วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 28 มี.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ราคาทองคำสปอตในปัจจุบันอยู่ที่ 2,190 ดอลลาร์ ขณะที่ทองคำล่วงหน้าอยู่ที่ 2,209.7 ดอลลาร์
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดมุ่งเป้าหมายไปที่ระดับ 2,200 ดอลลาร์ ในขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจไม่ค่อยมีอะไรออกมาเพิ่มเติม ท่ามกลางการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน การปรับตัวลดลงของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาทองคำซึ่งไม่ให้ผลตอบแทนปรับตัวสูงขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีอยู่ที่ 4.19% ลดลง 4 bps ส่งผลให้ผลตอบแทนที่แท้จริงของสหรัฐฯ ลดลงจาก 1.914% เมื่อวันอังคารเป็น 1.87% ซึ่งถือเป็นปัจจัยลบต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ทางด้านนักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Commerzbank มองว่าตลาดทองคำอาจมีศักยภาพในการปรับตัวสูงขึ้นอย่างจำกัดตลอดช่วงที่เหลือของปี 2024 เนื่องจากมีเหตุผลไม่มากนักที่จะสนับสนุนระดับราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เพิ่งทำไว้เหนือ 2,220 ดอลลาร์
Thu Lan Nguyen หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคารเยอรมัน ระบุในรายงานการวิจัยล่าสุดว่าเธอมีมุมมองที่สงสัยว่าทองคำจะสามารถวิ่งต่อไปได้ไกลแค่ไหนหลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 9% ในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้คาดการณ์ว่าจะเห็นการปรับตัวลงมากนักของโลหะมีค่า เนื่องจากเธอได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาสิ้นปีแบบค่อนข้างสูง
Nguyen ระบุว่าศักยภาพการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไปน่าจะมีจำกัดในระยะกลางถึงระยะยาว ทั้งนี้เพราะว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งของสหรัฐฯ นั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น เมื่อพิจารณาความเสี่ยงเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ ดังนั้น เมื่อเร็วๆ นี้เราจึงเพียงแค่ปรับเพิ่มประมาณการราคาทองคำสำหรับสิ้นปีนี้และสิ้นปีหน้าจาก 2,100 ดอลลาร์ เป็น 2,200 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ทองคำทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่ายังคงเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดย Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยแม้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้อจะยังสูงกว่าเป้าหมาย 2%
แม้ว่าสภาพแวดล้อมนี้จะเป็นบวกต่อโลหะมีค่า แต่ Nguyen ระบุว่ามันไม่ได้สนับสนุนการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงที่ผ่านมาอย่างสมบูรณ์
แม้ว่าคาดการณ์ของ Fed จะไม่เปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่เดือนธันวาคม แต่คาดการณ์ของตลาดกลับเปลี่ยนแปลง ในช่วงต้นปี ตลาดกำลังตั้งโอกาสที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 6 ครั้งในปีนี้ แต่การคาดการณ์ก็ถูกลดลงเนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงสูงอย่างดื้อรั้น
Nguyen ระบุว่านักลงทุนในตลาดบางรายดูเหมือนจะคาดหวังว่า Fed จะส่งสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงในปีนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นเหตุให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังการประชุม
ในขณะเดียวกัน ตลาดทองคำเผชิญความต้องการจากธนาคารกลางในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจีนเป็นผู้นำ Nguyen ระบุว่าแม้สิ่งนี้จะช่วยหนุนราคาแต่ก็ไม่ได้สนับสนุนการปรับขึ้นแต่อย่างใด
Nguyen กล่าวว่าท้ายที่สุดแล้ว การซื้อทองคำเกือบ 400,000 ออนซ์ของ PBoC ในเดือนกุมภาพันธ์ คิดเป็นเพียง 5% ของยอดซื้อรวมของธนาคารกลางในปี 2023 ยิ่งไปกว่านั้น การซื้อขายทองคำทั่วโลกมีสภาพคล่องสูงมาก โดยตามข้อมูลจาก World Gold Council ระบุว่าปริมาณการซื้อขายรายวันในตลาดทองคำอยู่ที่ราว 130 พันล้านดอลลาร์ นั่นหมายความว่าแม้แต่การซื้อจากนักลงทุนสถาบันรายใหญ่หรือธนาคารกลางบางแห่งก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาได้
Nguyen เสริมว่า ตลาดทองคำอาจอ่อนไหวต่อการทำกำไรบางส่วนหากข้อมูลเศรษฐกิจออกมาดีกว่าที่คาด และตลาดถูกบังคับให้เลื่อนการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนออกไป
Nguyen ระบุว่าเนื่องจากขาดคำอธิบายที่น่าเชื่อถือสำหรับการเพิ่มขึ้นของมูลค่าทองคำ เธอจึงมองอย่างสงสัยว่าโลหะมีค่าจะสามารถรักษากำไรไว้ได้ในระยะสั้น และยิ่งไม่น่าจะขยายแรงซื้อต่อไปได้อีก
โดยความเสี่ยงหลักในสัปดาห์นี้จะมาในวันศุกร์ซึ่งเป็นการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ โดยตลาดคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนกุมภาพันธ์
อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของตลาดต่อข้อมูลเงินเฟ้อจะมีจำกัด เนื่องจากตลาดอเมริกาจะปิดทำการในวันเดียวกันนั้น
ทางด้านนักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก BMO Capital Markets มองว่าถึงแม้ราคาทองคำอาจยังคงมีแรงกดดันในระยะสั้น แต่การปรับตัวสูงขึ้นในภาคโลหะมีค่าเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
จากรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ ธนาคารแคนาดาได้ประกาศปรับเพิ่มประมาณการราคาทองคำและเงินอย่างมีนัยสำคัญสำหรับอีกสามปีข้างหน้า โดยระดับสูงสุดจะอยู่ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคารมองว่าราคาทองคำเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ 2,169 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 11% จากประมาณการก่อนหน้า
พร้อมกันนี้ พวกเขาคาดว่าราคาทองคำเฉลี่ยในปีหน้าจะอยู่ที่ 2,100 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากประมาณการเดือนธันวาคม ส่วนราคาทองคำคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2026 และ 1,950 ดอลลาร์ในปี 2027 ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% และ 3% ตามลำดับจากประมาณการเดือนธันวาคม
ส่วนในปีนี้ BMO มองว่าราคาทองคำจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2,250 ดอลลาร์ ในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 13% จากประมาณการก่อนหน้า ขณะเดียวกันก็คาดว่าราคาเงินจะเฉลี่ยที่ 28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงสิ้นปี เพิ่มขึ้น 22% จากประมาณการเดือนธันวาคม
นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ระบุว่าการที่ทองคำยังคงทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่นานมานี้ เป็นสัญญาณว่าโลหะมีค่ากำลังสร้างฐานใหม่และนักลงทุนเริ่มคุ้นเคยกับราคาที่สูงขึ้น
พวกเขายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อโลหะมีค่าในฐานะเครื่องป้องกันความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจากสกุลเงินทั่วโลก และระบุว่าการที่ราคาทองคำทำจุดสูงสุดตลอดกาลมาพร้อมกับการที่บิตคอยน์ปรับขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่เหนือ 73,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ
“เนื่องจากไม่น่าจะมีนักการเมืองคนใดได้รับเลือกโดยสัญญาว่าจะใช้จ่ายน้อยลงในปีที่มีการเลือกตั้งครั้งใหญ่หลายประเทศ จึงมีโอกาสว่าในช่วงปลายปีเราอาจเห็นความกังวลด้านค่าเงินเพิ่มเติมออกมาหนุนการลงทุนในโลหะมีค่า ขณะที่ยุคของการใช้จ่ายภาครัฐในระดับสูงทั่วโลกเริ่มฝังรากลึกขึ้น” นักวิเคราะห์ระบุในรายงาน
“แม้เราจะเห็นว่ามีการทรงตัวในกรอบปัจจุบันจนถึงกลางปี แต่เราคาดว่าจะมีการปรับขึ้นเป็นลำดับในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะที่วงจรปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เริ่มทวีความเร็วขึ้นและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ปีนี้อาจเป็นหนึ่งในไม่กี่ปีที่ทั้งนักลงทุนในมหภาคและรายย่อยต่างเพิ่มการถือครองในโลหะมีค่า”
ในขณะที่ทองคำกลับมาเป็นที่สนใจในฐานะตัวป้องกันความเสี่ยง BMO ระบุด้วยว่าคาดหวังในตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากธนาคารกลางที่ซื้อโดยไม่สนใจราคา
ธนาคารยังย้ำมุมมองว่าความต้องการจากจีนจะยังครองตลาด โดยระบุว่าครัวเรือนในจีนสะสมเงินออมจำนวนมากในช่วงการระบาด และแม้แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมาก็มีการเพิ่มขึ้นราว 35 ล้านล้านหยวน อย่างไรก็ตาม ครัวเรือนเหล่านี้เผชิญกับปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่ว่าจะนำเงินนี้ไปลงทุนที่ใดสำหรับนักลงทุนจีน ในอดีต เงินอาจถูกนำไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อป้องกันความเสี่ยย แต่ตามที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง ภาคนี้ยังคงประสบปัญหาเชิงโครงสร้างที่สำคัญซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ซื้อ ด้วยเหตุนี้ การลงทุนในทองคำจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพอร์ตการลงทุนของจีน ขณะที่พวกเขายังคงคาดการณ์ถึงการชะลอตัวและความไม่แน่นอนของรายได้
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมืองจริงฟรี $50, 000 ดอลลาร์!💰
แนวโน้มทางด้านเทคนิคของราคาทองคำ
ภาพรวมแนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้น โดยราคาปัจจุบันยืนเหนือเส้น EMA ทั้ง 12, 26 และ 200 วันในระดับชั่วโมง ซึ่ง EMA 200 ที่ 2,173 ดอลลาร์ ทำหน้าที่เป็นแนวรับสำคัญของแนวโน้มขาขึ้น ตราบใดที่ราคายังอยู่เหนือเส้นนี้ ก็ถือว่ายังรักษาภาพขาขึ้นในระยะกลางถึงยาวเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นราคาเริ่มแสดงสัญญาณชะลอตัว หลังจากขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 2,200 ดอลลาร์ แล้วไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ทำให้เกิดสัญญาณกลับตัวลงของราคา โดยมี RSI และ Stoch RSI ตัดลงต่ำกว่าเส้น 50 มาเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นว่าโมเมนตัมขาขึ้นอาจอ่อนแรงลง
ในระยะสั้นราคาอาจเข้าสู่ช่วงแกว่งตัวหรือพักฐานก่อน โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ EMA 12 และ 26 ในกรอบ 2,188 - 2,184 ดอลลาร์ หากราคาไม่หลุดต่ำลงไปกว่านี้ก็จะยังสามารถรักษาโครงสร้างขาขึ้นระยะสั้นเอาไว้ได้ แต่หากราคาร่วงหลุดระดับดังกล่าว จะเป็นสัญญาณเชิงลบที่จะทำให้ราคาอ่อนตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ EMA 200 และ $2,173
โดยสรุป ตลาดทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นในภาพรวม แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาในระยะสั้นจนเข้าสู่ช่วงพักฐาน ซึ่งกรอบด้านล่างที่ต้องจับตาคือ 2,188 - 2,184 ดอลลาร์ และ 2,173 - 2,170 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 2,194 - 2,209 ดอลลาร์ หากสามารถกลับขึ้นไปผ่านแนวต้านนี้ได้ จะเป็นการส่งสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวของราคาในระยะถัดไป
กราฟทองคำระดับ 1 ชั่วโมง
แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ 2,188 - 2,184 ดอลลาร์ และ 2,173 - 2,170 ดอลลาร์
แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ 2,194 - 2,209 ดอลลาร์
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน