วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 23 ต.ค. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 23 ตุลาคม 2567 ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และทำสถิติสูงสุดใหม่ ที่ระดับ $2,749 ซึ่งเกือบแตะระดับจิตวิทยาที่ $2,750 โดยมีปัจจัยหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความคาดหวังว่า Federal Reserve (เฟด) จะยังคงลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง

ความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม นับตั้งแต่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 basis points ในการประชุมวันที่ 18 กันยายน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีได้เพิ่มขึ้น 62 bps สู่ระดับ 4.20% สะท้อนว่านักลงทุนกำลังคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินมากเท่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ความกังวลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กระตุ้นการเก็งกำไรในตลาดทองคำ

นักวิเคราะห์จาก TD Securities ระบุว่า ตลาดการเงินกำลังให้น้ำหนักกับโอกาสที่ Donald Trump จะชนะการเลือกตั้ง เนื่องจากอดีตประธานาธิบดีได้แสดงจุดยืนเกี่ยวกับการเพิ่มภาษีนำเข้าและจำกัดการเข้าเมืองผิดกฎหมาย ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงิน โดย Mary Daly ประธานเฟดสาขา San Francisco สนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปและยังไม่เห็นเหตุผลที่จะหยุดการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในทางตรงกันข้าม Jeffrey Schmid ประธานเฟดสาขา Kansas City กลับมีท่าทีระมัดระวังมากกว่า โดยต้องการหลีกเลี่ยงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่และมองว่าตลาดแรงงานกำลังเข้าสู่ภาวะปกติมากกว่าจะทรุดตัวลง

ปัจจุบันนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 42 basis points ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสะท้อนว่าโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 basis points ในการประชุมสองครั้งถัดไปนั้นยังไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงคาดการณ์อย่างหนักแน่นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 basis points ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน โดยมีโอกาสถึง 89.6% ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool

IMF เตือนความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น หนุนราคาทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

International Monetary Fund (IMF) ได้ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจล่าสุด คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.2% ในปี 2025 เท่ากับปี 2024 นักวิเคราะห์มองว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะมีเสถียรภาพแต่ไม่น่าตื่นเต้น แม้ว่าธนาคารกลางต่างๆ จะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้และมีโอกาสที่เศรษฐกิจจะ Soft Landing แต่โลกยังเผชิญกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น

IMF ได้ระบุในรายงานว่าความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกยังคงเอนเอียงไปทางด้านลบ โดยมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญได้แก่ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจปะทุขึ้น ความผันผวนในตลาดการเงินที่อาจทำให้เงื่อนไขทางการเงินตึงตัวขึ้นอย่างฉับพลัน ปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อการค้าโลก รวมถึงแนวโน้มการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นและการแยกตัวทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

นักวิเคราะห์ชี้โอกาสทองทะลุ $3,000 ในปี 2025

Joni Teves นักกลยุทธ์ด้านโลหะมีค่าของ UBS แสดงมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองในปีหน้า โดยคาดว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดจะยังคงสนับสนุนราคาทอง ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจากการซื้อทองคำของธนาคารกลางที่จะยังคงดำเนินต่อไป และอุปสงค์ทางกายภาพที่จะยังคงแข็งแกร่งแม้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้น

UBS เชื่อว่านักลงทุนยังมีพื้นที่เพียงพอในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในทองคำ โดยตั้งเป้าราคาทองสิ้นปีนี้ที่ $2,800 และคาดว่าจะแตะระดับ $3,000 ในปีหน้า Teves ระบุว่าด้วยความไม่แน่นอนที่มีอยู่มากระหว่างนี้จนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่ ราคาทองอาจมีความผันผวนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นบวก

Teves ยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับบทความใน Financial Times โดย Mohamed El-Erian อดีต CEO ของ Pimco และหนึ่งในเสียงที่ได้รับการเคารพมากที่สุดในวงการการเงินระหว่างประเทศ ที่ชี้ให้เห็นถึงการแยกตัวของราคาทองจากปัจจัยขับเคลื่อนแบบดั้งเดิมและสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กัน โดยเธอระบุว่าการซื้อทองคำของธนาคารกลางได้สนับสนุนตลาดทองคำในช่วงสองปีที่ผ่านมา หลังจากการคว่ำบาตรธนาคารกลางรัสเซีย และอุปสงค์ทางกายภาพโดยเฉพาะในช่วงต้นปีที่แข็งแกร่งมากได้ช่วยค้ำจุนตลาด

ความกังวลเรื่องผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ อาจหนุนราคาทองต่อเนื่อง

Daniel Ghali นักกลยุทธ์อาวุโสด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities มองว่าแม้ปัจจัยขับเคลื่อนในตลาดทองคำจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเพิ่มสัดส่วนการลงทุน และความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ และต่างประเทศจะสร้างแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่งให้กับราคาทองที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ Ghali กล่าวว่าสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการปรับตัวขึ้นของราคาทองในปัจจุบันคือ แทบจะไม่พบหลักฐานของกระแสเงินทุนไหลเข้าลงทุนในทองคำอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดทองคำตามการวิเคราะห์ของเขากำลังถือครองทองคำในปริมาณที่สูงมากเมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ ขณะที่ตลาดทองคำทางกายภาพแทบจะหยุดนิ่ง สิ่งที่ตลาดทองคำกำลังบอกเราคือมีความวิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับฤดูกาลเลือกตั้งของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง

“อาจไม่ใช่เรื่องของเงินทุนจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่ทองคำ แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมากที่จะขายทองในช่วงการเลือกตั้งครั้งนี้” Ghali กล่าวเสริม พร้อมชี้ว่าผู้เล่นในตลาดลังเลที่จะขายในสภาพแวดล้อมที่มีแรงส่งขาขึ้นที่แข็งแกร่งเช่นนี้ และมีหลายปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ธนาคารกลางได้เป็นองค์ประกอบสำคัญของการปรับตัวขึ้นของราคาทองที่ทำสถิติสูงสุด แต่ความแข็งแกร่งของแนวโน้มนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างดุเดือด Ghali กล่าวว่าตามข้อมูลทางการ กิจกรรมการซื้อของธนาคารกลางโดยเฉลี่ยเคลื่อนที่ 6 เดือนได้ปรับตัวลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ดังนั้นเรื่องราวมากมายที่คุณได้ยินในตลาดทองคำจึงกำลังเปลี่ยนแปลง แต่เรายังไม่เห็นกิจกรรมการขายที่คุณมักจะคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น อาจเป็นเพราะฤดูกาลเลือกตั้งของสหรัฐฯ

เมื่อถูกถามถึงมุมมองต่อการเลือกตั้งสหรัฐฯ และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับราคาทองหากผลการเลือกตั้งยังไม่ได้ข้อสรุปหรือมีข้อพิพาทในวันหลังจากวันที่ 5 พฤศจิกายน Ghali กล่าวว่าเราสามารถคาดหวังความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญได้ สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ว่าราคาทองอาจปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนดังกล่าว แน่นอนว่านักเก็งกำไรจำนวนมากที่มองทองคำจะไม่เต็มใจขายทองในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ แม้ว่าปัจจัยอื่นๆ อาจมีแนวโน้มไปในทิศทางนั้น ไม่ว่าจะเป็นการที่การเป็นประธานาธิบดีของ Trump อาจหมายถึงเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในอนาคต หรือการทบทวนมุมมองต่อเฟดอันเป็นผลมาจากสิ่งนั้น แต่ถ้าการเลือกตั้งสหรัฐฯ มีการโต้แย้ง ก็จะทำให้การขายเหล่านี้ล่าช้าออกไป คำถามที่ Ghali ยังมีอยู่ในใจคือ สิ่งนี้จะสร้างอุปสงค์ที่ถูกกดไว้ในการขายทองหลังฤดูกาลเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ยังต้องรอดูกันต่อไป

ราคาทองคำยังคงแสดงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยเคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้ง EMA 12 (สีแดง), EMA 26 (สีฟ้า) และ EMA 200 (สีส้ม) ซึ่งเป็นสัญญาณบวกในระยะสั้นถึงกลาง โดยล่าสุดราคาได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ $2,749 แต่ก็ยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ $2,740 ได้อย่างมั่นคง

การวิเคราะห์ RSI พบว่าดัชนีเข้าสู่เขต Overbought เหนือระดับ 70 และแสดงสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจเกิดการพักฐานในระยะสั้น โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ $2,732 และ $2,717 ตามลำดับ

ในระยะ 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบระหว่าง $2,717 - $2,750 โดยหากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้าน $2,740 ได้อย่างมั่นคง อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $2,750 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเข้ามา เนื่องจาก RSI อยู่ในเขต Overbought และมีสัญญาณ Divergence

แนะนำให้ติดตามการทดสอบแนวต้าน $2,740 อย่างใกล้ชิด หากไม่สามารถผ่านได้ ราคาอาจย่อตัวลงทดสอบแนวรับที่ $2,717 ก่อน แต่ตราบใดที่ยังยืนเหนือ EMA 12 และ EMA 26 ได้ แนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางยังคงแข็งแกร่ง

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,732

• $2,717

• $2,685

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,740

• $2,750

• $2,760