วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 23 เม.ย. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 22 เมษายน 2567 ราคาทองคำร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ โดยปรับตัวลดลงมากกว่า 2.50% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับตะวันออกกลางคลี่คลายลง Jim Wyckoff จาก Kitco News ระบุว่า การปรับตัวลงของราคาทองคำอาจเกิดจากการขายทำกำไร ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านลดลง

ราคาทองคำซื้อขายที่ระดับ 2,315 ดอลลาร์ในปัจจุบัน หลังจากแตะระดับสูงสุดที่ 2,417 ดอลลาร์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน อย่างไรก็ตาม เตหะรานได้ลดความสำคัญของการโจมตีด้วยโดรนของอิสราเอลเมื่อวันที่ 19 เมษายน ซึ่งถือเป็นการยุติความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น

Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อไป กดดันราคาทองคำ

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมตลาดเริ่มคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปช้ากว่าที่คาดไว้ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคาทองคำ เจ้าหน้าที่ Fed ออกมาให้ความเห็นในเชิง Hawkish นำโดย Jerome Powell ประธาน Fed ที่กล่าวว่าการขาดความคืบหน้าในกระบวนการลดเงินเฟ้อ ทำให้จำเป็นต้องรักษาระดับดอกเบี้ยให้สูงขึ้นเป็นระยะเวลานานกว่าเดิม ขณะที่ Austan Goolsbee ประธานธนาคารกลางสาขาชิคาโก ซึ่งมีแนวคิดในเชิง Dovish มากที่สุดในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ระบุว่าความคืบหน้าของเงินเฟ้อ “หยุดชะงัก”

นักวิเคราะห์มองราคาทองยังมีแนวโน้มขาขึ้น แนะนำใช้จังหวะอ่อนตัวเข้าซื้อ

นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์เตือนว่าการพุ่งขึ้นของราคาทองคำสู่ระดับสูงสุดเหนือ 2,400 ดอลลาร์ สร้างภาวะตลาดที่ซื้อมากเกินไป (Overbought) อย่างอันตราย อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง นักวิเคราะห์ยังระบุว่าการปรับฐานในตลาดควรถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ 

แม้ว่าทองคำจะปรับตัวลงอย่างรุนแรงเมื่อเริ่มต้นสัปดาห์ แต่นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่านักลงทุนจำเป็นต้องมองภาพรวมของการเคลื่อนไหวของราคา แม้ราคาทองคำจะลดลงกว่า 2%

โดยนอกจากการรักษาระดับแนวรับสำคัญแล้ว การร่วงลงของราคาทองคำกว่า 2% ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับแนวโน้มการฟื้นตัวโดยรวม นับตั้งแต่หลุดจากแนวรับที่ 2,000 ดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ ราคาทองคำยังคงขึ้นราว 17.5%

ความคาดหวังต่อการคงดอกเบี้ย Fed นานขึ้น กดดันราคาทอง

นักวิเคราะห์บางส่วนเตือนว่าราคาทองคำอาจร่วงลงไปได้อีก เนื่องจากความสนใจกลับมาที่นโยบายการเงินของสหรัฐฯ และความคาดหวังที่เปลี่ยนไปว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดนานกว่าที่คาดการณ์ไว้

จากเครื่องมือ FedWatch ของ CME ตลาดมองว่ามีโอกาส 16% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน และน้อยกว่า 50% ในเดือนกรกฎาคม

Ricardo Evangelista นักวิเคราะห์อาวุโสของ ActivTrades กล่าวในบันทึกเมื่อวันจันทร์ว่า “โลหะมีค่าพบว่าตัวเองติดอยู่ในการถ่วงดุลระหว่างการหลบภัยจากด้านหนึ่ง และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอีกด้านหนึ่ง”

เขาระบุว่าเมื่อความตึงเครียดในตะวันออกกลางแสดงสัญญาณผ่อนคลาย ความสนใจของตลาดจึงเปลี่ยนไปสู่การประเมินความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และแรงกดดันของเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ ในขณะที่การคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้ของ Fed ลดลง และความหวังที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งอย่างเปิดเผยระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเพิ่มขึ้น ราคาทองคำอาจปรับตัวลดลง เนื่องจากนักเทรดอาจเริ่มปิดสถานะ Long position และทำกำไรจากส่วนต่างที่สะสมในช่วงเดือนที่ผ่านมา

แม้ทองคำจะมีพื้นที่ให้ร่วงลงต่อไปได้อีก แต่นักวิเคราะห์ระบุว่าปัจจัยที่ผลักดันการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในเดือนมีนาคมยังคงมีอยู่ ธนาคารกลางต่างๆ ยังคงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากระดับหนี้ที่สูงขึ้น และเพื่อป้องกันการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน นักลงทุนเอเชียยังคงครองตำแหน่งสำคัญในตลาดเนื่องจากยังคงกระจายการลงทุนในพอร์ตของตน

กำไรที่ทองคำทำได้ยังไม่จูงใจให้เทขายมากนัก

Nicky Shiels หัวหน้ากลยุทธ์ด้านโลหะของ MKS PAMP ระบุในโพสต์โซเชียลมีเดียว่าแม้ทองคำจะมีโอกาสเคลื่อนไหวต่ำกว่านี้ในระยะสั้น แต่เธอยังคงรักษาเป้าหมายราคา 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไว้

ขณะที่ David Morrison นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก Trade Nation กล่าวว่าเขามองเห็นศักยภาพที่ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวต่ำกว่านี้ แต่ชี้ให้เห็นว่าการปรับฐานก่อนหน้านี้เป็นโอกาสในการซื้อที่ดี

เขากล่าวว่าเมื่อโลหะมีค่าประสบกับการเพิ่มขึ้นอย่างที่เห็นในช่วง 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา การขายเททำกำไรอาจจะรุนแรงแต่ก็ค่อนข้างสั้นโลหะ

Carley Garner ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทนายหน้าซื้อขาย DeCarley Trading กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่าเธอเห็นการปรับฐานลงมาที่ 2,330 หรือ 2,300 ดอลลาร์ เป็นจุดเข้าซื้อที่ดีสำหรับนักลงทุนที่พลาดการฟื้นตัวครั้งแรกไป โดยเป้าหมายราคาขาขึ้นในปัจจุบันของเธออยู่ที่ 2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ระดับสำคัญที่ต้องจับตาดูราคาทองคำ

ในแง่ของระดับราคาที่สำคัญและน่าจับตามอง นักวิเคราะห์บางส่วนชี้ว่า ด้วยการดีดตัวของราคาทองคำ ทำให้มีตัวบ่งชี้ทางเทคนิคเพียงไม่กี่ตัวที่ต้องอิง Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ Saxo Bank ระบุในโพสต์โซเชียลมีเดียว่าเขากำลังจับตาดูระดับ Fibonacci retracement ที่ 2,322, 2,288 และ 2,255 ดอลลาร์

แม้ว่าราคาทองคำจะลดลงอย่างมาก แต่นักวิเคราะห์บางคนชี้ให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีกำไรที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องรีบขาย

ความเห็นจากนักวิเคราะห์ถึงแนวโน้มราคาทองคำ

Chantell Schieven หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Capitalight Research กล่าวว่าไม่เพียงแต่ทองคำจะถูกซื้อมากเกินไปในเชิงเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเริ่มเข้าสู่ช่วงอ่อนแอตามฤดูกาลประวัติศาสตร์ด้วย ในสภาพแวดล้อมนี้ Schieven ชี้ให้เห็นว่าเธอมองราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงมาที่ 2,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับในการดีดตัวขึ้นในเดือนมีนาคม

แม้ Schieven จะมองการปรับฐานของทองคำในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่เธอยังคงมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นในระยะยาว โดยกล่าวว่าเธอกำลังปรับเป้าหมายราคาสิ้นปีขึ้นเป็น 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเดิมที่ 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์

Schieven กล่าวว่าเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เธอหันมาระมัดระวังกับราคาทองคำในระยะสั้นนั้นเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่หนุนผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นและสนับสนุนดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ปัจจุบันตลาดคาดว่า Fed จะเริ่มวงจรการผ่อนคลายทางการเงินหลังช่วงครึ่งปี

Schieven เสริมว่าตลาดทองคำกลายเป็นตลาดที่มีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่าแค่การติดตามผลตอบแทนพันธบัตรและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แม้จะไม่คาดว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ยังไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ย

เธอระบุว่า ในที่สุด Fed ก็จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยคาดว่าจะลดอัตราหลังการเลือกตั้งปี 2024 และนั่นคือช่วงที่คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นและมุ่งหน้าสู่ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และจังหวะขาลงอาจพิสูจน์ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการซื้อสำหรับนักลงทุนระยะยาว

ในขณะเดียวกัน Schieven กล่าวว่าเธอคาดว่าเงินเฟ้อจะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการกำหนดการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ เธอชี้ให้เห็นว่าหาก Fed ยึดมั่นในนโยบายการเงิน อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นหมายถึงอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real rates) จะสูงขึ้น ซึ่งทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดผลตอบแทนลดลง

เธอกล่าวว่าท้ายที่สุดแล้ว Fed ถึงแม้จะแสดงความเห็นในเชิงเข้มงวด แต่ก็ยังคงเปิดโอกาสให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ พวกเขาจะลดอัตราดอกเบี้ยแม้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงสูงเกินกว่าเป้าหมายที่ 2% อย่างดื้อรั้น Fed ไม่สามารถรักษาอัตราดอกเบี้ยสูงได้เนื่องจากระดับหนี้ที่สูงขึ้น

วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ขณะที่เขียนบทความนี้ราคาเกิดการย่อตัวลงอย่างรุนแรง หลังจากที่ไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ $2,400 ไปได้ ราคาได้ร่วงลงมาต่ำกว่า EMA 12 และ EMA 26 อย่างรวดเร็ว สร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อแนวโน้มขาขึ้นที่เคยมีมา

เกิดแท่งเทียนแดงยาว สะท้อนแรงขายที่เข้ามาอย่างหนาแน่น ขณะที่เส้น EMA 12 และ EMA 26 ตัดกันในแนวลง เป็นสัญญาณถึงการกลับตัวเป็นขาลงในระยะสั้น

ในขณะเดียวกัน RSI ลงต่ำกว่าระดับ 30 อย่างรุนแรง ยืนยันแรงขายที่เพิ่มขึ้นและความกดดันที่มีต่อราคา ส่วน Stoch RSI ก็ตัดลงต่ำ สะท้อนภาวะ Oversold ในระยะสั้น

จากภาพรวม การพังหลุดผ่านแนวรับสำคัญที่ $2,300 ลงมาได้ จะเป็นการยืนยันการเปลี่ยนแปลงทิศทางของแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง และเปิดทางให้ราคาร่วงลงสู่แนวรับถัดไปที่ $2,264 ซึ่งเป็นบริเวณเส้น EMA 200 ขณะที่แนวต้านที่ต้องจับตามองในระยะสั้นอยู่ที่ $2,325 หากยังไม่ผ่าน ก็จะเป็นการยืนยันการกดดันต่อเนื่องของแรงขาย

สรุปโดยรวมคือ ราคาทองคำกำลังเผชิญกับความเสี่ยงในการกลับตัวเป็นขาลงในระยะสั้นจากแรงขาย อย่างไรก็ดี RSI และ Stoch RSI ที่เข้าสู่ภาวะ Oversold อย่างรวดเร็ว อาจส่งผลให้เกิดแรงซื้อเข้ามาหนุนการดีดตัวในระยะสั้น แต่น่าจะเป็นเพียงการดีดเพื่อลดแรงขายที่ล้นตลาดมากกว่าการกลับตัวของแนวโน้ม ดังนั้น ถ้าราคายังไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน $2,325 ได้อีกครั้ง คาดว่าราคาจะกลับลงมาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ต่อไป

ภาพประกอบวิเคราะห์กราฟทองคำ

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,300 และ $2,264

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,325