วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 13 ม.ค. 2568
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 13 มกราคม 2568 ราคาทองคำ (XAU/USD) แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้น โดยราคาทองคำในตลาดสปอตล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2,683 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นเกือบ 1% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น
David Meger ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าโลหะที่ High Ridge Futures ได้ให้ความเห็นว่าทองคำยังคงแสดงความแข็งแกร่งแม้จะเผชิญกับตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด หนึ่งในปัจจัยที่คอยสนับสนุนราคาทองคำคือความไม่แน่นอนที่เราเห็นก่อนการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของ Donald Trump โดยความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล Trump ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ โดยเฉพาะประเด็นสงครามการค้าและการเก็บภาษีนำเข้า ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางและความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ระหว่างรัสเซียกับยูเครน ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ โดยเฉพาะการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องทั่วฉนวนกาซา รวมถึงการโจมตีบริเวณใกล้เมืองกาซา นูเซราต และบูเรจ นอกจากนี้ยังมีรายงานการโจมตีสองครั้งในหุบเขาฮูมินทางตอนใต้ของเลบานอน ตามรายงานของสำนักข่าวแห่งชาติเลบานอน
สถานการณ์ความตึงเครียดเหล่านี้ส่งผลให้นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐก็ตาม ซึ่งโดยปกติแล้ว การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐมักจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากทองคำซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด กดดัน Fed ชะลอการลดดอกเบี้ย
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 164,000 ตำแหน่งอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับ 4.1% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.2% สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินต่อไปตลอดปี 2024
Michael Brown นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Pepperstone ได้ให้ความเห็นว่า แม้ตัวเลขการจ้างงานจะออกมาแข็งแกร่งเกินคาด แต่ไม่ได้เป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” เนื่องจากตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งมาตลอดปี 2024 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวได้ส่งผลให้นักลงทุนปรับลดคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในปี 2025 เหลือเพียง 30 basis points จากเดิมที่คาดว่าจะลดลง 45 basis points
Brown ยังได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินยังคงเดินหน้าที่จะ “ข้าม” การประชุมในเดือนมกราคม โดยคงอัตราดอกเบี้ยกองทุนเฟดไว้ที่ระดับเดิม เพื่อให้เวลาในการประเมินผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 100 basis points ที่ดำเนินการไปในปีที่แล้ว การหยุดพักนี้ยังช่วยให้มีโอกาสประเมินความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่อาจเพิ่มขึ้น และผลกระทบจากนโยบายเบื้องต้นที่จะถูกนำมาใช้โดยรัฐบาล Trump ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ”
ข้อมูลการจ้างงานยังเปิดเผยว่าค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.3% สู่ระดับ $35.69 โดยตลอดทั้งปี ค่าจ้างเพิ่มขึ้น 3.9% สะท้อนให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากค่าจ้างยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ
ทองคำท้าทายแนวต้าน $2,700 แม้ดอลลาร์แข็งค่าและพันธบัตรพุ่งสูง
ราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 2,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐที่แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่พุ่งแตะ 4.76% สูงสุดในรอบ 16 เดือน
Lukman Otunuga ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ตลาดที่ FXTM กล่าวว่า นักลงทุนกำลังเร่งเข้าซื้อทองคำเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีนำเข้าของ Trump และเงินเฟ้อ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักจะเป็นข่าวร้ายสำหรับทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีนำเข้ายังคงเร่งให้เกิดการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
Otunuga เสริมว่าราคาทองคำอาจมีความอ่อนไหวต่อข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ เนื่องจากราคาผู้บริโภคที่สูงขึ้นอาจสร้างแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้คงอัตราดอกเบี้ยในระดับที่ค่อนข้างคงที่ตลอดปี 2025
ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักจะเป็นปัจจัยลบต่อทองคำ นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นพร้อมกับการที่ Fed คงนโยบายการเงินไว้ จะผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงลดลง ซึ่งจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นบวกสำหรับโลหะมีค่า
Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ Saxo Bank กล่าวว่า ทองคำเป็นเพียงหนึ่งในสินทรัพย์ในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ได้รับประโยชน์จากการเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้
เมื่อมองไปนอกพรมแดนสหรัฐอเมริกา นักวิเคราะห์บางรายชี้ให้เห็นว่าไม่น่าแปลกใจที่ทองคำปรับตัวขึ้นพร้อมกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากราคาทองคำกำลังปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักทุกสกุล
มุมมองราคาทองคำปี 2025 ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง
Kathy Lien ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ FX ที่ BK Asset Management แสดงมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในปี 2025 โดยให้ความเห็นว่า เมื่อมีการซื้อขายในช่วงที่มีข่าวสำคัญ นักเทรดควรรอ 5-15 นาทีเพื่อดูทิศทางที่แท้จริงของตลาด
Lien มองว่าความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในปีนี้ แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นจะเป็นความเสี่ยงในระยะสั้น แต่ความเสี่ยงจากสงครามการค้า ภาษีนำเข้า และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์จะทำให้นักลงทุนกังวล ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
Lien สังเกตว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำสะท้อนถึงความรู้สึกไม่เสี่ยง (Risk-off Sentiment) ในตลาดหุ้น แม้จะมีข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลง 85 จุด หรือมากกว่า 1% มาอยู่ที่ 5,832 จุด
ในด้านระดับราคา Lien คาดว่าทองคำอาจทดสอบแนวรับที่ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ในทางกลับกัน ก็มองว่าราคาอาจพุ่งไปถึง 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยแนะนำให้รอการปรับฐานที่ลึกขึ้นเพื่อเข้าซื้อทองคำ
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐฯ ในวันอังคาร ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีภาคการผลิตเอ็มไพร์สเตทในวันพุธ ยอดค้าปลีก ดัชนีภาคการผลิตฟิลาเดลเฟีย และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและใบอนุญาตก่อสร้างในวันศุกร์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะสั้น
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ $2,678 และพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับ $2,689 ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นที่ต่อเนื่อง
การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงนี้แสดงให้เห็นรูปแบบการเคลื่อนตัวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการทำงานร่วมกันของ RSI และ Stochastic RSI ที่ยังคงอยู่ในโซนบวก แม้ว่าจะเริ่มมีสัญญาณ Divergence เล็กน้อย ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการพักตัวในระยะสั้น แต่แนวโน้มหลักยังคงเป็นบวก
สิ่งที่น่าสังเกตคือการเคลื่อนตัวของเส้น EMA ที่ยังคงรักษารูปแบบการไต่ระดับขึ้นอย่างสวยงาม โดยเส้น EMA ระยะสั้นทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,678 นอกจากนี้ ความห่างระหว่างเส้น EMA ที่กว้างขึ้นยังสะท้อนถึงแรงส่งของแนวโน้มขาขึ้นที่ยังคงแข็งแกร่ง
มองไปข้างหน้า เมื่อราคาสามารถยืนเหนือ $2,683 ได้ สามารถคาดการณ์แนวต้านสำคัญถัดไปที่ระดับ $2,700 ตามด้วยแนวต้านที่ $2,726 และแนวต้านแข็งแกร่งที่ $2,730 ในขณะที่แนวรับสำคัญจะอยู่ที่ระดับ $2,678 สำหรับแนวรับระยะสั้น ตามด้วยแนวรับหลักที่ $2,662 บริเวณเส้น EMA และแนวรับแข็งแกร่งที่ $2,645
ปัจจัยที่ควรระวังในระยะสั้นคือการเกิด Divergence ใน RSI และ Stochastic RSI ซึ่งอาจนำไปสู่การพักตัวของราคา อย่างไรก็ตาม หากราคายังคงยืนเหนือแนวรับที่ $2,662 ได้ แนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางถึงยาวยังคงแข็งแกร่ง และมีโอกาสที่ราคาจะสามารถไปทดสอบเป้าหมายที่สูงขึ้นได้
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,678
$2,662
$2,645
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,689
$2,700
$2,726
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน