วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 2 เม.ย. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ราคาทองคำสปอตในปัจจุบันอยู่ที่ 2,249.41 ดอลลาร์ ขณะที่ทองคำล่วงหน้าอยู่ที่ 2,269.2 ดอลลาร์
ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในวันจันทร์ ขณะที่ความหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ใกล้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจางหายไปเพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งไม่สนับสนุนความจำเป็นในการลดดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ โดยบรรยากาศการคาดการณ์ที่ดีต่อตัวเลขเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่แล้วเริ่มมืดมนลงอย่างรวดเร็ว เมื่อตลาดชั่งน้ำหนักระหว่างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ กับความจำเป็นในการลดอัตราดอกเบี้ย ทางด้าน Kevin Flanagan หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตราสารหนี้ของ WisdomTree ในนิวยอร์กกล่าวว่ามาตรการวัดเงินเฟ้อทั้ง 3 ตัวของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ชี้ว่าเงินเฟ้อที่ปรับตัวดีขึ้นเริ่มทรงตัว นำไปสู่คำถามว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเมื่อไรและลดลงมากแค่ไหน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาดทำให้เกิดข้อสงสัยว่า Fed จะสามารถลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งตามที่ระบุในประมาณการ ณ การประชุมนโยบายครั้งล่าสุดหรือไม่
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ซึ่งสะท้อนถึงการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ปรับเพิ่มขึ้น 9.2 bps สู่ระดับ 4.712% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 12.3 bps แตะ 4.317% หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 4.337% ก่อนหน้านี้
ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อทองคำ เพราะถึงแม้ราคาทองคำจะลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างวัน แต่ตลาดยังคงแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยเมื่อวันจันทร์ สถาบัน Institute for Supply Management (ISM) ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (Services PMI) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 ในเดือนมีนาคม เทียบกับ 47.8 ในเดือนกุมภาพันธ์ ข้อมูลดังกล่าวแข็งแกร่งกว่าคาด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวดีขึ้นเพียงเล็กน้อยสู่ระดับ 48.5
Timothy Fiore ประธานคณะกรรมการสำรวจธุรกิจการผลิตของ ISM กล่าวว่า “ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ขยายตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 อุปสงค์เป็นบวก ผลผลิตแข็งแกร่งขึ้น และปัจจัยนำเข้ายังคงเอื้ออำนวย”
รายงานแสดงให้เห็นการปรับตัวดีขึ้นในวงกว้างของส่วนประกอบต่างๆ ดัชนียอดสั่งซื้อใหม่ (New Orders Index) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.4% จาก 49.2% ที่รายงานในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะเดียวกัน ดัชนีการผลิต (Production Index) เพิ่มขึ้นสู่ 55.8% จากระดับ 52.5% ในครั้งก่อน
ในขณะเดียวกัน รายงานยังระบุถึงการปรับตัวดีขึ้นในตลาดแรงงานแม้ว่าจะยังอยู่ในภาวะหดตัว ดัชนีการจ้างงาน (Employment Index) เพิ่มขึ้นสู่ 47.4% จาก 45.9%
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจมาพร้อมกับต้นทุน รายงานระบุถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ดัชนีราคา (Price Index) ขยับขึ้นสู่ระดับ 55.8 จาก 52.5 ในเดือนกุมภาพันธ์
นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่าเงินเฟ้อส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อตลาดทองคำ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าสบายใจที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยแม้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่เหนือเป้าหมายที่ 2%
Stephen Brown รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ภูมิภาคอเมริกาเหนือของ Capital Economics ปฏิเสธแรงกดดันเงินเฟ้อที่สูงขึ้นโดยระบุว่าในขณะที่การปรับตัวสูงขึ้นของดัชนีราคาจ่าย (Prices Paid Index) สู่ระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือน ดูเหมือนจะน่ากังวลพอสมควรสำหรับธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเป็นส่วนใหญ่ มากกว่าที่จะเป็นการเพิ่มขึ้นใหม่ของแรงกดดันเงินเฟ้อราคาสินค้าหลัก โดย Brown เสริมว่าภาคการผลิตของสหรัฐฯ ดูเหมือนจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
เมื่อไม่นานมานี้ George Milling-Stanley หัวหน้านักกลยุทธ์ของ State Street Global Advisors กล่าวว่าเขาไม่แปลกใจที่ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่เกือบทุกวัน โดยตลาดทองคำยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นักลงทุนควรคาดหวังว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไป
Milling-Stanley ชี้ให้เห็นว่าตอนต้นปี ทีมของเขาเห็นโอกาส 30% ที่ราคาทองคำจะพุ่งสูงถึง 2,400 ดอลลาร์ ในขณะเดียวกัน State Street เห็นโอกาส 50% ที่ราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,950 ถึง 2,200 ดอลลาร์
“ตอนต้นปี เราเห็นโอกาส 80% ที่ราคาทองคำจะปิดสูงกว่าจุดเริ่มต้นของปี” เขากล่าว “ผมไม่แน่ใจว่าการปรับตัวขึ้นนี้จะยั่งยืนหรือไม่ ระดับ 2,200 ดอลลาร์เป็นตัวเลขสำคัญที่อาจดึงดูดแรงขายเข้ามาบ้าง”
แม้ว่า Milling-Stanley จะมีมุมมองบวกต่อทองคำ แต่เขาบอกว่าจะไม่แปลกใจหากเห็นตลาดมีการพักฐานที่ระดับต่ำลงในระยะใกล้ อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่าเป็นที่ชัดเจนว่าตลาดได้สร้างฐานราคาใหม่เหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้ว
แม้ว่าความต้องการลงทุนจากตะวันตกจะค่อนข้างไม่คึกคัก โดย gold-backed ETFs ไม่ได้เห็นเงินไหลเข้ามามากเท่าตลาดซื้อขายล่วงหน้า แต่ Milling-Stanley กล่าวว่ายิ่งโมเมนตัมปัจจุบันนี้ยืดเยื้อนานเท่าไร ทองคำก็จะยิ่งดึงดูดนักลงทุนระยะยาวได้ดีเท่านั้น
เขาเสริมว่าเป็นแค่เรื่องของเวลาที่นักลงทุนจะยอมรับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกผลักดันความผันผวนของตลาดให้สูงขึ้น ส่วนการถือทองคำมากน้อยเท่าไรสำหรับนักลงทุนในสภาวะปัจจุบัน Milling-Stanley ระบุว่าการลงทุนถึง 20% ของพอร์ตการลงทุนน่าจะเหมาะสม
เขากล่าวว่าพอร์ตการลงทุนสามารถได้รับประโยชน์จากการจัดสรรเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวระหว่าง 2% ถึง 10% และหากกำลังเจอหรือคาดการณ์ความผันผวนที่รุนแรงในตลาด การเพิ่มการลงทุนในทองคำเป็น 2 เท่าจะเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลทางการเงิน และเมื่อเวลาผ่านไป ทองคำสามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนที่มีความสมดุลอย่างเหมาะสมได้ และไม่ว่าราคาทองคำจะขึ้น ลง หรือทรงตัว มันก็จะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนได้ด้วย
แม้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะยังคงแข็งแกร่งเชิงเปรียบเทียบ แต่ Milling-Stanley กล่าวว่า ความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ยังไม่ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง เขาเสริมว่ายังมีความไม่แน่นอนมากมายเกี่ยวกับเงินเฟ้อและนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
เขาอธิบายว่าความไม่แน่นอนเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความผันผวนของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น
เขากล่าวว่าความคาดหวังของผู้คนจะยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน และจะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อไป ซึ่งเป็นบวกต่อทองคำ ทองคำเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญของพอร์ตการลงทุนที่มีความสมดุลอย่างเหมาะสม
แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ แต่ Milling-Stanley กล่าวว่าไม่ได้คาดว่าเงินเฟ้อจะหายไปไหน เขาเสริมว่ามีความชัดเจนแล้วว่าวัฏจักรการเข้มงวดทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้สิ้นสุดลง และถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ทองคำก็ยังได้รับประโยชน์ต่อไป
Milling-Stanley อธิบายว่าเมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับปัจจุบัน และเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงควรจะเริ่มลดลง ซึ่งจะกดดันตลาดพันธบัตรและเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นผลประโยชน์ต่อราคาทองคำ
รายงานล่าสุดจากบริษัทจัดการความมั่งคั่ง Union Bancaire Privée (UBP) ในเจนีวา ระบุว่าการซื้อทองคำของธนาคารกลางยังคงผลักดันราคาทองคำให้พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ แต่ความสนใจที่พุ่งสูงขึ้นจากนักลงทุนและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นในอนาคตแสดงให้เห็นว่าการปรับตัวขึ้นนี้ยังไม่มากจนเกินไป
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่ามีปัจจัยขับเคลื่อนหลายประการที่อยู่เบื้องหลังการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้ง
ประการแรก เงินไหลเข้าสู่ตลาดทองคำพุ่งสูงขึ้น และมีการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในสถานะ Long futures บ่งชี้ว่านักลงทุนสถาบันเพิ่มการลงทุน
ประการที่สอง ธนาคารกลางยังคงซื้อทองคำจริงอย่างต่อเนื่อง และข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นการซื้อขายที่หนักหน่วงตั้งแต่ต้นปี ประมาณ 40 ตันต่อเดือน
UBP เชื่อว่าการซื้อทองคำของธนาคารกลางเหล่านี้มีผลกระทบอย่างมากต่อตลาด โดยตั้งข้อสังเกตว่า World Gold Council เชื่อว่า 15% ของราคาทองคำมาจากการซื้อของธนาคารกลางอย่างต่อเนื่อง โดยแนวโน้มนี้น่าจะดำเนินต่อไปในช่วงหลายเดือนและหลายปีข้างหน้า เนื่องจากธนาคารกลางมุ่งเพิ่มทุนสำรองทองคำ
ปัจจัยที่สามคือผลกระทบจากนักลงทุนรายย่อยที่เพิ่มการถือครอง ETF ทองคำ พวกเขาชี้ให้เห็นว่าแม้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังจากที่ทองคำปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว แต่ก็ยังเป็นสัญญาณที่ดีต่อราคาทองคำในอนาคต โดยการขยายฐานนักลงทุนนี้ย้ำว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไป พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่านักลงทุนรายย่อยยังคงลงทุนต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต
โดยสรุปแล้ว UBP ยังคงมีมุมมองที่ดีต่อทองคำและเห็นว่าการร่วงที่ต่ำกว่าระดับประมาณ 2,100 ดอลลาร์ เป็นโอกาสในการซื้อที่น่าสนใจยิ่งในความเห็นของพวกเขา โดยในระยะยาว การเคลื่อนไหวไปสู่ระดับ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก็เป็นไปได้
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมืองจริงฟรี $50, 000 ดอลลาร์!💰
แนวโน้มทางด้านเทคนิคของราคาทองคำ
ราคาทองคำในกราฟระดับ 4 ชั่วโมงล่าสุดอยู่ยังเหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทั้ง 3 เส้น ซึ่งยังแสดงว่าแนวโน้มหลักยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม จากเครื่องมือ Stoch RSI ที่อยู่ในภาวะ Overbought ต่อเนื่องมาพักใหญ่เริ่มมีกาปรับตัวลง ทำให้มีความเสี่ยงที่ราคาจะเกิดการพักตัวหรือย่อลงมาบ้าง โดยมีแนวรับสำคัญแรกอยู่ที่ $2,240 ตรงเส้น EMA12 ถ้าหากยืนได้จะช่วยหนุนให้ราคาดีดขึ้นต่อ
แนวรับถัดไปหากหลุด $2,240 ลงมาจะอยู่ที่ $2,222 ซึ่งใกล้เคียงกับเส้น EMA26 จนถึง $2,200 หากยืนได้จะเป็นสัญญาณบวกว่าแนวโน้มขาขึ้นยังไม่สิ้นสุด แต่ถ้าหลุดลงมาต่ำกว่านั้นอาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าแรงขายทำกำไรอาจเพิ่มมากขึ้น
แนวโน้มในเร็วๆ นี้คาดว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบ $2,268 - 2,224 โดยเน้นจับตาที่แนวรับ $2,240 และ $2,200 เป็นสำคัญ หากราคาไม่หลุดแนวรับ $2,240 ลงมา ก็มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $2,268 และถัดไปที่ $2,280 ขณะที่การย่อตัวลงมาทดสอบบริเวณ $2,224 - $2,200 หากราคาสามารถยืนได้จะเป็นจังหวะเข้าซื้อที่น่าสนใจ แต่หากราคาไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ ก็มีโอกาสที่จะตามมาด้วยแรงขายเพิ่มเติม
กราฟทองคำระดับ 4 ชั่วโมง
แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,240 - 2,224
แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,268 - $2,280
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน