วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 21 มิ.ย. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 21 มิถุนายน 2567 ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยพุ่งขึ้นกว่า 1.40% ในเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ถึงแม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ยิ่งเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2024
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐชี้ถึงการชะลอตัวอย่างชัดเจน
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ทำให้นักลงทุนและนักวิเคราะห์ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยคาดว่าจะมีการปรับลด 2 ครั้ง ครั้งละ 25 basis points
รายงานการจ้างงานสหรัฐที่ออกมาล่าสุดแสดงตัวเลขที่แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้มาก โดยจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐ
นอกจากนี้ ข้อมูลภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐก็ออกมาน่าผิดหวังเช่นกัน ทั้งในส่วนของใบอนุญาตก่อสร้าง (Building Permits) และการเริ่มสร้างบ้านใหม่ (Housing Starts) ต่างก็ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนให้เห็นถึงความซบเซาในภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ
มุมมองของประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขามินนิอาโปลิส
Neel Kashkari ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขามินนิอาโปลิส ได้แสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์เงินเฟ้อและนโยบายการเงินของสหรัฐ โดยเขากล่าวว่า อาจต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงสองปีในการที่จะสามารถลดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ให้ลงมาอยู่ที่ระดับเป้าหมายที่ 2%
Kashkari ยังเน้นย้ำว่าแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจะขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจเป็นสำคัญ โดยเขาชี้ให้เห็นว่า “เราสามารถลดเงินเฟ้อได้แม้ว่าเศรษฐกิจจะยังคงเติบโตอย่างน่าประหลาดใจ” คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่เฟดกำลังเผชิญในการรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อและการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์หนุนราคาทอง
ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลกกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลดีต่อแนวโน้มราคาทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น เมื่ออิสราเอลขู่ว่าจะทำการโจมตีกลุ่มเฮซบอลลาห์ในเลบานอน ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างในภูมิภาค
นอกจากนี้ ข้อตกลงที่เพิ่งมีการลงนามระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือก็เป็นอีกปัจจัยที่สร้างความกังวลในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ความไม่แน่นอนเหล่านี้ส่งผลให้นักลงทุนหันมาให้ความสนใจกับทองคำมากขึ้น ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มักได้รับความนิยมในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
เครื่องมือ CME FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการคาดการณ์โอกาสการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของเฟดแสดงให้เห็นว่าโอกาสที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 basis points ในการประชุมเดือนกันยายนอยู่ที่ 58% ซึ่งลดลงเล็กน้อยจาก 62% เมื่อวันก่อนหน้า
ในขณะเดียวกัน สัญญา fed funds futures เดือนธันวาคม 2024 บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงประมาณ 36 basis points ในช่วงปลายปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังของตลาดที่มีต่อทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในระยะกลาง
ตลาดแรงงานสหรัฐแสดงสัญญาณอ่อนแอ
ราคาทองคำยังคงทรงตัวได้ดีหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานที่แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อวันที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 238,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 มิถุนายน หลังปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ยังคงสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 235,000 ราย นอกจากนี้ ตัวเลขของสัปดาห์ก่อนหน้ายังได้รับการปรับแก้เพิ่มขึ้น 1,000 ราย เป็น 243,000 ราย
ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอที่เพิ่มขึ้นในตลาดแรงงานสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น
ภาคที่อยู่อาศัยสหรัฐยังคงซบเซา
ในส่วนของภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐก็ยังคงประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยการก่อสร้างบ้านใหม่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำไม่ได้ตอบสนองมากนักต่อข้อมูลที่น่าผิดหวังนี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า การเริ่มสร้างบ้านใหม่ลดลง 5.5% ในเดือนพฤษภาคม สู่อัตรารายปีที่ปรับตามฤดูกาลแล้วที่ 1.277 ล้านยูนิต ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 1.37 ล้านยูนิต อย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว การก่อสร้างที่อยู่อาศัยลดลงเกือบ 20% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะถดถอยอย่างรุนแรงในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ว่าตลาดที่อยู่อาศัยอาจเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 หากเฟดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามที่ตลาดคาดการณ์
แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ
ในขณะที่นักลงทุนจับตามองนโยบายการเงินของเฟดอย่างใกล้ชิด การตัดสินใจของธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลกก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England หรือ BoE) ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารกลางที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินโลก
ล่าสุด BoE ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% ตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจคือ การลงมติในครั้งนี้ไม่เป็นเอกฉันท์ โดยมีกรรมการ 2 ท่านที่ลงคะแนนเสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในขณะที่กรรมการอีก 7 ท่านเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบัน
การตัดสินใจของ BoE สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเผชิญ ในการรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อและการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดย BoE ยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนที่แล้วได้ลดลงมาอยู่ที่ระดับเป้าหมาย 2% แล้ว แต่ยังคงมีท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะยาว
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า BoE อาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนสิงหาคม 2024 หากกระบวนการลดเงินเฟ้อยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนไม่มีความผันผวนที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจดังกล่าวอาจไม่เป็นเอกฉันท์ เนื่องจากกรรมการบางส่วนยังคงกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านค่าจ้างและราคาในภาคบริการที่ยังคงสูง
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ตลาดทองคำกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น ด้วยราคาที่พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วจนมาแตะระดับ $2,361 ณ ช่วงเวลาที่เขียนบทความนี้ เผยให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยราคาได้เคลื่อนตัวขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA ทั้งสามเส้น (EMA12, EMA26 และ EMA200) อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายกำลังรออยู่เบื้องหน้า เนื่องจากดัชนี RSI ได้เข้าสู่เขต Overbought แล้ว ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าราคาอาจเกิดการพักฐานในระยะสั้น นักลงทุนจึงควรเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น
จุดสำคัญที่ต้องจับตามองในขณะนี้คือแนวรับและแนวต้าน โดยแนวรับแรกจะอยู่ที่ระดับ $2,350 และ $2,334 ในขณะที่แนวต้านสำคัญอยู่ที่ $2,361 และ $2,375 หากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านเหล่านี้ได้ อาจเป็นสัญญาณของการปรับตัวขึ้นต่อไป
ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเกิด Bullish Divergence ระหว่างราคาและ RSI ในช่วงก่อนหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสนับสนุนการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังเกิดการ Breakout ขึ้นอย่างรุนแรงจากกรอบการซื้อขายก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่น
แม้ว่าแนวโน้มของราคาทองคำจะยังคงเป็นขาขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง แต่นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงของการพักฐานที่อาจเกิดขึ้น การเทรดในช่วงนี้จึงควรทำด้วยความระมัดระวัง พร้อมทั้งติดตามปัจจัยพื้นฐานที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,350 / $2,334
แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,361 / $2,375
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน