วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 26 มิ.ย. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่แตะระดับสูงสุดของวันบริเวณ 2,337 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ การเคลื่อนไหวนี้เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงนี้ คือความเห็นในเชิงคุมเข้ม (Hawkish) ของ Michelle Bowman ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำนี้สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนไหวของตลาดต่อนโยบายการเงิน และแสดงให้เห็นว่านักลงทุนกำลังปรับตัวต่อความเป็นไปได้ของการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นระยะเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ความเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ
Michelle Bowman ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต โดยเน้นย้ำว่านโยบายการเงินควรคงอยู่ในระดับเดิมซัก “ระยะหนึ่ง” และมองว่าระดับนโยบายปัจจุบันน่าจะเพียงพอที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมายที่ 2% ที่ธนาคารกลางสหรัฐกำหนดไว้
Bowman แสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดการเงินคาดหวังไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ เธอยังกล่าวว่า พร้อมที่จะสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย “หากความคืบหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อหยุดชะงักหรือกลับทิศทาง” ความเห็นนี้สะท้อนถึงความระมัดระวังของธนาคารกลางสหรัฐในการดำเนินนโยบายการเงิน และความมุ่งมั่นในการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ในทางตรงกันข้าม Lisa Cook เพื่อนร่วมงานของ Bowman แสดงจุดยืนที่เป็นกลางมากกว่า โดยกล่าวว่าเงินเฟ้อน่าจะลดลง “อย่างรวดเร็ว” ในปีหน้า และเสริมว่าอาจจำเป็นต้องผ่อนคลายนโยบายเพื่อรักษาสมดุลของภารกิจของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยการรักษาเสถียรภาพราคาและการส่งเสริมการจ้างงานสูงสุด
ความเห็นที่แตกต่างกันของผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการกำหนดนโยบายการเงินในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินและราคาทองคำในอนาคต
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัว
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดจาก U.S. Conference Board เผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงเหลือ 100.4 ในเดือนมิถุนายน จาก 101.3 ในเดือนพฤษภาคม แม้จะลดลง แต่ตัวเลขนี้ยังสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ซึ่งคาดว่าจะลดลงเหลือ 100
ตลาดทองคำตอบสนองต่อข้อมูลนี้โดยราคาลดลงสู่จุดต่ำสุดของวัน การลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต แม้ว่าการประเมินสถานการณ์ปัจจุบันจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนีสถานการณ์ปัจจุบัน (Present Situation Index) ซึ่งวัดการประเมินของผู้บริโภคเกี่ยวกับสภาวะธุรกิจและตลาดแรงงานในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นเป็น 141.5 จาก 140.8 ในเดือนก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ดัชนีความคาดหวัง (Expectations Index) ซึ่งสะท้อนมุมมองระยะสั้นของผู้บริโภคต่อรายได้ ธุรกิจ และสภาวะตลาดแรงงาน ลดลงเหลือ 73.0 ในเดือนมิถุนายน จาก 74.9 ในเดือนพฤษภาคม ค่าดัชนีที่ต่ำกว่า 80 มักเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังจะมาถึง และดัชนีนี้ได้อยู่ต่ำกว่าระดับดังกล่าวติดต่อกันเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว
การคาดการณ์เงินเฟ้อและมุมมองต่อเศรษฐกิจ
ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 5.3% ในปีหน้า ลดลงเล็กน้อยจาก 5.4% ในเดือนพฤษภาคม แม้ว่าตัวเลขนี้จะลดลง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐที่ 2% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านราคาในระยะยาว
จากการสำรวจพบว่า ราคาสินค้าที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอาหารและของชำ ยังคงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจ ตามมาด้วยความกังวลเกี่ยวกับสภาวะตลาดแรงงานและสถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐฯ ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมการใช้จ่ายและการลงทุนของผู้บริโภค ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม
Dana M. Peterson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ The Conference Board กล่าวว่า สุขภาพของตลาดแรงงานยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยเตือนว่าหากมีจุดอ่อนที่สำคัญในตลาดแรงงานปรากฏขึ้น ความเชื่อมั่นอาจอ่อนแอลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม
Bank of America คาดการณ์ราคาทองพุ่งสูง
ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ Bank of America ได้ออกมาคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำในอนาคต โดย Michael Widmer นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร กล่าวว่าราคาทองมีศักยภาพที่จะพุ่งสูงถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในอีก 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า
Widmer ชี้ว่าปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันราคาทองให้สูงขึ้นคือการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์การลงทุน อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์นี้อาจจะยังไม่เกิดขึ้นในทันที และอาจต้องรอจนกว่าธนาคารกลางสหรัฐจะส่งสัญญาณชัดเจนว่าพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์ของ Bank of America ยังระบุว่า หากอุปสงค์จากนักลงทุนที่ไม่ใช่เพื่อการค้า (non-commercial demand) เพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันเนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง นอกเหนือจากการไหลเข้าของเงินทุนในกองทุน ETF ที่มีทองคำเป็นสินทรัพย์อ้างอิง การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายใน London Bullion Market Association (LBMA) ก็จะเป็นสัญญาณที่น่าพอใจสำหรับราคาทองคำเช่นกัน
Widmer กล่าวในรายงานว่า “ราคาทองคำเฉลี่ยที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในปีนี้อาจเหมาะสม หากอุปสงค์การลงทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 20% อย่างไรก็ตาม การซื้อที่ไม่ใช่เพื่อการค้าเพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในไตรมาสแรกของปี 2024 ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับราคาทองคำเฉลี่ยที่ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน”
นอกเหนือจากนโยบายการเงินของสหรัฐฯ แล้ว Bank of America มองว่าความผันผวนของผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นเป็นอีกปัจจัยบวกสำคัญสำหรับทองคำ Wid
ความเสี่ยงในตลาดพันธบัตรสหรัฐ
แม้ว่าการล่มสลายของตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะไม่ใช่สถานการณ์พื้นฐานที่ Bank of America คาดการณ์ไว้ แต่ธนาคารก็เตือนว่าความเสี่ยงในเศรษฐกิจโลกกำลังเพิ่มขึ้น และตลาดพันธบัตรสหรัฐดูเปราะบาง
ปัญหาใหญ่ที่สุดที่นักวิเคราะห์ระบุคือหนี้รัฐบาลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ดูแลสภาพคล่องในตลาด (Market Makers) ไม่สามารถรองรับอุปทานพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นได้ทัน ซึ่งกำลังสร้างสภาพคล่องที่ต่ำในตลาด Bank of America ชี้ว่า ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมีขนาดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุก 7 ปีนับตั้งแต่ปี 2001 การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้สร้างความท้าทายอย่างมากในการรักษาเสถียรภาพของตลาด
หากเกิดความไม่มั่นคงในตลาดพันธบัตรสหรัฐ นักวิเคราะห์คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้น การเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอาจทำให้ราคาทองคำลดลงในทันที อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว การแสวงหาสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-haven asset) จะนำกระแสเงินทุนเข้าสู่ตลาดทองคำ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในที่สุด
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ราคาทองคำกำลังเผชิญกับแรงขายอย่างหนัก โดยปรับตัวลงแตะระดับ $2,311 ต่อออนซ์ ณ เวลาปัจจุบัน สะท้อนถึงภาวะตลาดที่อ่อนแอในระยะสั้น โดยราคายังคงเคลื่อนตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA ทั้ง 3 เส้น (EMA12, EMA26 และ EMA200) ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงที่ยังคงมีความแข็งแกร่ง
ในสถานการณ์ปัจจุบัน ระดับแนวรับสำคัญที่ต้องจับตามองอยู่ที่ $2,310 ซึ่งเป็นระดับที่ราคากำลังทดสอบอยู่ในขณะนี้ หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ ระดับถัดไปที่ต้องระวังคือ $2,300 และแนวรับสุดท้ายที่สำคัญอยู่ที่ $2,290 ซึ่งหากหลุดระดับนี้อาจนำไปสู่การปรับฐานที่ลึกขึ้น
ในทางกลับกัน หากราคาสามารถฟื้นตัวได้ แนวต้านแรกที่ต้องเอาชนะคือ $2,319 ตามด้วย $2,324 และแนวต้านที่สำคัญที่สุดในระยะสั้นอยู่ที่ $2,331 ซึ่งเป็นระดับที่มีแรงขายเข้ามาอย่างหนักในช่วงก่อนหน้า
ดัชนี RSI ถึงจะเริ่มปรับตัวลงอีกครั้ง แต่ยังไม่พบสัญญาณการชะลอที่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้แรงซื้อกลับเข้ามายังไม่มากพอที่จะพลิกสถานการณ์ได้ในทันที
ในภาพรวม แนวโน้มของราคาทองคำใน 24 ชั่วโมงข้างหน้ายังคงเป็นขาลง นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาบริเวณแนวรับ $2,310 อย่างใกล้ชิด หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจเป็นสัญญาณของการฟื้นตัว แต่หากหลุดลงไป ควรระวังการปรับตัวลงที่อาจรุนแรงขึ้น
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง: $2,319 - $2,316 / $2,310
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง: $2,330 - $2,335 / $2,350
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน