วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 2 ส.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2567 ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังขึ้นไปทดสอบระดับแนวต้านบริเวณ $2,460 ท่ามกลางการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ โดยส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวนี้เป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิตและความอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐฯ
ภาคการผลิตสหรัฐฯ ส่งสัญญาณถดถอย กระตุ้นการเก็งกำไรในตลาดทองคำ
ในวันที่ผ่านมา สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) รายงานว่าดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 46.8% ในเดือนกรกฎาคม จาก 48.5% ในเดือนมิถุนายน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 48.8% สะท้อนให้เห็นถึงการหดตัวของภาคการผลิตที่ลึกขึ้น
Timothy Fiore ประธานคณะกรรมการสำรวจธุรกิจด้านการผลิตของ ISM กล่าวว่า กิจกรรมการผลิตของสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะหดตัวที่ลึกขึ้น อุปสงค์ยังคงอ่อนแอ ผลผลิตลดลง และปัจจัยการผลิตยังคงอยู่ในระดับที่รองรับได้โดยทั่วไป
องค์ประกอบอื่นๆ ของรายงานก็แสดงถึงการชะลอตัว โดยดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ลดลงเหลือ 47.4% และดัชนีการจ้างงานลดลงเหลือ 43.4% อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 52.9% บ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่
ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ สะท้อนความอ่อนแอของตลาดแรงงาน
ทางฝั่งสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) รายงานในวันเดียวกันว่าจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ ข้อมูลนี้สนับสนุนแนวคิดในการลดอัตราดอกเบี้ย แต่เจ้าหน้าที่ของเฟดยังต้องการเห็นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการชะลอเงินเฟ้อ
ขณะที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงอยู่ในระดับสูง หลังจากการโจมตีของกลุ่มเฮซบอลลาห์ต่ออิสราเอลและการตอบโต้ของอิสราเอล ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาสและเฮซบอลลาห์เสียชีวิต สถานการณ์นี้ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้นปัจจุบัน
วันนี้ จะมีรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ประจำเดือนกรกฎาคมที่จะเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้เห็นภาพรวมของเศรษฐกิจ เนื่องจากเฟดเริ่มให้ความสำคัญกับการจ้างงานมากขึ้นโดยตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 80 bps ภายในสิ้นปี 2024
นักลงทุนเผชิญความท้าทายในการคาดการณ์นโยบายการเงินของเฟด
ในขณะที่การลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เริ่มเป็นที่จับตามากขึ้น นักลงทุนกำลังเผชิญกับความท้าทายในการคาดการณ์ว่าเฟดจะสามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินในอัตราที่สอดคล้องกับการบรรลุเป้าหมาย Soft landing ทางเศรษฐกิจได้หรือไม่
ประธานเฟด Jerome Powell กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “มีความมั่นใจมากขึ้น” ว่าธนาคารกลางอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนหากเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม นักสังเกตการณ์ตลาดบางรายเริ่มตั้งคำถามว่าเฟดอาจจะปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงนานเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อโอกาสในการบรรลุเป้าหมาย Soft landing ทางเศรษฐกิจ
ในทางกลับกัน นักลงทุนอีกกลุ่มกังวลว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินในขณะที่เศรษฐกิจยังค่อนข้างแข็งแกร่งอาจจุดชนวนให้เกิดเงินเฟ้อขึ้นใหม่ ซึ่งจะจำกัดขอบเขตการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในที่สุด
George Catrambone หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้และการซื้อขายของ DWS กล่าวว่า มีเหตุผลที่จะคิดว่าก Soft landing ยังคงเป็นไปได้ แต่ความเสี่ยงมีสองด้าน
สัญญาฟิวเจอร์สที่เชื่อมโยงกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในช่วงปลายวันพุธแสดงให้เห็นว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 87% สำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในเดือนกันยายน
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ รวมถึงตัวเลขการจ้างงาน ยังคงแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่น แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่าสองทศวรรษเป็นเวลาหลายเดือน อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานเริ่มเพิ่มขึ้น และผู้กำหนดนโยบายเริ่มให้ความสำคัญกับการหลีกเลี่ยงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการว่างงานซึ่งมักเกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ยสูงและการชะลอตัวของเงินเฟ้อ
นอกจากตลาดจะได้รับข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเศรษฐกิจในวันนี้เกี่ยวกับการรายงานข้อมูลการจ้างงานแล้ว การประชุมสัมมนา Jackson Hole ของเฟดจะเป็นโอกาสให้ผู้กำหนดนโยบายได้แสดงความเห็นอีกครั้ง
หากเริ่มเห็นรอยร้าวในเศรษฐกิจ ตลาดอาจกังวลว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจใช้เวลานานเกินไปในการกระตุ้นการเติบโต ซึ่งเพิ่มโอกาสที่จะเกิดภาวะถดถอย
Jack McIntyre ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกที่ Brandywine Global Investment Management กล่าวว่า ตอนนี้มีผลกระทบล่าช้า เพราะเมื่อเฟดเริ่มวงจรการผ่อนคลาย บางสิ่งที่เป็นลบอาจถูกฝังลึกอยู่ในเศรษฐกิจแล้ว แม้ว่าเฟดจะเริ่มลดอัตราในเดือนกันยายน แต่อาจไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงทิศทางของเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า
ในทางกลับกัน บางคนเชื่อว่าความเสียหายต่อเศรษฐกิจอาจเกิดขึ้นแล้ว Bill Dudley อดีตประธานธนาคารกลางนิวยอร์กเรียกร้องให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยทันทีในบทความแสดงความคิดเห็นของ Bloomberg เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างถึงกฎของ Sahm ซึ่งระบุว่าความเร็วในการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานที่บ่งชี้ถึงภาวะถดถอยกำลังใกล้จะถูกกระตุ้น
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น นักวิเคราะห์บางคนกลับกังวลว่าการเปลี่ยนไปสู่อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอาจจุดชนวนให้เกิดการฟื้นตัวของเงินเฟ้อ คล้ายกับการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าผู้บริโภคที่สร้างความตกใจให้กับตลาดในช่วงต้นปีนี้ สิ่งนี้อาจทำให้เฟดมีความยากลำบากในการลดอัตราดอกเบี้ยลงถึงเกือบ 75 bps ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้สำหรับปีนี้
Hans Mikkelsen กรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์เครดิตที่ TD Securities กล่าวว่า “Powell เน้นย้ำว่าข้อมูลเงินเฟ้อปีที่แล้วก็ดูดีเช่นกัน แต่หลังจากนั้นเงินเฟ้อก็กลับมา”
แนวโน้มราคาทองคำในระยะยาวยังคงเป็นบวก
แม้ว่าราคาทองคำจะมีความผันผวนในระยะสั้น แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมองว่าแนวโน้มในระยะยาวยังเป็นบวก โดยบริษัทวิเคราะห์การลงทุน WisdomTree คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นไปถึงระดับ $2,585 ภายในไตรมาสที่สองของปี 2025
นักวิเคราะห์ระบุว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่เป็นที่ต้องการอย่างสูงในช่วงเวลาที่มีความเครียดทางเศรษฐกิจ การเงิน และภูมิรัฐศาสตร์ และปัจจัยเหล่านี้อาจผลักดันความรู้สึกที่มีต่อโลหะมีค่าให้สูงขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างดื้อรั้นในขณะที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นไปถึง $2,970 ต่อออนซ์ ในทางตรงกันข้าม หากเฟดยังคงลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ WisdomTree คาดว่าราคาทองคำอาจลดลงมาที่ $1,950 ภายใน 12 เดือนข้างหน้า ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับสู่ระดับปัจจุบัน
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง
ราคาทองคำยังคงรักษาแนวโน้มขึ้นเอาไว้ได้แม้จะเผชิญกับแรงต้านระยะสั้นในช่วงที่ผ่านมา โดยราคาในภาพรวมยังคงอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทั้งสามเส้น โดยเฉพาะเส้นระยะสั้นอย่าง EMA 12 (สีแดง) ซึ่งสะท้อนถึงแรงซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ในระยะสั้น ราคาทองคำยังมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $2,452 หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง อาจเป็นสัญญาณบวกที่จะผลักดันให้ราคาไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $2,462 และ $2,483 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถผ่านแนวต้านแรกได้ ราคาอาจปรับฐานลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,437 อีกครั้ง ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 23.6% และแนวรับถัดไปที่ $2,423 ที่ใกล้เคียงกับ EMA 26 (สีฟ้า)
ทางด้านดัชนี RSI พักตัวจากระดับ Overbought ลงมาอยู่ที่เหนือระดับ 60 อย่างไรก็ตาม ถือเป็นการระบายแรงซื้อออกไปบ้าง ทำให้ยังคงมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นอีกครั้ง แต่อาจจะต้องเริ่มระวังสัญญาณของ Drivegence ที่อาจจะตามมาได้
ในภาพรวม 24 ชั่วโมงข้างหน้ายังคงคล้ายกับวันก่อนหน้า โดยคาดว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้น โดยมีโอกาสที่จะทดสอบแนวต้านที่ $2,452 และ $2,462 หากผ่านได้ อาจเห็นการปรับตัวขึ้นไปสู่ $2,483 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะหากราคาไม่สามารถยืนเหนือ $2,452 ได้อย่างมั่นคง
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,437
$2,423
$2,409
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,452
$2,463
$2,483
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน