กองทุน SPDR: เจาะลึกทางเลือกการลงทุนทองคำระดับโลกสำหรับนักลงทุน
ในยุคที่เศรษฐกิจโลกผันผวนไม่แน่นอน ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในการรักษามูลค่าและป้องกันความเสี่ยง แต่การลงทุนในทองคำแท่งหรือเหรียญทองคำอาจไม่สะดวกสำหรับนักลงทุนทั่วไป ทั้งในแง่ของการเก็บรักษา การขนส่ง และการซื้อขายที่มีต้นทุนสูง
นี่คือจุดกำเนิดของ “กองทุน SPDR” ซึ่งได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้อย่างง่ายดายเหมือนการซื้อขายหุ้นทั่วไป
กองทุน SPDR คืออะไร?
กองทุน SPDR Gold Trust หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า GLD เป็นกองทุน ETF (Exchange-Traded Fund) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ลงทุนโดยตรงในทองคำแท่ง กองทุนนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 โดย World Gold Trust Services, LLC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของสภาทองคำโลก (World Gold Council) องค์กรที่ไม่แสวงหากำไรซึ่งมีภารกิจในการส่งเสริมการใช้ทองคำทั่วโลก
จุดประสงค์หลักของการก่อตั้งกองทุน SPDR Gold Trust คือการสร้างเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องแบกรับภาระในการเก็บรักษาทองคำจริง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงและมีความเสี่ยงในการรักษาความปลอดภัย
การบริหารจัดการของกองทุน SPDR Gold Trust ดำเนินการโดย State Street Global Advisors บริษัทจัดการลงทุนชั้นนำระดับโลกที่มีประสบการณ์ในการบริหารสินทรัพย์มูลค่ามหาศาล ทองคำทั้งหมดของกองทุนถูกเก็บรักษาไว้ในคลังใต้ดินที่ลอนดอน ภายใต้การดูแลของ HSBC Bank plc ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้เก็บรักษาทรัพย์สินของกองทุน
โครงสร้างการบริหารจัดการที่ซับซ้อนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าทองคำของกองทุนจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ โดยมีการตรวจนับทองคำทุกวันและมีการตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบอิสระเป็นประจำทุกปี
ทำไมนักลงทุนควรให้ความสนใจกับกองทุน SPDR
กองทุน SPDR Gold Trust มีจุดเด่นหลายประการที่ดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น
ความสะดวก: นักลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ง่ายเหมือนการซื้อขายหุ้นทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายผ่านโบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ ทำให้สามารถเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้แม้ด้วยเงินลงทุนจำนวนน้อย
ความโปร่งใส: ราคาหน่วยลงทุนสะท้อนราคาทองคำในตลาดโลกอย่างใกล้เคียง โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนจะถูกคำนวณและประกาศทุกวัน ทำให้นักลงทุนสามารถติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนได้อย่างชัดเจน
ต้นทุนต่ำ: ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนในทองคำรูปแบบอื่น โดยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Expense Ratio) เพียง 0.40% ต่อปี ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาทองคำแท่งด้วยตนเอง
สภาพคล่องสูง: สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าหรือออกจากการลงทุนได้อย่างรวดเร็วเมื่อต้องการ
ความปลอดภัย: ไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษาทองคำด้วยตัวเอง ลดความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมหรือความเสียหายทางกายภาพ
การกระจายความเสี่ยง: การลงทุนในกองทุน SPDR ช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนได้ง่ายขึ้น โดยการเพิ่มทองคำเข้าไปในสัดส่วนที่เหมาะสม
ความยืดหยุ่นในการลงทุน: นักลงทุนสามารถใช้กลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลายกับหน่วยลงทุน GLD เช่น การซื้อขายระยะสั้น การลงทุนระยะยาว หรือแม้แต่การใช้ออปชั่นและฟิวเจอร์สเพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือเพิ่มผลตอบแทน
เมื่อเทียบกับการลงทุนในทองคำแท่งหรือเหรียญทองคำโดยตรง กองทุน SPDR ช่วยลดภาระในการเก็บรักษาและประกันภัย อีกทั้งยังสะดวกกว่าในแง่ของการซื้อขายและการกระจายการลงทุน นอกจากนี้ การลงทุนผ่านกองทุน SPDR ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการซื้อทองคำปลอมหรือทองคำที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ในตลาดทองคำแท่งรายย่อย
กลไกการทำงานของกองทุน SPDR
กองทุน SPDR Gold Trust ทำงานโดยการออกหน่วยลงทุนที่แต่ละหน่วยมีมูลค่าเทียบเท่ากับทองคำประมาณ 1/10 ออนซ์ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ) กระบวนการทำงานของกองทุนมีความซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพสูง ดังนี้
การสร้างและไถ่ถอนหน่วยลงทุน: เมื่อมีความต้องการซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน (Authorized Participants) ซึ่งมักเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ จะนำทองคำแท่งมาแลกเป็นหน่วยลงทุนของกองทุน ในทางกลับกัน เมื่อต้องการไถ่ถอนหน่วยลงทุน ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนจะนำหน่วยลงทุนมาแลกเป็นทองคำแท่ง กระบวนการนี้ช่วยรักษาให้ราคาหน่วยลงทุนใกล้เคียงกับมูลค่าทองคำที่กองทุนถือครองอยู่
การกำหนดราคาหน่วยลงทุน: ราคาของหน่วยลงทุนจะเคลื่อนไหวตามราคาทองคำในตลาดโลก โดยอ้างอิงจากราคา LBMA Gold Price PM ซึ่งเป็นราคาอ้างอิงทองคำที่สำคัญของตลาดลอนดอน ราคานี้จะถูกใช้ในการคำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนทุกวันทำการ
การซื้อขายในตลาดรอง: นักลงทุนทั่วไปสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้เหมือนกับการซื้อขายหุ้นทั่วไป โดยราคาซื้อขายอาจมีส่วนต่างเล็กน้อยจาก NAV ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานในตลาด ณ ขณะนั้น
การเก็บรักษาทองคำ: ทองคำทั้งหมดของกองทุนถูกเก็บรักษาในคลังใต้ดินที่ปลอดภัยของ HSBC ในลอนดอน โดยมีการตรวจสอบและนับจำนวนทองคำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าปริมาณทองคำตรงกับจำนวนหน่วยลงทุนที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด
การบริหารความเสี่ยง: กองทุนมีมาตรการบริหารความเสี่ยงหลายระดับ ทั้งการประกันภัยทองคำ การกระจายการเก็บรักษาในหลายสถานที่ และการตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบอิสระ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ที่มา: ssga.com
กลไกการทำงานที่ซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพนี้ ทำให้กองทุน SPDR Gold Trust สามารถรักษาความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสในการดำเนินงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กองทุนนี้ได้รับความนิยมในวงกว้างในหมู่นักลงทุนทั่วโลก
ผลกระทบของกองทุน SPDR ต่อตลาดทองคำโลก
และด้วยขนาดที่ใหญ่มากของกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเกือบ 70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ ปี 2024)
ที่มา: spdrgoldshares.com
ทำให้การเคลื่อนไหวของกองทุนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดทองคำโลก เช่น
อิทธิพลต่อราคาทองคำ: การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของปริมาณทองคำที่กองทุนถือครองมักจะส่งผลต่อราคาทองคำในตลาดโลก เมื่อกองทุนซื้อทองคำเพิ่ม มักจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น และในทางกลับกัน เมื่อกองทุนขายทองคำออก ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง
ดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่น: นักวิเคราะห์และนักลงทุนมักจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของปริมาณทองคำในกองทุน SPDR เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคาทองคำและประเมินความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
การเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดทองคำ: กองทุน SPDR ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดทองคำโลก โดยทำให้การซื้อขายทองคำในปริมาณมากเป็นไปได้ง่ายขึ้นผ่านการซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
การกระจายการถือครองทองคำ: กองทุนช่วยให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดการกระจายการถือครองทองคำไปยังนักลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น
ผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทานของทองคำ: การซื้อขายทองคำของกองทุน SPDR มีผลโดยตรงต่ออุปสงค์และอุปทานของทองคำในตลาดโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้นและระยะยาว
ในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง เช่น ในช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2008 หรือการระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 กองทุน SPDR มักจะเห็นการไหลเข้าของเงินลงทุนอย่างมาก สะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุนทั่วโลก ในทางกลับกัน ในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น อาจเห็นการไหลออกของเงินลงทุนจากกองทุน SPDR เนื่องจากนักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
ที่มา: spdrgoldshares.com
กลยุทธ์การลงทุนในกองทุน SPDR สำหรับนักลงทุนไทย
สำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น
1.ลงทุนผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ: นักลงทุนสามารถเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดสหรัฐฯ เพื่อซื้อหน่วยลงทุน GLD โดยตรง
เช่น eToro
เทคนิคคือ เลือกเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือเพื่อซื้อขายหน่วยลงทุน GLD โดยตรงในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ โดยติดตามราคาทองคำและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งพิจารณาต้นทุนค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนประกอบการตัดสินใจ
ข้อดีคือ สามารถซื้อขายได้ทันทีที่ตลาดเปิด มีความยืดหยุ่นสูง
ข้อควรระวังคือ ต้องศึกษากฎระเบียบและภาษีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในต่างประเทศ
2.ลงทุนผ่านกองทุนรวมในไทย: มีกองทุนรวมหลายกองในไทยที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของ SPDR Gold Trust เช่น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด
เทคนิคคือ เลือกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน SPDR Gold Trust โดยศึกษาผลการดำเนินงานและค่าธรรมเนียมของกองทุนก่อนลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในไทย และควรกระจายการลงทุนในกองทุนทองคำหลายๆ กองเพื่อลดความเสี่ยง
ข้อดีคือ สะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
ข้อควรระวังคือ อาจมีค่าธรรมเนียมการจัดการเพิ่มเติม และผลตอบแทนอาจไม่เท่ากับการลงทุนโดยตรงในกองทุน SPDR
3.ลงทุนผ่าน DR (Depositary Receipt): ในตลาดหลักทรัพย์ไทยมี DR ที่อ้างอิงกับ SPDR Gold Trust ให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้เช่นเดียวกับหุ้นทั่วไป เช่น บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
เทคนิคคือ ซื้อขาย DR ที่อ้างอิง SPDR Gold Share ในตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยติดตามส่วนต่างราคา DR กับราคาหลักทรัพย์อ้างอิงอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งพิจารณาสภาพคล่องในการซื้อขาย DR และระมัดระวังความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจส่งผลต่อผลตอบแทน
ข้อดีคือ สะดวก สามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ไทย
ข้อควรระวังคือ สภาพคล่องอาจไม่สูงเท่ากับการลงทุนโดยตรงในตลาดต่างประเทศ
แม้จะสามารถลงทุนในกองทุน SPDR ได้หลากหลายรูปแบบ แต่กลยุทธ์สำหรับการลงทุนก็แตกต่างกันไปในแต่ละมุมมอง โดยเราได้ยกตัวอย่างเพื่อให้นักลงทุนพิจารณามาดังนี้
การลงทุนระยะยาวเพื่อกระจายความเสี่ยง: ใช้กองทุน SPDR เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยอาจจัดสรรสัดส่วนการลงทุนในทองคำประมาณ 5-10% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
การลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: ใช้กองทุน SPDR เป็นเครื่องมือในการรักษามูลค่าเงินในช่วงที่เงินเฟ้อสูง
การลงทุนเชิงรุกตามวัฏจักรเศรษฐกิจ: เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกองทุน SPDR ในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง และลดสัดส่วนลงเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว
การใช้เทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิค: ใช้การวิเคราะห์กราฟราคาของกองทุน SPDR เพื่อหาจังหวะเข้าลงทุนที่เหมาะสม
บทสรุป
กองทุน SPDR Gold Trust เป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้นักลงทุนทั่วโลกเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้ง่ายขึ้น และยังเป็นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นในตลาดทองคำ แม้จะมีความเสี่ยง แต่ก็เป็นทางเลือกสำคัญในการสร้างพอร์ตการลงทุนที่มั่นคง
อีกทางเลือกหนึ่งคือการซื้อขายทองคำผ่าน CFD ซึ่งเหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนทั่วไปและผู้เริ่มต้น โดยสามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาทองได้ และยังมีบัญชีจำลองให้ฝึกซ้อมการเทรดโดยไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
การลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust แตกต่างจากการซื้อทองคำแท่งอย่างไร?
การลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust มีสภาพคล่องสูงกว่า สามารถซื้อขายได้ง่ายในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษาและความปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถลงทุนได้ในจำนวนเงินที่น้อยกว่าการซื้อทองคำแท่ง
กองทุน SPDR Gold Trust มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่นักลงทุนควรรู้?
ความเสี่ยงหลักของกองทุน SPDR Gold Trust ได้แก่ ความผันผวนของราคาทองคำ ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงด้านการดำเนินงานของกองทุน และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ทองคำไม่สร้างกระแสเงินสด จึงไม่มีการจ่ายเงิ นปันผล
กองทุน SPDR Gold Trust มีข้อจำกัดในการซื้อขายอย่างไรบ้าง?
กองทุน SPDR Gold Trust ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เหมือนหุ้นทั่วไป จึงมีข้อจำกัดตามเวลาทำการของตลาด นักลงทุนต้องซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการ ซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดในการแลกเปลี่ยนหน่วยลงทุนเป็นทองคำจริง
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน