วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 23 ส.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ราคาทองคำกลับมาเผชิญความผันผวนอีกครั้ง โดยราคาปรับตัวกลับลงมาต่ำกว่าระดับ $2,500 อีกครั้ง แม้จะธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนที่กำลังจะมาถึงนี้ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกดดันราคาทองคำ ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำสะท้อนถึงความไม่แน่นอนในตลาดการเงินโลกและความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ
นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามองการกล่าวสุนทรพจน์ของ Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมประจำปีที่แจ็คสัน โฮล ซึ่งคาดว่าจะเป็นการวางแนวทางนโยบายการเงินในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน และอาจจะลดต่อเนื่องไปจนถึงปี 2025
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณผสมผสาน
ในวันที่ผ่านมา มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดออกมาหลายอย่าง ซึ่งส่งสัญญาณผสมๆ กัน โดยภาคบริการยังคงเติบโตแข็งแกร่ง แต่ภาคการผลิตกลับหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing Managers' Index หรือ PMI) ภาคบริการของ S&P Global เพิ่มขึ้นเป็น 55.2 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 54.0 ในขณะที่ PMI ภาคการผลิตลดลงเหลือ 48.0 จาก 49.6 ในเดือนก่อนหน้า
ด้านตลาดแรงงานก็เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเป็น 232,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 230,000 ราย ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มฟื้นตัวหลังจากหดตัวมา 4 เดือนติดต่อกัน โดยยอดขายบ้านมือสองในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 1.3% เป็น 3.95 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
Chris Williamson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจของ S&P Global Market Intelligence แสดงความเห็นว่า แม้ข้อมูลโดยรวมจะสนับสนุนภาพ Soft Landing ของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่กำลังปรับตัวสู่ภาวะปกติ แต่เมื่อพิจารณาลึกลงไปในตัวเลขหลัก สถานการณ์ดูจะน่ากังวลมากขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจพึ่งพาภาคบริการมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ภาคการผลิตซึ่งมักเป็นตัวชี้นำวัฏจักรเศรษฐกิจกำลังถดถอย
เฟดส่งสัญญาณพร้อมปรับลดดอกเบี้ย
ในวันเดียวกัน มีรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ครั้งล่าสุด ที่เผยว่า สมาชิก “ส่วนใหญ่” สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน หากข้อมูลเศรษฐกิจเป็นไปตามคาด นอกจากนี้ ผู้ว่าการเฟดหลายคนได้แสดงความเห็นสอดคล้องกันว่าถึงเวลาที่จะต้องเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินแล้ว
Susan Collins ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาบอสตัน กล่าวว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งและเห็นว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้เป็นสิ่งที่เหมาะสม ขณะที่ Patrick Harker ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาฟิลาเดลเฟีย เห็นด้วยกับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่เสริมว่าเฟดควรค่อยๆ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นระบบ
อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามเกี่ยวกับขนาดและความถี่ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดคาดว่าการปรับลดครั้งแรกจะเป็นการลด 0.25% แต่ก็ยังมีโอกาสประมาณ 25% ที่อาจจะเป็นการลด 0.50% หากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงนี้ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด
Jack Janasiewicz หัวหน้านักกลยุทธ์พอร์ตการลงทุนที่ Natixis Investment Managers Solutions คาดว่า น้ำเสียงของประธานเฟดจะเอนเอียงไปทางผ่อนคลาย (Dovish) มากขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มลดลงสู่เป้าหมาย 2% ในอัตราที่เร็วกว่าที่ตลาดคาด เมื่อรวมกับสัญญาณการชะลอตัวของตลาดแรงงาน ทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคงจุดยืนแบบเข้มงวด (Hawkish) ไว้อีกต่อไป
ผลกระทบต่อราคาทองคำและตลาดการเงิน
แม้ว่าการคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ แต่การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ก็เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำในระยะสั้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 6.5 basis points มาอยู่ที่ 3.865% ส่วนดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (US Dollar Index) ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล แข็งค่าขึ้น 0.39% มาอยู่ที่ 101.52
นักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำอาจจะผันผวนในระยะสั้น แต่แนวโน้มในระยะยาวยังคงเป็นบวก หากเฟดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 3 ครั้งถัดไป และจะลดต่อเนื่องในปี 2024 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์
Komal Sr-Kumar หัวหน้าของ Sri-Kumar Global Strategies แสดงความเห็นว่า Jerome Powell มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนตลาด ซึ่งเคยบอกหลายครั้งแล้วว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง แม้ว่าจะยังไม่ได้ลดลงจริง แต่ครั้งนี้ น่าจะเกิดขึ้นตริง
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและการลงทุน
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินในวงกว้าง โดยอาจช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุน แต่ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในระยะยาว
นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของเฟดยังอาจส่งผลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่อาจต้องพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจและป้องกันการไหลออกของเงินทุน
ผู้กำหนดนโยบายการเงินของเฟดกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อและการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง แต่ก็ยังคงอยู่เหนือเป้าหมายของเฟดที่ 2% ในขณะเดียวกัน การชะลอตัวของเศรษฐกิจและความเปราะบางในตลาดแรงงานก็เป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง
David Mericle นักเศรษฐศาสตร์จาก Goldman Sachs คาดการณ์ว่า Jerome Powell จะแสดงความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ และให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านลบในตลาดแรงงานมากขึ้นกว่าในการแถลงข่าวหลังการประชุม FOMC เดือนกรกฎาคม เนื่องจากข้อมูลที่ออกมาหลังจากนั้น
มุมมองต่อตลาดทองคำในระยะยาว
แม้ว่าราคาทองคำจะเผชิญกับความผันผวนในระยะสั้น แต่หลายฝ่ายยังคงมองว่าทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในระยะยาว โดยเฉพาะในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าราคาทองคำอาจทะลุระดับ $3,000 ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หากเศรษฐกิจโลกเผชิญกับภาวะถดถอยหรือวิกฤตการเงิน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังและไม่ควรคาดหวังผลตอบแทนที่สูงเกินไปจากการลงทุนในทองคำ เนื่องจากราคาทองคำมักจะผันผวนตามปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำปรับตัวกลับลงมาต่ำกว่า $2,500 โดยราคาถูกกดดันจนหลุดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 (สีแดง) และ EMA 26 (สีฟ้า) อีกครั้ง แสดงถึงแนวโน้มขาลงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ราคายังคงอยู่เหนือเส้น EMA 200 (สีส้ม) บ่งชี้ว่าแนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้น
ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำได้พยายามทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ $2,531 แต่ก็ไม่สามารถผ่านไปได้ ส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไรและการปรับฐาน โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ $2,483 และ $2,473 ตามลำดับ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับเหล่านี้ได้ อาจเห็นการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $2,493 และ $2,510 อีกครั้ง
ดัชนี RSI ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งทำให้ความเคลื่อนไหวสามารถออกได้ทั้งสองฝั่ง แต่หากดัชนี RSI สามารถกลับตัวขึ้นจากบริเวณนี้ได้ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงโอกาสในการฟื้นตัวของราคาในระยะสั้น
สำหรับมุมมองใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง $2,473 - $2,493 โดยนักลงทุนควรจับตาดูการทดสอบแนวรับสำคัญที่ $2,473 หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนราคาให้ฟื้นตัวขึ้น แต่หากหลุดแนวรับนี้ไป อาจเห็นการปรับตัวลงต่อเนื่องไปที่แนวรับถัดไปที่ $2,450
ในทางกลับกัน หากราคาสามารถผ่านแนวต้านที่ $2,510 ขึ้นไปได้ อาจเห็นแรงซื้อเพิ่มขึ้นและผลักดันราคาไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ $2,531 อีกครั้ง ซึ่งเป็นระดับที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากผ่านไปได้ อาจเห็นการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะสั้น
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,483
$2,473
$2,450
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,493
$2,510
$2,531
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน