วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 8 พ.ย. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ตลาดทองคำโลกเผชิญความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา หลังราคาทองคำดีดตัวกลัยมาที่ระดับ $2,700 ภายหลังการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Federal Funds Rate) ลง 0.25%

การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำครั้งนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญ เนื่องจากเป็นการทะลุแนวต้านทางจิตวิทยาที่สำคัญที่ระดับ $2,700 หลังปรับตัวลงแรงก่อนหน้านี้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอาจเป็นสัญญาณของการปรับตัวขึ้นในระยะยาว โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลายประการ

ตลาด Wall Street ตอบรับเชิงบวกต่อการตัดสินใจของ Fed โดยดัชนีหุ้นสำคัญปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังการประกาศ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อทิศทางนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น ในแถลงการณ์นโยบายการเงิน Fed ได้ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐว่ายังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง แม้จะมีสัญญาณการอ่อนตัวลงของตลาดแรงงานบ้าง

ประเด็นสำคัญที่ตลาดให้ความสนใจคือการที่ Fed ยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% มากขึ้น แม้ว่าจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าเป้าหมาย การประเมินนี้สะท้อนถึงความสำเร็จในระดับหนึ่งของนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่ผ่านมา และอาจเป็นสัญญาณของการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในอนาคต

ในด้านความเสี่ยง Fed ระบุว่าความเสี่ยงต่อการบรรลุเป้าหมายคู่ (Dual Mandate) ทั้งในด้านการจ้างงานและเสถียรภาพราคามีความสมดุลมากขึ้น แต่ยังคงต้องติดตามความไม่แน่นอนในแนวโน้มเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลกระทบจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และความผันผวนในตลาดการเงินโลก

Powell ตอกย้ำจุดยืนการดำเนินนโยบายการเงิน พร้อมปัดข่าวลือลาออก หนุนทองทะยานแตะ 2,700 ดอลลาร์

การแถลงข่าวหลังการประชุม FOMC ของ Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สร้างความสนใจอย่างมากในตลาดการเงิน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต Powell เลือกที่จะไม่ให้แนวทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม เพื่อรักษาความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบาย

ประธาน Fed เน้นย้ำว่า ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ยังแข็งแกร่ง ธนาคารกลางสามารถใช้เวลาในการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้อย่างรอบคอบ แม้จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้แล้ว นโยบายการเงินก็ยังคงอยู่ในระดับที่เข้มงวด (Restrictive) สอดคล้องกับเป้าหมายในการนำอัตราดอกเบี้ยกลับสู่ระดับปกติ (Neutral Rate)

ประเด็นที่สร้างความตื่นตระหนกในตลาดคือการที่ Powell ตอบคำถามเกี่ยวกับข่าวลือการลาออกอย่างตรงไปตรงมา เมื่อผู้สื่อข่าวจาก Politico ถามว่าหากประธานาธิบดีคนใหม่ขอให้ลาออก เขาจะยอมลาออกหรือไม่ Powell ตอบสั้นๆ ว่า “ไม่” และยืนยันว่ากฎหมายไม่อนุญาตให้ประธานาธิบดีปลดหรือลดตำแหน่งผู้ว่าการ Fed ได้ตามอำเภอใจ

ราคาทองคำตอบสนองต่อท่าทีที่แข็งกร้าวนี้อย่างฉับพลัน โดยพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดของวันที่ $2,710.52 จากที่ก่อนหน้านี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง $2,690 - 2,695 สะท้อนให้เห็นว่าตลาดให้น้ำหนักกับเสถียรภาพในการดำเนินนโยบายการเงินและความเป็นอิสระของธนาคารกลาง

เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในถ้อยแถลงของ FOMC Powell อธิบายว่าการตัดข้อความ “further progress” ออกและเปลี่ยนเป็น “inflation has made progress” นั้น ไม่ได้มีเจตนาส่งสัญญาณใดๆ เพิ่มเติม แต่เป็นการสะท้อนว่า Fed มีความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวลงสู่เป้าหมาย 2% อย่างยั่งยืน

ตลาดแรงงานสหรัฐส่อแววชะลอตัว ข้อมูลการจ้างงานกดดันดอลลาร์ หนุนทองคำแข็งค่า

สำนักสถิติแรงงานสหรัฐ (US Bureau of Labor Statistics หรือ BLS) เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ล่าสุด ซึ่งสะท้อนภาพการชะลอตัวของตลาดแรงงานได้อย่างชัดเจน โดยมีผู้ยื่นขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้นถึง 221,000 ราย ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 พฤศจิกายน ตรงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่มีการปรับปรุงตัวเลขเป็น 218,000 ราย

ที่น่าสนใจคือ ตัวเลขผู้รับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง (Continuing Claims) ซึ่งสะท้อนจำนวนผู้ที่ยังคงได้รับสวัสดิการว่างงานอยู่ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.892 ล้านราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.880 ล้านราย และสูงกว่าตัวเลขสัปดาห์ก่อนที่ปรับลดลงเป็น 1.853 ล้านราย สะท้อนให้เห็นว่าผู้ว่างงานใช้เวลานานขึ้นในการหางานใหม่

อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สี่สัปดาห์ของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญเนื่องจากช่วยลดความผันผวนรายสัปดาห์ อยู่ที่ 227,250 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 237,000 ราย และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสัปดาห์ก่อนที่ 237,000 ราย แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการจ้างงานโดยรวมยังไม่ได้แย่ลงมากนัก

การเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอลงอาจกดดันให้ Fed ต้องเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ส่งผลบวกต่อราคาทองคำ เพราะทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น กระตุ้นอุปสงค์จากนักลงทุนต่างชาติ

ธนาคารกลางทั่วโลกพร้อมใจปรับลดดอกเบี้ย BoE ร่วมวงผ่อนคลายนโยบายการเงิน

ความเคลื่อนไหวในตลาดการเงินโลกมีความน่าสนใจมากขึ้น เมื่อธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England หรือ BoE) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับ 4.75% ในการประชุมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก สอดคล้องกับทิศทางการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะหลังจากที่ Fed ได้ส่งสัญญาณชัดเจนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

BoE ระบุในแถลงการณ์นโยบายการเงินว่า การตัดสินใจครั้งนี้มาจากการประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ใกล้เป้าหมายที่ 2% โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากการชะลอตัวของแรงกดดันด้านราคาจากปัจจัยภายนอก อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแรงกดดันเงินเฟ้อภายในประเทศที่ยังคงคลี่คลายลงอย่างช้าๆ

คณะกรรมการนโยบายการเงินของ BoE ยังได้ส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2025 แต่จะดำเนินการอย่างระมัดระวัง โดยเน้นย้ำว่านโยบายการเงินจำเป็นต้องยังคงอยู่ในระดับที่เข้มงวดเป็นระยะเวลาที่เพียงพอ จนกว่าความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะกลับมาสูงเกินเป้าหมายในระยะกลางจะลดลงอย่างชัดเจน

การตัดสินใจของ BoE สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด เนื่องจากน้ำเสียงที่ระมัดระวังในการสื่อสารนโยบายค่อนข้างเข้มงวดกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ Michael Brown นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Pepperstone ประเมินว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปอีก 0.25% น่าจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมกับการปรับปรุงประมาณการณ์เศรษฐกิจ และหากในช่วงนั้นผู้กำหนดนโยบายมีความมั่นใจมากขึ้นว่าแนวโน้มการชะลอตัวของเงินเฟ้อมีความมั่นคง อัตราการปรับนโยบายการเงินกลับสู่ภาวะปกติอาจเร่งตัวขึ้นในช่วงต้นปี 2025

ราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาแสดงการฟื้นตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ $2,710 หลังจากที่ร่วงลงแรงและทำจุดต่ำสุดที่ $2,643 ในช่วงก่อนหน้า โดยการฟื้นตัวนี้เกิดขึ้นพร้อมกับ RSI ที่ดีดตัวขึ้นจากเขต Oversold ที่ระดับ 30 สะท้อนแรงซื้อที่เข้ามาหนุน

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในระยะสั้นยังคงเป็นขาลง สังเกตได้จากเส้น EMA 12 ตัดลงใต้ EMA 26 และราคายังคงเคลื่อนตัวใต้เส้น EMA ทั้งสองเส้น นอกจากนี้ RSI ยังไม่มีสัญญาณของ Bullish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าแรงซื้อที่เข้ามาอาจไม่แข็งแกร่งพอที่จะผลักดันราคาขึ้นไปได้ต่อเนื่อง

แนวต้านสำคัญในระยะสั้นอยู่ที่ $2,710 - $2,731 ซึ่งเป็นระดับเส้น EMA และ Fibonacci หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านเหล่านี้ได้ มีโอกาสที่จะเกิดการอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับที่ $2,694 และ $2,682

สำหรับมุมมอง 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาจะแกว่งตัวในกรอบ $2,682-2,717 โดยมีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับด้านล่าง เนื่องจากแรงขายยังคงเป็นปัจจัยกดดันหลัก นักลงทุนควรติดตามการทดสอบแนวต้าน $2,710 อย่างใกล้ชิด หากราคาไม่สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจเห็นการปรับฐานลงต่อ แต่หากสามารถยืนเหนือได้ อาจเห็นการฟื้นตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $2,731

ปัจจัยที่ต้องติดตามเป็นพิเศษคือการเคลื่อนไหวของ RSI หากเกิดการหลุดต่ำกว่าระดับ 40 อีกครั้ง อาจเป็นสัญญาณยืนยันแนวโน้มขาลงระยะสั้น และอาจเห็นการอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับที่ $2,673 ในที่สุด

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,694

• $2,682

• $2,673

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,710

• $2,717

• $2,731