วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 10 ก.พ. 2568
![coverImg](https://tw.mitrade.com/cms_uploads/img/20230815/6b4b1b7e39a4e071354bae48bd970774.jpeg)
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ตลาดทองคำเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยราคาทองคำ (XAU/USD) พุ่งขึ้นแตะระดับ 2,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่อาจปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะมีการประกาศมาตรการตอบโต้ทางภาษีกับหลายประเทศภายในวันอังคารหรือวันพุธนี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันที ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
David Meger ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายโลหะที่ High Ridge Futures กล่าวว่า จุดสนใจหลักของตลาดทองคำในขณะนี้คือความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีของ Trump ขณะที่ปัจจัยบวกอีกอย่างหนึ่งมาจากธนาคารกลางจีน (People's Bank of China: PBOC) ที่เพิ่มทองคำเข้าสู่คลังสำรองเป็นเดือนที่สามติดต่อกันในเดือนมกราคม โดยทุนสำรองทองคำของจีนเพิ่มขึ้นจาก 73.29 ล้านทรอยออนซ์ในเดือนธันวาคมเป็น 73.45 ล้านทรอยออนซ์ ณ สิ้นเดือนมกราคม
David Qu นักเศรษฐศาสตร์จาก Bloomberg Economics มองว่า PBOC มีแนวโน้มที่จะกระจายการถือครองทุนสำรองในระยะยาว เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่โดยกระทรวงแรงงานเมื่อวันศุกร์ชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ สร้างงานใหม่ 143,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 170,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวลดลงเป็น 4.0% จากระดับ 4.1% ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 4.1%
นักวิเคราะห์ชี้เป้าราคาทอง 3,400 ดอลลาร์ภายในปีนี้
ราคาทองคำพุ่งทะยานสร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาด ส่งผลให้นักวิเคราะห์เริ่มจับตามองระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าราคาทองคำจะดูเหมือนปรับตัวขึ้นมามากแล้ว แต่นักวิเคราะห์ระบุว่านักลงทุนไม่สามารถมองข้ามแรงส่งในตลาดได้ หลังจากที่ราคาสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ 2,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตลาดก็สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดทั้งสัปดาห์
ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความกังวลด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าราคาจะปรับตัวลงจากจุดสูงสุดของวัน แต่ก็ยังคงปิดสัปดาห์ด้วยผลตอบแทนที่แข็งแกร่ง
Alex Kuptsikevich หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดที่ FxPro กล่าวว่าการพุ่งขึ้นของทองคำเพิ่งเริ่มต้น และการขึ้นไปถึง 3,000 ดอลลาร์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เขาอธิบายว่า จากมุมมองทางเทคนิค ทองคำกำลังเริ่มรูปแบบการขยายตัวแบบ Fibonacci การปรับตัวขึ้นเริ่มต้นในเดือนตุลาคม 2023 หลังจากมีสัญญาณเบื้องต้นจาก Fed ที่บ่งชี้ถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ระหว่างเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน 2024 หลังจากปรับตัวขึ้น 55% ไปถึงระดับ 2,790 ดอลลาร์ ทองคำเผชิญกับการทำกำไรครั้งใหญ่ ส่งผลให้มีการปรับฐานลงมาที่ 2,550 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 76.4% ของการปรับตัวขึ้นในช่วงแรก ตามมาด้วยการซื้อขายที่เข้มข้นระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในตลาดเป็นเวลาหลายสัปดาห์
Kuptsikevich ยังกล่าวเสริมว่า ในช่วงปลายเดือนธันวาคม แรงซื้อได้กลับเข้าสู่ตลาดทองคำอีกครั้ง การเคลื่อนไหวเหนือระดับ 2,800 ดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนมกราคมนำไปสู่การพูดถึงความเป็นไปได้ของการเริ่มต้นคลื่นการเติบโตใหม่ หากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป ราคาทองคำอาจมีศักยภาพที่จะแตะระดับ 3,400 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมของปีนี้
ความเสี่ยงสงครามการค้า-เงินเฟ้อพุ่ง นักวิเคราะห์เชื่อทองแตะ 3,000 ดอลลาร์ไตรมาสแรก
แม้ว่าความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลกจะสนับสนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่นักวิเคราะห์ก็เตือนนักลงทุนว่าตลาดอาจเผชิญกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้นขณะที่ราคาซื้อขายในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่า Fed คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันไปจนถึงอย่างน้อยครึ่งแรกของปี
ข้อมูลการจ้างงานที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ สร้างงานใหม่ 143,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว แม้ว่าตัวเลขจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่รายงานยังแสดงให้เห็นว่าค่าจ้างเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดและอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4.0% นักวิเคราะห์บางรายระบุว่าแม้จะมีตัวเลขหลักที่พลาดเป้า แต่ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงค่อนข้างแข็งแกร่งแม้ว่าจะมีการชะลอตัวลง
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลเบื้องต้นจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนแสดงให้เห็นถึงการลดลงอย่างรุนแรงของความเชื่อมั่นผู้บริโภค ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อในหนึ่งปีเพิ่มขึ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์เป็น 4.3%
Naeem Aslam ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนที่ Zaye Capital Markets กล่าวว่า การเติบโตของค่าจ้างแสดงให้เห็นว่าสงครามต่อต้านเงินเฟ้อของ Fed ยังไม่จบ และทองคำทำหน้าที่เป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้อย่างสมบูรณ์แบบ ข้อเท็จจริงนี้สนับสนุนราคาของทองคำนอกจากนี้ การขู่เรื่องภาษีของประธานาธิบดี Trump ยังคงอยู่บนโต๊ะการเจรจา เนื่องจากหลายคนเชื่อว่าระยะเวลาหนึ่งเดือนไม่เพียงพอที่จะหาทางออกได้ ดังนั้น ในตอนนี้แรงส่งยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาให้สูงขึ้นต่อไป
สิ่งที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ จะเริ่มตั้งแต่การแถลงของประธาน Fed Jerome Powell ในวันองัคาร โดยตลาดจะติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณแนวทางในอนาคต เมื่อ Powell ให้การต่อหน้าสภาคองเกรส Lukman Otunuga ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ตลาดที่ FXTM กล่าวว่านักลงทุนทองคำควรเตรียมพร้อมรับความผันผวน
“การตอบสนองของ Trump ต่อมาตรการตอบโต้ทางภาษีของจีน คำให้การของ Jerome Powell และรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ ฉบับล่าสุดอาจกำหนดมุมมองของทองคำ ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนและการคาดการณ์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่ต่ำลงอาจผลักดันทองคำสู่ระดับสูงสุดใหม่ อย่างไรก็ตาม ความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับการขู่เรื่องภาษีของ Trump และท่าทีที่เข้มงวดของ Powell อาจกระตุ้นให้เกิดการปรับฐานในราคาทองคำ”
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นสถานการณ์ที่เป็นบวกอย่างมากสำหรับราคาทองคำในระยะกลาง สอดคล้องกับการประเมินของนักวิเคราะห์ว่าไตรมาสแรกราคาทองคำน่าจะจะแตะ 3,000 ดอลลาร์
![mitrade](https://resource.mistorebox.com/operation/seo-admin-pubilc/templates/assets/ad-th/mitrade.png)
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 2,867 ดอลลาร์ ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสามเส้นอย่างชัดเจน
การเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า แม้จะมีแรงเทขายทำกำไรเข้ามาที่ระดับสูงสุดใหม่ แต่แรงซื้อยังคงมีความแข็งแกร่งพอที่จะพยุงราคาไว้ได้ สังเกตได้จากการที่ราคาสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วหลังจากย่อตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาย่อตัวลงมาใกล้เส้น EMA ระยะสั้น
ในส่วนของดัชนี RSI มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ โดยได้ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 60 ซึ่งเป็นระดับที่ยังไม่ได้แสดงถึงภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) แต่ก็ยังคงอยู่ในโซนบวก สะท้อนให้เห็นว่าแรงซื้อยังมีอยู่แต่ไม่ได้ร้อนแรงมากเกินไป ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการปรับตัวขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ
สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ Stochastic RSI ได้เริ่มไขว้กันในโซนล่าง ซึ่งมักเป็นสัญญาณของการฟื้นตัวในระยะสั้น หากดูประกอบกับรูปแบบแท่งเทียนล่าสุด เราจะเห็นว่าราคากำลังพยายามสร้างฐานที่แข็งแกร่งเพื่อเตรียมปรับตัวขึ้นอีกครั้ง
แนวรับสำคัญยังคงอยู่ที่ระดับ 2,850 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับเส้น EMA 26 และเป็นแนวรับเดิมที่ถูกทดสอบก่อนหน้านี้ การที่ราคายังสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้เป็นสัญญาณที่ดี ส่วนแนวต้านสำคัญยังคงอยู่ที่บริเวณ 2,880-2,890 ดอลลาร์ โดยหากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ระดับจิตวิทยา 2,900 ดอลลาร์
จากภาพรวมทั้งหมด แนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้น โดยมีแนวรับแข็งแกร่งที่เส้น EMA ระยะสั้น และด้วยการที่ดัชนีทางเทคนิคยังไม่ได้แสดงสัญญาณ Overbought ทำให้ราคายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเข้ามาเมื่อราคาทดสอบแนวต้านสำคัญอีกครั้ง
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,850
$2,830
$2,800
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,880
$2,890
$2,900
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน