วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 13 ส.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ราคาทองคำได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้งท่ามกลางศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน โดยเมื่อวาน ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นแตะระดับ $2,477 หลังจากที่เคยร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดของวันที่ $2,423
การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเกิดขึ้นท่ามกลางการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง 4 basis points มาอยู่ที่ 3.909% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สำคัญ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตามองรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) สำหรับเดือนกรกฎาคม ซึ่งคาดว่าจะแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาในกระบวนการชะลอการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด การขาดความพยายามในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอล เลบานอน และอิหร่าน ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลและหันมาลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
ดอลลาร์สหรัฐถดถอยจากการเป็นสกุลเงินสำรองโลก ขณะที่ทองคำได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
ในขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น รายงานจาก Atlantic Council ได้เผยให้เห็นถึงการลดบทบาทของเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองของโลก โดยสัดส่วนของดอลลาร์สหรัฐในเงินสำรองระหว่างประเทศทั่วโลกลดลงจาก 72% ในปี 2002 เหลือเพียง 58% ในปี 2024 ซึ่งเป็นการลดลงถึง 14% ในช่วงเวลาดังกล่าว
การลดลงของบทบาทดอลลาร์สหรัฐนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของหลายประเทศในการกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียและการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินโดยกลุ่มประเทศ G7
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เร่งกระบวนการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐฯ คือการเติบโตของกลุ่ม BRICS ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ และล่าสุดได้เพิ่มสมาชิกใหม่ ได้แก่ อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยซาอุดีอาระเบียกำลังพิจารณาที่จะเข้าร่วมด้วย กลุ่ม BRICS ได้ส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าและการทำธุรกรรมระหว่างกันอย่างแข็งขัน ซึ่งแน่นอนว่าสินทรัพย์ที่อยู่เบื้องหลังคือทองคำ
ทองคำได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์สำรองทางเลือก
ในขณะที่สกุลเงินอื่นๆ ยังคงต่อสู้เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งจากดอลลาร์สหรัฐ ทองคำกลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และสมาชิกของ BRICS ซึ่งได้เพิ่มการถือครองทองคำในอัตราที่เร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในโลกนับตั้งแต่ปี 2018 แม้ว่าราคาทองคำจะอยู่ในระดับสูงทางประวัติศาสตร์ก็ตาม
สัดส่วนของทองคำในพอร์ตการลงทุนสำรองระหว่างประเทศเริ่มเพิ่มขึ้นในปี 2019 และเร่งตัวขึ้นหลังจากการเกิดขึ้นของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยเพิ่มขึ้นจากประมาณ 10% เป็นเกือบ 16% ในปัจจุบัน ธนาคารกลางทั่วโลกถือครองทองคำรวมกันมากกว่า 35,000 ตัน ซึ่งคิดเป็นเกือบ 20% ของทองคำที่ขุดได้ทั้งหมดในประวัติศาสตร์
เหตุผลที่ธนาคารกลางของตลาดเกิดใหม่เพิ่มการซื้อทองคำ ก็เพราะว่าการที่ทองคำเป็นทางเลือกในการรับมือกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เป็นเครื่องป้องกันเงินเฟ้อ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยโดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจถดถอย และเป็นเครื่องป้องกันความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
การเปลี่ยนแปลงของระบบการเงินโลกและการเพิ่มขึ้นของสกุลเงินทางเลือก
รายงานจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังยืนยันแนวโน้มการลดลงอย่างต่อเนื่องของสัดส่วนดอลลาร์สหรัฐฯ ในเงินสำรองต่างประเทศของธนาคารกลางและรัฐบาลทั่วโลก โดยระบุว่าการลดลงของบทบาทดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาไม่ได้ถูกทดแทนด้วยการเพิ่มขึ้นของสกุลเงินหลักอื่นๆ เช่น ยูโร เยน หรือปอนด์ แต่กลับเป็นการเพิ่มขึ้นของสกุลเงินสำรองที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม เช่น ดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์แคนาดา หยวนจีน วอนเกาหลีใต้ ดอลลาร์สิงคโปร์ และสกุลเงินของกลุ่มประเทศนอร์ดิก
สกุลเงินทางเลือกเหล่านี้ได้รับความสนใจจากผู้จัดการเงินสำรองเนื่องจากช่วยในการกระจายความเสี่ยงและให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ นอกจากนี้ การพัฒนาของเทคโนโลยีทางการเงินดิจิทัลใหม่ๆ ยังทำให้การซื้อ ขาย และถือครองสกุลเงินเหล่านี้ทำได้ง่ายขึ้น
ความท้าทายของเงินหยวนในการแข่งขันกับดอลลาร์สหรัฐ
แม้ว่าจีนจะเป็นประเทศที่มีศักยภาพมากที่สุดในการท้าทายสถานะของดอลลาร์สหรัฐ แต่ปัญหาล่าสุดของจีน รวมถึงวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เงินหยวนสูญเสียพื้นที่บางส่วนที่เคยได้รับในฐานะเงินสำรองต่างประเทศ ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 สัดส่วนของหยวนในเงินสำรองต่างประเทศทั่วโลกลดลงเหลือ 2.3% จากจุดสูงสุดที่ 2.8% ในปี 2022 แม้ว่าปักกิ่งจะพยายามสนับสนุนสภาพคล่องของหยวนผ่านข้อตกลงแลกเปลี่ยนเงินตราอย่างแข็งขัน
ผู้จัดการเงินสำรองอาจมองว่าหยวนเป็นสกุลเงินที่มีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน จุดยืนของปักกิ่งต่อสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับสหรัฐฯ และกลุ่ม G7 ซึ่งทำให้ทองคำกลับมาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกครั้ง
โดยสรุปแล้ว การเปลี่ยนแปลงในระบบการเงินระหว่างประเทศกำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ออกจากการครอบงำของดอลลาร์สหรัฐ และการเพิ่มบทบาทของสกุลเงินที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิมจากประเทศเศรษฐกิจเปิดขนาดเล็กที่มีการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีการซื้อขายดิจิทัลใหม่ๆ
ในขณะเดียวกัน ทองคำก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์สำรองทางเลือก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในการกระจายความเสี่ยงและการป้องกันตัวจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นต่อไปในอนาคต
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำแสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งอีกครั้ง โดยล่าสุดราคาได้พุ่งทะลุแนวต้านสำคัญและขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ $2,476 ซึ่งแสดงถึงแรงซื้อที่ยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวในระยะสั้นเริ่มส่งสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดการพักฐาน
จากกราฟ เราสามารถเห็นว่าราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 12 (สีแดง) และ EMA 26 (สีฟ้า) ยังคงเรียงตัวในลักษณะขาขึ้น และห่างจาก EMA 200 (สีส้ม) มากขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ยังคงแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาในช่วงหลังทำให้ค่า RSI เข้าสู่เขต Overbought แล้ว นอกจากนี้ ยังเริ่มเกิด Bearish Divergence ระหว่างราคาและ RSI ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าราคาอาจเกิดการพักฐานในระยะสั้น
ระดับแนวรับสำคัญที่ควรจับตามอง ได้แก่ $2,461 , $2,452 และ $2,436 ซึ่งเป็นระดับ 23.6% Fibonacci Retracement ส่วนแนวต้านสำคัญที่ต้องติดตาม คือ $2,474, $2,480 และ $2,483 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตลอดกาล
ในภาพรวม แนวโน้มของราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น แต่ในระยะสั้น 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีโอกาสที่ราคาอาจเกิดการพักฐานเล็กน้อย โดยอาจย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,461 หรือ $2,452 ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,461
$2,452
$2,436
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,474
$2,480
$2,483
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน