วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 1 เม.ย. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 1 เมษายน 2568 ราคาทองคำ XAU/USD สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ทะลุหลัก $3,100 ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในวันจันทร์ ก่อนทะยานไปแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ $3,135 ในช่วงเช้าของการซื้อขายตลาดเอเชียวันนี้
แม้จะมีการปรับตัวลงบ้างเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในโซน $3,130 ความร้อนแรงนี้เกิดขึ้นเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์หลังจากทะลุหลัก $3,000 ทำให้นักวิเคราะห์หลายรายถึงกับยอมแพ้ในการคาดการณ์ราคา เพราะราคาร้อนแรงเกินคาด โดยทองคำปรับตัวขึ้นแรงสวนทางกับตลาดหุ้น โดย S&P 500 ดิ่งลง 0.7% อยู่ที่ 5,540 จุด สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนกำลังถอนเงินจากตลาดหุ้นสหรัฐเพื่อหนีความเสี่ยง นับเป็นไตรมาสที่แรงที่สุดในรอบ 39 ปี โดยทองปรับตัวขึ้นมาแล้ว 20% ในปีนี้
นโยบายการค้าของ Trump สร้างความกังวล ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยพุ่ง
ตลาดกำลังผวาเกี่ยวกับนโยบายการค้าสหรัฐ และรอลุ้นการประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าในวันพุธนี้ ซึ่งตรงกับวัน Liberation Day (2 เมษายน) หลังจาก Goldman Sachs เปิดเผยว่าโอกาสที่สหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 35% เหตุผลหลักมาจากความไม่มั่นใจของภาคธุรกิจและครัวเรือนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ รวมถึงท่าทีของรัฐบาลที่ดูเหมือนพร้อมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่รุนแรงขึ้น
ความกังวลพุ่งสูงขึ้นหลังจาก Trump ให้สัมภาษณ์บนเครื่องบิน Air Force One เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราภาษีอาจจะสูงกว่า 10-15% ที่ Scott Bessent รัฐมนตรีคลังสหรัฐเคยพูดไว้ โดย Trump กล่าวว่า
“ใครบอกคุณว่า 10 หรือ 15%? คุณอาจจะได้ยินมา แต่ไม่ใช่จากผมแน่” และเสริมว่าจะดำเนินการกับทุกประเทศ และลองมาดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น
Ricardo Evangelista นักวิเคราะห์อาวุโสจาก ActivTrades อธิบายว่านักลงทุนกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของ Trump เพราะนโยบายเหล่านี้อาจนำไปสู่การเติบโตต่ำ เงินเฟ้อสูงขึ้น การค้าระหว่างประเทศลดลง และระเบียบโลกที่คาดเดาได้ยากขึ้น
นักวิเคราะห์ปรับเป้าราคาทองขึ้น คาดทะลุ $3,300 ภายในสิ้นปี
สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ทั้ง Goldman Sachs, Société Générale และ Bank of America ต่างปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองขึ้น โดยมองว่า $3,300 จะเป็นเป้าหมายถัดไปภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งราคาปัจจุบันอยู่ห่างจากเป้าหมายใหม่เพียงไม่ถึง 4% เท่านั้น
Chris Mancini ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอจาก Gabelli Gold Fund (GOLDX) ระบุว่าเขาไม่ได้สนใจตัวเลขราคามากนัก แต่โฟกัสที่แนวโน้ม ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นขาขึ้น
“ในภาพใหญ่ ราคาทองยังสามารถปรับตัวขึ้นได้อีก และมีเหตุผลที่ดีว่าทำไมเราถึงเห็นการพุ่งขึ้นครั้งนี้ ถึงแม้ทองจะอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป แต่นักลงทุนไม่สามารถมองข้ามความต้องการได้ ซึ่งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจนี้จะไม่หมดไปในเร็วๆ นี้
ด้าน David Morrison นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Trade Nation เตือนว่าแม้ทองจะเป็นสินทรัพย์ที่น่าถือครองในตอนนี้ แต่นักลงทุนไม่ควรไล่ตามตลาดที่ราคาสูงลิ่วเช่นนี้
“รู้สึกเหมือนเริ่มอึดอัดมากขึ้นที่ระดับเหนือ $3,100 MACD รายวันแสดงให้เห็นว่ามีการซื้อมากเกินไป แต่ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดจากกลางเดือนกุมภาพันธ์ และหากมีการขายทำกำไร ระดับ $3,000 น่าจะเป็นแนวรับสำคัญแรก”
ธนาคารกลางและนักลงทุนแห่ซื้อทองหนุนราคาพุ่ง
Amy Gower นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Morgan Stanley เผยกับ Bloomberg เมื่อวันจันทร์ว่า การที่ทองทำจุดสูงสุดใหม่นั้นเป็นมากจากสิ่งที่สั่งสมมานาน แม้ว่านักวิเคราะห์จะคาดการณ์จุดสูงสุดไว้หลายครั้ง แต่ราคาก็ยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Gower คิดว่าเป็นเพราะมีสองปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคาทอง หนึ่งคือความต้องการทางกายภาพที่เริ่มเปลี่ยนแปลงในปี 2022 เมื่อธนาคารกลางซื้อทองมากขึ้น พวกเขาเพิ่มอัตราการซื้อเป็นสองเท่าจากทศวรรษก่อนและยังคงดำเนินต่อไป อีกทั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความต้องการทองแท่ง เหรียญทอง และ ETF ทองก็เริ่มเข้ามาด้วย นี่คือกระแสเงินใหม่ที่ไหลเข้าสู่ทองและยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมาก
Gower ยังเสริมว่า Morgan Stanley คาดว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคสำหรับทองเมื่อเทียบกับหุ้นและพันธบัตรจะดีขึ้น
“เรามีสภาพแวดล้อมมหภาคที่ยากสำหรับทองด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูง แต่เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง นั่นควรเป็นปัจจัยหนุนทอง”
Citigroup และ Goldman Sachs คาดราคาทองอาจทะลุ $4,000 ในปี 2025
Max Layton หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลกของ Citigroup เปิดเผยกับ CNBC ว่า Citi คาดการณ์ว่าราคาทองจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป
“สรุปคือปัจจัยพื้นฐานที่ขับเคลื่อนตลาดกระทิงของทองคำยังคงอยู่ และจะผลักดันราคาทองไปจนถึง $3,200 ต่อออนซ์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และอาจสูงถึง $3,500 ต่อออนซ์ หากเราอยู่ในสภาพแวดล้อมการเติบโตของสหรัฐที่น่ากังวลมากกว่าที่คาดการณ์ไว้”
Layton เสริมว่านโยบายการค้าของสหรัฐอาจเป็นแรงผลักดันใหม่ที่สำคัญสำหรับการซื้อทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประธานาธิบดี Trump และทีมงานของเขาได้กล่าวถึงตัวเลขภาษีขั้นสูงในวันที่ 2 เมษายน แม้จะนำมาใช้เพียงครึ่งเดียว ก็จะสร้างความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า
ส่วน Goldman Sachs มองบวกสุด เปิดเผยสถานการณ์ที่ราคาทองอาจพุ่งเกิน $4,000 ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2025 ธนาคารดังกล่าวได้ปรับเป้าหมายราคาทองสำหรับปี 2025 เป็น $3,300 ต่อออนซ์จากประมาณการเดิมที่ $3,100 แต่ภายใต้สภาวะความตึงเครียดในตลาดที่รุนแรง พวกเขาเชื่อว่าทองอาจทะลุ $4,200 ต่อออนซ์ภายในปลายปี 2025 และอาจสูงกว่า $4,500 ในปี 2026
ล่าสุดหลังจากทดสอบแนวรับที่ $3,100 เพียง 15 นาทีหลังจากตลาดอเมริกาเหนือเปิดทำการ ราคาทองก็กลับมาใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้ก่อนหน้าในวันจันทร์อีกครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าแรงซื้อยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนรอดูสถานการณ์นโยบายการค้าสหรัฐและสภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังคงไม่แน่นอน
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ ด้วยการเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ $3,133 ซึ่งได้เคลื่อนตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการวิเคราะห์ครั้งก่อนที่ระดับ $3,090
ราคาได้ทะลุแนวต้านสำคัญที่ $3,100 และ $3,120 อย่างต่อเนื่อง ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยในขณะนี้ราคากำลังทดสอบแนวต้านที่สำคัญบริเวณ $3,136 การเคลื่อนตัวนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ในการวิเคราะห์ครั้งก่อนซึ่งได้ระบุเป้าหมายที่ $3,120 และ $3,136 หากราคาสามารถผ่านแนวต้าน $3,100 ได้
จากกราฟจะเห็นได้ว่าราคายังคงเคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 (เส้นสีแดง) และ EMA 26 (เส้นสีฟ้า) อย่างชัดเจน โดยเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองยังคงเรียงตัวในทิศทางขาขึ้นและมีระยะห่างกันมากขึ้น ซึ่งเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งและแรงส่งของตลาดที่เพิ่มขึ้น การที่ราคาเคลื่อนไหวอยู่ห่างจากเส้นค่าเฉลี่ยค่อนข้างมากนั้นบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่มีอย่างต่อเนื่อง แต่ก็อาจเป็นสัญญาณว่าราคาอาจมีการพักฐานในระยะสั้นได้
ดัชนี RSI ในขณะนี้อยู่ในระดับประมาณ 80 ซึ่งเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) อย่างชัดเจน และสูงกว่าการวิเคราะห์ครั้งก่อน ส่วน Stochastic RSI ก็ยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นกัน แม้ว่าตัวชี้วัดทางเทคนิคจะอยู่ในเขต Overbought แต่ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวขึ้นต่อ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังความเสี่ยงของการปรับฐานในระยะสั้น เนื่องจากระดับ Overbought ที่ชัดเจนนี้
สำหรับแนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า หากราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ $3,136 ไปได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ $3,156 และ $3,183 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงสัญญาณ Overbought จากตัวชี้วัดทางเทคนิค มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาอาจเกิดการพักฐานในระยะสั้น โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ $3,125 ตามด้วย $3,100 ซึ่งเคยเป็นแนวต้านสำคัญและได้กลายเป็นแนวรับในปัจจุบัน หากเกิดการปรับฐานที่มากขึ้น แนวรับถัดไปอยู่ที่ $3,080 และ $3,058
ในภาพรวม แนวโน้มหลักของราคาทองคำยังคงเป็นบวกอย่างชัดเจน และทิศทางขาขึ้นยังมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป แต่นักลงทุนควรเตรียมรับมือกับความผันผวนในระยะสั้นที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเมื่อราคาเข้าใกล้หรือทดสอบแนวต้านสำคัญ
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,100
$3,080
$3,058
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,136
$3,156
$3,183
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน