วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 5 ก.ย. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 5 กันยายน 2567 ราคาทองคำยังคงผันผวน โดยราคาลงไปแต่ระดับราคา $2,471 อีกครั้ง ก่อนที่จะดีดตัวกลับมาใกล้ระดับ $2,500 หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐอเมริกาออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 basis points เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งมีความสัมพันธ์แบบโดยตรงกับราคาทองคำ
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัว กดดันค่าเงินดอลลาร์
สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (US Bureau of Labor Statistics) เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการลาออกของแรงงาน (JOLTS) ล่าสุด พบว่าตำแหน่งงานว่างลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 โดยตำแหน่งงานว่างลดลงมาอยู่ที่ 7.67 ล้านตำแหน่ง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม จากเดิม 7.91 ล้านตำแหน่งในเดือนมิถุนายน ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 8 ล้านตำแหน่ง
ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ลดลงเกือบ 6 basis points มาอยู่ที่ 3.776% นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรง เนื่องจากกังวลว่าอาจจะล่าช้าเกินไป โดยข้อมูลจาก CME FedWatch Tool แสดงให้เห็นว่าโอกาสที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 basis points ในการประชุมเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเป็น 43%
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (US Dollar Index หรือ DXY) ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ปรับตัวลดลง 0.37% มาอยู่ที่ 101.38 หลังจากที่ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดของปีและเพิ่มขึ้นเกือบ 1.30% ในช่วง 6 วันที่ผ่านมา การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น
ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งซื้อทองคำ หนุนราคาพุ่งสูงขึ้น
การซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคาร Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะสูงถึง $2,700 ในช่วงต้นปีหน้า
ข้อมูลจาก Kobeissi Letter ระบุว่า การซื้อทองคำสุทธิของธนาคารกลางทั่วโลกในครึ่งแรกของปี 2024 อยู่ที่ 483 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 5% จากสถิติเดิมที่ 460 ตันในครึ่งแรกของปี 2023 ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 ธนาคารกลางซื้อทองคำ 183 ตัน เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะลดลง 39% จาก 300 ตันในไตรมาสแรก
นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำ โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ $2,700 ในช่วงต้นปี 2025 โดยมีเหตุผลสนับสนุน 3 ประการ ได้แก่ การซื้อทองคำของธนาคารกลางที่เพิ่มขึ้นสามเท่านับตั้งแต่กลางปี 2021 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินของสหรัฐฯ และหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะดึงดูดเงินทุนจากประเทศตะวันตกกลับเข้าสู่ตลาดทองคำ และมูลค่าของทองคำในการป้องกันความเสี่ยงสำหรับพอร์ตการลงทุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
แนวโน้มราคาทองคำในช่วงปลายปี 2024: ท้าทายแต่ยังมีโอกาสเติบโต
แม้ว่าราคาทองคำจะยังคงพยายามรักษาระดับใกล้ $2,500 แต่แรงส่งในการปรับตัวขึ้นเริ่มอ่อนแรงลงเมื่อเข้าสู่เดือนกันยายน ซึ่งเป็นเดือนที่มักจะเป็นช่วงที่ท้าทายสำหรับราคาทองคำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Nicky Shiels หัวหน้าฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์โลหะของ MKS PAMP ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2009 ราคาทองคำมักจะปรับตัวลดลง 2.4% ในเดือนกันยายน ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ชี้ว่านับตั้งแต่ปี 2017 ราคาทองคำปรับตัวลดลง 3.2% ในช่วงที่เรียกว่า “คำสาปเดือนกันยายน”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่าหากมองในระยะยาวแล้ว ปัจจัยตามฤดูกาลอาจมีผลกระทบน้อยลง โดยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เดือนกันยายนกลับเป็นเดือนที่ราคาทองคำปรับตัวเป็นบวก นอกจากนี้ ปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก และความสนใจจากนักลงทุนที่เริ่มเพิ่มขึ้นเมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะเริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนกันยายนนี้
Phillip Streible หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของ Blue Line Futures กล่าวว่า หากมองข้ามความอ่อนแอตามฤดูกาลของเดือนกันยายนไปแล้ว ช่วงปลายปีมักจะเป็นฤดูกาลที่แข็งแกร่งสำหรับทองคำ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 13 ปีจาก 15 ปีที่ผ่านมา และมักจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงวันขอบคุณพระเจ้าไปจนถึงช่วงปีใหม่
ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ บ่งชี้ทิศทางราคาทองคำระยะสั้น
นักลงทุนในตลาดทองคำกำลังเตรียมพร้อมสำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชุดใหญ่ที่จะเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางของราคาทองคำในระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ
หากตัวเลขการจ้างงานออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ อาจส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ในทางกลับกัน หากตัวเลขการจ้างงานแข็งแกร่งเกินคาด อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลกดดันราคาทองคำในระยะสั้น
ธนาคารกลางแคนาดาปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ
ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางแคนาดา (Bank of Canada หรือ BoC) ก็ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลักลง 25 basis points เป็นครั้งที่สามติดต่อกัน โดยลดลงมาอยู่ที่ 4.25% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ การตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำในสกุลเงินดอลลาร์แคนาดาและดอลลาร์สหรัฐมีความผันผวนในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น
Tiff Macklem ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา กล่าวว่าการตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงสองปัจจัยหลัก ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อทั้งแบบหลักและแบบพื้นฐานที่ยังคงชะลอตัวลงตามที่คาดการณ์ไว้ และความต้องการที่จะเห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเพื่อลดช่องว่างในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ 2% อย่างยั่งยืน
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแคนาดาอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนการถือครองทองคำลดลงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่ เช่น พันธบัตรรัฐบาล
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำกำลังแสดงสัญญาณการฟื้นตัวในระยะสั้น หลังจากที่เผชิญกับแรงเทขายในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อพิจารณาจากกราฟราคา 4 ชั่วโมง สามารถเห็นว่าราคาทองคำได้สร้างฐานที่แข็งแกร่งบริเวณแนวรับสำคัญที่ $2,470 - $2,480 ซึ่งเป็นระดับที่นักลงทุนควรจับตามองอย่างใกล้ชิด การที่ราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่เข้ามาหนุนราคา
ในขณะเดียวกัน เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 12 (เส้นสีแดง) และ EMA 26 (เส้นสีฟ้า) กำลังเริ่มปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่ตัดกันขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้แนวโน้มขาลงยังคงมีอยู่
ดัชนี RSI ที่ปรากฏในกราฟด้านล่างกำลังปรับตัวขึ้นปรับมาระดับ 50 แสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมที่เริ่มกลับมาเป็นบวกมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถไว้วางใจได้
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามองในระยะสั้นอยู่ที่ $2,500 และ $2,524 หากราคาสามารถผ่านแนวต้านเหล่านี้ไปได้ อาจเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ในทางกลับกัน แนวรับในวันนี้จะเริ่มต้นที่ $2,489 โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ $2,470 หากราคาหลุดต่ำกว่าระดับนี้ อาจเป็นสัญญาณของการปรับตัวที่ลึกขึ้น
โดยสรุป แนวโน้มราคาทองคำใน 24 ชั่วโมงข้างหน้าราคายังคงมีความผันผวนเช่นเดียวกับวันก่อนหน้า พร้อมด้วยข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมากที่จะหลั่งไหลเข้ามาในวันนี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าน่าจะส่งผลให้ราคาทองคำมีความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนอีกครั้ง
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,489
$2,479
$2,470
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,500
$2,506
$2,524
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน