วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 1 มี.ค. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >      

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,043.98 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $2,052.1

ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้งในวันพฤหัสบดี หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐได้รับมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ต้องการ ซึ่งคือดัชนีราคาการใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลหลัก (PCE) ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการ ข้อมูลที่ยืนยันว่ากระบวนการสลายเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อไป ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐลดลง และส่งผลโดยตรงกับราคาทองคำ

ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล ไม่รวมค่าอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนนี้ และ 2.8% จากปีที่แล้ว ในขณะที่ตลาดมองว่าตัวเลขรายเดือนจะเพิ่มขึ้นเเพียง 0.1% ในเดือนธันวาคมและ 2.9% จากปีก่อน

PCE ทั่วไป รวมถึงหมวดอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน เพิ่มขึ้น 0.3% ต่อเดือนและ 2.4% ในช่วง 12 เดือน เช่นเดียวกับการคาดการณ์ ตามตัวเลขที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีโดยสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์ ตัวเลขเดือนธันวาคมตามลำดับคือ 0.1% และ 2.6%

ตัวเลขดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งเพิ่มขึ้น 1% โดยสูงกว่าการคาดการณ์ที่ 0.3% การใช้จ่ายลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับประมาณการที่เพิ่มขึ้น 0.2%

การเพิ่มขึ้นของราคาในเดือนมกราคมสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในด้านการบริการมากกว่าสินค้า เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวเป็นปกติจากการหยุดชะงักของการแพร่ระบาดของโควิด

ทั้ง PCE ทั่วไปและ PCE หลักยังคงนำหน้าเป้าหมายของ Fed ที่ต้องการอัตราเงินเฟ้อต่อปีที่ 2% แม้ว่าตัวเลขหลักรายปีจะต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 

แม้ว่า Fed จะใช้มาตรการทั่วไปอย่างเป็นทางการ แต่ผู้กำหนดนโยบายก็มีแนวโน้มให้ความสนใจมากขึ้นและตัวเลขจะเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ดีกว่าแนวโน้มระยะยาวกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด

Raphael Bostic ซึ่งเป็น Fed แห่งแอตแลนตากล่าวว่าข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าหนทางกลับสู่เป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของธนาคารกลางยังคงไม่ราบรื่น

เขาบอกในการประชุมธนาคารในแอตแลนตาว่า ตัวเลขข้ามาสูงกว่าที่ผู้คนคาดหวังไว้ แต่ถ้ามองข้ามความเคลื่อนไหวระยะสั้น ในภาพรวมตัวเลขก็ลดลงและ “นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้”

เช่นเดียวกับ Bostic เจ้าหน้าที่ Fed ของชิคาโกอย่าง Austan Goolsbee กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาเชื่อว่าการปรับปรุงอุปทานของสินค้าและแรงงานในปีที่แล้วจะเป็นเหตุให้อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลงอีกในปีนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเขายังคงพร้อมใจลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ตอบคำถามว่าจะคงอัตราไว้นานแค่ไหน

Goolsbee รู้สึกว่ายังคงมีขอบเขตสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ ที่จะดำเนินการต่อในสิ่งที่เขาเรียกว่า “Golden Path” ของอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง ควบคู่ไปกับตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ผิดปกติในอดีต

การซ่อมแซมห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับความเสียหายจากโรคระบาด และการเพิ่มจำนวนผู้อพยพที่ดึงการมีส่วนร่วมของแรงงานสหรัฐฯ ได้ช่วยผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้ลดลงอย่างมากในปีที่แล้ว และนักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าพวกเขาคิดว่าการพัฒนาเชิงบวกเหล่านั้นดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่ Goolsbee ไม่เห็นด้วย

รายงาน BEA ประจำวันพฤหัสบดียังแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงประหยัดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง อัตราการออมส่วนบุคคลอยู่ที่ 3.8% ในเดือนนั้น สูงกว่าเดือนธันวาคมเล็กน้อย แต่ลดลงจากระดับล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2022

ในด้านข่าวเศรษฐกิจอื่นๆ รายงานของกระทรวงแรงงานแสดงให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ ยังคงไม่เต็มใจที่จะเลิกจ้างพนักงาน

ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นมีจำนวนทั้งสิ้น 215,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ก.พ. เพิ่มขึ้น 13,000 รายจากช่วงก่อนหน้า และมากกว่าประมาณการของ Dow Jones ที่ 210,000 ราย แต่ยังคงสอดคล้องกับแนวโน้มล่าสุดเป็นส่วนใหญ่ 

อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องอย่างต่อเนื่องซึ่งช้ากว่าหนึ่งสัปดาห์ เพิ่มขึ้นเป็นเหนือ 1.9 ล้าน เพิ่มขึ้น 45,000 และสูงกว่าการคาดการณ์ของ FactSet ที่ 1.88 ล้าน

รายงานดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางครุ่นคิดถึงอนาคตของนโยบายการเงินภายหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้ง รวมเป็น 5.25 จุดเปอร์เซ็นต์ การปรับขึ้นดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 ถึงกรกฎาคม 2022 ในขณะที่ Fed ต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในช่วงกลางปี 2021

เจ้าหน้าที่ได้กล่าวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาว่าพวกเขาคาดว่าจะเริ่มพลิกกลับนโยบายการเพิ่มขึ้นในบางจุดในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาและขอบเขตของการผ่อนคลายนโยบายยังไม่แน่นอน เนื่องจากข้อมูลล่าสุดระบุว่าอัตราเงินเฟ้ออาจดื้อรั้นมากกว่าที่คาดไว้

David Alcaly หัวหน้านักยุทธศาสตร์เศรษฐศาสตร์มหภาคของ Lazard Asset Management กล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อที่ร้อนแรงในเดือนมกราคมเพิ่มความไม่แน่นอนและผลักดันการคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ย แต่โอกาสยังคงอยู่เนื่องจากความเร็วที่เพิ่มขึ้น 

และแม้ว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นเพิ่มเติม แต่ท้ายที่สุดแล้วมันจะมีความสำคัญมากกว่า ว่าวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยจะดำเนินไปลึกแค่ไหนเมื่อเวลาผ่านไปมากกว่าตอนที่มันเริ่มต้น

ข้อมูลดัชนีเดือนมกราคมทำให้เกิดความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากจะเห็นว่าการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากปัจจัยตามฤดูกาลและการเพิ่มขึ้นของที่พักพิงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

แม้ว่า CPI จะถูกนำมาใช้เป็นข้อมูลป้อนเข้า PCE แต่เจ้าหน้าที่ของ Fed ก็ให้ความสำคัญกับอย่างหลังมากกว่า เนื่องจากจะปรับตามการทดแทนที่ผู้บริโภคทำกับสินค้าและบริการเมื่อราคาตกต่ำ ในกรณีที่ CPI ถูกมองว่าเป็นการวัดราคาที่ง่ายกว่า PCE ก็ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของสิ่งที่ผู้คนกำลังซื้อจริงมากกว่า

Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ Saxo Bank กล่าวว่าทองคำทรงตัวได้ดีเมื่อพิจารณาจากอุปสรรคที่ต้องเผชิญตั้งแต่ต้นปี และแม้ว่าจะเจอกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนก็ตาม

Hansen ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในเดือนที่ผ่านมา เขาเสริมว่าความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ลดลงจาก 6 ครั้งในช่วงต้นปี เหลือเพียง 3 ครั้งเท่านั้น จากข้อมูลของ CME FedWatch Tool ตลาดต่างๆ มีโอกาสมากกว่า 60% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน

สภาพแวดล้อมที่ท้าทายนี้ส่งผลกระทบต่อความต้องการการลงทุน เนื่องจากตลาดได้เห็นการไหลออกที่สำคัญในผลิตภัณฑ์ซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ได้รับการสนับสนุนจากทองคำ เขาชี้ให้เห็นว่าทองคำ 44 ตันไหลออกจากตลาดในเดือนกุมภาพันธ์ ทองคำ 95 ตันหนีออกจากกองทุน ETF ทองคำตั้งแต่ต้นปี

ในขณะเดียวกัน ความสนใจในการเก็งกำไรในทองคำได้ตกลงไปสู่รูปแบบที่คาดเดาได้ โดยการเดิมพันในมุมมองกระทิงจะเพิ่มขึ้นเมื่อราคาทดสอบแนวรับที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และการเดิมพันในมุมมองตลสดหมีเกิดขึ้นเมื่อราคาเข้าใกล้ 2,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แม้จะมีความท้าทาย Saxo Bank ยังคงแนวโน้มเชิงบวกสำหรับทองคำ โดยธนาคารเดนมาร์กมองว่าราคาทองคำพุ่งแตะ 2,300 ดอลลาร์ในปีนี้

อย่างไรก็ตาม Hansen กล่าวว่านักลงทุนจำเป็นต้องอดทนอดกลั้น เพราะถึงแม้เขายังคงแนวโน้มขาขึ้นสำหรับทองคำ แต่ดังที่ได้เน้นย้ำหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทองคำมีแนวโน้มที่จะยังคงติดอยู่จนกว่าตลาดจะมีความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในอนาคต

จนกว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ตลาดอาจวิ่งนำหน้าตัวเองในบางครั้ง ในกระบวนการสร้างความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่ทำให้ราคาเสี่ยงต่อการปรับฐาน ด้วยเหตุนี้ ทิศทางระยะสั้นของทองคำจะยังคงถูกกำหนดโดยข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามาและผลกระทบต่อเงินดอลลาร์ อัตราผลตอบแทนก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญ

แม้ว่าความต้องการในการลงทุนจะยังคงต้องดิ้นรนต่อไปในระยะเวลาอันใกล้นี้ Hansen กล่าวว่าอุปสงค์ทางกายภาพซึ่งนำโดยผู้บริโภคชาวเอเชียและการซื้อของธนาคารกลาง จะช่วยรักษาความแข็งแกร่งของทองคำต่อไป

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นหลังจากแนวรับทางเทคนิคยังคงส่งสัญญาณของความแข่งแกร่ง โดยในวันที่ผ่านมาราคามีการลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 ในกราฟรายวันอีกครั้ง ก่อนที่จะสามารถดีดตัวขึ้นเหนือแนวต้าน อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่ราคาจะย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนที่จะขยับขึ้นต่อ

สัญญาณของ Stochastic RSI ทั้งรายวันและรายชั่วโมงกำลังอยู่ในระดับสูงซึ่งอาจจะหมายถึงการพักรอบของการขึ้นเร็วๆ นี้

แนวรับในวันนี้จะอยู่ในช่วง Trend Line ในกราฟ 4 ชั่วโมงบริเวณ $2,039 - $2,035 และ $2,027 - $2,025 ตามลำดับ

โดยมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ $2,050 - $2,055

กราฟทองคำ 1 วัน และกราฟทองคำ 4 ชั่วโมง

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,039 - $2,035 และ $2,027 - $2,025

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,050 - $2,055