วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 1 พ.ย. 2566

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >      

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $1,979 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $1,987.95

ราคาทองคำเจอกับแรงเทขายหลังจากที่ไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ $2,000 ได้ โดยเป็นการปรับตัวลดลงก่อนผลการประชุม FOMC จะออกมาภายในค่ำคืนนี้ ขณะที่สงครามของอิสราเอลกับฮามาสยังคงอยู่ภายในขอบเขตของฉนวนกาซา แต่ดูเหมือนโลกกำลังปรับตัวเข้ากับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจจะทำให้ทองคำสูญเสียเสน่ห์ในฐานะสินทรัพย์อันปลอดภัยไป

ราคาทองคำไม่สามารถยืนบนแนวรับที่ $2,000 ดอลลาร์ได้ เนื่องจากโฟกัสกลับมาที่นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐอีกครั้ง ซึ่งสนับสนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นอยู่ในระดับ 5%

Ricardo Evangelista นักวิเคราะห์อาวุโสของ ActivTrades ตั้งข้อสังเกตว่าทองคำยังคงอยู่ในภาวะถูกชักเย่อกับตลาด โดยได้แรงสนับสนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ กับได้แรงกดดันจากจุดยืนนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐ

“ความขัดแย้งในฉนวนกาซายังคงเป็นที่น่าสนใจ และในขณะที่การรุกรานทางภาคพื้นดินของอิสราเอลดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นต่อไป ตลาดการเงินยังคงปรับราคาต่อไปโดยคาดถึงความเสี่ยงที่จะยกระดับขึ้น ซึ่งผลักดันความต้องการทองคำ” เขากล่าว

“ในขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ โดยดัชนีที่วัดผลการดำเนินงานใกล้กับระดับสูงสุดสองปี โดยแตะระดับสูงสุดในช่วงต้นเดือน 

ธนาคารกลางสหรัฐกำลังประชุม และยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่บ้างว่าประธาน Jerome Powell และเพื่อนร่วมงานของเขาจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหรือไม่ ความไม่แน่นอนนี้ทำให้ดอลลาร์ได้รับการสนับสนุน รวมถึงอัตราผลตอบแทนคลังให้อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นอุปสรรคโดยตรงต่อราคาทองคำ”

ตลาดคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมภายหลังการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีความคาดการณ์เพิ่มมากขึ้นว่าธนาคารกลางจะสามารถคงอัตราดอกเบี้ยแบบจำกัดไว้ได้จนถึงครึ่งแรกของปี 2024 เท่านั้น

“Fed มีแนวโน้มที่จะคงนโยบายที่เข้มงวดเอาไว้ ซึ่งสอดคล้องกับแผนเมื่อเดือนกันยายน” นักวิเคราะห์ตราสารหนี้จาก TD Securities กล่าว 

“อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการย้ำว่ามีเป้าหมายที่จะ “ดำเนินการอย่างระมัดระวัง” ในขณะที่กำหนดขั้นตอนนโยบายต่อไป”

นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ Commerzbank กล่าวว่าคำพูดใดๆ จากประธานธนาคารกลางสหรัฐ Jerome Powell ที่ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่บนโต๊ะในการประชุมเดือนธันวาคม อาจสร้างแรงกดดันให้กับทองคำมากขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้

พวกเขาเสริมว่าตลาดกำลังจับตามองข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ เพื่อหาสัญญาณการซบเซาในตลาด

“หากครั้งนี้ Fed คงอัตราดอกเบี้ยไว้อีกครั้ง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนธันวาคมก็อาจมีแนวโน้มมากขึ้น เป็นเรื่องจริงที่การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยมีอิทธิพลน้อยลงกับราคาทองคำในช่วงหลังๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะมีผลตลอดไป” นักวิเคราะห์กล่าว “ดังนั้นเราจึงขอเตือนไม่ให้ปักใจ การขึ้นลงของทองคำที่เราเห็นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาจะดำเนินต่อไป ซึ่งมันเกิดขึ้นเพราะสถานการณ์พิเศษ (ความไม่สงบ)”

Alex Kuptsikevich นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ FxPro กล่าวว่า ทองคำเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากลำบาก เนื่องจากแนวต้านที่ 2,000 ดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่ง

Kuptsikevich เสริมว่าด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอยู่ที่ประมาณ 5% นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ซึ่งจะดูดเงินลงทุนออกจากทองคำ

“ในขณะที่ธนาคารกลางหลักๆ จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เปลี่ยนจากโหมดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบดุดันไปเป็นแนวทางแบบเฝ้าจับตาดู และช่วงเวลาแห่งการกลับตัวของนโยบายก็กำลังใกล้เข้ามา สิ่งนี้เพิ่มความน่าดึงดูดใจของพันธบัตรอายุยืน ซึ่งเป็นคู่แข่งหลักของทองคำ” เขากล่าว “อัตราผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจของพันธบัตรรัฐบาลทำให้เกิดการขายทองคำในสถานการณ์ปัจจุบัน”

ในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน เขากล่าวว่ามีแนวโน้มมากขึ้นที่ทองคำจะกลับลงมาใกล้ระดับ $1,800 มากกว่าที่จะขึ้นไปที่ $3,000

นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า หากทองคำต้องการรักษาโมเมนตัมในปัจจุบันไว้ ราคาจะต้องทะลุเหนือ $2,000 อย่างเด็ดขาด

“ถึงแม้จะมีการเคลื่อนไหวช่วงสั้น ๆ เหนือระดับจิตวิทยาที่สำคัญนี้ แต่นั่นก็ยังไม่ช่วยอะไรในขณะนี้” Craig Erlam นักวิเคราะห์ตลาดยุโรปอาวุโสของ OANDA กล่าว 

“นั่นตอกย้ำว่าระดับแนวต้านนี้ใหญ่แค่ไหนและหากสามารถทำได้ ราคาก็จะเคลื่อนตัวไปอย่างมีนัยสำคัญ และผลที่ตามมาก็คืออาจเร่งความเร็วจนสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้”

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตอนนี้อยู่ที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ 

ยังคงมีโอกาสที่ผู้กำหนดนโยบายจะเคลื่อนไหวเรื่องอัตราดอกเบี้ยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ข้อมูลล่าสุดได้ซื้อเวลาให้กับเจ้าหน้าที่ของ Fed ในการตัดสินใจก้าวต่อไป อัตราเงินเฟ้อแม้จะชะลอตัวลง แต่ก็ยังสูงเกินไป และเศรษฐกิจก็เติบโตในอัตราที่มั่นคง แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานจะสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นศตวรรษก็ตาม

สิ่งที่นักลงทุนจะจับตามองคือสัญญาณที่มาจากประธาน Jerome Powell และคนอื่นๆ ของคณะกรรมการเกี่ยวกับทิศทางที่พวกเขากำลังมุ่งสู่อนาคต

“ไม่มีความเป็นไปได้ที่ Fed จะทำอะไรตอนนี้ ซึ่งมันสมเหตุสมผลที่จะทำในการประชุมครั้งนี้ แต่ข้อความที่จะสื่อออกมาคืออะไร” Josh Emanuel หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ Wilshire กล่าว 

“ความรู้สึกของผมคือ Powell จะต้องการวัดผลให้มากขึ้นและระมัดระวังเกี่ยวกับการพูดที่ดูประหม่าเกินไป”

แม้ว่า Jerome Powell จะพยายามเดินบนเส้นแบ่งระหว่างการยืนหยัดต่ออัตราเงินเฟ้อในขณะที่ปรับให้เข้ากับผลกระทบที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมีต่อเศรษฐกิจ แต่ตลาดก็มีความอ่อนไหว

แม้ว่าราคาทองคำจะดูแข็งแกร่งขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ราคากลับพลิกผันตลอด ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังก็ลอยอยู่เหนือระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของวิกฤตการเงิน

เนื่องจากความกลัวส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ และ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ได้นานแค่ไหน ซึ่งการแถลงข่าวหลังการประชุมของ Powell รวมถึงคำแถลงของ FOMC ก็สามารถขับเคลื่อนตลาดได้

“สิ่งสุดท้ายที่ Jerome Powell ต้องทำคือการลดความผิดพลาดโดยไม่ให้มีท่าทีที่ประหม่าเกินไป เพราะผลกระทบจะทำให้คุณมองเห็นสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความเสี่ยง คุณเริ่มเห็นการพังทลายทางเทคนิคเล็กน้อยในตลาดแล้ว” Emanuel กล่าว

David Doyle หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ Macquarie Asset Management กล่าวว่า Fed มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แม้ว่า GDP และการจ้างงานจะเร่งขึ้นก็ตาม แต่ความคิดเห็นของ Jerome Powell  อาจทำให้ตลาดเคลื่อนไหวมากกว่าแถลงการณ์ของ FOMC 

โดยเสริมว่าตลาดจะจับตาดูมุมมองของประธานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล นอกจากนี้เขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ขณะนี้ Fed จะได้เห็นการสำรวจเจ้าหน้าที่สินเชื่ออาวุโสรายไตรมาส ซึ่งจะประเมินว่าเงื่อนไขการให้สินเชื่อของธนาคารมีความเข้มงวดเพียงใด

ตลาดคาดการณ์ว่าแทบจะเป็นไม่ได้ที่จะมีความเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และความน่าจะเป็นเพียง 29% ที่จะเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม ตามการวัดราคาล่วงหน้าของ FedWatch ของ CME โดยเห็นว่าการปรับลดครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน

อย่างไรก็ตาม ตลาดบางส่วนคิดว่า Fed อาจถูกบังคับให้ขึ้นอัตราอีกครั้งเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงแข็งแกร่ง

Fed มีแนวโน้ม “จะไม่ส่งสัญญาณว่ากำลังดำเนินนโยบายที่เข้มงวดขึ้น” Matthew Ryan หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของ Ebury กล่าว

“เรายังคงเห็นว่าการเพิ่มอัตราอีกครั้งไม่น่าเป็นไปได้ในรอบปัจจุบัน” เขากล่าว “แต่เพื่อการประนีประนอม เราคิดว่า Fed จะเน้นย้ำว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ โดยจะเริ่มผ่อนคลายอย่างไม่ช้ากว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2024”

แนวต้านบริเวณ $2,000 ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อราคาทองคำ และส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากสูญเสียโมเมนตัมมาก่อนหน้านี้ และความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในค่ำคืนนี้จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้คาดการณ์ได้ว่าราคาทองคำจะมีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบ $2,000 อีกครั้ง หรือจะจบรอบและเกิดการปรับฐานในเร็วๆ นี้

เมื่อใช้ Fibonacci วัดสัดส่วนของราคาตั้งแต่ $1,810 ถึง $2,009 จะเห็นแนวรับของการย่อตัวทองคำอยู่ที่บริเวณ $1,962 เป็นบริเวณแรก

อย่างไรก็ตาม หากนี่เป็นการย่อตัวเพื่อปรับฐานจริง เป้าหมายของการลงครั้งนี้จะอยู่ที่ Fibonacci ที่ 61.8 - 88.7% ซึ่งจะอยู่ที่บริเวณ $1,886 - $1,832

ในขณะที่แนวต้านในวันนี้จะมีอยู่ในช่วง $1,987 - $1,990 ที่จะเป็นจุดบรรจบของเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 และ 26 

โดยมีเป้าหมายสำคัญถัดไปที่บริเวณ $2,000 ซึ่งยังคงเป็นอุปสรรค

กราฟทองคำ ระดับ 4 ชั่วโมง

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $1,980 - $1,962

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $1,987 - $1,990 และ $2,000