วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 4 พ.ย. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ราคาทองคำยังคงทรงตัวในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ปรับตัวลดลงติดต่อกัน 2 วัน โดยปัจจุบันเคลื่อนไหวที่ระดับ $2,740 ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และความตึงเครียดในตะวันออกกลางล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ได้แสดงความเห็นว่า ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร การปรับตัวลดลงของราคาทองคำจะเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคมที่อ่อนแอลงเพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 basis points ในการประชุมวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้

ภาคการผลิตสหรัฐฯ อ่อนแอลงต่อเนื่อง ดัชนี Manufacturing PMI ของสถาบัน Institute for Supply Management (ISM) ลดลงมาอยู่ที่ 46.5 ในเดือนตุลาคม จากระดับ 47.2 ในเดือนกันยายน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 47.6 Timothy Fiore ประธานคณะกรรมการสำรวจธุรกิจการผลิตของ ISM กล่าวว่า “นี่เป็นระดับต่ำสุดของดัชนี Manufacturing PMI ในปี 2024”

องค์ประกอบของรายงานแสดงให้เห็นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยดัชนีราคา (Price Index) พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 54.8 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 48.5 และสูงกว่าระดับ 48.3 ในเดือนกันยายน ขณะที่ดัชนีการผลิต (Production Index) ลดลงมาอยู่ที่ 46.2 ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 49.8

ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัว นักวิเคราะห์คาดเฟดเตรียมปรับลดดอกเบี้ย

รายงานตัวเลขการจ้างงานต่ำกว่าคาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนมองว่าข้อมูลการจ้างงานอาจได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนที่พัดถล่มรัฐทางตอนใต้ในช่วงต้นเดือน

แม้การจ้างงานจะต่ำกว่าคาด แต่อัตราการว่างงานยังคงทรงตัวที่ 4.1% ขณะที่อัตราค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.4% สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.3% โดยในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ค่าจ้างเพิ่มขึ้น 4.0% สถานการณ์นี้อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากตลาดแรงงานอ่อนแอลงแต่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

Michael Brown นักกลยุทธ์วิจัยอาวุโสจาก Pepperstone กล่าวว่า แม้ตัวเลขการจ้างงานจะต่ำกว่าคาดมาก แต่ไม่น่าจะส่งผลต่อมุมมองนโยบายการเงินของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากตัวเลขอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวต่างๆ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 basis points ในการประชุมสัปดาห์นี้ยังคงมีความเป็นไปได้สูง และคาดว่าจะมีการปรับลดต่อเนื่องในการประชุมครั้งต่อๆ ไป จนกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลงมาอยู่ที่ระดับเป็นกลางประมาณ 3% ในช่วงปีหน้า

และหากพิจารณาเกินกว่าตัวเลขการจ้างงานที่ผันผวน รายงานยังแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการอ่อนตัวลงของตลาดแรงงาน โดยตัวเลขการจ้างงานในเดือนสิงหาคมและกันยายนถูกปรับลดลงอย่างมาก ตัวเลขเดือนสิงหาคมถูกปรับลดจาก 159,000 เหลือ 78,000 ตำแหน่ง ขณะที่เดือนกันยายนถูกปรับลดจาก 254,000 เหลือ 223,000 ตำแหน่ง

ทองคำทำสถิติสูงสุดตลอดกาล แต่เห็นสัญญาณการปรับฐาน

ราคาทองคำได้รับแรงหนุนอย่างมากในเดือนที่ผ่านมาจากความผันผวนรอบการเลือกตั้ง นักวิเคราะห์ตลาดระบุว่า โอกาสที่อดีตประธานาธิบดี Trump จะชนะการเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นได้เพิ่มความกังวลว่ารัฐบาลจะยังคงเพิ่มการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ความกังวลนี้ได้ขยายไปถึงการที่พรรคใดพรรคหนึ่งจะได้ควบคุมทั้งทำเนียบขาวและรัฐสภาทั้งสองสภา

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่เกือบ $2,800 เนื่องจากนักลงทุนซื้อตามข่าวลือเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม มีคำกล่าวในตลาดการเงินสำหรับช่วงเวลาเช่นนี้ว่า “ซื้อตามข่าวลือ ขายตามข่าวจริง” (Buy the rumor and sell the fact) ดังนั้น สัปดาห์นี้ เราอาจเห็นการขายทำกำไรตามข่าว

Dennis Gartman นักลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงกล่าวว่า เขาเริ่มระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับทองคำเมื่อได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น เขาสังเกตเห็นการเก็งกำไรที่เพิ่มขึ้นในตลาด อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่าแม้จะมีจุดอ่อนในระยะสั้น แต่ปัจจัยพื้นฐานระยะยาวของทองคำยังคงได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี

นอกเหนือจากความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นในรอบการเลือกตั้งครั้งนี้ ทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และตลาดแรงงานชะลอตัวลง ในขณะเดียวกัน เราเห็นว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ดัชนี Personal Consumption Expenditures (PCE) ที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ แสดงให้เห็นว่าราคาสินค้าผู้บริโภคยังคงอยู่ที่ 2.7% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์เตือนทองคำ แนะจับตาประชุมเฟด

นักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า ความไม่แน่นอนทางการเมือง อันเนื่องมาจากคะแนนที่ใกล้เคียงกันระหว่างอดีตประธานาธิบดี Trump และรองประธานาธิบดี Kamala Harris เป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังแรงส่งของทองคำในช่วงที่ผ่านมา

Naeem Aslam ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Zaye Capital Markets กล่าวว่า “ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าราคาทองคำปรับตัวขึ้นเร็วและแรงเกินไป นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น” ด้าน Phillip Streible หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดที่ Blue Line Futures คาดว่าความผันผวนของตลาดจะลดลงหลังการเลือกตั้งวันอังคาร ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าดึงดูดของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

Barbara Lambrecht นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Commerzbank แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของทองคำ โดยระบุว่า “เราสงสัยว่าการปรับตัวขึ้นอย่างมากประมาณ 300 ดอลลาร์ภายในสองเดือนจะมีความสมเหตุสมผลหรือไม่ เนื่องจากปัจจัยขับเคลื่อนหลักหายไป โดยความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม”

Alex Kuptsikevich หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดจาก FxPro คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวลงในระยะใกล้ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ มีท่าทีแข็งกร้าวน้อยลงกว่าช่วงต้นเดือนตุลาคม โดยการปรับฐานตามปกติอาจทำให้ทองคำลงมาที่ระดับ $2,680 - $2,700 ก่อนที่จะเกิดแรงซื้อใหม่

ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ที่ต้องจับตาเต็มไปด้วยเหตุการณ์สำคัญ โดยเริ่มที่วันจันทร์จะมีการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย ก่อนที่จะไปถึงวันอังคารที่สำคัญยิ่ง โดยจะมีการประกาศดัชนี ISM Services PMI และการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯต่อด้วยวันพฤหัสบดี จะมีการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ, ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ปิดท้ายวันศุกร์ด้วยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นของมหาวิทยาลัยมิชิแกน

จากการวิเคราะห์กราฟราคาทองคำในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ราคาปัจจุบันอยู่ที่ $2,738 โดยเกิดการปรับฐานลงมาจากจุดสูงสุดที่ $2,790 ในช่วงที่ผ่านมา และราคามีการเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 และ EMA 26 ซึ่งเป็นสัญญาณการอ่อนตัวในระยะสั้น

เมื่อพิจารณาแนวโน้มระยะกลาง ราคายังคงอยู่เหนือเส้น EMA 200 (เส้นสีส้ม) ที่บริเวณ $2,671 สะท้อนว่าแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม การที่ราคาหลุดต่ำกว่าเส้น EMA 12 และ EMA 26 อาจส่งผลให้เกิดแรงขายระยะสั้นเพิ่มเติม

ด้านดัชนี RSI พบการเกิด Bearish Divergence โดย RSI สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดเดิม ในขณะที่ราคากลับทำจุดสูงสุดใหม่ได้ นี่เป็นสัญญาณเตือนถึงการอ่อนตัวของแรงซื้อ และเพิ่มโอกาสที่ราคาจะปรับฐานลงในระยะสั้น

สำหรับแนวรับสำคัญที่ต้องจับตา เริ่มจากแนวรับแรกที่ $2,727 ตามด้วยแนวรับถัดไปที่ $2,715 และแนวรับแข็งแกร่งที่ $2,685 - $2,617 ในส่วนของแนวต้าน มีแนวต้านแรกที่ $2,740 ถัดไปที่$2,758 แนวต้านสำคัญที่ $2,775

คาดการณ์แนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ $2,727 และ $2,715 ตามลำดับ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับเหล่านี้ได้ อาจเห็นการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $2,758 อีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ $2,715 อาจเห็นการปรับฐานลึกลงไปถึง $2,685 นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาบริเวณแนวรับสำคัญเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินจังหวะการเข้าลงทุนที่เหมาะสม

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,727

• $2,715

• $2,685

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,740

• $2,758

• $2,775