วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 27 ธ.ค. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ตลาดการเงินทั่วโลกเริ่มต้นการซื้อขายในช่วงหลังเทศกาลคริสต์มาสด้วยความเคลื่อนไหวที่จำกัด แต่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำกลับได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้า โดยราคาทองคำปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 2,630 ดอลลาร์ต่อออนซ์

การเคลื่อนไหวของตลาดต่างๆ ยังคงไร้ทิศทางที่ชัดเจน สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งเป็นภาพที่สอดคล้องกับรูปแบบการซื้อขายในช่วงหลังเทศกาลคริสต์มาสที่มักมีปริมาณการซื้อขายต่ำที่สุดของปีสำหรับตลาดหุ้นและตลาดการเงินอื่นๆ

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐยังคงทรงตัวแสดงถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อค่าเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินหลักของโลก ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของตลาดตราสารหนี้ อยู่ที่ระดับ 4.629% สะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดต่อทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในระยะข้างหน้า

เศรษฐกิจจีนส่อแววฟื้นตัว World Bank ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโต แม้ยังมีความท้าทายในภาคอสังหาริมทรัพย์

ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ธนาคารโลก (World Bank) ได้ส่งสัญญาณเชิงบวกด้วยการปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนสำหรับปี 2024 และ 2025 การปรับประมาณการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนและการฟื้นตัวของภาคการส่งออก แม้ว่าจะยังมีปัจจัยท้าทายจากความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงปัญหาที่ยังคงดำเนินอยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์

การผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลังล่าสุดของทางการจีน ประกอบกับแนวโน้มการส่งออกที่แข็งแกร่งในระยะสั้น ได้ส่งผลให้ธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปีนี้เป็น 4.9% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.8% ในเดือนมิถุนายน การปรับเพิ่มประมาณการณ์นี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนเริ่มส่งผลในเชิงบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2025 จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 4.5% สะท้อนถึงความท้าทายในระยะยาวที่เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจากการพึ่งพาการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ไปสู่การขับเคลื่อน

ตลาดแรงงานสหรัฐส่งสัญญาณอ่อนแอ กดดันการตัดสินใจของ Fed ในปี 2025

ตัวเลขการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวของตลาดแรงงาน โดยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ธันวาคม อยู่ที่ 219,000 ราย แม้จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 218,000 ราย สะท้อนถึงแนวโน้มการชะลอตัวของการจ้างงานในตลาดแรงงานสหรัฐฯ

นอกจากนี้ จำนวนผู้รับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง (Continuing Jobless Claims) ซึ่งสะท้อนถึงจำนวนผู้ว่างงานที่ยังคงได้รับสวัสดิการอย่างต่อเนื่อง ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ธันวาคม อยู่ที่ 1.910 ล้านราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.875 ล้านราย และสูงกว่าตัวเลขของสัปดาห์ก่อนหน้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ที่ 1.864 ล้านราย ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่าผู้ว่างงานในสหรัฐฯ ใช้เวลานานขึ้นในการหางานใหม่

Fed เผชิญความท้าทายในการดำเนินนโยบายการเงินปี 2025 ท่ามกลางแรงกดดันทางการเมือง

ในขณะที่ตลาดการเงินจับตาทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) Julia Khandoshko ซีอีโอของบริษัทโบรกเกอร์ยุโรป Mind Money ได้แสดงความมั่นใจว่าราคาทองคำจะทะยานขึ้นทำลายสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยสำคัญมาจากความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ

แม้ว่าราคาทองคำจะเผชิญแรงกดดันในช่วงที่ผ่านมาจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของ Fed ที่ 2% แต่ Khandoshko มองว่าความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed จะมีข้อจำกัดมากขึ้นในปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้บริบททางการเมืองที่อาจเปลี่ยนแปลงไปหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ในการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปี 2024 Fed ได้ส่งสัญญาณในการประมาณการณ์ทางเศรษฐกิจฉบับปรับปรุงว่าคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงสองครั้งในปี 2025 ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่สี่ครั้ง อย่างไรก็ตาม Khandoshko เชื่อว่า Fed อาจต้องดำเนินนโยบายที่ผ่อนคลายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

“ดูเหมือนว่า Fed กำลังตกเป็นเหยื่อของนโยบายของ Donald Trump ในอดีตที่ผ่านมา Jerome Powell มีความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่รุนแรง โดยให้เหตุผลว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเพียงเครื่องมือ ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย” Khandoshko กล่าว

นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากขึ้นเริ่มแสดงความกังวลว่า Fed กำลังเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทายมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดแรงงานแสดงสัญญาณชะลอตัวชัดเจน ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย สถานการณ์ดังกล่าวอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยพร้อมเงินเฟ้อ (Stagflation) ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงในสภาพแวดล้อมที่การเติบโตชะลอตัวจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (Real yields) ปรับตัวลดลง

ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าซื้อทองคำต่อเนื่อง หนุนราคาทะลุ 3,000 ดอลลาร์

ตัวชี้วัดใหม่ที่น่าสนใจในตลาดทองคำคือบทบาทที่เพิ่มขึ้นของธนาคารกลางทั่วโลก โดยนักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ชี้ว่าการซื้อทองคำของธนาคารกลาง (Central Bank Gold Purchases) ได้เปลี่ยนแปลงพื้นฐานของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอุปสงค์และอุปทาน

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางจะยังคงเดินหน้ากระจายการลงทุนออกจากดอลลาร์สหรัฐและเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ แนวโน้มดังกล่าวจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ที่มีต่อราคาทองคำ โดยการประมาณการณ์ล่าสุดระบุว่าความต้องการทองคำจากธนาคารกลางในปี 2025 จะยังคงอยู่เหนือค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 500 ตัน

การเพิ่มขึ้นของการถือครองทองคำโดยธนาคารกลางสะท้อนถึงความพยายามในการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐในระบบการเงินโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์และผลกระทบจากการคว่ำบาตรทางการเงิน นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของระบบการเงินโลกในระยะยาว ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางเพิ่มการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ไม่มีความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk)

จากการวิเคราะห์กราฟราคาทองคำล่าสุด เราเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยราคาทองคำได้เคลื่อนไหวสูงขึ้นมาที่ระดับ $2,630 ซึ่งเป็นการทดสอบแนวต้านสำคัญที่ $2,633 โดยมีสัญญาณทางเทคนิคเชิงบวกหลายประการสนับสนุน

เมื่อพิจารณาการเคลื่อนไหวของเส้นค่าเฉลี่ย เราได้เห็นการเกิดสัญญาณ Golden Cross ที่สำคัญ จากการที่เส้น EMA 12 ได้ตัดขึ้นเหนือเส้น EMA 26 ซึ่งโดยปกติเป็นสัญญาณที่บ่งชี้การเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น ความน่าสนใจของการตัดกันครั้งนี้คือเกิดขึ้นพร้อมกับการที่ราคากำลังทดสอบแนวต้านสำคัญ และทั้งสองเส้นเริ่มมีความชันขึ้น สะท้อนถึงแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นในตลาด อย่างไรก็ตาม เส้น EMA 200 ยังคงอยู่เหนือราคาและมีความชันลง ซึ่งเป็นการยืนยันว่าแนวโน้มขาลงในระยะกลางยังไม่เปลี่ยนแปลง

ในส่วนของดัชนีทางเทคนิค เห็นการปรับตัวขึ้นของ RSI ที่เคลื่อนตัวเหนือระดับ 50 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับ Stochastic RSI ที่กำลังไต่ระดับขึ้น สะท้อนว่าแรงซื้อกำลังมีพลังมากกว่าแรงขายในระยะสั้น การที่ดัชนีทั้งสองให้สัญญาณไปในทิศทางเดียวกันเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือของสัญญาณการฟื้นตัว

สำหรับมุมมอง 24 ชั่วโมงข้างหน้า ราคามีโอกาสที่จะทดสอบแนวต้านสำคัญที่ $2,633 อีกครั้ง โดยหากสามารถผ่านระดับนี้ไปได้พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ราคาอาจมุ่งหน้าสู่แนวต้านถัดไปที่ $2,645 และ $2,660 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้ ราคาอาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ $2,621

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,621

• $2,603

• $2,582

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,632

• $2,645

• $2,656