วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 10 ต.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนกันยายน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ส่วนใหญ่สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% แม้ว่าจะมีสมาชิกบางส่วนที่ต้องการลดเพียง 0.25% ก็ตาม
เฟดเผยมุมมองเศรษฐกิจ ชี้ความเสี่ยงเงินเฟ้อลดลง แต่ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง
รายงานการประชุม FOMC เผยว่าเจ้าหน้าที่เกือบทั้งหมดมองว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง ในขณะที่ความเสี่ยงต่อตลาดแรงงานยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่ง โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าความเสี่ยงต่อการบรรลุเป้าหมายทั้งสองของเฟด ทั้งในด้านเสถียรภาพราคาและการจ้างงานเต็มที่อยู่ในระดับที่สมดุลมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกบางส่วนที่ยังไม่เห็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อการอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญของสภาวะตลาดแรงงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ข้อมูลนี้ส่งผลให้ตลาดปรับลดความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดย CME FedWatch Tool แสดงให้เห็นว่าโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ลดลงจาก 85.2% เมื่อวันก่อนหน้า เหลือเพียง 75.9% ขณะที่โอกาสที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เพิ่มขึ้นจาก 14.8% เป็น 24.1%
เฟดเริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่ยังระมัดระวัง
ในการประชุมเดือนที่แล้ว เฟดได้เริ่มต้นวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินใหม่ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% และส่งสัญญาณว่าคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงเหลือ 3% ภายในปี 2026 อย่างไรก็ตาม รายงานการประชุมแสดงให้เห็นถึงการพูดคุยที่ละเอียดอ่อนมากขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน
ตามรายงานการประชุม สมาชิกบางส่วนเห็นว่าการลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จะสอดคล้องกับเส้นทางการปรับนโยบายที่ค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายมีเวลาประเมินระดับความเข้มงวดของนโยบายในขณะที่เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกบางส่วนเสริมว่าการปรับลด 0.25% อาจส่งสัญญาณถึงเส้นทางการปรับนโยบายที่คาดการณ์ได้มากขึ้น
ประธานเฟด Jerome Powell ได้แสดงความเห็นว่าต้องการให้มีการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น โดยเขาได้อธิบายถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยว่าเป็นการ “ปรับเทียบใหม่” (recalibration) ของนโยบายการเงิน ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นที่ปรากฏในรายงานการประชุม
รายงานระบุว่า “ในการหารือเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงิน ผู้เข้าร่วมประชุมคาดการณ์ว่าหากข้อมูลเป็นไปตามที่คาดไว้ โดยที่เงินเฟ้อลดลงสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจอยู่ใกล้การจ้างงานเต็มที่ ก็น่าจะเหมาะสมที่จะเคลื่อนไปสู่จุดยืนนโยบายที่เป็นกลางมากขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง ผู้เข้าร่วมประชุมเน้นย้ำว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องสื่อสารว่าการปรับนโยบายในการประชุมครั้งนี้ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นหลักฐานของแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อ หรือเป็นสัญญาณว่าอัตราการผ่อนคลายนโยบายจะเร็วกว่าการประเมินเส้นทางที่เหมาะสมของผู้เข้าร่วมประชุม”
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่ง ดอลลาร์แข็งค่า กดดันราคาทองคำ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.5 basis points แตะระดับ 4.062% ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ (DXY) เพิ่มขึ้น 0.42% แตะระดับ 102.90 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม 2024
การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่งผลกดดันต่อราคาทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ใช้สกุลเงินอื่น ซึ่งอาจส่งผลให้อุปสงค์ลดลง
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้นักลงทุนจับตามองการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index หรือ CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้อย่างใกล้ชิด โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจส่งผลให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ
นักวิเคราะห์คาด ทองคำปรับฐานระยะสั้น แต่ยังมีปัจจัยหนุนในระยะยาว
Diego Cacciapuoti นักเศรษฐศาสตร์จาก Oxford Economics ให้ความเห็นว่าการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำอาจชะลอตัวลงในระยะสั้น แต่ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจะยังคงสนับสนุนให้ราคาทองคำอยู่ในระดับสูงในปี 2025 และต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของธนาคารกลางในตลาดเกิดใหม่และธนาคารกลางจีน (PBoC)
Cacciapuoti กล่าวว่า “หลังจากที่เราคาดการณ์การปรับฐานของราคาในเดือนธันวาคม 2023 ได้อย่างถูกต้อง เราได้แสดงความเห็นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับศักยภาพในการปรับตัวขึ้นของทองคำ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และในต้นเดือนกรกฎาคม เราได้เปิดสถานะซื้อทองคำอีกครั้ง เนื่องจากธนาคารกลางในตลาดเกิดใหม่และ PBoC ได้วางรากฐานสำหรับแนวโน้มที่เอื้ออำนวยอย่างมาก”
อย่างไรก็ตาม Cacciapuoti เตือนว่าราคาทองคำอาจเผชิญกับการปรับฐานในระยะใกล้ เนื่องจากการปรับตัวขึ้นที่ผ่านมาได้รับแรงหนุนจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน
นักเศรษฐศาสตร์จาก Oxford Economics ยังเสริมว่า ความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงและราคาทองคำได้หยุดชะงักในช่วงครึ่งแรกของปี 2024
“ในช่วงเวลานั้น นักลงทุนให้ความสนใจกับแนวโน้มเงินเฟ้อที่น่ากังวล และซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการที่เงินเฟ้ออาจฝังรากลึกในระยะยาว นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวจีนยังโยกเงินออมส่วนตัวจากตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นที่ซบเซาไปสู่ทองคำ”
Cacciapuoti กล่าวว่าปัจจัยเหล่านี้ รวมถึงการซื้อทองคำที่แข็งแกร่งของธนาคารกลาง สามารถสนับสนุนราคาทองคำและผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นแม้ว่าอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
นักวิเคราะห์จาก Oxford Economics คาดการณ์ว่าการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในระยะสั้นจะเป็นไปได้ยาก ซึ่งอาจทำให้แรงสนับสนุนราคาทองคำลดลงชั่วคราว
ด้วยเหตุนี้ Oxford Economics จึงคาดว่าราคาทองคำจะเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น และอาจมีการทำกำไรบางส่วน อย่างไรก็ตาม Cacciapuoti ยังคงมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะยาว โดยเชื่อว่าหลังจากที่ราคาปรับฐานลงตามปัจจัยพื้นฐาน ทองคำจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
นอกจากนี้ Oxford Economics ยังเชื่อว่าการซื้อทองคำของรัฐบาล โดยเฉพาะจีนจะยังคงเป็นปัจจัยโครงสร้างที่สนับสนุนราคาทองคำต่อไป เพราะการเพิ่มขึ้นเพียง 1% ในทองสำรองทางการก็สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาทองคำได้
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำปัจจุบันอยู่ที่ $2,608 แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับสูงสุดในช่วงก่อนหน้า โดยมีแท่งเทียนสีแดงขนาดใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขายที่เข้ามาอย่างหนักในตลาด การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ราคาทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 12 (สีแดง) และ EMA 26 (สีฟ้า) ลงมา สะท้อนถึงแนวโน้มขาลงในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ราคาได้เริ่มแสดงสัญญาณการชะลอตัวของแรงขายเมื่อเข้าใกล้แนวรับสำคัญที่ $2,600 ซึ่งเป็นระดับที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ อาจเป็นสัญญาณของการฟื้นตัวในระยะสั้น โดยมีแนวต้านแรกที่ $2,613 และถัดไปที่ $2,633
ดัชนี RSI มุ่งหน้าเข้าสู่เขต Oversold แสดงให้เห็นว่าราคาอาจปรับตัวลงมามากเกินไปในระยะสั้น และมีโอกาสที่จะเกิดการฟื้นตัวทางเทคนิค อย่างไรก็ดี เรายังไม่เห็นสัญญาณการ Divergence ที่ชัดเจน ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงยังคงมีกำลังอยู่
ในภาพรวม แนวโน้มระยะกลางถึงยาวของทองคำยังคงเป็นขาขึ้น โดยสังเกตจากราคาที่ยังอยู่เหนือเส้น EMA 200 (สีส้ม) แต่ในระยะสั้น ตลาดกำลังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาบริเวณแนวรับ $2,600 อย่างใกล้ชิด หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพื่อการลงทุนระยะสั้น แต่หากราคาหลุดต่ำกว่าระดับนี้ อาจต้องระวังการปรับตัวลงต่อเนื่องไปยังแนวรับถัดไปที่ $2,584 ซึ่งจะเป็นแนวเส้น EMA 200
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,600
$2,584
$2,554
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,613
$2,633
$2,657
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน