Bitcoin dominance คืออะไร? จะใช้ในตลาด Crypto ได้อย่างไร?
ท่ามกลางการแข่งขันในโลกของคริปโตที่ดุเดือด Bitcoin ถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกๆ ที่ยังครองส่วนแบ่งของตลาดเอาไว้ได้มากที่สุดถึง 846,990,000,000 ดอลลาร์ บวกกับ Altcoin ตัวอื่นๆ ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก นักลงทุนสายคริปโตจึงต้องตามเทรนด์ของเหรียญต่างๆ ในตลาดให้ดี ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึง Bitcoin dominance ตัวชี้วัดสำคัญที่อธิบายส่วนแบ่งของตลาดและแนวโน้มการลงทุนในโลกของคริปโต
Bitcoin dominance คืออะไร?
Bitcoin dominance คืออินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดมูลค่าตลาดรวมของ Bitcoin (BTC) เทียบกับมูลค่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ทั้งหมด เป็นเครื่องมือที่ช่วยอธิบายภาพรวมของ BTC และ Altcoin ในช่วงเวลาต่างๆ ซึ่งสามารถคำนวณได้จากการหารมูลค่าตลาดของ Bitcoin กับมูลค่าตลาดของคริปโตเคอเรนซีทั้งหมด
โดยค่าที่ได้ออกมานั้นสามารถนำไปวิเคราะห์และดูส่วนแบ่งตลาดของบิทคอยน์ เพื่อใช้ดูจุดเข้าซื้อและจุดขายทำกำไร รวมถึงระบุเทรนด์ราคาในอนาคตได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม หาก Bitcoin dominance มีส่วนแบ่งทางตลาดมากเท่าไหร่ก็เป็นผลดีต่อนักลงทุนที่ถือบิทคอยน์มากเท่านั้น
จุดเริ่มต้นของ Bitcoin dominance
นับจากปี 2009 ที่ Bitcoin ถูกพัฒนาและเริ่มเป็นที่รู้จักในแวดวงการลงทุน ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีสกุลเงินตัวไหนที่สามารถเข้ามาลบล้างหรือแข่งขันกับบิทคอยน์ได้เลย จนกระทั้งในปี 2017 ที่ ICO กำลังเป็นที่จับตามองของนักลงทุนและสถาบันการเงินจากทั่วโลก ส่งผลให้ Altcoin เริ่มได้รับความสนใจและมีส่วนแบ่งมูลค่าทางตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้มูลค่าตลาดของ Bitcoin จะอยู่ที่ราวๆ 95% เฉลี่ยไม่เคยต่ำกว่า 90% เนื่องจากไม่มี Cryptocurrencies ตัวอื่นๆ เข้ามาแข่งขัน แต่เป็นเพราะกระแส ICO ที่กำลังบูม ทำให้นักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับ Altcoin ตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, Litecoin, XRP และ DASH เป็นต้น ส่งผลให้มูลค่าตลาดที่ Bitcoin เคยถืออยู่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 37.6% ในปี 2019
หลักการทำงานของ Bitcoin dominance
BTC Dominance หรือ Bitcoin dominance Ratio มีหลักการทำงานที่คล้ายตัวชี้วัดหรืออินดิเคอร์ทั่วที่หลานท่านอาจเคยใช้ในตลาด แต่ความพีคจะอยู่ที่ความสามารถในการระบุเทรนด์หรือแนวโน้มของตลาดคริปโตร่วมกับ bitcoin dominance chart ตัวอื่นๆ แบบภาพรวมได้ มันจะบอกว่าคุณควรซื้อ/ขาย Bitcoin รวมถึง Altcoin ตัวอื่นๆ ตอนไหน? ที่ราคาเท่าไหร่ดี?
เมื่อดัชนี BTC Dominance เพิ่มขึ้นจากจุดเดิมของกราฟ ส่งผลให้ Altcoin ตัวอื่นๆ จะลดมูลค่าลงเมื่อเทียบกับ BTC ในปัจจุบัน ในเวลานี้นักลงทุนส่วนใหญ่จะเข้าซื้อบิทคอยน์ เพราะถือเป็นเทรนด์ขาขึ้น มี Sentiment อยู่ในแดนบวก
ในทางตรงกันข้าม เมื่อดัชนี BTC Dominance ลดลงจากจุดเดิมของกราฟ ส่งผลให้ Altcoin ตัวอื่นๆ จะเพิ่มมูลค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ BTC ในปัจจุบัน ในจังหวะนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจเทขายบิทคอยน์ และหันไปลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ แทน
เหตุใด BTC Dominance จึงมีความสำคัญในตลาด crypto?
ต้องบอกแบบนี้ครับ ในตลาดคริปโตเคอเรนซีทุกคนสามารถเทรดเพื่อเก็งผลกำไรได้ทั้งในระยะสั้นและยาว ดังนั้นการใช้ตัวชี้วัดต่างๆ หรือ BTC Dominance จึงเป็นอะไรที่สำคัญสุดๆ โดยเฉพาะเวลาที่ตลาดกำไรผันผวน และคุณที่ไม่รู้ว่าควรเข้าซื้อหรือขายจังหวะไหนดี มันเป็นเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ความเป็นไปได้และทิศทางของตลาด Crypto ที่ค่อนข้างแม่นยำ และมักใช้เพื่อเปรียบเทียบแนวโน้มเม็ดเงินที่ลงทุนใน Bitcoin และ Altcoin อีกด้วย
เนื่องจาก Bitcoin เป็นคริปโตตัวแรกๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก นักลงทุนจึงยึดเป็นตัวชี้วัดแนวโน้มของตลาดดิจิทัลแทบทั้งหมด โดยเมื่อใดที่ Bitcoin dominance อยู่ในระดับสูง แสดงว่า Bitcoin สร้างความมั่นใจในการลงทนได้มากกว่าสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ แต่ถ้าอยู่ในระดับที่ต่ำ อาจเป็นไปได้ที่นักลงทุนกำลังเปลี่ยนทิศทางไปยังสกุลเงิน Altcoin
นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถใช้ BTC.D เพื่อสะท้อนภาพรวมของเม็ดเงินที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดคริปโต ช่วยให้ทุกคนรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของ Bitcoin เป็นอย่างไร? มีนักลงทุนให้ความสนใจเพิ่มขึ้นมั้ย? หรืออาจมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับ Altcoin ตัวอื่นๆ
ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อ Bitcoin dominance
Bitcoin dominance มีปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการขึ้นลงที่หลากหลาย แต่เพื่อไม่ให้คุณสับสน ผมได้แบ่งประเด็นต่างๆ ออกเป็นปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ดังต่อไปนี้
ปัจจัยภายในที่ส่งผลต่อมูลค่า Bitcoin dominance
ราคาของ bitcoin ถือเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ทำให้ BTC.D เกิดการเคลื่อนไหว
เมื่อใดก็ตามที่ราคาของบิทคอยน์ปรับตัวสูงขึ้น อัตราของ Bitcoin dominance ที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ฟีเจอร์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็ช่วยกำหนดทิศทางของ Bitcoin dominance ได้เช่นกัน
หากสกุลเงิน บิทคอยน์สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม BTC.D จะเพิ่มขึ้นจนชนะ Altcoin ตัวอื่นๆ
นอกจากนี้ การมีผลประกอบการที่ดีก็ย่อมผลักให้มูลค่าของ Bitcoin dominance สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อมูลค่า Bitcoin dominance
กฎระเบียนและข้อบังคับต่างๆ ที่ส่งผลต่อ Bitcoin ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
ไม่ว่าจะเป็นข่าว สถานการณ์ฉุกเฉิน การเปลี่ยนแปลงของนโยบายของธนาและบริษัท
การขึ้นลงของสกุลเงินทั่วไป ทองคำ น้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ก็มีผลต่อมูลค่า Bitcoin dominance เช่นกัน
การเพิ่มขึ้นของ Altcoin หรือ สกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ ก็ถือเป็นภัยคุกคามต่อ Bitcoin เพราะนอกจากจะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไปแล้ว ยังลดอัตราการเติบโตของมูลค่าบิทคอยน์ในอนาคตอีกด้วย
ตัวอย่างการใช้ BTC Dominance ในตลาดคริปโต
การคำนวณ Bitcoin dominance จะมาจากสูตร มูลค่าตามราคาตลาดของบิทคอยน์ หารด้วย มูลค่าตามราคาตลาดคริปโทเคอเรนซีทั้งหมด โดยค่าที่ได้จะออกมาเป็นรูปของร้อยละที่ช่วยให้เรากำหนดส่วนแบ่งของตลาดได้ง่ายยิ่งขึ้นซึ่งกรณีตัวอย่างของเทรดเดอร์ พวกเขาจะใช้เครื่องมือทางสถิติที่ช่วยอธิบายเทรนด์ของราคาได้อย่างแม่นยำ เช่น Alternative Coin Market Capitalization, Bitcoin Price และ bitcoin dominance chart อื่นๆ เพื่อนำมาใช้อธิบายแนวโน้มส่วนแบ่งตลาดของ AltCoin และราคาของ Bitcoin
กรณีที่ 1 BTC.D ขึ้น และราคา Bitcoin ขึ้น: มีโอกาสสูงมากที่บิทคอยน์จะเติบโตตามตลาดไปได้เรื่อยๆ
กรณีที่ 2 BTC.D ขึ้น แต่ราคา Bitcoin ลง: เป็นช่วงที่บิทคอยน์กำลังปรับฐาน อาจมีผันผวนบ้าง แต่กำลังจะกลับขึ้นมาอีกครั้ง
กรณีที่ 3 BTC.D ลง แต่ราคา Bitcoin ขึ้น: นักลงทุนหันไปเทรด Altcoin ตัวอื่นๆ ในขณะที่บิทคอยน์ก็ยัง Sideway แต่ก็มีลุ้นขึ้นในระยะสั้น
กรณีที่ 4 BTC.D ลง และ Bitcoin ลง: มีความเสี่ยงสูงที่บิทคอยน์จะปรับฐานลงครั้งใหญ่ นักลงทุนต้องวางแผนให้ดี
ข้อดีข้อเสียของ Bitcoin dominance
รู้หรือไม่? แต่ก่อน Bitcoin มีค่า BTC.D เฉลี่ยไม่เคยต่ำกว่า 90% เลยสักครั้ง แต่แค่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เองครับที่เหรียญ Altcoin กลับได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์เป็นจำนวนมาก ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของบิทคอยน์นั้นลดลง จนเกิดคำถามสำหรับประโยชน์และข้อจำกัดของการใช้ BTC.D ขึ้นมา ในรีวิวนี้ผมจึงได้สรุปข้อดีและข้อเสียสำหรับการใช้งาน Bitcoin dominance มาไว้ให้ดังนี้ครับ
ข้อดีของ Bitcoin dominance
Bitcoin dominance มีประโยชน์อย่างมากสำหรับใช้เพื่อวิเคราะห์ทิศทางของตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
ช่วยติดตามแนวโน้มและเทรนของตลาดคริปโตควบคู่กับสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ
เพิ่มเสถียรภาพของระบบทางการเงินที่เปิดกว้าง สนับสนุนระบบคริปโตที่เน้นกระจายอำนาจ
ปัจจัยที่ใช้วิเคราะห์ค่อนข้างแม่นยำ ไม่ใช้อารมณ์และความรู้สึกในการตัดสิน จะเน้นสถิติเป็นหลัก
ใช้เพื่อหา Altcoin Season หรือช่วงที่เหรียญ Altcoins มีจำนวนมูลค่าราคาตลาดสูงกว่าบิตคอยน์
ข้อเสียของ Bitcoin dominance
ค่าที่วิเคราะห์ได้จาก Bitcoin dominance อาจไม่สามารถสะท้อนมูลค่าเม็ดเงินที่แท้จริงได้
วัตถุประสงค์ของการใช้เหรียญคริปโตที่ต่างกัน อาจส่งผลให้การวิเคราะห์ Market Capital ของ Bitcoin dominance เกิดความผันผวน
วิเคราะห์อนาคตของ Bitcoin dominance
Bitcoin dominance ได้กลายเป็นตัวชี้วัดทางสถิติที่สำคัญอย่างยิ่งต่อตลาด Crypto โดยในปี 2023 ที่ผ่านมาตลาดเริ่มให้ความมั่นใจเกี่ยวกับความมั่นคงของบิทคอยน์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากปรากฎการณ์ halving ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าจะเป็นตัวเร่งราคาที่สำคัญจนทำให้ปี 2024 Bitcoin dominance จะทยานกลับขึ้นมาอยู่สูงกว่า 51% ได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า Bitcoin กำลังรอการอนุมัติกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นแห่งแรกของสหรัฐอเมริกา รวมถึงการเปิดตัว Spot Bitcoin ETFs ในต้นปี 2024 ซึ่งนับเป็นปัจจัยเชิงบวกที่จะดันราคาและส่วนแบ่งตลาดให้โตไปได้อีก อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง กฎหมายที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อ ก็ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อราคาของบิทคอยน์
ปัจจุบันราคาของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ $71,891.20 แต่มีโอกาสปิดราคาสูงสุดภายในปีนี้ที่ $72,799.83 และโตอย่างต่อเนื่องในปี 2025 และ 2030 ที่ $110,661.63 และ $734,480.71 ตามลำดับ
สรุป
Bitcoin dominance คืออัตราส่วนแบ่งการครองตลาดของสกุลเงิน Bitcoin เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดของคริปโตเคอเรนซีทั้งหมด เป็นตัวชี้วัดที่บอกภาพรวมของเม็ดเงินในตลาด ช่วยเปรียบเทียบเทรนด์การลงทุนระหว่าง Bitcoin และ Altcoin ตัวอื่นๆ รวมถึงประเมินการตัดสินใจว่าควรซื้อ/ขาย Bitcoin ในตอนนี้หรือไม่ จึงไม่แปลกที่ Bitcoin dominance จะกลายเป็นเครื่องมือการลงทุนที่สำคัญที่เทรดเดอร์ทุกท่านควรเรียนรู้เป็นอันดับแรกๆ
นักลงทุนจึงนิยมเทรด Bitcoin ผ่านเครื่องมือที่ชื่อ CFD สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่คุณไม่จำเป็นต้องซื้อหรือถือครอง Bitcoin ให้เสี่ยงโดยเปล่าประโยชน์ เก็งกำไรได้ทั้งในขาขึ้นและขาลง ไม่มีค่าคอมมิชชั่น สเปรดต่ำ แถมยังให้เลเวอเรจที่สูงถึง 1:200 อีกด้วย ที่สำคัญยังปลอดภัยกว่าช่องทางอื่นๆ หลีกเลี่ยงจากการโดยแฮก และสามารถเทรดด้วยเงินเสมือนจริงได้ฟรี
Bitcoin dominance cycle คืออะไร?
Alt Season คืออะไร
BTC.D ต่างจาก Btcdom อย่างไร?
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน