วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 31 ม.ค. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >      

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,033.52 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $2,051.4

ราคาทองคำยังคงพยายามทรงตัว ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลง ถึงแม้ข้อมูลเศรษฐกิจเน้นย้ำถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเกิด “การลงจอดอย่างนุ่มนวล” ซึ่งนั่นควรจะเป็นผลลบต่อทองคำ แต่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยหนุนทองคำอีกฝั่งหนึ่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุในรายงาน JOLTS เมื่อวันอังคารว่า การเปิดรับสมัครงานซึ่งเป็นการวัดความต้องการแรงงาน เพิ่มขึ้นเป็น 9.03 ล้านราย ณ วันสุดท้ายของเดือนธันวาคม โดยค่อนข้างไม่เปลี่ยนแปลงจากข้อมูลในเดือนพฤศจิกายนที่ 8.93 ล้าน 

“ตลอดทั้งเดือน อัตราไม่เปลี่ยนแปลงที่ 5.4 เปอร์เซ็นต์” รายงานระบุ

ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ที่สมัครใจลาออกจากงานลดลงเหลือ 3.4 ล้านคน ต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี องค์ประกอบของรายงานนี้ลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์บางคนระบุว่าชาวอเมริกันรู้สึกไม่มั่นใจในความสามารถในการหางานอื่นในตลาดปัจจุบัน หรืองานใหม่ที่ได้รับค่าตอบแทนดีกว่า

ขณะนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่ค่ำคืนนี้ ทันทีหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปิดการประชุมในสัปดาห์นี้ ความสนใจจะไปอยู่ที่ถ้อยคำหลังจากนั้นที่อาจจะสามารถให้เบาะแสของนโยบายการเงินได้

ในแถลงการณ์หลังการประชุม คาดว่าธนาคารกลางจะเบาะแสที่สำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น จากข้อความก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า “ในการกำหนดขอบเขตของการกระชับนโยบายเพิ่มเติมใดๆ ที่เหมาะสมที่จะคืนอัตราเงินเฟ้อไปที่ 2 เปอร์เซ็นต์ จะต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลและการประเมิน”

สำหรับปีที่ผ่านมา ข้อความดังกล่าวเน้นย้ำถึงความเต็มใจของ Fed ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะถึงเป้าหมายในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ 

แต่ล่าสุดข้อความดังกล่าวกำลังจางหายไปและเปิดประตูสู่การลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ผู้กำหนดนโยบายก็ยังส่งสัญญาณว่าพวกเขาไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น

การเปลี่ยนแปลงคำพูดในคืนนี้ของผู้กำหนดนโยบายอาจถือเป็น “การยกระดับที่มีความหมาย” ของคำแถลงหลังการประชุมของ FOMC 

นักเศรษฐศาสตร์ของ Deutsche Bank ระบุว่า ตลาดได้ยินมาในการประชุมเดือนธันวาคมว่าไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดคาดว่าจะขึ้นอัตราต่อไป ซึ่งเป็นผลลัพธ์พื้นฐาน และตลาดได้ยินมาว่าเจ้าหน้าที่ Fed กำลังเริ่มหารือเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น การกำจัดอคติที่เข้มงวดอย่างชัดเจนนั้นถือเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นในการคิดอย่างจริงจังมากขึ้นว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด และเปิดประตูทิ้งไว้ถึงโอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม

ทางด้านอดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ PIMCO กล่าวว่าไม่มีความเร่งด่วนที่ Fed จะต้องผ่อนคลาย

แม้ว่าตลาดจะยอมรับมาหลายเดือนแล้วว่า Fed น่าจะสิ้นสุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว 

แต่คำถามที่ร้อนแรงที่สุด คือเมื่อใดที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย 

Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2023 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อก็ลดลงต่ำลง และอยู่ห่างจากเป้าหมาย 2% ไม่มาก

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดซื้อขายล่วงหน้าเชื่อมั่นว่า Fed จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม โดยกำหนดความน่าจะเป็นเกือบ 90% สำหรับการเคลื่อนไหวดังกล่าว 

แต่ตามมาตรวัด FedWatch ของกลุ่ม CME ขณะนี้ มีความไม่แน่นอนมากขึ้นอย่างมาก เนื่องจากคำแถลงหลายฉบับจากเจ้าหน้าที่ของ Fed ชี้ไปที่แนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นในการประกาศชัยชนะเหนืออัตราเงินเฟ้อ

นักเศรษฐศาสตร์มองว่าประธาน Jerome Powell จะมีเส้นบางๆ ให้เคลื่อนไหวระหว่างการแถลงข่าวหลังการประชุม โดย Fed จะได้รับข้อมูลจำนวนมากระหว่างการประชุมเดือนมกราคมถึงมีนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นที่เข้ามาจะมีความสำคัญต่อการกำหนดผลลัพธ์ของการประชุมในอนาคต ซึ่ง Powell จะเปิดโอกาสทิ้งไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่ให้ความหวังมากไปกว่าที่ตลาดมีอยู่แล้ว

สำหรับการประชุมครั้งนี้ จะมีความยากในการถอดรหัสว่า FOMC กำลังมุ่งหน้าไปที่ใด เนื่องจากจะไม่รวม Dot plot รายไตรมาสของการประมาณการของสมาชิกแต่ละคน

อย่างไรก็ตาม คำแถลงต่อสาธารณะส่วนใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ได้เผยแพร่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาชี้ให้เห็นถึงความเร่งรีบในการตัดทอนรายละเอียด ในเวลาเดียวกัน ผู้กำหนดนโยบายได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเข้มงวดมากเกินไป

อัตราดอกเบี้ยซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ช่วงระหว่าง 5.25% ถึง 5.5% นั้นถูกจำกัดโดยมาตรฐานในอดีต และดูจะยิ่งมากขึ้นเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลงและอัตราจริงเพิ่มขึ้น 

อัตราเงินเฟ้อที่ตัดสินโดยราคาค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลหลัก ซึ่งเป็นมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาที่ Fed เห็นชอบ บ่งชี้ว่าอัตราเงินที่แท้จริงจะอยู่ที่ประมาณ 2.4% เจ้าหน้าที่ Fed คาดว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในระยะยาวจะเข้าใกล้ 0.5%

Bill English อดีตหัวหน้าฝ่ายการเงินของ Fed และปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์ด้านการเงินที่ Yale School of Management กล่าวว่าสิ่งสำคัญที่ Fed อาจต้องการทำคือการมีทางเลือกให้มากขึ้น

นั่นจะหมายถึงการพูดอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างคลุมเครือในตอนนี้ เช่น เรากำลังกำหนดจุดยืนของนโยบายที่เหมาะสมหรืออะไรทำนองนั้น

ย้อนกลับไปอย่างน้อยช่วงปลายปี 2022 คำแถลงหลังการประชุมได้ใช้วลี “ในการกำหนดขอบเขตของการกระชับนโยบายเพิ่มเติม” หรือใช้ถ้อยคำที่คล้ายกัน เพื่อบ่งชี้ถึงการตัดสินใจของ FOMC ในการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ

ด้วยมาตรการระยะเวลา 6 และ 3 เดือนที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่หรือต่ำกว่าเป้าหมาย 2% จริงๆ ความลังเลใจดังกล่าวอาจดูเหมือนไม่จำเป็นในตอนนี้

ในตลาดซื้อขายล่วงหน้ากองทุน Fed กำลังกำหนดราคาโดยมีโอกาสประมาณ 60% ที่จะมีการลดอัตาเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรกจากห้าหรือหกครั้งภายในสิ้นปี 2024 โดยสมมติว่าเป็นการลดทีละ 0.25% ตามมาตรวัด FedWatch ของกลุ่ม CME สมาชิก FOMC ในการคาดการณ์ล่าสุดในเดือนธันวาคมชี้ให้เห็นการลดลงเพียงสามครั้งในปีนี้

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs คิดว่า Fed จะลบอคติความเข้มงวดที่ล้าสมัยออกไปจากแถลงการณ์หลังการประชุม และเตรียมแผนสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมและรวม เป็น 5 ครั้งในปีนี้

Goldman Sachs ยังระบุด้วยว่าคณะกรรมการสามารถยืมคำพูดจากรายงานการประชุมเดือนธันวาคมที่ระบุว่า “เหมาะสมสำหรับนโยบายที่จะยังคงอยู่ในจุดยืนที่เข้มงวดจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างชัดเจนและอย่างยั่งยืนตามวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการ”

ตลาดยังจะมองหาข้อมูลเกี่ยวกับเวลาที่ Fed เริ่มดึงกลับรายการงบดุล ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้ธนาคารกลางลดการถือครองพันธบัตรลงประมาณ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ตั้งแต่กลางปี 2022

Jameel Ahmad หัวหน้านักวิเคราะห์ของ GTC Global Trade Capital เชื่อว่าการแถลงข่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐ Jerome Powell เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับราคาทองคำ

ความกดดันจะอยู่ในรายละเอียดการพูด และนักลงทุนก็หวังได้ว่ามันจะไม่ใช่เหตุการณ์คล้ายกับ เช่น Christine Lagarde และ ECB ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเห็นได้ชัดว่ามีความไม่ตรงกันจากสิ่งที่ Fed เตรียมกับความเป็นจริงบนท้องถนนในแง่ของข้อมูลทางเศรษฐกิจ

ประโยชน์เพียงอย่างเดียวจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ทำได้ดีและรักษาความยืดหยุ่นก็คือการมุ่งหน้าไปสู่ Soft Landing ไม่ใช่ Hard Landing ซึ่งจะนำไปสู่ความวุ่นวายในตลาดการเงินโลกอีกมากมาย

Ahmad เสริมว่าหากดูที่ตลาดโลกที่ยังคงรักษาระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่า Fed จะตอบโต้เรื่องอัตราดอกเบี้ย แต่จริงๆ แล้วทองคำไม่ได้มีความผันผวนขนาดนั้นเมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์

ราคาทองคำทิ้งไส้เทียนในกราฟรายวันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพาราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ $2,050 ก่อนที่จะปรับตัวกลับลงมา ในขณะที่ภาพรวมราคายังคงอยู่ในขาลง อีกทั้งสัญญาณของ RSI ระดับวันกำลังชนกับแนวต้าน ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงได้ในระหว่างวัน และในค่ำคืนนี้น่าจะมีความผันผวนที่ตามมาอีกครั้งจากธนาคารกลางกลางสหรัฐฯ 

แนวต้านของราคาในวันนี้ยังคงอยู่ที่บริเวณ $2,045 - $2,050

และแนวรับปัจจุบันจะเริ่มต้นที่ $2,030 - $2,025 และถัดไปที่บริเวณ $2,019 - $2,009 ก่อนที่จะถึงบริเวณ $2,000 - $1,997

กราฟทองคำ 1 วัน และกราฟทองคำ 4 ชั่วโมง

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ  $2,030 - $2,025 และ $2,019 - $2,009

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,045 - $2,050 และ $2,061