วิเคราะห์ราคาทองคํา (Gold Price) วันนี้ | วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - ประจำวันที่ 4/4/2023

ราคาทองคําวันนี้ (ที่มา: Mitrade)

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $1,978 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $1,995.65

ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันจันทร์ เนื่องจากการอ่อนตัวของเงินดอลลาร์ทำให้ทองคำกลับมาเป็นที่หลบภัยอีกครั้ง ขณะที่การลดกำลังการผลิตน้ำมันอย่างน่าประหลาดใจโดยกลุ่ม OPEC+ ทำให้เกิดความกลัวต่ออัตราเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อและทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตอบสนองของธนาคารกลางทั่วโลก

การตัดสินใจที่น่าตกใจของ OPEC+ คือ “การผลักดันให้เกิดการซื้อขายทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้ออย่างแท้จริง” Edward Moya นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าว “เราได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากเหตุการณ์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้น และนั่นทำให้นักลงทุนกังวลใจ” ในขณะที่ทองคำได้พยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งสถานะดั้งเดิมในฐานะการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ โดยที่ความวุ่นวายของธนาคารโลกได้ผลักดันให้ทองคำพุ่งขึ้นเกือบ 8% เมื่อเดือนที่แล้ว

ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อวันจันทร์ ส่วนหนึ่งเกิดจากแรงหนุนจากความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากกิจกรรมในภาคการผลิตของสหรัฐฯ ชะลอตัวมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนมีนาคม ตามรายงานของ Institute for Supply Management (ISM) ล่าสุด

เมื่อวันจันทร์ ISM กล่าวว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตลดลงลึกจนเข้าสู่พื้นที่หดตัวในเดือนมีนาคม โดยลดลงมาอยู่ที่ 46.3% ลดลงเล็กน้อยจากการอ่านในเดือนกุมภาพันธ์ที่ 47.7% ข้อมูลดังกล่าวผิดความคาดหมายเนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ถึงตัวเลขที่ไม่เปลี่ยนแปลงประมาณ 47.5%

รายงานแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมในภาคการผลิตอยู่ที่จุดต่ำสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020เมื่อเศรษฐกิจโลกหยุดชะงักเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

Timothy Fiore ประธานคณะกรรมการสำรวจธุรกิจการผลิตของ ISM กล่าวว่า “การอ่านดัชนี Composite ในเดือนมีนาคมสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ ยังคงชะลอการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 และเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในช่วงปลายฤดูร้อน/ต้นฤดูใบไม้ร่วง”

ทองคำยังคงขยับเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในการตอบสนองต่อข้อมูลการผลิตที่น่าผิดหวัง สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเดือนมิถุนายนซื้อขายล่าสุดที่ 1,983.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.72% ในวันเดียวกัน

เมื่อพิจารณาจากส่วนประกอบของรายงาน คำสั่งซื้อใหม่ลดลงเหลือ 44.3% ลดลงจากข้อมูลในเดือนกุมภาพันธ์ที่ 47% ในขณะเดียวกัน ดัชนีการผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 47.8% เพิ่มขึ้นจาก 47.3% ครั้งก่อน

รายงานยังระบุด้วยว่าตลาดแรงงานสูญเสียโมเมนตัมในเดือนที่แล้ว โดยดัชนีการจ้างงานลดลงเหลือ 46.9% ลดลงจากข้อมูลในเดือนกุมภาพันธ์ที่ 49.1%

รายงานระบุว่ากิจกรรมที่อ่อนแอกำลังช่วยทำให้อัตราเงินเฟ้อเย็นลง ดัชนีราคาลดลงเหลือ 49.1 ลดลงจาก 51.3% ในเดือนกุมภาพันธ์

Andrew Hunter รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Capital Economics กล่าวในบันทึกว่า ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ยังคงขยับเข้าใกล้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

“แม้ว่ามันอาจจะเร็วเกินไปที่จะคาดว่าความวุ่นวายในภาคการธนาคารจะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตอย่างมาก แต่ก็ทำให้เราเชื่อมั่นว่าการเติบโตของอุปสงค์ในประเทศจะอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว” เขากล่าว “โดยรวมแล้ว เรายังคงคาดหวังว่าเศรษฐกิจในวงกว้างจะติดตามภาคการผลิตเข้าสู่ภาวะถดถอยในเร็วๆ นี้”

ขณะที่ทองคำพยายามพิชิตระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ETF และความสนใจของผู้ค้าปลีกกำลังตื่นขึ้น และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น อ้างอิงจาก Standard Chartered

Suki Cooper นักวิเคราะห์โลหะมีค่าของ Standard Chartered กล่าวว่า “ความสนใจจากนักลงทุนรายย่อย ETF พุ่งสูงขึ้นในเดือนมีนาคม และมีขอบเขตสำหรับการเติบโตต่อไป”

การวาง Position ทางยุทธวิธีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019 และกระแส ETF เปลี่ยนเป็นบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน

กระแสของนักลงทุนเปิดเผยว่า Position ที่เพิ่มขึ้น 82.8 หมื่น Lott ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบระยะเวลาสองสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019” Cooper กล่าวเมื่อวันจันทร์

นับตั้งแต่การล่มสลายของ Silicon Valley Bank ซึ่งก่อให้เกิดวิกฤตการธนาคาร การเพิ่มขึ้นของ Positon ได้รับแรงหนุนหลักจากมีการ Cover สถานะ Short (51,000 ล็อต) และการเปิดสถานะ Long ใหม่ (32,000 ล็อต)

“ความยาวของกองทุนสุทธิทะลุ 100,000 ล็อตเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ แต่ต่ำกว่าจุดสูงสุดที่ 292,000 ล็อต ซึ่งบ่งชี้ว่ามีอัพไซด์เพิ่มเติม” Cooper กล่าวเสริม “โลหะทั้งหมดที่มีความไว้วางใจใน ETP ทองคำเป็นเดือนแรกของการไหลเข้าสูงสุดในรอบ 10 เดือน”

การถือครองยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุด ซึ่งบ่งชี้ถึงความสนใจที่มากขึ้นในอนาคต

ความสนใจของผู้ค้าปลีกในทองคำก็เพิ่มขึ้นเช่นกันในเดือนมีนาคม โรงกษาปณ์ของสหรัฐรายงานยอดขายเหรียญที่ 187.5koz ซึ่งเป็นเหรียญที่ขายดีที่สุดในเดือนมีนาคมในรอบอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ

จากมุมมองในเชิงมหภาค อุปสรรคสองประการของทองคำ อยู่ที่ดอลลาร์สหรัฐที่สูงและตลาดตราสารทุน ซึ่งกำลังแยกตัวออกจากกัน “โดยปกติแล้ว ค่าเงินดอลลาร์จะได้รับประโยชน์จากความต้องการหลบภัย และการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์เป็นอุปสรรคสำคัญต่อทองคำ แต่นักยุทธศาสตร์เชิงมหภาคของเราสังเกตว่าสถานการณ์ในปัจจุบันไม่ได้เป็นบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ ความผันผวนของตลาดหุ้นในอดีตได้กดดันให้ทองคำ แต่ตลาดตราสารทุนเริ่มมั่นคงขึ้น” Cooper ชี้ให้เห็น

ในด้านกายภาพ ตลาดมีความอ่อนไหวต่อราคาที่สูงขึ้น และในบางส่วนเริ่มมีปฏิกิริยาเชิงลบ เธอกล่าวเสริม

“ราคาทองคำในท้องถิ่นในอินเดียได้ทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง โดยทะลุ 59,000 รูปี/10 กรัม และราคาในจีนกำลังทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งเหนือ 440 หยวน/กรัม ตลาดของอินเดียได้ขยับไปสู่การปรับตัวลงของราคา และในท้องถิ่น ผู้เข้าร่วมตลาดคาดว่าตลาดจีนจะเปลี่ยนไปใช้ส่วนลด เนื่องจากอุปสงค์ได้รับแรงกดดันจากราคาที่สูง” Cooper กล่าว

Standard Chartered กำลังคาดการณ์ถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดพื้นฐาน ในเดือนพฤษภาคม ตามด้วยการปรับลด 25 จุด ในปีถัดมา

“ตำแหน่งทองคำนั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับตำแหน่งก่อนหน้าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของ Fed ในรอบการไต่เขาในปี 1995 และ 2000 โดยตำแหน่งปัจจุบันนั้นสูงที่สุดที่เคยมีมา” Cooper กล่าว "ครั้งนี้ ข่าวดีสำหรับทองคำส่วนใหญ่อาจทำให้ราคาขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว”

ในสัปดาห์นี้ Cooper กำลังคาดการณ์รายงานการจ้างงานที่อ่อนแอลงสำหรับเดือนมีนาคม หลังจากรายงานที่แข็งแกร่งอย่างคาดไม่ถึงสำหรับเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์

ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 240,000 คนในเดือนมีนาคมโดยอัตราการว่างงานยังคงอยู่ที่ 3.6%

ทางด้าน Mohamed El-Erian หัวหน้าที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ Allianz เตือนนักลงทุนอีกครั้งว่า Federal Reserve ทำผิดพลาดด้านนโยบายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

“อย่างที่กล่าวไปเมื่อเกือบปีที่แล้ว เขากลัวว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดด้านนโยบายของ Fed ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ” El-Erian ทวีตเมื่อวันจันทร์

ครั้งนี้ El-Erian อ้างถึงการทดสอบสถานการณ์ความตึงเครียดของธนาคารที่ไม่เพียงพอ ซึ่งล้มเหลวในการวัดอย่างแม่นยำว่าธนาคารจะจัดการกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอย่างไร หลังจากนโยบายที่เข้มงวดที่สุดของ Fed ในรอบหลายทศวรรษเกิดขึ้น

นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำตั้งคำถามต่อการตัดสินใจของ Fed หลายครั้งในปีที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ สายเกินไปที่จะตอบสนองต่ออัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และหลังจากพลาดเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed ก็เริ่มใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวด ซึ่งเพิ่มโอกาสที่เศรษฐกิจจะถดถอยและความไม่มั่นคงทางการเงิน

ขณะนี้ El-Erian กำลังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความล้มเหลวของธนาคารในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนที่แล้ว โดยการล่มสลายของธนาคาร Silicon Valley ในเดือนมีนาคมถือเป็นความล้มเหลวของธนาคารที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008

เขาชี้ไปที่ความเห็นจาก Peterson Institute for International Economics (PIIE) ซึ่งเน้นย้ำถึงการทดสอบสถานการณ์ความตึงเครียดของธนาคารที่ไม่เพียงพอซึ่งตอกย้ำ “มุมมองของข้อผิดพลาดด้านนโยบายอย่างต่อเนื่องโดย Federal Reserve”

PIIE เผยแพร่รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า การทดสอบสถานการณ์ความตึงเครียดของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อเร็ว ๆ นี้ใช้ “สถานการณ์ที่มีความผันแปรเพียงเล็กน้อย” และ “ไม่มีการตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น”

สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากการเผยแพร่สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคของ Fed ในเดือนกุมภาพันธ์เพื่อประเมินสถานการณ์สำหรับภาคธนาคารรายใหญ่ในปี 2023

“ด้วยเหตุผลที่ไม่จำเป็น ธนาคารขนาด SVB ไม่รวมอยู่ในการทดสอบเหล่านี้ แต่คำถามยังคงอยู่ ทางเลือกของสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคมีความเหมาะสมเพียงใด” รายงาน PIIE กล่าว “ทุกสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรงที่ Fed ใช้ตั้งแต่ปี 2015 มีอัตราพันธบัตร 3 เดือนสิ้นสุดที่ร้อยละ 0.1 หลายเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่เศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงมาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เนื่องจาก Fed ใช้เครื่องมือนโยบายเพื่อสนับสนุนอุปสงค์รวม แต่เป็นเรื่องแปลกเล็กน้อยที่ตั้งแต่ปี 2008 ไม่มีการทดสอบสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย”

El-Erian ยังอ้างถึงความคิดเห็นล่าสุดของ Julius Baer CEO Philipp Rickenbacher กับ Financial Times “สิ่งต่าง ๆ จะยังคงซับซ้อนมาก ทุกสิ่งที่มีอยู่เมื่อเดือนที่แล้วจะไม่หายไป” Rickenbacher กล่าว “ยังมีช่องว่างสำหรับความผิดพลาดด้านนโยบายในระดับสูงสุดเมื่อพูดถึงอัตราดอกเบี้ย . . ความรู้สึกของทุกคนระวังตัวมากขึ้นในขณะนี้”

ก่อนหน้านี้ El-Erian หัวหน้าที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ Allianz วิจารณ์ Fed ว่ากำหนดอัตราเงินเฟ้อเป็น “ชั่วคราว” ในปี 2021 จากนั้นจึงดำเนินการรัดเข็มขัดในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบหลายทศวรรษเพื่อให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายหลักจากประมาณศูนย์เป็นระดับ 4.75%-5%

การเติบโตทั่วโลกเป็นอีกหนึ่งความกังวลหลักสำหรับ El-Erian ซึ่งในทวีตอื่นอ้างถึง “การศึกษาที่น่าวิตกจากธนาคารโลก”

ในรายงานล่าสุด ธนาคารโลกเตือนว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกโดยเฉลี่ยจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ทศวรรษที่ 2.2% ต่อปีจนถึงปี 2030 และเสริมว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่ “ทศวรรษที่หายไป” สำหรับเศรษฐกิจโลก

ขณะที่ความต้องการทองคำของธนาคารกลางก็ได้เปลี่ยนโฉมตลาดทองคำไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากมีปริมาณสำรองทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 1,136 ตันในปีที่แล้ว และแม้ว่าปี 2023 จะไม่เป็นปีที่มีการบันทึกสถิติอีกปีหนึ่ง แต่อุปสงค์ของภาคธนาคารจะยังคงแข็งแกร่ง

ตามรายงานล่าสุดจาก World Gold Council ธนาคารกลางของสิงคโปร์ซื้อทองคำเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ทำให้ปริมาณสำรองทางการเพิ่มขึ้น 6.8 ตันในเดือนกุมภาพันธ์ WGC ตั้งข้อสังเกตว่าสิงคโปร์มีปริมาณสำรองทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมากจนถึงปีนี้

นักวิเคราะห์ระบุว่าธนาคารกลางยังคงซื้อทองคำและกระจายความเสี่ยงออกจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

Robert Minter ผู้อำนวยการ ETF Investment Strategy ที่ abrdn กล่าวว่า ความต้องการของธนาคารกลางเป็นเหตุผลสำคัญที่นักลงทุนจำเป็นต้องให้น้ำหนักทองคำมากขึน เขาเสริมว่าทองคำจะเป็นผู้ชนะที่ใหญ่ที่สุดในโลกของสกุลเงินหลายขั้ว

“ธนาคารกลางจะไม่หยุดซื้อทองคำในเร็วๆ นี้” เขากล่าว “เงินดอลลาร์จะไม่สูญเสียสถานะสกุลเงินสำรองในเร็ว ๆ นี้ แต่ธนาคารกลางจะยังคงกระจายความเสี่ยงออกจากเงินดอลลาร์สหรัฐ”

ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คนอื่นๆ ได้กล่าวว่า แนวโน้มการกระจายความเสี่ยงจากเงินดอลลาร์สหรัฐและไปสู่ทองคำนั้นมีเหตุผลเชิงปฏิบัติมากกว่านั้น Paul Wong นักยุทธศาสตร์การตลาดของ Sprott กล่าวว่า การที่เงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบ 21 ปีสร้างปัญหาเงินเฟ้ออย่างมากสำหรับสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่

เขาเสริมว่า การมีสินทรัพย์สำรองของคุณที่มีความยืดหยุ่นมากนั้นเป็นสิ่งจำเป็นในโลกหลายขั้ว และมีเพียงทองคำเท่านั้นที่สามารถเติมเต็มบทบาทนั้นได้

“ธนาคารกลางกำลังซื้อทองคำจำนวนมาก และเนื่องจากมีอัตราเงินเฟ้อจำนวนมาก” เขากล่าว “ถ้าคุณต้องการปกป้องกำลังซื้อของสกุลเงินสำรองของคุณ ทองคำเป็นสินทรัพย์ชนิดหนึ่งที่สามารถใช้เป็นสกุลเงินนอกระบบได้ ไม่ว่าระบบธนาคารกลางของคุณจะเป็นแบบตะวันตกหรือนำโดยจีน”

เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้พยายามขึ้นไปทดสอบระดับทางจิตวิทยาที่ $2,000 ถึงสามครั้ง อย่างไรก็ตาม ทองคำไม่สามารถทรงตัวเหนือบริเวณดังกล่าวได้

ในวันที่ผ่านมา ราคาดูเหมือนจะฟอร์มตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากความเชื่อมั่นของตลาดที่เป็นขาขึ้นนั้นชัดเจนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว

และหากราคาต้องการที่จะกลับขึ้นไปทดสอบบริเวณ $2,000 อีกครั้ง ในวันนี้ราคาจึงจำเป็นต้องยืนเหนือ $1,978 ให้ได้เป็นจุดแรก เมื่อวาน เส้น EMA 12 ผลักดันให้ราคาดีดกลับขึ้นไปอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม โมเมนตั้มในกราฟราย 4 ชั่วโมงยังคงมีพื้นที่ให้ขยับขึ้น หรือปรับตัวลงได้ทั้งคู่ ทำให้ยังคงมีโอกาสที่ราคาจะผันผวนในวันนี้ได้  ซึ่งความเคลื่อนไหวของราคาในวันนี้ มีโอกาสที่จะขยับอยู่ระหว่าง $1,960 - $1,995 ก่อนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเพิ่มเติมในวันพรุ้งนี้

- แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $1,978 และ $1,962 - $1,958 และ $1,949

- แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $1,995

เทรดทองคำกับโบรกเกอร์ชั้นนำในโลก!เปิดบบัญชีจริงเปิดบบัญชี Demoค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำเลเวอเรจที่ยืดหยุ่น (1x/20x/50x/100x)เปิดบัญชีได้ง่ายและเร็วภายใน 3 นาทีกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่มีอำนาจฟรีเงินเสมือนจริง $50,000