วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 24 ม.ค. 2567

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,025 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $2,026.8
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อยท่ามกลางแนวโน้มตลาดหมี ขณะที่ตลาดกำลังเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จำนวนมากในสัปดาห์นี้ โดยความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนพฤษภาคม ข้อมูลมหภาคของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกำลังเข้ามา ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี สิ่งนี้ได้รับการเสริมด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งและทัศนคติที่แข็งกร้าวจาก Fed ได้นำไปสู่การเทขายทองคำอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยตามมาเกี่ยวกับวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่กำลังจะเกิดขึ้น
และเมื่อตลาดเริ่มปรับการเดิมพันกับ Fed ศักยภาพของทองคำก็ถูกจำกัด เนื่องจากทำให้อัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นอุปสรรคหลักต่อราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบต่อทองคำได้รับการผ่อนคลายลงบ้าง เนื่องจากความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงขึ้นอีกในตะวันออกกลาง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะหนุนราคาทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
ตลาดทองคำยังคงเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนแกว่งไปมาตามจังหวะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้
การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของสหรัฐฯ อย่างรวดเร็วส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ แม้ว่าทองคำจะดีดตัวจากระดับต่ำสุดในช่วงที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ไม่คาดหวังว่าราคาทองคำจะทะลุออกจากความกดดันนี้ในทันที เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจไม่น่ามีแนวโน้มใด ๆ ที่ผ่อนคลายขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ
James Stanley นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ Forex.com คาดว่าตลาดทองคำจะมีความผันผวนสูงขึ้น และมีโอกาสทดสอบแนวรับ $2,000
อย่างไรก็ตาม เขาตั้งข้อสังเกตว่าการที่ทองคำร่วงลงครั้งใหญ่ถือเป็นโอกาสในการซื้อที่แข็งแกร่ง
เขาเสริมว่าการเกร็งกำไรระยะสั้นจะยังคงมีความเสี่ยงมากกว่าต่อไป และตลาดขยับเข้าใกล้ $2,000 ซึ่งอาจะทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นได้ แต่ในทางกลับกัน หากราคาพังลง ทองคำจะเจอกับแรงขายขนาดใหญ่ และสิ่งเหล่านี้ทำให้นักลงทุนต้องค่อนข้างระมัดระวัง
นักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสังเกตว่านักลงทุนทองคำจะต้องจับตาดูเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างใกล้ชิด เนื่องจากดอลลาร์ยังคงส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาของโลหะมีค่า
สัปดาห์นี้อาจเห็นความผันผวนของเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยจะมีการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก 3 แห่ง
ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นจะเป็นธนาคารแห่งแรกและคาดว่าจะรักษาจุดยืนที่ผ่อนคลายและอัตราดอกเบี้ยติดลบ ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาอยู่ในลำดับถัดไป และด้วยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจในเดือนธันวาคม ธนาคารกลางอาจจะมีความลำบากใจมากขึ้นในการเคลื่อนไหว
ในวันพฤหัสบดี ธนาคารกลางยุโรปจะปิดท้ายและจะเป็นความเสี่ยงมากที่สุดสำหรับดอลลาร์สหรัฐและทองคำ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาชิกของ ECB ได้ผลักดันการลดอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าที่งาน World Economic Forum ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ECB อาจกดดันเงินดอลลาร์สหรัฐและหนุนราคาทองคำในระยะเวลาอันใกล้นี้
ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งสำหรับเงินดอลลาร์สหรัฐจะมาจากข้อมูลในประเทศสหรัฐฯเอง โดยนักลงทุนให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับข้อมูลเงินเฟ้ออย่าง ที่จะออกมาในวันศุกร์
นักวิเคราะห์ตราสารหนี้ที่ TD Securities กล่าวว่าการลดลงของดัชนี PCE Price Index ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐต้องการ อาจสนับสนุนแผนการผ่อนปรนของธนาคารกลางได้
แม้ว่า CPI หลักในเดือนธันวาคมจะแข็งแกร่ง แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อ PCE หลักจะขยายตัวน้อยลงที่ 0.2% m/m ข้อมูลของเดือนธันวาคมมีแนวโน้มที่จะแสดงให้เห็นว่าโมเมนตัม สามเดือน หกเดือน ลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย 2%
ขณะที่นักวิเคราะห์ตลาดบางคนตั้งข้อสังเกตว่าความต้องการทางกายภาพที่แข็งแกร่งในตลาดเอเชียยังคงสนับสนุนตลาดทองคำ พวกเขาคาดว่าความต้องการที่แข็งแกร่งของบริษัทในจีนที่เตรียมพร้อมสำหรับวันตรุษจีนจะยังคงสนับสนุนราคาทองคำต่อไป
อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ราคาโลหะมีค่าร่วงลง
นักวิเคราะห์ของ Heraeus มองว่าความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมได้ลดลงอีกครั้ง หลังจากที่ Christopher Waller ซึ่งเป็นผู้ว่าการ Fed กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าธนาคารกลางไม่ควรเร่งรีบไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ย จนกว่าธนาคารจะแน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงจะยังคงอยู่
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและยาวนานขึ้นได้หนุนค่าเงินดอลลาร์มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม และทองคำร่วงลงมากกว่า 1% เมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์
พวกเขาระบุว่าในขณะที่ตลาดบางส่วนยังคงคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุม FOMC วันที่ 20 มีนาคม แต่ความน่าจะเป็นลดลงอย่างมากจากก่อนหน้านี้ แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งเป็นจุดที่ทองคำคาดว่าจะได้รับประโยชน์
เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์ของ JPMorgan ซึ่งระบุว่าโลหะมีค่าจะได้รับประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 พร้อมกับการกลับมาของอุปสงค์ในการลงทุน
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์มีแนวโน้มที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเชิงบวกให้กับทองคำ ซึ่งถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากความสามารถในการรักษามูลค่าที่เชื่อถือได้ โดยมีความสัมพันธ์ต่ำกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ
ดังนั้น ทองคำจึงสามารถใช้เป็นหลักประกันในช่วงที่ตลาดตกต่ำและในช่วงเวลาที่เกิดความเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงถ้าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงและอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่ลดลงจะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับทองคำแท่งที่ไม่ให้ผลตอบแทนอีกด้วย
นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าความคาดหวังของ Fed pivot มีบทบาทสำคัญในการขึ้นราคาของทองคำในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีการคงอัตราดอกเบี้ยในช่วงสามรอบการประชุมที่ผ่านมา
Gregory Shearer หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์โลหะมีค่าที่ JPMorgan ระบุว่าสำหรับโลหะมีค่าทุกประเภท JPMorgan มีความเชื่อมั่นสูงสุดเกี่ยวกับการคาดการณ์ระยะกลาง ว่าน่าจะเป็นตลาดกระทิงสำหรับทั้งทองคำและเงินในช่วงปี 2024 รวมถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2025 แม้ว่าจังหวะการเข้าซื้อจะยังคงมีความสำคัญอยู่
ในขณะนี้ ทองคำยังคงดูค่อนโดนแรงกดดัน และยังดูเสี่ยงต่อการอ่อนตัวลงเล็กน้อยในระยะสั้น เนื่องจากการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed กำลังเปลี่ยนไปจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้
แต่ Shearer เสริมว่าการลดลงของราคาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าควรถือเป็นโอกาสในการซื้อ ก่อนที่ราคาจะดีดตัวขึ้นซึ่งพวกเขาคาดว่าจะเริ่มในกลางปี 2025 เนื่องจากการเติบโตของ GDP ของสหรัฐฯ ชะลอตัว
ขณะนี้ JPMorgan Research คาดการณ์ว่า Fed จะลดอัตราพื้นฐานรวม 125 จุดในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ซึ่งมากกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ในแนวโน้มปี 2024 ที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วถึง 25 จุด ในขณะที่ธนาคารกลางพยายามต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ
ราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับการคาดการณ์อย่างเป็นทางการของ Fed ซึ่ง JPMorgan คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอ่อนตัวลงเป็น 2.4% ในปี 2024 และ 2.2% ในปี 2025 ก่อนที่จะกลับสู่เป้าหมาย 2% ในปี 2026
และจากแนวโน้มนี้ JPMorgan คาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทน 10 ปีของสหรัฐฯ จะลดลง 0.30% จาก 3.95% ณ สิ้นไตรมาส 1 เป็น 3.65% ภายในสิ้นปี 2024 โดยอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงจะลดลงจาก 1.75% เป็น 1.45%
อัตราผลตอบแทนที่ลดลงจะทำให้ราคาทองคำขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ในครึ่งหลังของปี 2024 โดยราคาเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 2,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไตรมาสที่ 4 และพวกเขาคาดว่าจุดสูงสุดเฉลี่ยรายไตรมาสจะอยู่ที่ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในไตรมาส 3 ปี 2025

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมืองจริงฟรี $50, 000 ดอลลาร์!💰
แนวโน้มทางด้านเทคนิคของราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้แรงกดดันมาตลอด และในวันนี้อาจจะเริ่มมีความผันผวนที่เพิ่มมากขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจมหาภาคที่จะทยอยออกมา รวมถึงความเคลื่อนไหวจากธนาคารกลางหลายแห่ง
แนวโน้มในกราฟระดับวัน ราคายังคงวิ่งต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12, 26 มาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ในกราฟภายในวันระดับ 4 ชั่วโมง ก็เผชิญกับแนวเส้น Trend Line ทั้งในด้านของราคาและ RSI ทำให้แนวโน้มของราคายังคงอยู่ในขาลง
แนวต้านในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,027 - $2,030 เป็นโซนแรก และบริเวณ $2,040 เป็นแนวถัดไป
ขณะที่ทางฝั่งแนวรับจะยังคล้ายกับวันก่อนหน้า จุดแรกจะอยู่ที่ $2,021 - $2,017 ที่เป็นโซน Fibonacci เช่นเดิม ก่อนที่จะเริ่มเข้าพื้นที่ระดับ $2,000
กราฟทองคำ 1 วัน และกราฟทองคำ 4 ชั่วโมง
แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,021 - $2,017 และ $2,005 - $1,997
แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,027 - $2,030 และ $2,040
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน