือกเทรดกับ Exchange หรือโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียง

เทรดกับ Exchange หรือโบรกเกอร์ที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและมีชื่อเสียงที่ดีเท่านั้น เทรดกับโบรกเกอร์ชั้นนำในโลก Mitrade >>

●  เรียนรู้วิธีจัดเก็บสกุลเงินดิจิทัล 

หากคุณซื้อสกุลเงินดิจิทัล คุณต้องเก็บไว้ กระเป๋าสตางค์ประเภทต่างๆ มีข้อดี ข้อกำหนดทางเทคนิค และความปลอดภัย เช่นเดียวกับการแลกเปลี่ยน คุณควรตรวจสอบตัวเลือกพื้นที่เก็บข้อมูลของคุณก่อนตัดสินใจลงทุน

●  กระจายพอร์ตโฟลิโอการลงทุน

อย่าใส่เงินทั้งหมดของคุณลงใน cryptocurrency เดียว กระจายพอร์ตโฟลิโอของคุณด้วยการลงทุนใน cryptocurrencies หลายๆ สกุล

●  กำหนดเป้าหมายที่เป็นจริงได้

กำหนดเป้าหมายการลงทุนที่เป็นจริงได้และอย่าลงทุนมากเกินกว่าที่คุณจะเสียได้

●  ติดตามข่าวสารและแนวโน้มล่าสุด

รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับข่าวและแนวโน้มในตลาด cryptocurrency เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน

●  ระวังการหลอกลวง

ระวังการหลอกลวง เช่น ICO ปลอม ฟิชชิง (Phishing) และการฉ้อฉลแบบพอนซี (Ponzi scheme)  ตรวจสอบความถูกต้องของโอกาสในการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลทุกครั้งก่อนตัดสินใจลงทุน

การเทรดคริปโตในปัจจุบันนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีโอกาสในการเพิ่มกำไรอย่างมาก ซึ่งบทความนี้ได้พาเพื่อนๆ มาทำความรู้จัทุกอย่างกับคริปโต รวมถึง คริปโตคืออะไร มีอะไรบ้างและแบ่งออกเป็นกี่ประเภท รวมถึงคริปโตเล่นยังไงเป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เราต้องระวังถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเช่นกัน การวางแผนการเทรดอย่างมีระบบและการจัดการความเสี่ยงในการลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเทรดคริปโตอย่างปลอดภัยและเป็นผลกำไร หวังว่าวิธีเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่ 2023 นี้จะช่วยให้คุณสามารถเทรดคริปโตได้อย่างปลอดภัยและเป็นผลกำไร โชคดีกับการลงทุนคริปโตของคุณ!