เล่นทองอย่างไรให้รวยในปี 2567 ที่คุณควรอ่าน!

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในการลงทุนมาอย่างยาวนาน ด้วยความมั่นคงและการยอมรับในระดับสากล แม้จะมีความผันผวนสูง แต่ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว นักลงทุนมักหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้น ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น


ที่น่าสนใจคือ แนวโน้มราคาทองคำในปี 2024 มีทิศทางขาขึ้นชัดเจน โดยคาดว่าราคาจะทะลุระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ


บทความนี้จึงนำเสนอกลยุทธ์ “เล่นทองอย่างไรให้รวยในปี 2567” พร้อมข้อมูลและเทคนิคที่จะช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรับมือกับโอกาสทำกำไรจากแนวโน้มขาขึ้นของราคาทองในปีนี้


เข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

การลงทุนในตลาดทองคำอย่างมีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำอย่างถ่องแท้ ราคาทองคำมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงสภาวะเศรษฐกิจโลกเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่ส่งผลโดยตรงเช่น


1. อัตราดอกเบี้ย และนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก

ทิศทางนโยบายการเงินโดยเฉพาะของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีผลอย่างมากต่อราคาทองคำ โดยที่เมื่อนโยบายดอกเบี้ยถูกปรับขึ้น มักสะท้อนถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ดี โดยส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าและความเชื่อมั่นในตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่ในทางกลับกัน หากอัตราดอกเบี้ยลดลง ก็มักส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน


2. สภาวะเงินเฟ้อ 

อัตราเงินเฟ้อและราคาทองคำมักเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เมื่ออัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ราคาทองคำมักจะปรับตัวสูงขึ้นตาม เนื่องจากทองคำถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ดี


3. ค่าเงินดอลลาร์

เป็นที่ทราบกันดีว่า สกุลเงินดอลลาร์ เป็นสกุลเงินหลักของโลกที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย  อีกทั้งค่าเงินดอลลาร์ยังเป็นสื่อกลางที่ใช้ในการซื้อ-ขายในตลาดการลงทุนอีกด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีความผันผวนกับราคาทองคำอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้น การที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง มักจะส่งผลดีกับราคาทองที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่สามารถเก็บมูลค่า และส่งผลให้กระแสเงินของแต่ละประเทศไหลเข้าสู่ทองคำ ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวขึ้น จะส่งผลราคาทองคำปรับตัวลง และนักลงทุนทองคำจะหันมาลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์แทนนั่นเอง 


4. Demand และ Supply หรือความต้องการทองคำ

ส่งผลให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้น และในทางกลับกัน หากมีความต้องการซื้อทองคำต่ำหรือน้อยลง ราคาทองคำก็มักจะปรับตัวลงนั่นเอง


การวิเคราะห์ตลาดทองคำปัจจุบัน (ปี 2567)

ตลาดทองคำในปี 2567 แสดงแนวโน้มเชิงบวกอย่างชัดเจน โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญดังนี้


  • แนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ย: ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3-4 ครั้งในปี 2567 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ก็มีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินเช่นกัน การลดอัตราดอกเบี้ยจะลดต้นทุนการถือครองทองคำ ทำให้ทองคำน่าสนใจมากขึ้นเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่


  • ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองโลก: สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและยูเครนยังคงยืดเยื้อ ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดพลังงานและห่วงโซ่อุปทานโลก นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น


  • การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ: นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงประมาณ 5-7% ในปี 2567 เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่น การอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในสกุลดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น


  • การเพิ่มขึ้นของ Demand: ธนาคารกลางของประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะจีนและอินเดีย มีแนวโน้มเพิ่มการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเพื่อกระจายความเสี่ยง คาดว่าจะมีการซื้อทองคำเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% จากปีก่อน นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเครื่องประดับในเอเชียคาดว่าจะฟื้นตัว โดยเฉพาะในอินเดียและจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ของโลก


  • นวัตกรรมทางการเงิน: การเติบโตของ ETF ทองคำและสินทรัพย์ดิจิทัลที่อ้างอิงกับทองคำ ทำให้การลงทุนในทองคำเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อย คาดว่าจะมีเงินไหลเข้า Gold ETFs เพิ่มขึ้นประมาณ 20-25% ในปี 2567 ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ


โดยรวมแล้ว คาดการณ์ว่าราคาทองคำในปี 2567 มีโอกาสทะลุระดับสูงสุดใหม่ที่ 2,600 - 2,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามปัจจัยเสี่ยงและปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง

กำหนดระยะเวลาลงทุนให้ชัดเจน

ก่อนเริ่มลงทุนในทองคำ นักลงทุนควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้องการลงทุนในระยะสั้นหรือระยะยาว เนื่องจากกลยุทธ์และความเสี่ยงแตกต่างกันอย่างมาก ตัวอย่างเช่น


การลงทุนระยะสั้น (Short-term Investment)

  • เป้าหมาย: ทำกำไรจากความผันผวนของราคาในช่วงเวลาสั้นๆ (วัน สัปดาห์ หรือเดือน)

  • กลยุทธ์: เน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิค การติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

  • ความเสี่ยง: สูงกว่า เนื่องจากความผันผวนระยะสั้น

  • เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่มีเวลาติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดและรับความเสี่ยงสูงได้


การลงทุนระยะยาว (Long-term Investment)

  • เป้าหมาย: สะสมมูลค่าและป้องกันความเสี่ยงในระยะยาว (หลายปีขึ้นไป)

  • กลยุทธ์: เน้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการถือครองอย่างสม่ำเสมอ

  • ความเสี่ยง: ต่ำกว่า เนื่องจากความผันผวนระยะสั้นถูกปรับสมดุลในระยะยาว

  • เหมาะสำหรับ: นักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงและกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน


ปัจจัยที่ควรพิจารณา สำหรับการตัดสินใจเลือกระยะเวลาลงทุน คือ

  • สถานการณ์ตลาดปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต

  • เป้าหมายทางการเงินส่วนบุคคล

  • ความสามารถในการรับความเสี่ยง

  • เวลาและทรัพยากรที่มีในการติดตามและบริหารการลงทุน


ตัวอย่างเช่น ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2567 ราคาทองคำได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 2,531.67 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นกว่า 21.7% จากต้นปี (แหล่งข้อมูล : www.gold.org) ปัจจัยสำคัญมาจากความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟด ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ส่งผลให้นักลงทุนระยะยาวสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่านั่นเอง


การที่เรากำหนดเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการลงทุนที่ผิดพลาดได้ และอย่าลืมว่ามูลค่าทองคำนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากเราลงทุนและปฏิบัติตามแผนการลงทุนที่เราวางไว้ แม้จะขาดทุน แต่ก็จะอยู่ในความเสี่ยงที่เราควบคุมได้ และเมื่อเราควบคุมความเสี่ยงได้ ผลกำไรก็จะตามมานั่นเอง


เลือกรูปแบบการลงทุนให้เหมาะสม

ลงทุนทองคำ


ปัจจุบันนี้การลงทุนในทองคำนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ได้มีเพียงแค่การเก็งกำไรทองคำรูปพรรณหรือทองคำแท่ง เราสามารถเลือกลงทุนได้ตามเหมาะสมของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นกองลงทุนผ่านกองทุนรวม หรือ การเทรด ซึ่งการลงทุนในทองคำแต่ละประเภทก็จะมีความเสี่ยงและอัตราผลตอบที่ได้รับแตกต่างกันไป โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


1) ทองคำรูปพรรณ

ทองคำรูปพรรณคือ ทองที่ถูกนำมาแปรรูปเป็นลวดลายต่างๆอย่างสวยงาม นอกจากจะสามารถใส่เป็นเครื่องประดับได้แล้วนั้น ยังสามารถลงทุนเพื่อเก็งกำไรได้อีกด้วยเช่นกัน สำหรับ “ทองคำรูปพรรณ” ราคาแรกที่ซื้อจะมีการรวมค่ากำเหน็ดเพิ่มขึ้น โดยค่ากำเหน็ดนั้นจะขึ้นอยู่กับความยากง่าย และอยู่ที่ลวดลายที่เราเลือกซื้อด้วยนั่นเอง โดยราคาที่เราซื้ออาจจะมีมูลค่าแพงกว่าราคาตลาดหรือราคาหน้าร้านเล็กน้อย


ตัวอย่างเช่น สร้อยข้อมือน้ำหนัก 1 บาท ทองคำแท้ 96.5% ราคาอยู่ที่ 41,840 บาท (แหล่งอ้างอิง: https://www.goldtraders.or.th ข้อมูล ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2567)


▲ ข้อดีของการซื้อทองคำรูปพรรณ

  • ซื้อง่าย - ขายคล่อง สามารถนำทองคำรูปพรรณเข้าไปขายได้ที่ร้านทองทั่วประเทศ

  • เป็นสินทรัพย์ที่สามารถจับต้องได้ สามารถเก็บไว้กับตัวเองได้

  • เป็นสินทรัพย์ที่สามารถนำมาใส่เป็นเครื่องประดับได้


▲ ข้อเสียของการซื้อทองคำรูปพรรณ

  • หากทองคำรูปพรรณนั้นมีการสวมใส่มาก่อนหน้า ทำให้สภาพทองมีความสึกกร่อน เวลาขายคือจะการหักค่าเสื่อมราคาประมาณ 5%

  • มีความเสี่ยงในเรื่องของสูญหาย ตัวอย่างเช่น การโดนปล้น หรือ โดนขโมยเป็นต้น

  • ใช้เวลานานในทำกำไร เพราะจะต้องรอช่วงเวลาทองคำเป็นตลาดขาขึ้นเท่านั้น อาจจะใช้เวลามากกว่า 1 ปี เนื่องจากว่าเวลาร้านทองรับซื้อคืน มักจะซื้อราคาที่ต่ำกว่าราคาขายในตลาด


▲ การซื้อทองคำรูปพรรณเหมาะกับนักลงทุนแบบไหน

  • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีแผนการลงทุนในระยะยาว

  • มีความพอใจกับอัตราผลที่ตอบแทนที่ต่ำ

  • ไม่มีประสบการ์ณทางด้านการวิเคราะห์ตลาด


2) ทองคำแท่ง 

ผู้คนจะให้ความนิยมในการลงทุนในทองคำแท่งมากกว่าทองคำรูปพรรณ เนื่องว่าเวลาทำการซื้อ ทองคำแท่งจะไม่มีการคำนวณค่ากำเหน็ด แต่มีจะมีเพียงแค่ค่าบล็อคเท่านั้น ในกรณีที่ผู้ซื้อ ทำการซื้อทองคำแท่งที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 5 บาท และเวลาทำการขายคืนจะไม่มีคำนวณเสื่อมราคาเหมือนกับทองคำรูปพรรณ ทั้งนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี


ตัวอย่างเช่น ทองคำแท่งราคา 40,450 บาท ขณะที่ทองคำรูปพรรณราคา 40,950 บาท ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีส่วนต่างของราคาอยู่เกือบ 500 บาท (แหล่งอ้างอิง: https://www.goldtraders.or.th ข้อมูล ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2567)


▲ ข้อดีของการซื้อทองคำแท่ง

  • เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีความสึกกร่อน สามารถจับต้องได้จริง

  • เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง สามารถทำการซื้อ-ขายได้ตลอด

  • เป็นสินทรัพย์ที่มีความสามารถในการป้องกันเงินเฟ้อ


▲ ข้อเสียของการซื้อทองคำแท่ง

  • มีความเสี่ยงในการถือครองสินทรัพย์ เนื่องจากจะมีโจรกรรมเกิดขึ้น

  • มีค่าใช้จ่ายในเรื่องของความปลอดภัย เมื่อต้องนำสินทรัพย์ไปฝากไว้กับธนาคาร

  • สามารถทำกำไรได้เฉพาะช่วงเวลาราคาตลาดทองคำเป็นช่วงขาขึ้นเท่านั้น


▲ การซื้อทองคำแท่งเหมาะกับนักลงทุนแบบไหน

  • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ตั้งใจจะลงทุนในระยะยาว

  • นักลงทุนที่มีเงินสำรองเป็นจำนวนมาก

  • มีความพอใจในผลตอบแทนในระดับปานกลาง


3) กองทุนรวมทองคำ

กองทุนรวมทอง (Gold Fund) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนในทองคำที่มีความปลอดภัยสูง สำหรับใครที่ไม่อยากถือครองสินทรัพย์ในรูปแบบของทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณ การซื้อกองทุนรวมถือว่าตอบโจทย์ท่านเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่ารูปแบบของกองทุนรวมนั้นจะมีการอ้างอิงนโยบายลงทุนในทองคำ โดยการแปรเปลี่ยนของมูลค่านั้นจะอิงกับราคาทองคำในตลาดโลก ไม่ใช่ราคาทองคำในประเทศ อาจจะมีในเรื่องของความเสี่ยงที่มาจากความผันผวนของราคาค่าทองคำและอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินด้วย ทำให้นักลงทุนอาจจะต้องพิจารณาปัจจัยในการซื้อขายมากยิ่งขึ้น


▲ ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมทองคำ

  • ใช้เงินลงทุนน้อยลงกว่าการลงทุนในทองคำแท่ง

  • มีค่าธรรมเนียมในการซื้อ-ขายที่ต่ำ

  • สามารถทยอยขายได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องขายหมดทั้งก้อน

  • มีความปลอดภัย เนื่องจากว่ามีผู้เชี่ยวชาญดูแลบริหารจัดการกองทุนให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

  • สามารถเช็คข้อมูลหรือติดตามพอร์ตการลงทุนของตนเองได้ตามช่องทางออนไลน์

  • มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผลหรือจากส่วนต่างมูลค่าหน่วยลงทุน


▲ ข้อเสียของการลงทุนในกองทุนรวมทองคำ

  • สามารถทำกำไรได้แค่ช่วงทองคำเป็นตลาดขาขึ้นเท่านั้น

  • มีความเสี่ยงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนและความผันผวนของราคาทองคำ

  • มีค่าธรรมเนียมในการเข้าซื้อ-ขาย


▲ การลงทุนในกองทุนรวมทองคำเหมาะกับนักลงทุนแบบไหน

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายการลงทุนในระยะยาว และมีความต้องการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตนเองเพื่อลดความผันผวน

  • นักลงทุนที่มีความเข้าใจในตลาดกองทุนรวมแต่ไม่มีเวลาในการติดตามตลาด

  • สามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง

  • เหมาะสำหรับนักลงทุนผู้มีเงินลงทุนน้อย สามารถลงทุนได้แบบถัวเฉลี่ย


4) Gold Futures 

สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า คือ รูปแบบการลงทุนที่เราสามารถทำการ "ซื้อก่อนขายหรือทำการขายก่อนซื้อ" ด้วยเงินลงทุนจำนวนน้อย เพียงแค่วางเงินเพื่อขั้นต้น (Initial Margin) 10% ของยอดเงินทั้งหมดเท่านั้น และสามารถทำกำไรได้มากกว่าการลงทุนทองคำในรูปแบบอื่นๆ เนื่องจากว่าสามารถทำกำไรได้ทั้งสภาวะตลาดขาขึ้นและขาลงนั่นเอง 


▲ ข้อดีของการเทรด Gold Futures

  • เป็นการลงทุนที่ใช้เงินจำนวนน้อย แต่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้เป็นอย่างดี

  • มีโอกาสทำกำไรได้สูงกว่าการลงทุนในการซื้อทองและลงทุนในกองทุนรวมในระยะเวลาสั้น

  • ทำการเทรดได้ทั้งช่วงตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง 


▲ ข้อเสียของการเทรด Gold Futures

  • ขั้นตอนในการเปิดบัญชีมีความซับซ้อน ผู้ลงทุนจะต้องมีการเตรียมเอกสารให้กับโบรกเกอร์หรือธนาคารอย่างละเอียด เช่น สำเนาประชาชน, สำเนาเอกสารทางบัญชี Statement ย้อนหลัง 3 เดือน

  • จะต้องมีเงินในบัญชี Book Bank ขั้นต่ำ 10,000 บาท

  • ความเสี่ยงจากการเทรดค่า Leverage ที่สูง เมื่อเราทำการคาดการ์ณราคาผิด ทำให้เราขาดทุนในมูลค่าที่สูงขึ้นเท่าตัว


▲ การเทรด Gold Futures เหมาะกับนักลงทุนแบบไหน 

  • สำหรับนักลงทุนที่มีเป้าหมายการลงทุนในระยะสั้น 

  • นักลงทุนที่มีความสามารถรับความเสี่ยงในระดับที่สูงได้

  • นักลงทุนที่มีความชำนาญในการอ่านกราฟ การวิเคราะห์ตลาด และมีความสามารถในการเข้าคาดการ์ณราคาได้อย่างแม่นยำ


5) ทองคำ Forex

เรามักจะได้ยินอยู่บ่อยครั้งกับคำว่า เทรดทอง หรือ เทรดทองคำ Forex ซึ่งการลงทุนในรูปแบบนี้อธิบายให้เข้าใจง่ายๆคือ การซื้อขายราคาทองคำที่มีอยู่ในตลาด ที่มีการใช้ราคาทองมาเป็นตัวพิจารณาในการซื้อขาย ซึ่งหากเราซื้อทองมาในราคาถูกและขายออกในราคาแพง เราก็จะได้กำไรจากการค้าทอง เป็นต้น ทั้งนี้รูปแบบการเทรดทอง Forex ที่นิยมเทรดกันนั้นจะเป็นรูปแบบการเทรดแบบ การใช้สัญญาแบบ CFD หรือใช้การทำนายส่วนต่าง กล่าวคือ หากเราคาดการ์ณว่าราคาทองเปิดขาขึ้นในกรอบเวลาดังกล่าวให้ทำการเปิดสถานะ Long เมื่อราคาปรับตัวขึ้นไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ก็ทำการปิดสถานะเพื่อรับกำไรได้ทันที ในทางตรงกันข้ามหากเรามองว่าทองคำนั้นเป็นช่วงขาลงก็ทำการเปิดสถานะ Short มื่อราคาปรับตัวขึ้นไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ก็ทำการปิดสถานะเพื่อรับกำไรได้เช่นกัน 


▲ ข้อดีของการเทรดทองคำ Forex

  • สามารถทำการเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง (เช่นเดียวกันกับการลงทุนในรูปแบบ Gold Future)

  • มีค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำ รวมถึงค่าคอมฯ การซื้อขาย ค่าคอมฯ การฝากถอนเงินและค่าคอมฯ อื่นๆ

  • มีค่า Leverage ที่สูงกว่า ทำให้เงินลงทุนที่ใช้จะต่ำ (ต่ำกว่าการลงทุนในรูปแบบ Gold Future)

  • มีโอกาสเข้าทำกำไรได้อย่างสูงและรวดเร็วภายในหนึ่งวัน

  • มีความยืดหยุ่นในการเข้าซื้อ-ขาย เนื่องจากว่าตลาด Forex เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ภายใน 5 วัน นักลงทุนสามารถเลือกช่วงเวลาในการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองได้ และมีโอกาสสร้างกำไรได้ถี่กว่าการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ


▲ ข้อเสียของการเทรดทองคำ Forex

  • มีความเสี่ยงสูงในเรื่องของค่า Leverage เนื่องจากว่าค่าดังกล่าว เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อใหห้เราสามารถทำกำไรได้สูงขึ้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราที่มีการคาดการ์ณราคาผิด โอกาสที่เราจะขาดทุนก็สูงเช่นกัน

  • ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีประสบการ์ณเกี่ยวกับการอ่านกราฟ เนื่องจากว่าจะทำให้นักลงทุนสูญเสียสินทรัพย์ได้ง่าย


▲ การเทรดทองคำ Forex เหมาะกับนักลงทุนแบบไหน

  • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค และมีเป้าหมายการเก็งกำไรในระยะสั้น

  • นักลงทุนที่มีความรู้ในเรื่องของการอ่านกราฟ สามารถวิเคราะห์ตลาดและวางแผนการลงทุนได้อย่างแม่นยำ

  • มีความสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับสูง


mitrade
💸 ห้ามพลาด!!! 💸
เทรดทอง Forex กับโบรกเกอร์ชั้นนำในโลก🎁🎁


แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน


บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >>

วิธีเทรดทอง Forex ให้ได้กำไร

เทรดทองคําโบรกไหนดี? แนะนำ 6 โบรกเกอร์เทรดทอง

เทรดทองแอพไหนดี?แนะนำ 6 แอปเทรดทองที่นิยมใช้กัน

จัดกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับระยะเวลาลงทุน

แม้ว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงในเรื่องของความผันผวนทางด้านราคาแบบรายวัน เปรียบเสมือนเป็นนดาบสองคมที่ดูเหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าทำกำไรได้หลากหลาย และโอกาสขาดทุนจากการลงทุนก็สูงด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากเรามีความสนใจในการลงทุนในตลาดทองคำ จะต้องทำการวางแผน หาเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมต่อตัวเอง นั่นก็คือรูปแบบการลงทุนในระยะสั้นและในระยาว ซึ่งสองรูปแบบนี้จะมีกลวิธีการลงทุนที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดังต่อไปนี้


รูปแบบการลงทุนในระยะสั้น

จะเป็นวิธีการลงทุนที่เน้นการเก็งกำไรในระยะสั้นเป็นหลัก ผู้ลงทุนจะต้องมีประสบการ์ณในตลาดมาอย่างยาวนาน หรือ มีความเชี่ยวชาญในด้านการวิเคราะห์ตลาดและวิเคราะห์กราฟได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้จะต้องมีความเคร่งครัดในการหมั่นติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งมีการกำหนดจุดซื้อและจุดขายทองคำที่ชัดเจนในการเข้าลงทุนด้วยครั้ง สิ่งสำคัญที่สุดเลย คือ จะต้องเป็นบุคคลที่สามารถทนรับความเสี่ยงสูงได้ หากคาดหวังที่จะทำกำไรในระดับดี ควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางด้านเทคนิคเพื่อที่จะทำให้รู้จุดเข้าซื้อ-ขายในตลาดได้อย่างแม่นยำ


รูปแบบการลงทุนในระยะยาว

จะเป็นการลงทุนที่เหมาะสำหรับบุคคลที่มีความสนใจในการลงทุน อยากเริ่มที่จะลงทุนครั้งแรก สามารถเลือกวิธีการลงทุนด้วยกาลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) ซึ่งเป็นการซื้อทองคำหรือซื้อกองทุนรวมแบบสม่ำเสมอทุกเดือนหรือราย 3 เดือน หรือตามระยะเวลาที่เหมาะสม ด้วยจำนวนเงินที่เท่าๆ กัน ซึ่งจะเป็นการสร้างวินัยในการลงทุนและช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนทองคำได้เป็นอย่างดี

บริหารความเสี่ยงในการเทรด

ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงที่มาจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ดังนั้นเพื่อการลงทุนให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด คือ เราจะต้องรู้จักบริหารความเสี่ยงในการลงทุน ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

 

1) ต้องมีความเข้าใจในหลักการทำงานของตลาด

แก่นหลักสำคัญของการลงทุนในตลาดทองคำ เราจะต้องมีความเข้าใจในกลไกในการทำงานของตลาดทองว่าเป็นไปในทิศทางใด สภาวะตลาดแบบนี้เราควรเข้าซื้อเวลาไหน และควรใช้เครื่องมืออะไรเข้ามาช่วยให้เทรดได้ง่ายขึ้นและได้กำไรตามเป้าหมาย


2) จะต้องมีการคำนึงถึงเลเวอเรจเสมอ 

เนื่องจากว่า การเทรด ก็ถือเป็นการคำนวณประเภทหนึ่ง ที่เราต้องจับตาความเคลื่อนไหวของราคา รวมรูปแบบการลงทุนแบบ CFDs และค่าสเปรด หรือวิธีการรับมือกับความเสี่ยงอีกทางหนึ่งก็คือ การวางแผนเตรียมตัวสำหรับการเทรดด้วยเลเวอเรจ เพราะมันอาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในการทำกำไรในตลาดที่มีความเสี่ยง 


3) การวางแผนที่ดี 

สิ่งสำคัญในการลงทุนทุกสินมรัพย์ นักลงทุนจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนการลงทุนอย่างรอบครอบ ไม่ว่าจะเป็นการดำหนดเงินลงทุน ตลอดถึงจนการกำหนดกำไรที่จะรับในทุกๆครั้ง เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ตามเป้าหมายตามที่เราตั้งไว้แล้วก็ควรหยุดลงทันที เพื่อรอลงทุนในรอบใหม่ 


4) ควบคุมอารมณ์ตัวเอง

ปฏิเสธไม่ได้เเลยว่า “อารมณ์” ก็คือตัวแปรสำคัญในการลงทุนที่จะกำหนดได้ว่าพอร์ตของคุณจะถูกล้างหรือจะได้กำไร ดังนั้นไม่ว่าสภาวะของตลาดจะเป็นไปในทิศทางใดนักลงทุนจำเป็นที่จะต้องมีสติและทำตามตามเป้าหมายของตนอย่างเคร่งครัด อย่าโลภ อย่าโกรธ และอย่าใจอ่อนแอ

เริ่มต้นลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยๆ

ขึ้นชื่อการเทรดทอง การเล่นทอง หลายคนคงคาดหวังว่าตนเองจะได้กำไรกลับคืนมาอย่างมหาศาล จะเลือกวิธีการลงทุนแบบเทหน้าตักไปโดยที่ไม่ได้สนใจอะไร ซึ่งการกระในรูปแบบนี้ไม่ใช่ผลดี ขั้นตอนแรกในการเริ่มลงทุน เราควรเริ่มลงทุนจากจำนวนเงินน้อยๆ เสียก่อน หากต้องการเก็งกำไรในระยะสั้น ก็สามารถเลือกวิธีการเทรดแบบ CFDs ด้วยเงินต้นทุนที่ต่ำ เนื่องจากว่าลงทุนในรูปแบบนี้สามารถสร้างผลตอบได้สูงกว่าเงินลงทุนนั่นเอง หรือมีความสนใจที่อยากจะลงทุนในระยะยาว ก็สามารถทำการลงได้ในรูปแบบการซื้อกองทุนรวมแบบ DCA ลงทุนด้วยจำนวนเงินน้อยๆแต่ทำตลอด ก็ให้ผลดีต่อเราได้เช่นกัน


mitrade
💸 ห้ามพลาด!!! 💸
เทรดทอง Forex กับโบรกเกอร์ชั้นนำในโลก🎁🎁

กำกับดูแลโดย ASIC/CIMA/FSC 
ค่าคอมมิชชั่น 0 สเปรดต่ำ เงินฝากขั้นต่ำ $50💰
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

เทรดกับคนที่น่าเชื่อถือ

ปัจจุบันนี้มีโบรกเกอร์ที่เปิดบริการจำนวนมากมาย เราสามารถเลือกลงทุนได้กับโบรกเกอร์ที่ให้บริการอย่าง Full options ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการการเทรดของเรา ทั้งนี้นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีการจดทะเบียนมีหน่วยงานควบคุมถูกต้องตามกฎหมาย

สรุป

การลงทุนในตลอดทองคำนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่น่าสนใจในช่วงสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเป็นอย่างมาก บทความนี้ทางผู้เขียนได้สรุปหลักการและเทคนิคการเล่นทองอย่างไรให้รวยในปี 2567 ที่คุณควรอ่านอย่างไรก็ดีนักลงทุนทุกท่านจะต้องประเมินความเสี่ยงของตัวเองก่อนทุกครั้ง เลือกกลยุทธ์วิธีการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง และหมั่นศนในตลาดทอง เพื่อที่จะสร้างกำไรได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้


*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
เทรดทองคำมือใหม่: คู่มือสู่ความสำเร็จในการลงทุนทองคำการเทรดทองคำเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามั่นคงและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ทำให้นักลงทุนจำนวนมากสนใจที่จะเริ่มต้นเทรดทองคำ บทความนี้ จะพาคุณเจาะลึกแง่มุมของการเทรดทองคำ ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคการทำกำไรสำหรับมือใหม่
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มิ.ย. 2023
การเทรดทองคำเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามั่นคงและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ทำให้นักลงทุนจำนวนมากสนใจที่จะเริ่มต้นเทรดทองคำ บทความนี้ จะพาคุณเจาะลึกแง่มุมของการเทรดทองคำ ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคการทำกำไรสำหรับมือใหม่
placeholder
แนวโน้มราคาทองคำในอนาคตปี 2567-2568ในช่วงปี 2567 ราคาทองคำได้พุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,790 ดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก แต่อะไรคือปัจจัย และแนวโน้มในอนาคตจะเป็นอย่างไร? บทความนี้ จะพาไปวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำในอนาคตอย่างละเอียด พร้อมคำแนะนำสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำ
ผู้เขียน  MitradeInsights
1 เดือน 04 วัน พฤหัส
ในช่วงปี 2567 ราคาทองคำได้พุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,790 ดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก แต่อะไรคือปัจจัย และแนวโน้มในอนาคตจะเป็นอย่างไร? บทความนี้ จะพาไปวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำในอนาคตอย่างละเอียด พร้อมคำแนะนำสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำ
placeholder
เทรดทองแอพไหนดี?แนะนำ 6 แอปเทรดทองที่นิยมใช้กันในปี 2567ทองคำเป็นตัวเลือกที่นักลงทุนให้ความสำคัญเสมอมา เราจะเลือกเทรดทองแอพไหนดี คราวนี้เราจะแนะนำ 6 แอพเทรดทองที่นิยมใช้กันในปี 2567!
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 07 มิ.ย. 2023
ทองคำเป็นตัวเลือกที่นักลงทุนให้ความสำคัญเสมอมา เราจะเลือกเทรดทองแอพไหนดี คราวนี้เราจะแนะนำ 6 แอพเทรดทองที่นิยมใช้กันในปี 2567!
placeholder
วิธีเทรดทอง Forex ให้ได้กำไร 2567การเทรดทอง Forex ได้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกเทคนิคการเทรดทอง Forex ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงกลยุทธ์ขั้นสูง พร้อมด้วยกรณีศึกษาจริงและเคล็ดลับจากเหล่าเซียนในวงการ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะนี่คือก้าวแรกสู่การเป็นนักเทรดทอง Forex มืออาชีพ
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มิ.ย. 2023
การเทรดทอง Forex ได้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกเทคนิคการเทรดทอง Forex ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงกลยุทธ์ขั้นสูง พร้อมด้วยกรณีศึกษาจริงและเคล็ดลับจากเหล่าเซียนในวงการ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะนี่คือก้าวแรกสู่การเป็นนักเทรดทอง Forex มืออาชีพ
placeholder
เงินเฟ้อแบบนี้จะออมทองดีไหม? แนะนำโปรแกรมออมทอง 2023ในกระแสคาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ทองคำกลายมาเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนควรมีติดพอร์ตไว้ แต่ทองคำแต่ละบาทนั้นก็มีราคาแพงในแบบที่คนทั่วไปหรือพนักงานกินเงินเดือนเข้าไม่ถึง ซึ่งจะดีกว่าไหมหากเราสามารถแบ่งเงินจำนวนไม่มากที่ออมในแต่ละเดือนมาลงทุนในทองคำโดยเน้นที่ความสม่ำเสมอของเงินลงทุน เพื่อให้ได้เงินก้อนในท้ายที่สุด และจะดียิ่งขึ้นหากเงินก้อนนั้นสามารถเพิ่มพูนกำไรจากราคาทองคำที่ปรับขึ้นในระยาวได้ด้วย และนี่คือโปรแกรมออมทองคำที่ใครกำลังลังเลว่าจะออมทองดีไหมต้องตามไปทำความรู้จักกัน
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มี.ค. 2023
ในกระแสคาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ทองคำกลายมาเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนควรมีติดพอร์ตไว้ แต่ทองคำแต่ละบาทนั้นก็มีราคาแพงในแบบที่คนทั่วไปหรือพนักงานกินเงินเดือนเข้าไม่ถึง ซึ่งจะดีกว่าไหมหากเราสามารถแบ่งเงินจำนวนไม่มากที่ออมในแต่ละเดือนมาลงทุนในทองคำโดยเน้นที่ความสม่ำเสมอของเงินลงทุน เพื่อให้ได้เงินก้อนในท้ายที่สุด และจะดียิ่งขึ้นหากเงินก้อนนั้นสามารถเพิ่มพูนกำไรจากราคาทองคำที่ปรับขึ้นในระยาวได้ด้วย และนี่คือโปรแกรมออมทองคำที่ใครกำลังลังเลว่าจะออมทองดีไหมต้องตามไปทำความรู้จักกัน
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์