วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 13 มิ.ย. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ผลการประชุม FOMC ออกมาที่การคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับเดิม อย่างไรก็ตาม ท่าทีแข็งกร้าวของเฟด ในการคงอัตราดอกเบี้ย และการที่ประธานเฟด อย่าง Jerome Powell ไม่ระบุกรอบเวลาสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ยังคงเป็นตัวกดดันราคาทองคำ

เงินเฟ้อชะลอตัวมากกว่าคาด

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันที่ผ่านมาว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคไม่มีการเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเงินเฟ้อคลายความเหนียวแน่นลงเล็กน้อยในเศรษฐกิจสหรัฐฯ 

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเมษายน ตามรายงานของ BLS โดยข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดอ่อนแอกว่าที่คาด เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%

รายงานระบุว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 3.3% ขณะเดียวกัน Core CPI ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน เพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่าที่คาดไว้เช่นกัน ตามคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%

รายงานระบุว่า เงินเฟ้อ Core รายปีเพิ่มขึ้น 3.4% แม้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงสูงกว่าเป้าหมายของเฟด ที่ 2% แต่ก็ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 3.6% ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขจะคงที่

เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในช่วง 5.25% ถึง 5.50% ตามคาด

ธนาคารกลางสหรัฐ ยังคงอัตราดอกเบี้ยหลักไว้เท่าเดิมในวันเดียวกัน และส่งสัญญาณคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวก่อนสิ้นปี

การคาดการณ์เศรษฐกิจที่ปรับปรุงใหม่แสดงให้เห็นว่า ธนาคารกลางคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหนึ่งครั้งในปีนี้ ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ 3 ครั้งในเดือนมีนาคม การประเมินอัตราดอกเบี้ยของเฟดหรือที่เรียกว่า dot plot แสดงให้เห็นว่า อัตราดอกเบี้ย Fed funds จะสิ้นสุดปีที่ระดับเหนือกว่า 5.00%

เฟดคงคาดการณ์ GDP ไว้ที่ 2.1% ในปีนี้

เมื่อดูที่การคาดการณ์เศรษฐกิจ ธนาคารกลางคงคาดการณ์ GDP ไว้ที่ระดับ 2.1% สำหรับปีนี้ และ 2.0% ในปี 2025 และ 2026

เฟดยังคาดว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ จะยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.0% ในปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์เดือนมีนาคม และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.2% ในปีหน้า และ 4.1% ในปี 2026 เพิ่มจาก 4.1% และ 4.0% ตามลำดับในประมาณการก่อนหน้านี้

ไม่คาดหวังเงินเฟ้อพื้นฐานถึงเป้าหมาย 2% จนกระทั่งปี 2026

เมื่อพิจารณาถึงเงินเฟ้อ ธนาคารกลางยังคงไม่คาดหวังว่าเงินเฟ้อ PCE พื้นฐานจะถึงเป้าหมาย 2% จนกระทั่งปี 2026 โดยคาดว่าเงินเฟ้อพื้นฐานจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.8% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ 2.6% ในเดือนมีนาคม และคาดว่าจะขยับขึ้นเป็น 2.3% ในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 2.2% นอกจากนี้ คาดว่าเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในปีนี้และปีหน้าก่อนจะเย็นตัวลงในปี 2026

Powell ยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับเงินเฟ้อ

ประธานเฟด อย่าง Jerome Powell กล่าวว่า พวกเขายังไม่ค่อยมั่นใจเรื่องเงินเฟ้อเท่าที่เคย และลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เขากล่าวเสริมว่า หากตลาดแรงงานอ่อนแอลงอย่างไม่คาดคิด เฟดก็พร้อมที่จะตอบสนอง และเมื่อถูกถามถึงรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐในวันเดียวกันนั้น Powell กล่าวว่า เป็นเพียงแค่รายงานฉบับเดียว และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเฝ้าดูกระบวนการชะลอตัวของเงินเฟ้อที่กำลังพัฒนาไปสู่เป้าหมายของเฟด

ส่งสัญญาณอัตราดอกเบี้ยจะไม่ลดในเร็วๆ นี้

แม้นักวิเคราะห์จะมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐ อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1-2 ครั้งในปีนี้ แต่ก็ยังคงส่งสัญญาณว่าจะไม่รีบร้อนที่จะปรับนโยบายการเงินในทันที

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้เฟดจะยังลังเลที่จะผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ย แต่ตลาดทองคำยังได้รับการหนุนหลังเป็นอย่างดี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกเริ่มลดลง ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันนโยบายการเงินที่แตกต่างกันในตลาดโลก ได้แก่ ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งต่างลดอัตราดอกเบี้ยลง เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลงในเศรษฐกิจของตน

นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้เฟดจะยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดสำหรับทองคำ แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกได้ขึ้นสูงสุดแล้ว ควรจะช่วยหนุนราคาทองคำในระดับหนึ่ง แม้เฟดจะยืนกรานที่จะคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่เข้มงวด แต่ราคาทองคำก็ยังรักษาระดับแนวรับสำคัญที่ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

BoC ชี้ลดดอกเบี้ยต่อหากเงินเฟ้อชะลอตัว

ตามความเห็นล่าสุดของธนาคารกลางแคนาดา (BoC) และ Bundesbank ของเยอรมนี ซึ่งเป็นสมาชิกของ ECB นักลงทุนคาดว่าจะเห็นความแตกต่างในนโยบายการเงินทั่วโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งอาจหนุนราคาทองคำ

ผู้ว่าการ BoC Tiff Macklem ได้ให้ทัศนะคาดการณ์นโยบายการเงินที่ชัดเจนที่สุดว่า “หากเศรษฐกิจเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ และหากเงินเฟ้อยังคงผ่อนคลายลง ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่จะคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป”

อย่างไรก็ตาม Macklem เสริมว่า ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยมีช่องว่างให้ปรับลดลงได้อีก แต่จะยังคงสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาด

“ระดับอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกอาจจะไม่กลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาด ภาวะปกติรูปแบบใหม่จะไม่เหมือนกับภาวะปกติเดิม เราทุกคนจะต้องปรับตัว”

ECB ชะลอการคาดการณ์ปรับลดดอกเบี้ย

ประธาน Bundesbank Dr. Joachim Nagel ให้ทัศนะคาดการณ์ทางการเงินที่ไม่ชัดเจนเท่า เขาย้ำจุดยืนของ ECB ที่ยังอิงกับข้อมูล และการตัดสินใจจะขึ้นอยู่ในแต่ละการประชุม

อย่างไรก็ตาม เขาให้ความหวังกับตลาดว่า ธนาคารกลางคาดว่าเงินเฟ้อจะกลับมาอยู่ในการควบคุมได้

“ในโลกที่ไม่แน่นอนนี้ เราต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยไม่แสดงท่าทีว่าพอใจในภารกิจของเราที่จะต่อสู้กับเงินเฟ้อ ผมเคยเปรียบเทียบเงินเฟ้อเหมือนสัตว์ป่าที่โลภมาก ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่เราได้ฝึกสัตว์ป่าตัวนี้แล้ว แต่ภารกิจของเราก็ยังไม่จบ”

แม้ ECB จะลดการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมลงแล้ว แต่ตลาดกำลังตั้งราคารอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ส่วนในแคนาดา ตลาดคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งภายในสิ้นปี

เมื่อพูดถึงความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก Macklem กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ตลาดสามารถรองรับความแตกต่างนี้ได้ แม้จะมีข้อจำกัดว่า BoC จะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนโดยไม่มีเฟด แต่ Macklem บอกว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น

Nagel กล่าวว่า เนื่องจากสภาพแวดล้อมเงินเฟ้อที่แตกต่างกัน จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่ ECB จะลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเฟด ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ที่ระดับราคาปัจจุบัน $2,315 จะเห็นได้ว่าแนวโน้มหลักเป็นขาลงอย่างชัดเจน โดยราคาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทั้ง 3 เส้น ได้แก่ EMA 12, 26 และ 200 ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงที่มีความต่อเนื่อง หากสังเกตจากแท่งเทียน จะพบว่าราคามีการปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากที่ไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณเส้น EMA 200 

เมื่อวิเคราะห์ RSI ประกอบ จะเห็นว่ามีแนวโน้มปรับตัวลงเช่นกัน แต่ยังไม่ถึงระดับ Oversold ทำให้คาดว่ายังมีโอกาสปรับลงต่อ ก่อนที่จะเกิดแรงซื้อกลับเข้ามาหนุน อย่างไรก็ตาม สัญญาณ RSI Bullish Divergence ยังคงอยู่ แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ราคาอาจกลับตัวในระยะถัดไป แต่ก็ยังต้องจับตาดูสัญญาณยืนยันเพิ่มเติม

สำหรับระดับราคาสำคัญที่ต้องจับตามอง เริ่มที่แนวต้านบริเวณ EMA 12 ,26 บริเวณ $2,317 - $2,325 และถัดไปคือบริเวณ $2,335 ที่เป็นแนว EMA 200 ที่เป็นอุปสรรคก่อนหน้านี้

ทางด้านแนวรับจะเริ่มต้นที่ $2,310 โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ $2,300

สรุปแนวโน้มโดยรวมข้างหน้า คาดว่าราคาทองคำน่าจะยังคงแนวโน้มขาลงต่อไปก่อน โดยมีเป้าหมายแนวรับถัดไปที่ $2,310 - $2,300 แต่หากราคาสามารถยืนเหนือได้ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวขึ้นในระยะสั้น โดยมีแนวต้านสำคัญที่ $2,325 - $2,335

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,310 - $2,300

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,325 - $2,335