วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 1 พ.ย. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 สถานการณ์ตลาดทองคำโลกในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2024 แสดงให้เห็นถึงความผันผวนที่น่าสนใจ โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงก็ตาม โดยราคาทองคำได้ปรับตัวลงมาอยู่ที่ $2,746 ลดลงเกือบ 2% จากระดับสูงสุดที่เคยทำไว้เหนือ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงเกือบ 2 basis points มาอยู่ที่ 4.284%
ขณะที่ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ แม้ว่า Anthony Blinken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะรายงานถึง “ความคืบหน้าที่ดี” ในการเจรจาหยุดยิงในเลบานอน แต่สถานการณ์โดยรวมยังคงน่ากังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่กองทัพอิสราเอลเปิดเผยการตรวจพบการเคลื่อนย้ายขีปนาวุธในอิหร่าน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอย่างสมบูรณ์ยังคงเป็นเรื่องยาก
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดโลหะมีค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดการเงินโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก
ตลาดการเงินโลกจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนโยบายการเงิน
บรรยากาศการลงทุนในตลาดการเงินโลกอยู่ในภาวะระมัดระวังอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใกล้ถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดชี้ให้เห็นว่าการแข่งขันระหว่างผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน อดีตประธานาธิบดี Donald Trump และผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต รองประธานาธิบดี Kamala Harris มีคะแนนที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนี Core Personal Consumption Expenditures (PCE) Price Index ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด ได้ส่งผลกดดันต่อราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเหล่านี้อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องทบทวนแผนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
เงินเฟ้อและตลาดแรงงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณผสม นักลงทุนรอจับตาทิศทางนโยบายการเงิน
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดจากสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ (BEA) แสดงให้เห็นภาพที่น่าสนใจของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยอัตราเงินเฟ้อโดยรวมมีการปรับตัวลดลง แต่ดัชนี Core PCE ยังคงทรงตัวในระดับที่น่ากังวล โดยเพิ่มขึ้น 0.3% ในรายเดือน เทียบกับการเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก่อนหน้า และเมื่อเทียบรายปี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงอยู่ที่ 2.7% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ 2%
ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคล (Personal Spending) เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนที่ผ่านมา สูงกว่าการเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนสิงหาคม และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของการบริโภคภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม รายได้ส่วนบุคคล (Personal Income) เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของค่าจ้างยังไม่สามารถตามทันอัตราการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
ด้านตลาดแรงงาน กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่าจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 216,000 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 229,000 ราย นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน แม้ว่าหลายรัฐในภาคตะวันออกเฉียงใต้จะได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนในช่วงที่ผ่านมา
มุมมองของนักวิเคราะห์และแนวโน้มราคาทองคำในอนาคต
Dennis Gartman นักลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ชื่อดัง ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความสนใจที่มากเกินไปในตลาดทองคำในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าแม้จะยังคงมีมุมมองบวกต่อทองคำในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจเห็นการปรับฐานราคาลงอีกประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนอาจต้องปรับการคาดการณ์เงินเฟ้อ นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นอาจส่งผลให้เกิดการขายทองคำเพื่อรักษาสภาพคล่อง โดยดัชนี S&P 500 ได้ปรับตัวลดลงเกือบ 2% ในสัปดาห์นี้ และลดลง 2.5% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน
Alex Kuptsikevich หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของ FxPro ได้ชี้ให้เห็นว่าดัชนี RSI ของทองคำบนกราฟรายสัปดาห์ได้ทะลุระดับ 80 ซึ่งเป็นเพียงครั้งที่ 6 ในรอบ 15 ปี โดยในอดีตเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ มักจะตามมาด้วยการปรับฐานตั้งแต่ 5% ถึง 20% อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าการเข้าขายทองคำในขณะที่ราคายังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาอาจมีความผันผวนสูงจากการบังคับปิดสถานะขายที่เกิดขึ้นเป็นระลอก
David Morrison นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Trade Nation มีมุมมองที่แตกต่างออกไป โดยเชื่อว่าตลาดทองคำอาจยังไม่พร้อมสำหรับการปรับฐานครั้งใหญ่ในขณะนี้ แม้ว่าราคาจะปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 40% จากระดับ $1,990 ในกลางเดือนกุมภาพันธ์ เขาชี้ให้เห็นว่าระดับ Overbought ในปัจจุบันยังไม่สูงเท่ากับที่เคยเกิดขึ้นในเดือนเมษายน ดังนั้นราคาทองคำอาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปได้อีกก่อนที่จะถึงจุดตัดสินใจ
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าการปรับฐานที่มีนัยสำคัญอาจเกิดขึ้นเมื่อราคาแตะระดับ $3,000 ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาสำคัญและเป็นระดับสูงสุดเมื่อปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อแล้ว อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงมองว่าการปรับตัวลดลงของราคาในระยะสั้นเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของตลาดทองคำยังคงแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามองในระยะถัดไป
นักลงทุนในตลาดทองคำกำลังรอติดตามรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่จัดทำโดย ADP แสดงการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนตุลาคม แม้ว่ารายงานของ ADP จะมีประวัติการติดตามตัวเลขของรัฐบาลที่ไม่สม่ำเสมอ แต่นักวิเคราะห์บางรายระบุว่ามีความเสี่ยงที่ตลาดแรงงานในเดือนตุลาคมจะแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้
Ricardo Evangelista นักวิเคราะห์อาวุโสจาก ActivTrades กล่าวว่าตัวเลขเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของตลาดที่มีต่อทองคำ โดยหากข้อมูลแสดงถึงความแข็งแกร่ง จะลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่การขายพันธบัตร ผลักดันให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวสูงขึ้น และเพิ่มความต้องการดอลลาร์สหรัฐ
ความคิดเห็นของเขาสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ยังคงซื้อขายที่ระดับสูงสุดในรอบสามเดือนที่เหนือ 4% อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 basis points ในการประชุมสองครั้งถัดไป และต่อเนื่องไปจนถึงช่วงใหญ่ของปี 2025
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำเผชิญแรงเทขายในช่วงที่ผ่านมา โดยทะลุแนวรับสำคัญหลายระดับลงมา สะท้อนถึงแรงกดดันขาลงที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันราคาเคลื่อนตัวที่บริเวณ $2,745 ซึ่งต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 และ EMA 26 อย่างชัดเจน บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงในระยะสั้น
การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นการพักตัวลงหลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า โดยมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ $2,790 และ $2,775 ในขณะที่แนวรับที่ต้องจับตามองอยู่ที่ $2,740 และ $2,715 หากราคาหลุดแนวรับเหล่านี้ลงมา อาจเห็นการปรับฐานลงต่อเนื่องได้
สังเกตว่าในช่วงก่อนที่ราคาจะปรับตัวลงแรง เกิดสัญญาณ Bearish Divergence ระหว่างราคาที่ทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ค่า RSI กลับทำจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดก่อนหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงการอ่อนแรงลงของแนวโน้มขาขึ้น และนำไปสู่การปรับฐานในเวลาต่อมา ปัจจุบันค่า RSI ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของราคา
คาดการณ์แนวโน้ม 24 ชั่วโมงข้างหน้า ราคามีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ $2,715-2,775 โดยหากราคาสามารถยืนเหนือ $2,740 ได้อย่างมั่นคง อาจเห็นการฟื้นตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ $2,775 แต่หากหลุด $2,715 ลงมา ราคาอาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับถัดไปที่ $2,685 นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาบริเวณแนวรับ $2,740 อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นระดับสำคัญที่จะบ่งชี้ทิศทางในระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เห็นสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งมักจะส่งผลต่อราคาในระยะกลาง
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,740
$2,727
$2,715
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,758
$2,775
$2,790
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน