วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 16 ต.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ตลาดทองคำปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อยในวันที่ผ่านมา ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ ขณะที่นักลงทุนจับตามองทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทองคำยังร้อนแรง ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ร่วง หนุนราคาพุ่ง
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐชะลอตัวลง ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ $2,662 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง 8 basis points มาอยู่ที่ระดับ 4.03% ซึ่งส่งผลให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนมีความน่าสนใจมากขึ้น
นอกจากนี้ ดัชนีภาคการผลิต Empire State ของรัฐนิวยอร์กประจำเดือนกันยายนออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อในเดือนกันยายนถูกปรับเพิ่มขึ้นตามผลสำรวจความคาดหวังของผู้บริโภคโดยธนาคารกลางนิวยอร์ก (NY Fed Consumers Expectations Survey) สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และหันมาถือครองทองคำมากขึ้น
เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย นักลงทุนรอลุ้นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
ในวันที่ผ่านมา Mary Daly ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่าความเสี่ยงต่อเป้าหมายทั้งสองของธนาคารกลางสหรัฐฯ (การรักษาเสถียรภาพราคาและการจ้างงานเต็มที่) มีความสมดุลมากขึ้น โดยตลาดแรงงานไม่ใช่แหล่งที่มาของแรงกดดันเงินเฟ้ออีกต่อไป โดยยังเสริมว่าเฟดมีความระมัดระวังในการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1-2 ครั้ง “หากเป็นไปตามการคาดการณ์”
Daly ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นการ “ปรับขนาด” ของนโยบายการเงินให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงความคืบหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อที่ผ่านมา แต่ยังคงรักษาความเข้มงวดของนโยบายการเงินไว้ Daly ยังเน้นย้ำว่าแม้จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่นโยบายการเงินยังคงอยู่ในระดับที่เข้มงวด เพื่อสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อเงินเฟ้อให้ลดลงสู่เป้าหมายที่ 2%
ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังจับตามองตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางของราคาทองคำและนโยบายการเงินในอนาคต
ทองคำยังแกร่ง คาดราคาพุ่งแตะ 2,941 ดอลลาร์ภายในปีหน้า
ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมการประชุม London Bullion Market Association (LBMA) Precious Metals Conference ประจำปี 2024 แสดงให้เห็นว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ $2,941.40 ภายในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบันถึง 10.5%
Paul Fisher ประธาน LBMA กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งในสามนับตั้งแต่การประชุมครั้งที่แล้วในเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อปีที่ผ่านมา โดยการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเกิดขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง และตลาดแรงงานที่ยังคงมีความยืดหยุ่น
Robert Mullin หุ้นส่วนของ Marathon Resource Advisors เน้นย้ำในการอภิปรายว่า ทองคำกำลังกำหนดบทบาทใหม่ในฐานะสินทรัพย์ที่มีประโยชน์ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยกล่าวว่าทองคำเป็นตัวกระจายความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพมาก ธนาคารกลางต่างๆ ได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้แล้ว และเขาคิดว่านักลงทุนตะวันตกกำลังเริ่มเข้าใจเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทองคำจะยังคงมีศักยภาพที่น่าสนใจในปีหน้า แต่ผู้เข้าร่วมการประชุม LBMA คาดการณ์ว่าเงิน (Silver) จะเป็นสินทรัพย์ที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025 โดยผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า 45% ของผู้เข้าร่วมประชุมคาดว่าเงินจะมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มโลหะมีค่า โดยคาดการณ์ว่าราคาเงินจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบันถึง 43%
Mitchell Krebs ซีอีโอของ Coeur Mining กล่าวในระหว่างการอภิปรายว่า ไม่เคยเห็นแนวโน้มที่ดีกว่านี้สำหรับเงินมาก่อน ขณะที่ Matt Watson ผู้ก่อตั้งและประธาน Precious Metals Commodity Management แสดงความเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับเงินว่าไม่เห็นปัจจัยพื้นฐานที่เป็นลบสำหรับเงินเลย นี่เป็นโลหะอเนกประสงค์ที่สุดในตารางธาตุ
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความต้องการใช้เงินในภาคอุตสาหกรรมยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อุปทานจากเหมืองยังคงไม่เพียงพอ ส่งผลให้ตลาดเงินเผชิญกับภาวะขาดแคลนอุปทาน (Supply Deficit) ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาเงินมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต
สำหรับแพลทินัม (Platinum) คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีเช่นกันในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยผู้เข้าร่วมประชุมคาดการณ์ว่าราคาแพลทินัมจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ $1,147.90 ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ครึ่งแรกของปี 2023 โดยคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นและภาวะขาดแคลนอุปทานที่รุนแรงขึ้นในปีหน้า
ความผันผวนในตลาดโลหะมีค่า สะท้อนภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำและโลหะมีค่าอื่นๆ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินของประเทศสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา นักลงทุนกำลังจับตามองปัจจัยสำคัญหลายประการที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ปลอดภัยเหล่านี้ในระยะข้างหน้า
ประการแรก คือ ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ หากเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมักจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำและโลหะมีค่า เนื่องจากทำให้ต้นทุนการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเหล่านี้ลดลง
ประการที่สอง คือ สถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งอิสราเอลเปิดเผยว่าจะโจมตีเป้าหมายทางทหารเพื่อตอบโต้อิหร่านและเฮซบอลลาห์ หลังจากเหตุการณ์โจมตีด้วยขีปนาวุธเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศมักจะกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น
ประการที่สาม คือ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงของภาวะถดถอย โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งอาจส่งผลให้นักลงทุนหันมาให้ความสนใจกับสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ ความต้องการใช้โลหะมีค่าในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเงินและแพลทินัม ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางราคาในระยะยาว
ท้ายที่สุด การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำและโลหะมีค่า โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐและการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมักจะส่งผลบวกต่อราคาสินทรัพย์เหล่านี้
ในขณะที่ตลาดทองคำและโลหะมีค่ายังคงมีความผันผวน นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างเฝ้าติดตามปัจจัยต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคาในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจโลกและการเมืองระหว่างประเทศยังคงเป็นความท้าทายสำคัญในการคาดการณ์แนวโน้มราคาในระยะยาว
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ $2,663 การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่ราคาสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 12 (สีแดง) และ EMA 26 (สีฟ้า) ได้อย่างแข็งแกร่ง
เมื่อพิจารณาจากกราฟ จะเห็นว่าราคาทองคำได้เกิดการ Breakout และมุ่งหน้าขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่บริเวณ $2,671 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง ก็มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $2,685 ในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจจะเข้ามาในช่วงนี้หลังเข้าใกล้แนวต้าน แม้ว่าค่า RSI จะยังมีพื้นที่ให้ขยับขึ้นต่อ และยังไม่เข้าสู่เขต Overbought ก็ตาม แต่ในภาพรวม แนวโน้มของราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น โดยมีแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกต่อไป
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,657
$2,642
$2,633
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,671
$2,685
$2,690
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน