วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 7 ก.พ. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ตลาดทองคำโลกมีความผันผวนเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี โดยการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเริ่มชะลอตัวลงหลังจากที่พุ่งทะยานทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องกันถึง 5 วัน สาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และการแข็งค่าเล็กน้อยของดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะทยอยทำกำไรก่อนการเปิดเผยรายงาน Nonfarm Payrolls (การจ้างงานนอกภาคเกษตร) ฉบับล่าสุดของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่อาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลก โดยราคาทองคำ XAU/USD ปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 2,863 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในเช้าวันนี้

ตลาดแรงงานสหรัฐส่อเค้าอ่อนแอ หลังตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานพุ่งเกินคาด

ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแอลง โดยจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 219,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 213,000 ราย นอกจากนี้ ตัวเลขของสัปดาห์ก่อนหน้ายังได้รับการปรับแก้เพิ่มขึ้นเป็น 208,000 ราย

รายงานจาก Bloomberg ระบุว่าตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาแย่กว่าคาดนี้อาจะไม่ถูกต้องทั้งหมด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากไฟป่าในลอสแองเจลิสและสภาพอากาศที่แปรปรวนในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ 

BoE ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง หนุนราคาทองในตลาดปอนด์พุ่งทะยาน

ราคาทองคำยังคงทำสถิติสูงสุดใหม่ในตลาดสกุลเงินทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสกุลเงินปอนด์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England: BoE) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สามในรอบการผ่อนคลายนโยบายการเงินครั้งนี้ คณะกรรมการ BoE มีมติด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Bank Rate) ลง 0.25% มาอยู่ที่ 4.5% ในขณะที่กรรมการสองท่านต้องการลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 0.5% สู่ระดับ 4.25%

BoE ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า “เพื่อสนับสนุนการนำอัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ 2% อย่างยั่งยืน คณะกรรมการเห็นว่ามีความคืบหน้าเพียงพอในการควบคุมเงินเฟ้อภายในประเทศและค่าจ้าง จึงตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับ 4.5% ในการประชุมครั้งนี้”

นอกจากนี้ BoE ยังส่งสัญญาณว่าการถอนการควบคุมนโยบายการเงินควรดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปและระมัดระวัง

ราคาทองคำในตลาดปอนด์ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 1% ในวันเดียว ธนาคารกลางอังกฤษยังเน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นเป็นอีกเหตุผลที่ต้องรักษาแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงิน

Michael Brown นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Pepperstone กล่าวว่า แม้ BoE จะมีท่าทีผ่อนคลายมากกว่าที่คาด แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในอังกฤษ โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งละ 0.25% ในทุกไตรมาส รวมเป็นการลดดอกเบี้ยทั้งสิ้น 1% ในปีนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสิ้นปี 2025 อยู่ที่ 3.75%

สถาบันการเงินระดับโลกแห่ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทอง หลังความตึงเครียดการเมืองโลกทวีความรุนแรง

ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Citigroup และ UBS ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งนับเป็นสถาบันการเงินล่าสุดที่ปรับปรุงเป้าหมายราคาทองคำสำหรับปี 2025 ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากนโยบายภายในประเทศและต่างประเทศที่สร้างความปั่นป่วนของประธานาธิบดี Trump

นักวิเคราะห์ของ Citigroup เขียนในบทวิเคราะห์ว่า “ตลาดกระทิงของทองคำมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าต่อไปภายใต้ยุค Trump 2.0 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสงครามการค้าและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งเสริมแนวโน้มการกระจายการถือครองทุนสำรองและการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนอุปสงค์ทองคำจากภาครัฐในตลาดเกิดใหม่”

Citigroup คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในอีกสามเดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 2,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ซึ่งทองคำได้ทำลายระดับนี้ไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเฉลี่ยสำหรับปี 2025 เป็น 2,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในขณะที่ยังคงเป้าหมายราคาในช่วง 6-12 เดือนไว้ที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ธนาคารยังระบุว่าการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐเพิ่มแรงจูงใจให้ธนาคารกลางต่างๆ เพิ่มการถือครองทองคำเพื่อช่วยสนับสนุนค่าเงินของตนเอง ในขณะที่นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะซื้อทั้งทองคำแท่งและกองทุน ETF ที่อ้างอิงราคาทองคำ

นักวิเคราะห์ของ Citigroup ยังได้กล่าวถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ประธานาธิบดี Trump อาจเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองคำ โดยระบุว่าส่วนต่างราคาทองคำในตลาดสหรัฐฯ สะท้อนถึงโอกาสประมาณ 20% ที่ทองคำจะถูกรวมอยู่ในมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทั่วไปที่อัตรา 10% อย่างไรก็ตาม Citigroup ไม่คาดว่าทองคำจะถูกรวมอยู่ในมาตรการภาษีดังกล่าวในไตรมาสที่สองของปี 2025 เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน และในกรณีของเหรียญทองคำสหรัฐฯ ถือเป็นเงินตราตามกฎหมาย

ด้าน UBS ธนาคารยักษ์ใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำในระยะ 12 เดือนเป็น 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เช่นกัน หลังจากที่ราคาในตลาด Spot ได้พุ่งทะลุเป้าหมายเดิมที่ 2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ไปแล้ว Mark Haefele หัวหน้าทีมนักยุทธศาสตร์ของ UBS กล่าวในรายงานวิจัยว่า "แม้เราจะยอมรับว่าราคาปัจจุบันที่ 2,870 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์สูงกว่าประมาณการมูลค่าที่เหมาะสมของเรา แต่แรงดึงดูดอันยั่งยืนของทองคำในฐานะแหล่งเก็บรักษามูลค่าและเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง"

ผู้เชี่ยวชาญชี้ทองคำยังน่าลงทุน แม้ Fed ชะลอลดดอกเบี้ย แนะรอจังหวะซื้อ

Kathy Kriskey ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก Invesco ได้ให้ความเห็นว่า นักลงทุนที่มองท่าทีลังเลของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยปีนี้ ว่าเป็นเหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในทองคำนั้น กำลังให้ความสำคัญกับปัจจัยที่ไม่ถูกต้อง

ในอดีต ทองคำมักจะมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของสหรัฐฯ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสของการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นยังช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำเป็นลำดับที่สอง

อย่างไรก็ตาม Kriskey อธิบายว่านักลงทุนกำลังหันมาลงทุนในทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลกที่ดำเนินอยู่ เธอชี้ให้เห็นว่าแนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องจากนักลงทุนรุ่นเก่าหลายคนมองทองคำเป็นเครื่องมือปกป้องความมั่งคั่งมาโดยตลอด แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือนักลงทุนรุ่นใหม่ก็เริ่มให้ความสนใจกับทองคำมากขึ้นในช่วงที่ความผันผวนในตลาดเพิ่มสูงขึ้น

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

ราคาทองคำได้เกิดการปรับฐานลงมาจากระดับสูงสุดที่ 2,869 ดอลลาร์ มาที่ 2,850 ดอลลาร์ ก็จะทรงอยู่ที่ระดับ 2,863 ในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการพักฐานที่ยังไม่รุนแรงและยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้

เมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของราคาเทียบกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ พบว่าราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือเส้น EMA ทั้งสามเส้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้น EMA ระยะสั้นสีแดงที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับเคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความห่างระหว่างเส้น EMA ที่ยังคงกว้างขึ้นสะท้อนถึงโมเมนตัมเชิงบวกที่ยังคงแข็งแกร่ง

การเคลื่อนไหวของดัชนี RSI มีประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติม โดย RSI ปรับตัวลงออกจากโซน Overbought ขณะที่ Stochastic RSI เริ่มไขว้กันที่โซนล่างอีกครั้ง ซึ่งทำให้การพักตัวนี้อาจจะจบลง และราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกครั้ง

จากมุมมองของแนวรับแนวต้าน ราคาปัจจุบันกำลังทดสอบแนวรับที่ 2,850 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านเดิมที่ถูกทะลุขึ้นมา หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง จะเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่หากหลุดลงมา แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 2,830 และ 2,800 ดอลลาร์ตามลำดับ

ในระยะ 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 2,850-2,880 ดอลลาร์ โดยอาจเห็นการพักฐานระยะสั้นก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา เนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเริ่มชะลอตัวลง นักลงทุนควรติดตามการทดสอบแนวรับ 2,850 ดอลลาร์อย่างใกล้ชิด และอาจพิจารณาทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับสำคัญ

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,850

• $2,830

• $2,800

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,880

• $2,890

• $2,900