วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 26 ก.ย. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 26 กันยายน 2567 ราคาทองคำยังคงแข็งแกร่ง และยืนเหนือระดับ $2,650 เป็นวันที่สองติดต่อกันในวันพุธที่ผ่านมา ท่ามกลางการคาดการณ์ของนักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในการประชุมเดือนพฤศจิกายนนี้ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่สูงขึ้นจะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองก็ตาม
ในขณะเดียวกัน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (US Dollar Index หรือ DXY) ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ 6 สกุล ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนและปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.54% มาอยู่ที่ 100.88 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เพิ่มขึ้น 4.5 basis points (bps) มาอยู่ที่ 3.775%
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจในภาคการผลิตชะลอตัวลง ในขณะที่ภาคบริการยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conference Board (CB) บ่งชี้ว่าสภาวะตลาดแรงงานอาจแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้
สัปดาห์ที่แล้ว เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 bps มาอยู่ที่ 4.75%-5.00% และนักลงทุนดูเหมือนจะมั่นใจว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในอัตราเดียวกัน ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool โอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 bps อยู่ที่ 60% ในขณะที่โอกาสปรับลด 25 bps อยู่ที่ 40%
ตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ ส่งสัญญาณฟื้นตัว แต่ราคาทองยังคงรักษาระดับเหนือ $2,650
ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณการฟื้นตัว โดยยอดขายบ้านใหม่เดือนที่แล้วลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ดีกว่าที่คาดนี้มีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อราคาทองคำ ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับ $2,2,650
ตามรายงานของสำนักสำมะโนประชากรสหรัฐฯ และกระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมืองสหรัฐฯ ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 4.7% ในเดือนที่แล้ว มาอยู่ที่อัตรารายปีตามฤดูกาลที่ 716,000 หลัง ต่ำกว่าอัตราที่ปรับปรุงใหม่ของเดือนกรกฎาคมที่ 751,000 หลัง อย่างไรก็ตาม ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 9.8% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2023
แม้ว่ายอดขายจะลดลง แต่รายงานนี้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีการลดลงที่รุนแรงกว่านี้ที่ 699,000 หลัง
ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ประสบปัญหาตลอดปี 2024 เนื่องจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ เฟด อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตลาดจะฟื้นตัวเนื่องจากธนาคารกลางได้เริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินใหม่ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 bps โดยเฟดยังส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจลดลงเหลือ 3% ภายในปี 2026
แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจำนองคาดว่าจะลดลง แต่ภาคที่อยู่อาศัยยังคงเผชิญกับราคาบ้านที่สูงขึ้น โดยรายงานระบุว่าราคาขายมัธยฐานของบ้านใหม่ที่ขายในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ $420,600 ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ $492,700
นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่าจำนวนบ้านที่มีไว้สำหรับขายต้องเพิ่มขึ้นเพื่อให้ราคาลดลง โดยรายงานประมาณการว่าจำนวนบ้านที่มีไว้สำหรับขายอยู่ที่ 467,000 หลัง ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอสำหรับ 7.8 เดือน
ทองคำอาจทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ หลังจีนกระตุ้นเศรษฐกิจ
ราคาโลหะมีค่าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังจากจีนออกมาตรการสนับสนุนภาคส่วนนี้ โดยราคาทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่ ในขณะที่ราคาเงินและแพลทินัมก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามรายงานของ Vladimir Zernov นักวิเคราะห์จาก FX Empire
ราคาทองคำกลับมาอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในวันอังคาร หลังจากธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และลดอัตราส่วนเงินสำรองขั้นต่ำ (Reserve Requirement Ratio หรือ RRR) สำหรับธนาคารพาณิชย์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังชะลอตัว
Zernov คาดการณ์ว่า หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ $2,650 ได้อย่างต่อเนื่อง ก็จะมุ่งหน้าไปสู่ระดับ $2,700 แต่เตือนว่า ดัชนี RSI อยู่ในเขต Overbought ดังนั้นความเสี่ยงที่จะเกิดการปรับฐานก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
BMO มองราคาทองพุ่งแตะ $2,700 ในไตรมาส 4 จากบทบาทสกุลเงินโลก
การเริ่มต้นวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟดได้สร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ให้กับราคาทองคำ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะยังคงสนับสนุนอุปสงค์การลงทุนต่อไป แต่ธนาคารแห่งหนึ่งของแคนาดามองว่าความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของทองคำในฐานะสกุลเงินโลกจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญกว่าสำหรับราคาในระยะยาว
นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของ BMO Capital Markets ได้เผยแพร่การคาดการณ์ราคาราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฉบับปรับปรุง โดยเน้นย้ำว่าทองคำเป็นสินค้าที่มีการปรับเพิ่มการคาดการณ์ราคามากที่สุดก่อนเข้าสู่ไตรมาสที่ 4
ในระยะสั้น ธนาคารคาดว่าราคาทองคำจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ $2,700 ในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 15% จากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ $2,350 ราคาทองคำที่ซื้อขายในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปัจจุบันอยู่ใกล้เคียงกับเป้าหมายราคาใหม่ของ BMO โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเดือนธันวาคมล่าสุดอยู่ที่ $2,687.20
เมื่อมองไปที่ราคาทองคำในอีก 12 เดือนข้างหน้า ธนาคารของแคนาดาคาดว่าราคาจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ $2,663 ในปี 2025 เพิ่มขึ้น 21% จากการประมาณการครั้งก่อนที่ $2,200 นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ปรับปรุงการคาดการณ์ราคาในระยะยาวเป็น $1,900 เพิ่มขึ้น 15% จาก $1,650
BMO ชี้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งขณะนี้นำแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินทั่วโลก จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ให้ความสนใจกับบทบาทของโลหะมีค่าในฐานะสกุลเงินโลกมากกว่า
นักวิเคราะห์ระบุว่าเป็นที่ชัดเจนว่า ทองคำกำลังถูกนำกลับเข้าสู่ระบบการเงินในขณะที่แนวโน้มการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐในการค้าระหว่างประเทศเร่งตัวขึ้น
BMO คาดว่าบทบาทของทองคำในฐานะสกุลเงินการค้าโลกจะยังคงเติบโตต่อไปในปี 2025 เมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง พวกเขายังคงจับตาดูจีนในฐานะที่กำลังแสดงบทบาทนำในการค้าโลก
“ในมุมมองของเรา ตลาดโดยรวมยังคงประเมินการปรับเปลี่ยนการค้าของจีนไปสู่ตลาดเกิดใหม่ต่ำเกินไป นอกจากนี้ ยังเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐในการค้าอย่างรวดเร็ว” รายงานระบุ
BMO ชี้ว่าการใช้เงินหยวนในระดับนานาชาติ แม้จะยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ นักวิเคราะห์เสริมว่าพวกเขาคาดว่าการค้าในสกุลเงินหยวนจะยังคงเติบโตต่อไปในปีต่อๆ ไป
“ที่น่าสังเกตคือ กว่า 50% ของธุรกรรมขาเข้าและขาออกของจีนใช้สกุลเงินหยวนในเดือนที่ผ่านมา และในมุมมองของเรา สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตลาดทองคำ เนื่องจากการปรับเปลี่ยนของจีนไปสู่ตลาดเกิดใหม่ และความยากลำบากที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งประสบในการเข้าถึงเงินหยวน เรามองว่าสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทองคำ ซึ่งกำลังถูกใช้เป็นสื่อกลางในการค้าเพื่อรองรับธุรกรรมที่อ้างอิงสกุลเงินหยวน”
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำยังคงทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล โดยความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่หนาแน่นและต่อเนื่อง
เมื่อพิจารณาจากเส้นค่าเฉลี่ย EMA เหมือนว่าราคาทองจะเคลื่อนไหวคล้ายๆ กับก่อนหน้านี้ ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นดีดออกห่างจาก EMA 12 (สีแดง) และ EMA 26 (สีฟ้า) ก่อนที่ราคาจะชะลอตัวลงเล็กน้อย เพื่อดึงให้ทั้งสองเส้นกลับมาใกล้เคียงกับราคา ซึ่งก็ยังคงแสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ดัชนี RSI ที่อยู่ในระดับสูงถึงเขต Overbought บ่งชี้ว่าราคาอาจเผชิญกับแรงขายทำกำไรในระยะสั้นได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการพักฐานชั่วคราว อีกทั้งยังมีสัญญาณ Bearish Divergence ที่น่าเป็นห่วง ซึ่งต้องระวังต่อไป
แนวรับสำคัญที่ควรจับตามองอยู่ที่ระดับ $2,650 ซึ่งเป็นแนวเส้น EMA 12 และเป็นจุดที่ราคาเคยทดสอบและดีดตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ หากราคาหลุดแนวรับนี้ แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ $2,635 และ $2,619 ตามลำดับ
ส่วนแนวต้านสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังคือระดับ $2,670 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดล่าสุด หากราคาสามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ $2,680 และ $2,690 ตามลำดับ
ในภาพรวม แนวโน้มของราคาทองคำใน 24 ชั่วโมงข้างหน้ายังคงเป็นขาขึ้น แต่นักลงทุนควรระมัดระวังการเกิดการพักฐานระยะสั้น เนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นมามากแล้ว หากราคายังคงยืนเหนือแนวรับที่ $2,650 ได้ โอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านที่ $2,670 ยังคงมีสูง แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว อาจเกิดการปรับฐานลงสู่แนวรับถัดไปที่ $2,635
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,650
$2,635
$2,519
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,670
$2,680
$2,690
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน