วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 20 มิ.ย. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ราคาทองคำทรงตัวแค่ในกรอบแคบๆ ในวันที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดทางฝั่งสหรัฐอเมริกาปิดทำการ โดยจะกลับมาเปิดซื้อขายอีกครั้งในวันนี้ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ยังคงอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณบวกสำหรับนักลงทุนที่ยังคงมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินถึงสองครั้งในปีนี้

ยอดค้าปลีกสหรัฐ (US Retail Sales) ในเดือนพฤษภาคมปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน แต่ก็ยังคงปรับลดลง ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ข้อมูลนี้ ประกอบกับรายงานเงินเฟ้อผู้บริโภคที่สูงในสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนสูงขึ้น

ข้อมูลอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ปรับตัวดีขึ้นในเดือนพฤษภาคม ตามด้วยการปรับลดลงในเดือนเมษายน

เครื่องมือ CME FedWatch Tool แสดงให้เห็นว่า โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 basis points (bps) สำหรับเดือนกันยายน อยู่ที่ 67% เพิ่มขึ้นจาก 61% ในวันก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้ากองทุน Fed เดือนธันวาคม 2024 บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดลง 36 bps ในช่วงปลายปี

ในขณะเดียวกัน บรรดาผู้กำหนดนโยบายของเฟดได้ให้ความเห็นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอยู่ และพวกเขาต้องการหลักฐานเพิ่มเติมว่าเงินเฟ้อกำลังพัฒนาไปสู่เป้าหมายเงินเฟ้อหลัก 2%

ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นเหตุผลที่ดีให้ควรถือครองทองคำ

ธนาคารระหว่างประเทศแห่งหนึ่งเปิดเผยว่า ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ กระจายการถือครองสินทรัพย์ออกจากดอลลาร์สหรัฐ เป็นเหตุผลที่ดีสำหรับนักลงทุนในการรักษาสถานะหลักในทองคำ

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ธนาคาร Société Générale ของฝรั่งเศสได้เผยแพร่กลยุทธ์พอร์ตการลงทุนหลายสินทรัพย์ประจำไตรมาสที่ 3 ซึ่งประกาศว่าจะรักษาการถือครองทองคำไว้ที่ 5% แม้ว่าจะลดการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวม

นอกจากนี้ SogGen ยังระบุว่า ไม่ได้มองหาการเปลี่ยนแปลงการถือครองทองคำก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน

แนวโน้มขาขึ้นของทองคำยังไม่น่าจะปรับตัวลงในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าราคาจะอยู่ในช่วงพักฐานต่ำกว่า 2,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทางด้าน Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร Saxo Bank ได้เผยแพร่รายงานว่า นักลงทุนและนักเทรดกำลังพักหายใจหลังจากที่ตลาดปรับตัวขึ้นเกือบ 250 ดอลลาร์ จากจุดต่ำสุดในเดือนกุมภาพันธ์ไปสู่จุดสูงสุดเหนือ 2,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนที่แล้ว

Hansen กล่าวว่า แม้ทองคำจะสูญเสียแรงผลักดันไปบ้าง แต่ก็แทบไม่มีความรู้สึกขาลงในตลาด เนื่องจากนักลงทุนและผู้จัดการกองทุนไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องทำกำไรออกไป

ปัญหาหนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องระวัง

ปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในขณะนี้มาจากบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและการป้องกันความเสี่ยงในตลาด ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ในขณะเดียวกัน Hansen ยังระบุว่า หนี้สาธารณะ (sovereign debt) ที่เพิ่มขึ้นก็บังคับให้ธนาคารกลางต้องกระจายการถือครองเงินสำรองต่างประเทศออกจากดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนช่วงเวลาที่ยืดเยื้อของทองคำในการพักฐานนั้น Hansen บอกว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ โดยเขามองว่า ถึงแม้นักลงทุนรายย่อยในเอเชียและธนาคารกลางจะยังคงสนับสนุนตลาดอยู่ แต่ตลาดก็ยังคงขาดองค์ประกอบสำคัญ นั่นคือความต้องการของนักลงทุน ซึ่งความต้องการลงทุนในกองทุน ETF ทองคำจะยังคงซบเซาจนกว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง และต้นทุนในการถือครองจะลดลงด้วย

ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงสะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง

การซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกยังคงครองตลาดและส่งผลให้ตลาดทองคำเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเทรนด์นี้ยิ่งทวีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานล่าสุดจาก World Gold Council (WGC)

WGC ได้เผยแพร่ผลสำรวจ Central Bank Gold Reserves ประจำปี จากธนาคารผู้ตอบแบบสอบถาม 70 ราย พบว่า 29% คาดว่าจะเพิ่มทุนสำรองทองคำในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่ง WGC ระบุว่านี่เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่เริ่มทำแบบสำรวจรายปีในปี 2018

นักวิเคราะห์ระบุในรายงานว่า แผนการซื้อทองคำมีแรงจูงใจหลักมาจากความต้องการปรับสมดุลให้อยู่ในระดับกลยุทธ์ที่พึงประสงค์มากขึ้น การผลิตทองคำภายในประเทศ และความกังวลด้านตลาดการเงิน รวมถึงความเสี่ยงวิกฤตที่สูงขึ้นและเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น

ผลการสำรวจมีขึ้นเกือบสองสัปดาห์หลังจากที่ข้อมูลจากธนาคารกลางจีน (PBOC) แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เพิ่มทุนสำรองทองคำในเดือนพฤษภาคม ซึ่งยุติการซื้อต่อเนื่องเป็นเวลา 18 เดือน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้จีนจะชะลอการซื้อลง แต่ก็ยังมีความสนใจในทองคำอย่างแข็งแกร่งในฐานะสินทรัพย์กระจายความเสี่ยงสำหรับทุนสำรอง

มุมมองต่อบทบาทของทองคำและดอลลาร์สหรัฐในอนาคต

เมื่อมองไปยังบทบาทของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองหลักของโลก ธนาคารผู้ตอบแบบสอบถาม 62% คิดว่าสัดส่วนของดอลลาร์จะลดลงในอีก 5 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นจาก 55% ในปี 2023 และ 42% ในปี 2022

ในขณะเดียวกัน เมื่อพูดถึงทองคำ ธนาคารผู้ตอบแบบสอบถาม 69% คิดว่าโลหะมีค่าจะมีสัดส่วนที่ใหญ่ขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นจาก 62% ในปี 2023 และ 46% ในปี 2022

WGC ระบุว่าความรู้สึกของธนาคารกลางในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และกำลังพัฒนา (EMDE) แตกต่างจากธนาคารกลางในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างมีนัยสำคัญ โดยทั่วไปธนาคารกลางใน EMDE มองว่าบทบาทของทองคำในฐานะโลหะทางการเงินจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ความสำคัญของดอลลาร์สหรัฐลดลง

ทั้งนี้ แม้ธนาคารกลางในประเทศที่พัฒนาแล้วยังคงจงรักภักดีต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ยอมรับว่าบทบาทของทองคำในภูมิทัศน์ของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป

เหตุผลที่ธนาคารกลางถือครองทองคำ

ตามผลสำรวจ ธนาคารกลางให้เหตุผลที่ถือครองทองคำไว้เพราะมองว่าเป็นการเก็บมูลค่าในระยะยาวและการป้องกันเงินเฟ้อ รวมถึงประสิทธิภาพในช่วงเวลาวิกฤต ตัวกระจายความเสี่ยงพอร์ตที่มีประสิทธิภาพ และไม่มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผลลัพธ์เหล่านี้สะท้อนถึงแนวโน้มพื้นฐานของธนาคารกลางใน EMDE และธนาคารกลางในประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่เห็นคุณค่าเชิงกลยุทธ์ของทองคำท่ามกลางช่วงเวลาที่ภูมิรัฐศาสตร์ไม่แน่นอนและความกังวลด้านเสถียรภาพทางการเงินที่ฟื้นคืนมาใหม่ ซึ่งตอกย้ำสถานการณ์ที่ท้าทายทางเศรษฐกิจและกลยุทธ์ที่ทั้งสองกลุ่มเผชิญ

วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ราคาปัจจุบันอยู่ที่ $2,338 ซึ่งขณะที่เขียนบทความนี้ ราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญอย่างเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 ที่ $2,330 ขึ้นไปได้ ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อแนวโน้มราคา

อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาดูว่าราคาจะสามารถรักษาระดับเหนือ EMA 200 ได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ หากยืนได้แข็งแกร่ง จะมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $2,350 และ $2,375 ตามลำดับ แต่หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ EMA 200 ได้ อาจมีแรงขายกดดันให้ราคาอ่อนตัวลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,325 และ $2,320 อีกครั้ง

เมื่อวิเคราะห์ประกอบกับเครื่องมือ RSI เริ่มปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 60 ซึ่งยังห่างจากโซน Overbought จึงทำให้มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นได้ซักระยะ อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่ RSI จะย่อตัวอีกเล็กน้อย ซึ่งต้องระวังแรงขายทำกำไรในระยะสั้น

สรุปภาพรวม แนวโน้มราคาทองคำมีสัญญาณบวกจากการทะลุ EMA 200 ขึ้นไป แต่ยังต้องติดตามว่าราคาจะยืนเหนือแนวต้านนี้ได้หรือไม่ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ $2,350 และ $2,375 ส่วนแนวรับอยู่ที่ $2,330 และ $2,320 ซึ่งเป็นระดับสำคัญที่ต้องจับตาในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า เพื่อประเมินทิศทางของราคาต่อไป

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,330  / $2,320

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,350 / $2,375