วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 5 มิ.ย. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ราคาทองคำร่วงลงอีกครั้งท่ามกลางแรงขายเพื่อกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลง ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งมักจะเคลื่อนไหวตรงกันข้ามกับราคาทองคำ ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่บริเวณ 4.430 ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ก็ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 104.16 อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้สนับสนุนราคาทองคำซึ่งที่ถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลที่เผยแพร่ในปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อเดือนเมษายน รายงาน JOLTS และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวได้แต่ยังอ่อนแอ ท่ามกลางต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นซึ่งกำหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
หลังจากการเปิดเผยข้อมูล ตลาด Federal Funds Futures ของสัญญาเดือนธันวาคม 2024 บ่งชี้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 36 basis points ผ่านตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าชิคาโก (CBOT) ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
ตลาดทองคำเผชิญแรงต้าน หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอ
ตลาดทองคำลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ 2,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเริ่มปรากฏสัญญาณความอ่อนแอในตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021 รายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอุปสงค์แรงงาน ร่วงลงสู่ระดับ 8.06 ล้านตำแหน่ง ณ สิ้นเดือนเมษายน ลดลงจาก 8.49 ล้านตำแหน่งในเดือนมีนาคม
ตัวเลขตำแหน่งงานว่างอ่อนแอกว่าคาดอย่างมาก โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 8.37 ล้านตำแหน่ง
รายงานระบุว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งจำนวนการจ้างงานใหม่และจำนวนผู้ลาออกทั้งหมดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 5.6 ล้านและ 5.4 ล้านตำแหน่งตามลำดับ ณ วันทำการสุดท้ายของเดือนเมษายน จำนวนตำแหน่งงานว่างแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 8.1 ล้านตำแหน่ง ซึ่งลดลง 1.8 ล้านตำแหน่งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นักวิเคราะห์ระบุว่า ข้อมูลตลาดแรงงานที่อ่อนแอควรจะช่วยพยุงราคาทองคำไว้ได้ เนื่องจากเป็นแรงกดดันต่อเฟดในการคงนโยบายการเงินแบบเข้มงวด
ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำต่อเนื่อง แม้ราคาพุ่ง
Krishan Gopaul นักวิเคราะห์อาวุโสประจำภูมิภาค EMEA ของ World Gold Council ระบุว่า การซื้อทองคำโดยรวมมีปริมาณใกล้เคียงกับเดือนมีนาคม ในขณะที่การขายโดยหน่วยงานรัฐลดลงอย่างมากในเดือนเมษายน ส่งผลให้เกิดผลกำไรสุทธิจำนวนมาก
Gopaul ชี้ว่า ตัวเลขล่าสุดที่รายงานผ่าน IMF และแหล่งข้อมูลสาธารณะ แสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางทั่วโลกยังคงมีความต้องการทองคำสูงเช่นเคย โดยทุนสำรองทองคำทั่วโลกเพิ่มขึ้นสุทธิ 33 ตันในเดือนเมษายน ซึ่งใกล้เคียงกับระดับในเดือนกุมภาพันธ์ (27 ตัน) แม้ว่ายอดซื้อรวมจะลดลงเล็กน้อยจาก 39 ตันในเดือนมีนาคม เหลือ 36 ตัน แต่ยอดขายรวมกลับลดลงชัดเจนจาก 36 ตันในเดือนมีนาคม เหลือ 3 ตันในเดือนเมษายน
ตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นว่ามีธนาคารกลาง 8 แห่งที่เพิ่มการถือครองทองคำอย่างเป็นทางการ 1 ตันขึ้นไประหว่างเดือน ธนาคารกลางตุรกีเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุด ด้วยการเพิ่มทุนสำรองอย่างเป็นทางการ 8 ตัน คิดเป็นยอดซื้อสุทธิ 38 ตันสำหรับปีนี้ ทำให้ปัจจุบันถือครองทองคำอย่างเป็นทางการ 578 ตัน
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลแสดงให้เห็นการชะลอตัวอย่างมากในการซื้อทองคำของธนาคารกลางจีน (PBOC) โดยรายงานว่าทุนสำรองทองคำเพิ่มขึ้นเพียง 2 ตันในเดือนเมษายน มาอยู่ที่ 2,264 ตัน นับเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนต่ำสุดนับตั้งแต่กลับมารายงานข้อมูลใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2022 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรายเดือน 18 ตันก่อนเดือนเมษายนมาก
นิวยอร์กเฟดชี้แนวโน้ม De-dollarization ไม่รุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายเชื่อ
รายงานวิจัยจากธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก ระบุว่า แนวโน้มการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐฯ (De-dollarization) ที่ครองตลาดการเงินโลกมาเกือบ 2 ปี และหนุนราคาทองคำทำสถิติสูงสุดนั้น ไม่ได้รุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายมองในทีแรก
นักวิเคราะห์จากธนาคารกลางภูมิภาคโต้แย้งในรายงานที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า แม้ว่าสินทรัพย์ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ธนาคารกลางทั่วโลกถือครองจะลดลง 7% ระหว่างปี 2015-2021 แต่ประเทศต่างๆ ก็ไม่ได้หันหลังให้ดอลลาร์เป็นวงกว้างอย่างที่คาดเดา
“เกิดเรื่องราวว่าการลดลงของสัดส่วนสินทรัพย์ดอลลาร์ในพอร์ตการลงทุนเงินทุนสำรองอย่างเป็นทางการ เป็นสัญญาณนำของการสูญเสียสถานะของดอลลาร์ในระบบการเงินระหว่างประเทศ อ้างอิงจากงานวิจัยและการวิเคราะห์ล่าสุด บทความนี้ตั้งคำถามต่อเรื่องราวดังกล่าว โดยโต้แย้งว่าแนวโน้มโดยรวมที่สังเกตเห็นนั้นส่วนใหญ่สะท้อนพฤติกรรมของประเทศจำนวนน้อย ไม่ใช่ความพยายามอย่างกว้างขวางของธนาคารกลางที่จะกระจายความเสี่ยงออกจากดอลลาร์”
แม้บางประเทศจะขยับออกห่างจากดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างจริงจัง แต่นิวยอร์กเฟดชี้ว่าแนวโน้มดังกล่าวมาจากเพียง 2 ประเทศ คือ อินเดียและจีน พวกเขาระบุว่าสองประเทศนี้มีส่วนในการลดลง 7% ดังกล่าวราว 2.9%
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ธนาคารกลางภูมิภาคใช้ในการวิเคราะห์อาจล้าสมัยไปบ้างแล้ว ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แสดงว่าจีนขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และตราสารหนี้หน่วยงานรัฐบาล มูลค่า 53.3 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2024
ธนาคารกลางยังคงสะสมทองคำต่อเนื่อง แม้นิวยอร์กเฟดเห็นการซื้อไม่ขยายวงกว้าง
นักวิเคราะห์ของนิวยอร์กเฟดยังได้มองถึงบทบาทของทองคำในตลาดโลก ในขณะที่หลายประเทศแสวงหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากดอลลาร์สหรัฐฯ
ตลาดทองคำอยู่ในช่วงที่ได้รับความต้องการจากธนาคารกลางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยในปี 2022-2023 เงินทุนสำรองทางการเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ตัน เมื่อเดือนเมษายน World Gold Council ระบุว่า อุปสงค์สุทธิจากภาคธนาคารกลางอยู่ที่ 290 ตันในไตรมาสแรกของปี 2024 ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นปีที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา
ธนาคารกลางเองก็ให้เหตุผลด้านความกังวลจากการคว่ำบาตร เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการซื้อทองคำและการเพิ่มการเก็บทองคำในประเทศ ในการสำรวจผู้จัดการเงินสำรองล่าสุด แต่ถึงแม้ธนาคารกลางจะซื้อทองคำในอัตราที่สูงผิดปกติ แต่นิวยอร์กเฟดไม่เห็นว่าแนวโน้มนี้จะขยายตัวต่อ โดยระบุว่ามีเพียงไม่กี่ประเทศที่กำลังซื้อทองคำ
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ราคาทองคำกลับลงมาทดสอบแนวรับสำคัญอีกครั้ง โดยราคาปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าเส้น EMA ทุกเส้น แสดงถึงแรงขายที่มีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาหลุดต่ำกว่าเส้น EMA 200 ที่ $2,335 ลงมา ถือเป็นสัญญาณยืนยันแนวโน้มขาลงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ทางด้านของ RSI ไม่ได้ปรับตัวลงแรงตาม และยังคงมีสัญญาณของ Bullish Divergence ซึ่งทำให้เห็นว่าแรงขายเริ่มอ่อนแรงลง
ทางด้าน Stoch RSI ส่งสัญญาณตัดกันขึ้นอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสที่แนวรับนี้จะยันราคาเอาไว้ได้ ก่อนที่ราคาจะปรับตัวขึ้นอีกครั้ง
แนวรับสำคัญในวันนี้จะอยู่ที่ $2,325 - $2,315 ที่เป็นแนวรับของแท่งเทียนก่อนหน้านี้ ขณะที่แนวต้านสำคัญอยู่ที่ $2,335 (เส้น EMA 200) และถัดไปที่ $2,350
สรุปแนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาลง แต่ก็เริ่มมีสัญญาณของการสร้างฐานขึ้นมาอีกครั้ง แต่หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวรับ $2,325 ได้ มีโอกาสสูงที่จะเห็นการอ่อนตัวลงต่อเนื่อง โดยมีแนวรับถัดไปที่ $2,315 และ $2,300
อย่างไรก็ตาม อินดิเคเตอร์หลายตัวแสดงถึงโอกาสที่ราคาจะเกิดการดีดตัวกลับขึ้นมาได้ โดยเฉพาะหากมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนที่แนวรับ แต่การฟื้นตัวขึ้นนั้น ยังต้องติดตามว่าจะเป็นเพียงการดีดตัวในระยะสั้นหรือไม่ ซึ่งสิ่งสำคัญคือการกลับขึ้นมายืนเหนือ EMA 200 ให้ได้เสียก่อน
แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,325 - $2,315 / $2,300
แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,335 / $2,350
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน