วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 14 มิ.ย. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ราคาทองคำปรับตัวลงอีกครั้งเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 2,326 ดอลลาร์ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว แทนที่จะเป็น 3 ครั้งตามที่คาดไว้ตั้งแต่ dot plot ของเดือนธันวาคม 2023 ในขณะเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแบบผสมผสาน ได้หนุนดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลเสียต่อทองคำ โดยข้อมูลจาก Bureau of Labor Statistics (BLS) ของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าราคาผู้ผลิตนั้นลดลง ในขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานนั้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้และสูงกว่าตัวเลขก่อนหน้านี้ แม้ตัวเลขดังกล่าวอาจบ่งชี้ว่าเฟดสามารถเตรียมพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง แต่เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลายเพียง 25 basis points (bps) ในช่วงปลายปี 2024 ตามรายงาน dot plot ล่าสุด

ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด

การเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานล่าสุดออกมาแย่กว่าคาด หลังจากจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 242,000 ราย หลังปรับตามฤดูกาลแล้ว สำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 มิถุนายน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 224,000 รายอย่างมีนัยสำคัญ โดยตัวเลขของสัปดาห์ก่อนหน้ายังคงอยู่ที่ 229,000 ราย

ตลาดกำลังจับตาดูตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิด ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนโยบายการเงินของเฟด นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ตลาดแรงงานที่ตึงตัวจะผลักดันให้เงินเฟ้อค่าจ้างเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มราคาสินค้าอุปโภคบริโภคโดยรวมให้สูงขึ้นอีก

ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันเดียวกันว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.2% ในเดือนพฤษภาคม ต่อจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเมษายน ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดนี้เย็นลงอย่างมีนัยสำคัญกว่าที่คาด โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.1%

ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เงินเฟ้อขายส่งเพิ่มขึ้น 2.2% รายงานระบุ ในขณะเดียวกัน core PPI ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน ทรงตัวในเดือนที่แล้ว นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.3% โดย core PPI เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบรายปี

ตลาดทองคำร่วงลงและเผชิญแรงขายเชิงเทคนิค หลังไม่สามารถทรงตัวเหนือระดับ $2,320 ได้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ตลาดบางส่วนระบุว่า ราคาผู้ผลิตที่ลดลงอาจทำให้เฟดมั่นใจที่จะผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนกันยายน ซึ่งจะหนุนแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวของทอง

Adam Button หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สกุลเงินของ Forexlive.com กล่าวว่า ตลาด Fed funds futures กลับมาคาดการณ์เต็มรูปแบบว่าจะมีการปรับลดอัตรา 2 ครั้งในปีนี้ โดย PPI ถูกมองว่าเป็นตัวชี้นำเงินเฟ้อ เนื่องจากผู้ผลิตจะส่งต่อต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้า

ทองคำยังคงได้รับการสนับสนุน แม้เฟดลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ตลาดทองคำมีความผันผวนสูงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่พลิกผัน อย่างไรก็ตาม นักกลยุทธ์ตลาดรายหนึ่งกล่าวว่า ทองคำยังคงได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี แม้ว่าเฟดจะลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้

George Milling-Stanley หัวหน้านักกลยุทธ์ทองคำของ State Street Global Advisors ให้สัมภาษณ์ว่า ทองยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูด เนื่องจากโลกยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แม้ว่าการลังเลของเฟดที่จะเริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายอาจจำกัดแรงหนุนของทองคำในระยะสั้น แต่ก็ไม่เห็นว่านี่จะเป็นปัจจัยต้านทานที่สำคัญ

Milling-Stanley กล่าวว่า แม้เฟดจะยังไม่พร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในตอนนี้ แต่ประธานเฟด Jerome Powell ก็ระบุชัดเจนเมื่อวานว่า ธนาคารกลางไม่ได้มองหาการที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง Stanley คิดว่า แรงกดดันน่าจะยังคงอยู่กับดอลลาร์สหรัฐฯ แม้จะได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ และท้ายที่สุดแล้ว ตลาดก็ยังคงอยู่ในช่วงที่เฟดจะผ่อนคลายนโยบายเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวลง

คาดการณ์ราคาพื้นฐานของทองคำมากขึ้น

ในสภาวะปัจจุบัน Milling-Stanley และทีมของเขาที่ State Street กำลังปรับเพิ่มช่วงราคาพื้นฐานของทองคำตลอดครึ่งหลังของปีนี้ Milling-Stanley คาดว่าราคาทองจะซื้อขายอยู่ในช่วง 2,200 - 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ช่วงราคาใหม่ของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากจากช่วงราคาพื้นฐานเดิมที่ 1,900 - 2,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงต้นปี Milling-Stanley ยังให้น้ำหนัก 30% กับโอกาสที่ทองคำจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ด้วย

Milling-Stanley กล่าวว่า การปรับราคาทองคำของเขาสะท้อนถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก “ผู้คนกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ผู้คนกังวลว่าจีนจะทำอย่างไรกับไต้หวัน ผู้คนกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพวกเขากังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ”

ราคาทองมีความผันผวนแต่จะยังปรับขึ้นต่อไป

แม้ว่า Milling-Stanley จะมองในแง่ดีต่อทองคำตลอดช่วงที่เหลือของปี แต่เขาก็ไม่ได้ตัดโอกาสที่ราคาจะยังคงผันผวน อย่างไรก็ตาม เขาชี้ให้เห็นว่านี่เป็นการทำงานตามปกติของตลาด เมื่อนักลงทุนทำกำไร

Milling-Stanley ระบุว่า จากการดีดตัวขึ้นของราคา นักลงทุนมีกำไรที่ใหญ่มากๆ ให้เก็บเกี่ยว แต่สิ่งที่จะผลักดันราคาทองคำให้ขึ้นไปได้อีกในท้ายที่สุด คือการตระหนักว่านโยบายการเงินของสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่ง และจะยิ่งไม่เป็นผลดีเมื่อเศรษฐกิจอ่อนแอลง

ยังมีความเสี่ยงเสมอว่าเฟดจะทำสิ่งที่พวกเขาทำมาบ่อยๆ ในอดีต นั่นคือการใช้นโยบายที่เหมาะสมและยึดติดกับนโยบายนั้นไปนานเกินไป จนกระทั่งกลายเป็นนโยบายที่ผิด ผู้คนจะเริ่มตระหนักในไม่ช้าว่า ไม่ใช่ทองคำที่กำลังเผชิญแรงกดดันในตอนนี้ แต่แรงกดดันจริงๆ กำลังอยู่ที่ดอลลาร์ต่างหาก

จีนยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดทองคำ

ตลาดตื่นตระหนกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังมีข่าวเปิดเผยว่าธนาคารกลางจีนไม่ได้มีการเพิ่มของปริมาณทองคำสำรอง อย่างไรก็ตาม Milling-Stanley มองว่าจีนจะยังคงเป็นผู้เล่นที่ครอบงำตลาดต่อไป โดยคาดว่าจีนจะยังคงซื้อทองคำต่อไปแม้ว่าการซื้อจะไม่สม่ำเสมอเหมือนในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา

Milling-Stanley คาดหวังให้ความต้องการในเอเชียยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดทองคำต่อไป ความต้องการลงทุนในส่วนของ ตะวันออกกลาง อินเดีย และเอเชีย ฯลฯ ก็มีอิทธิพลสำคัญต่อราคาทองคำเสมอมา และยิ่งมีการเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้นเท่านั้น

วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ณ ราคาล่าสุดที่ $2,306 จะเห็นว่าราคาปิดอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทั้ง 3 เส้นที่สำคัญ เป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่อ่อนแอและมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงต่อเนื่องในระยะสั้นถึงระยะกลาง โดยรูปแบบของแท่งเทียนก่อนหน้าคือแท่งขาลงยาว (Long Red Candle) สะท้อนถึงแรงขายที่ค่อนข้างมาก 

ทางฝั่งอินดิเคเตอร์ RSI ปรับตัวลดลงในวันที่ผ่านมา สะท้อนโมเมนตัมของแรงขายที่กำลังมีเข้ามาในตลาด หากเส้น RSI ยังไม่สามารถกลับขึ้นมายืนเหนือเส้นกลางที่ 50 ได้ อาจเกิดแรงขายทำกำไรเพิ่มเติม และกดดันราคาให้ปรับลงต่อได้

ระดับแนวรับสำคัญที่ต้องจับตามองในระยะสั้นนี้ ได้แก่ $2,300 ซึ่งเป็นจุดจิตวิทยา หากราคายืนเหนือระดับนี้ไม่ได้ อาจเห็นการอ่อนตัวลงต่อมาที่แนวรับถัดไปที่ $2,290 และ $2,273

ในทางกลับกัน แนวต้านเบื้องต้นจะอยู่ที่เส้น EMA 12 ที่ $2,310 ซึ่งหากกลับขึ้นไปยืนเหนือได้ จะพอช่วยให้แรงขายชะลอตัวลง

สรุปภาพรวมแนวโน้มราคาทองคำข้างหน้า แนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็นลบ โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ $2,300 - $2,290 และ $2,273 ตามลำดับ ส่วนแนวต้านหากมีการรีบาวด์จะมองที่ $2,310 เป็นหลัก ก่อนที่จะไปที่แนวถัดไปบริเวณ $2,316 และ $2,325 

สิ่งสำคัญ คือต้องติดตามการเคลื่อนไหวของราคาว่าจะสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ $2,300 ต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางระยะสั้นต่อไป โดยหากหลุดลงมา น่าจะเห็นแรงขายเพิ่มเติม แต่หากยืนได้แข็งแกร่ง อาจเกิดการดีดตัวในระยะสั้น

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,300 - $2,290 / $2,273

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,310 / $2,316 / $2,325