วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 5 มี.ค. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 5 มีนาคม 2568 ราคาทองคำ XAU/USD ปรับตัวเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 2,907.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันอังคาร ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางการค้าทั่วโลก โดยทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 11% นับตั้งแต่ต้นปี 2025 และทำสถิติสูงสุดที่ 2,956.15 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
David Meger ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายโลหะที่ High Ridge Futures กล่าวว่า การบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าสร้างความไม่แน่นอนในระดับสูงให้กับตลาด ส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและเงินยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองเช่นกัน
มาตรการภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดามีผลบังคับใช้ทันที และ Trump ยังเพิ่มภาษีสินค้าจากจีนเป็น 20% จีนตอบโต้ทันทีด้วยการเพิ่มภาษี 10-15% สำหรับสินค้านำเข้าบางรายการจากสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 10 มีนาคม พร้อมกับมาตรการจำกัดการส่งออกใหม่สำหรับหน่วยงานสหรัฐฯ ที่กำหนด ขณะที่แคนาดาตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 25% กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 30 พันล้านดอลลาร์แคนาดา ซึ่งมีผลทันทีในวันอังคาร
ตลาดหุ้นดิ่งเหว ทองคำพุ่งแรงรับกระแสหนีภัย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งเหวหลัง Trump ประกาศมาตรการภาษี ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 104 จุดเมื่อวันจันทร์และยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในวันอังคาร โดยทะลุแนวรับสำคัญที่ 5,800 จุด
ความกังวลเรื่องภาษีได้ลบภาพของการเติบโตของตลาดหุ้นหลังการเลือกตั้งออกไปหมด ในขณะเดียวกัน Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ Saxo Bank กล่าวว่าทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อไปหลังจากการปรับฐานเพียงเล็กน้อย โดยเป้าหมายที่ 3,000 ดอลลาร์กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง
แนวโน้มของทองคำยังคงได้รับการสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงระดับการปรับฐานล่าสุดที่ตื้น ซึ่งบ่งชี้ถึงความต้องการที่แข็งแกร่งแม้จะมีแรงขายจากนักเทรดทางเทคนิค นอกจากความต้องการกระจายความเสี่ยงและการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยแล้ว ทองคำยังคงได้รับประโยชน์จากการซื้อของธนาคารกลางเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับหนี้การคลังยังคงมีอยู่
ในขณะเดียวกัน Hansen ยังระบุว่าการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังเพิ่มความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกบังคับให้ลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงก็ตาม “แม้ว่าเราจะตระหนักดีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในทิศทางเดียวกันตลอด แต่เราก็ยังคงเป้าหมายที่ปรับเพิ่มล่าสุดของเราที่ 3,300 ดอลลาร์” Hansen ระบุ
ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าซื้อทองคำเพิ่ม 18 ตันในเดือนมกราคม
ความต้องการทองคำของธนาคารกลางยังคงไม่ลดลง โดยปริมาณทองคำสำรองทั่วโลกเพิ่มขึ้น 18 ตันในช่วงเดือนแรกของปีนี้ ตามรายงานล่าสุดจากสภาทองคำโลก (WGC) ความต้องการที่แข็งแกร่งในเดือนมกราคมมาหลังจากที่ธนาคารกลางซื้อทองคำไป 1,045 ตันในปี 2024 ซึ่งเป็นปีที่สามติดต่อกันที่การถือครองทองคำทางการเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 ตัน สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอย่างมาก
“การซื้ออย่างต่อเนื่องสะท้อนถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของทองคำในทุนสำรองทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อธนาคารกลางต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น” Marissa Salim นักวิจัยอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ WGC ระบุ
ตามรายงาน ธนาคารกลางของตลาดเกิดใหม่ยังคงอยู่ในแนวหน้าของการซื้อสุทธิ ธนาคารกลางอุซเบกิสถานเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดในเดือนมกราคม โดยเพิ่มทุนสำรองทางการขึ้น 8 ตัน จีนยังคงมีบทบาทสำคัญหลังจากที่ธนาคารกลางซื้อทองคำ 5 ตัน นี่เป็นเดือนที่สามที่ธนาคารประชาชนจีนเพิ่มทุนสำรองทองคำหลังจากหยุดพักไป 6 เดือนในปีที่แล้ว โลหะมีค่านี้ตอนนี้คิดเป็น 6% ของทุนสำรองต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่ายังคงต่ำอยู่หากจีนต้องการแข่งขันกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะสกุลเงินสำรองระดับโลก
นักวิเคราะห์เตือนความเสี่ยงทองคำปรับฐานแรง หลังเกิดสัญญาณเชิงเทคนิคคล้ายปี 2011
ตลาดทองคำยังคงมีความผันผวน แม้จะซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล Carley Garner ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทนายหน้า DeCarley Trading กล่าวว่าไม่เพียงแต่ทองคำดูมีมูลค่าสูงเกินไปเมื่อราคาพุ่งไปที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ความรู้สึกก็กลายเป็นเชิงบวกอย่างมากเช่นกัน
“เมื่อสองปีที่แล้ว ไม่มีใครสนใจทองคำ แต่ตอนนี้ ทุกคนถือครองทองคำหมดแล้ว ทุกคนต่างมีอารมณ์ร่วมไปกับทองคำ และความรู้สึกก็เอนเอียงไปทางเดียวกันมาก”
มองที่ภาพเทคนิคของทองคำ Garner กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมีลักษณะคล้ายกับจุดสูงสุดในปี 2011 เมื่อราคาทองคำทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่เหนือ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหลังจากนั้นก็ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยตลาดซบเซาจนถึงปี 2018
“ในปี 2011 เรามีการปรับตัวขึ้นสามคลื่นใหญ่ จากนั้นจุดสูงสุดในปี 2011 ก็ตามมาด้วยการปรับตัวลงพอสมควร และตอนนี้เราอาจอยู่สถานะการณ์เดียวกัน เรากำลังเห็นความแตกต่างบนกราฟราคากับ RSI นั่นหมายความว่าการปรับตัวขึ้นของราคากำลังทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ตัวชี้วัดไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ และนั่นมักเป็นสัญญาณว่าควรขายออก ไม่ใช่ซื้อเพิ่ม”
Garner กล่าวว่าได้ขายทองคำไปในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์และได้ทำกำไรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำจบสัปดาห์ด้วยการขาดทุน 3% และเสริมว่า ขณะนี้มีมุมมองกลางๆ สำหรับทองคำ
Garner กล่าวว่าในสภาพแวดล้อมที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจสูง เธอคาดว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และเงินสดจะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนหันไปหา
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Scott Bessent กล่าวว่าพวกเขาไม่กังวลเกี่ยวกับตลาดหุ้น รัฐบาลกังวลเกี่ยวกับการลดเงินเฟ้อและลดอัตราดอกเบี้ย และน่าเสียดายที่การทำให้เราเข้าสู่ภาวะถดถอยจะแก้ไขปัญหาทั้งสองอย่าง”
สำหรับว่าราคาทองคำจะลดลงไปได้ต่ำเพียงใด Garner มองว่าราคาเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งหากราคาลดลงไปที่ 2,170 หรือแม้แต่ 2,000 ดอลลาร์
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ $2,909 ซึ่งเป็นการยืนยันแนวโน้มการฟื้นตัวที่คาดการณ์ไว้จากครั้งก่อน โดยราคาสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ $2,900 ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาได้สำเร็จ การเคลื่อนไหวของราคาเป็นไปอย่างมีนัยสำคัญเมื่อสังเกตแท่งเทียนล่าสุดที่มีการปรับตัวขึ้นหลังจากมีการย่อตัวลงเล็กน้อย สะท้อนให้เห็นถึงการกลับมาของแรงซื้อในตลาด
โดยราคาปัจจุบันได้เคลื่อนตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้น EMA ทั้งสองเส้น ซึ่งเป็นสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นถึงระยะกลาง นอกจากนี้ การที่เส้น EMA สีแดงได้ตัดขึ้นผ่านเส้น EMA สีฟ้าจะเป็นการยืนยันสัญญาณขาขึ้นที่เรียกว่า Golden Cross ในระยะสั้น
ด้าน RSI ก็ได้ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะขายมากเกินไป และกำลังเคลื่อนที่ขึ้น แม้จะมีการชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงท้าย แต่ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ส่วน Stochastic ก็แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวและการคงสภาพในโซนบวก แม้จะเริ่มมีการอ่อนตัวลงเล็กน้อย แต่ยังไม่มีสัญญาณขายที่ชัดเจน
แนวต้านถัดไปที่สำคัญอยู่ที่ $2,920 และ $2,940 ซึ่งเป็นระดับที่ราคาเคยลงมาแล้วและกลายเป็นแนวต้านในปัจจุบัน หากราคาสามารถผ่านแนวต้านเหล่านี้ไปได้ อาจมีการปรับตัวขึ้นไป
ส่วนแนวรับสำคัญอยู่ที่ $2,900 และ $2,878 ซึ่งหากราคามีการปรับตัวลง แนวรับเหล่านี้น่าจะสามารถรองรับราคาไว้ได้ โดยแนวรับถัดไปที่ควรจับตามองอยู่ที่ $2,842 ซึ่งเป็นระดับที่มีเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว (เส้นสีส้ม) รองรับอยู่
การที่ราคาสามารถผ่านแนวต้าน $2,900 มาได้เป็นสัญญาณบวกในระยะสั้น แต่ควรติดตามว่าราคาจะสามารถรักษาระดับเหนือ $2,900 ได้หรือในเร็วๆ นี้ หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง โอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $2,920 ก็มีสูง
ในการคาดการณ์ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบ $2,878 - $2,940 โดยมีโอกาสที่จะทดสอบแนวต้านที่ $2,920 หากแรงซื้อยังคงมีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังการซื้อขายเนื่องจากราคาอาจมีการปรับฐานลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,900 หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และหากราคาไม่สามารถยืนเหนือ $2,900 ได้ อาจมีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,878 อีกครั้ง
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,900
$2,878
$2,842
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,920
$2,940
$2,960
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน