วิเคราะห์ราคาทองคํา (Gold Price) วันนี้ | วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - ประจำวันที่ 17/4/2023

ราคาทองคําวันนี้ (ที่มา: Mitrade)

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,003 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $2,016.75

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเกือบ 2% เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังจากพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งปีในช่วงที่สัปดาห์ก่อน เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี และอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังก็เพิ่มขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เตือนว่าธนาคารกลางจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ 

เมื่อวันศุกร์ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดกำลังเพิ่มแรงกดดันต่อการขายทองคำ และทำให้ยืนยันความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานในเดือนหน้า

ตัวเลชดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเพิ่มขึ้นเป็น 63.5 ลดลงจาก 62.0 ในเดือนมีนาคม ข้อมูลดังกล่าวเหนือความคาดหมาย เนื่องจากการคาดการณ์ที่เป็นเอกฉันท์คาดว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะไม่เปลี่ยนแปลง

“ความเชื่อมั่นตอนนี้ต่ำกว่าปีที่แล้วประมาณ 3% แต่สูงกว่าระดับต่ำสุดตลอดกาลจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว 27%” รายงานระบุ

ตลาดทองคำได้รับแรงขายในช่วงสุดสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือนเมื่อวันพฤหัสบดี ข้อมูลที่ดีเกินคาดกำลังเพิ่มการปรับฐานของทองคำ

จากข้อมูลของนักวิเคราะห์ ทองคำได้รับแรงกดดันจากการขาย เนื่องจากการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสนับสนุนการเรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนหน้า จากการสำรวจ ผู้บริโภคเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 4.6% ภายในปีนี้ ในปีหน้า เพิ่มขึ้นจาก 3.6% ที่รายงานในเดือนมีนาคม

“ในขณะที่ผู้บริโภคสังเกตเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลงในกลุ่มสินค้าคงทนและรถยนต์ พวกเขายังคงคาดว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงจะยังคงอยู่ อย่างน้อยก็ในระยะสั้น” รายงานระบุ “การคาดการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลาสี่เดือน โดยสลับกันระหว่างการเพิ่มขึ้นและลดลง ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะสั้นยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ว่าความผันผวนล่าสุดของอัตราเงินเฟ้อในปีที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้ามีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป”

ระยะยาว ผู้บริโภคมองว่าอัตราเงินเฟ้อค่อนข้างทรงตัวที่ 2.9% ไม่เปลี่ยนแปลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ 5 ปีได้เคลื่อนไหวในช่วงระหว่าง 2.9% ถึง 3.1% สำหรับ 20 ของ 21 เดือนที่ผ่านมา รายงานกล่าว

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่าการลดลงของราคาเป็นการปรับฐานที่ดี และสิ่งนี้อาจนำไปสู่การฟื้นตัวอย่างยั่งยืนในระยะยาวไปสู่จุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล การสำรวจทองคำล่าสุดของ Kitco News แสดงให้เห็นว่านักลงทุนรายย่อยยังคงมองถึงความแข็งแกร่งของทองคำในระยะเวลาอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของ Wall Street มีท่าทีที่ระมัดระวังมากขึ้น

Colin Cieszynski หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของ SIA Wealth Management กล่าวว่า “ราคาทองคำวิ่งได้ดีในช่วงที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าโมเมนตัมขาขึ้นจะชะลอตัวลงเล็กน้อย และดูเหมือนว่าจะเกิดจากทางเทคนิคโดยอาจมีแนวรับที่เกือบ 2,000 ดอลลาร์หรือ 1,960 ดอลลาร์”

Phillip Streible หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Blue Line Futures กล่าวว่า ไม่น่าแปลกใจที่ทองคำและโลหะเงินจะมีแรงเทขายในวันศุกร์เนื่องจากข่าวด้านบวกจำนวนมากที่ผลักดันให้ราคาขึ้นตลอดทั้งเดือนนี้เริ่มจางหายไป เขาตั้งข้อสังเกตว่าตลาดเริ่มพอใจกับแนวคิดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม ในขณะเดียวกัน ความกลัวการล่มสลายของระบบธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้เริ่มผ่อนคลายลง ทำให้อุปสงค์ทองคำที่ปลอดภัยลดลง

แม้ว่าราคาจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันในระยะใกล้ แต่ Streible กล่าวว่าตลาดยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

“หากเราปิดต่ำกว่า 1,953 ดอลลาร์ ใช่ นั่นจะส่งสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นสิ้นสุดลงแล้ว และทองคำได้เคลื่อนเข้าสู่ Sideway” เขากล่าว

Jim Wyckoff นักวิเคราะห์ทางเทคนิคอาวุโสของ Kitco กล่าวว่า เขายังคงมองเป็นขาขึ้นในทองคำ เนื่องจากเขามองว่าการเทขายทองคำเป็นการย่อตัว

“การลดลงต่ำกว่าระดับต่ำสุดในเดือนเมษายนที่ 1,965.90 ดอลลาร์จะลบล้างแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นเพื่อเริ่มบ่งชี้ว่าตลาดกำลังอยู่ในจุดสูงสุด” เขากล่าว

นักวิเคราะห์จาก Wall Street 23 คนเข้าร่วมการสำรวจทองคำของ Kitco News 

ในบรรดาผู้เข้าร่วม นักวิเคราะห์ 9 คน หรือ 39% มองว่าทองคำยังคงเป็นขาขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ 

ในเวลาเดียวกัน นักวิเคราะห์ 6 คนหรือ 26% มองถึงท่าทีเป็นขาลงในสัปดาห์นี้ 

และนักวิเคราะห์ 8 คนหรือ 35% เห็นว่าราคาจะซื้อขายในทิศทาง Sideway

ในขณะเดียวกัน 1,347 คะแนนโหวตในแบบสำรวจออนไลน์ 

ในจำนวนนี้ ผู้ตอบแบบสอบถาม 930 คน หรือ 68% มองว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ 

อีก 278 คนหรือ 20% ระบุว่าราคาน่าจะปรับตัวต่ำลง

ขณะที่เหลืออีก 156 คนหรือ 11% ระบุว่าราคาน่าจะจะซื้อขายในทิศทาง Sideway

แม้จะมีการขายออกในวันศุกร์ แต่นักลงทุนรายย่อยคาดว่าทองคำจะกลับมาสดใสอีกครั้งโดยมีเป้าหมายเฉลี่ยในสัปดาห์นี้ที่ 2,047 ดอลลาร์ต่อออนซ์

เมื่อพิจารณาถึงการเคลื่อนไหวของราคาในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่าตลาดและนักลงทุนจำเป็นต้องให้ความสนใจกับดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันศุกร์ ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐสร้างจุดต่ำสุด โดยร่วงลงมาที่ 100.79 แตะระดับต่ำสุดใหม่ระหว่างวันในปี 2023

Darin Newsom นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Barchart.com กล่าวว่า เขาคงบ้าไปแล้วที่จะไม่มองทองคำในแง่ดี อย่างไรก็ตาม เขากล่าวเสริมว่าโลหะมีค่านั้นดูไม่ค่อยดีนัก และมีการเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม Newsom เสริมว่า การมองผ่านการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น แนวโน้มระยะยาวของทองคำและดอลลาร์ยังคงอยู่

“สิ่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแนวโน้มระยะยาวของทองคำที่จะขึ้น หรือดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่จะลง” เขากล่าว

Marc Chandler กรรมการผู้จัดการของ Bannockburn Global Forex กล่าวว่าเขายังมองว่าเงินดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรกำลังเกิดการขายมากเกินไป

“หากดอลลาห์ปรับตัวสูงขึ้น ทองคำจะสูญเสียราคา ขณะที่ราคา $2,000 อาจช่วยสนับสนุนทางจิตวิทยาได้บ้าง แต่เราคาดว่าราคาช่วง $1990 นั้นสำคัญกว่า” เขากล่าว

ในระดับมหภาค ตลาดทองคำกำลังตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจในเชิงบวกและธนาคารกลางสหรัฐบางแห่งก็ออกมาแสดงความเห็น

“ไม่ใช่แค่ข้อมูลในวันศุกร์เท่านั้น ยังมีธนาคารเริ่มรายงานรายได้ เช่น JPMorgan ซึ่งรายงานด้วยรายรับเป็นประวัติการณ์ ตัวเลขของ Wells Fargo ค่อนข้างดี เงินฝากก็โอเค ดูเหมือนว่าหนึ่งในความเสี่ยงที่สำคัญอาจไม่ได้รับการเปิดเผย ตอนนี้” Edward Moya นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าว “คุณกำลังดูเศรษฐกิจนี้ที่ยังคงฟื้นตัวได้เล็กน้อย จากนั้นคุณก็ได้รับคำพูดที่กร้าวร้าวของ Fed  นั่นเป็นสาเหตุที่ทองคำถูกเทขาย”

แนวคิดที่ว่า Fed สามารถดึงการลงจอดที่นุ่มนวลได้สนับสนุนการขายทำกำไร หลังจากที่ทองคำแตะ 2,063 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งห่างจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เพียงไม่กี่อึดใจ

Moya กล่าวว่า “มุมมองดังกล่าวเป็นแง่ดีเกินไปเล็กน้อย แต่เป็นสิ่งที่ตลาดยอมรับในตอนนี้ เราได้เปลี่ยนจากการโฟกัสว่า Fed จะลดจำนวนเท่าใดในสิ้นปีนี้ มาเป็นการพิจารณาขึ้นราคาในเดือนมิถุนายน”

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นแบบ Hawkish สามารถลดลงอย่างรวดเร็วด้วยข้อมูลมาโครที่มากขึ้น “นโยบายการเงินดำเนินไปอย่างล้าหลัง และด้วยขอบเขตจำกัดที่เราเห็น สิ่งต่างๆ อาจเริ่มแตกหักในไม่ช้า” Moya กล่าวเสริม

นอกจากนี้ ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตล่าสุดแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้ออาจถึงจุดสูงสุด ทำให้ Fed มีเวลาพักหลังจากการปรับขึ้น 25 จุดพื้นฐานในเดือนพฤษภาคม Everett Millman ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะมีค่าของ Gainesville Coins กล่าว

“หากอัตราเงินเฟ้อลดลงและยังมีปัญหาด้านการธนาคารอยู่ Fed ก็ไม่มีเหตุผลที่ดีมากนักที่จะเดินหน้าต่อไปและปรับขึ้นหลังเดือนพฤษภาคม” Millman กล่าว “ในระหว่างการประชุมวันที่ 2-3 พฤษภาคม ทองคำจะตอบสนองก็ต่อเมื่อมีการลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินหรือการปรับขึ้น 50 bps ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง”

Raphael Bostic ประธาน Fed สาขาแอตแลนตา กล่าวกับสำนักข่าว Reuters เมื่อวันพฤหัสบดีว่า Fed ต้องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียว ข้อมูลล่าสุด “สอดคล้องกับที่เราจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง” Bostic กล่าว “เรามีโมเมนตัมมากมายที่บ่งชี้ว่าเรากำลังอยู่บนเส้นทางสู่ 2%”

ในทางตรงกันข้าม Christopher Waller ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า อัตราเงินเฟ้อมีความคืบหน้าเล็กน้อยและอัตราจะต้องขยับอัตราให้สูงขึ้น เงินเฟ้อได้ “เคลื่อนตัวไปด้านข้างโดยทั่วไปโดยไม่มีการเคลื่อนไหวขาลง” Waller กล่าว “นโยบายการเงินจำเป็นต้องเข้มงวดมากขึ้นไปอีก แต่จะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เข้ามาเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริง และขอบเขตของการเข้มงวดของเงื่อนไขสินเชื่อ”

ในทางเทคนิคมีบทบาทสำคัญในการเทขายทองคำในวันศุกร์ โดยมีแรงขายทำกำไรล้นตลาด

Michael Boutros นักยุทธศาสตร์ทางเทคนิคอาวุโสของ Forex.com กล่าวว่า “นี่เป็นการเทขายทางเทคนิคมากกว่าสิ่งใด สถานะ Long ที่ถูกกักไว้กำลังจะหลุดออกไป แต่การดึงกลับของราคาควรจะมีจำกัด สงครามยังคงดำเนินต่อไป และมีการลดค่าของเงินดอลลาร์เป็นมาตรฐานระดับโลก ซึ่งจะช่วยให้ทองคำปรับตัวขึ้นได้ในระยะยาว”

Boutros กำลังมองหาแนวรับที่ระดับ $1,966 “หากเรายึดแนวรับไว้ได้ ก็จะเป็นเพียงความพ่ายแพ้เล็กน้อยสำหรับทองคำ” เขากล่าว

สำหรับ Millman ระดับแนวรับที่สำคัญของทองคำอยู่ที่ประมาณ $2,015 และ $2,000 และแนวต้านอยู่ที่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ $2,070 “ไม่มีแนวรับที่ชัดเจนหากเราลงไปต่ำกว่า $2,000 ทองสามารถไปที่ $1,900 ได้” เขากล่าว

แต่ถึงแม้จะมีมุมมองเชิงบวกที่แข็งแกร่ง แต่โลหะมีค่าก็ไม่พร้อมที่จะทำลายสถิติใหม่ตลอดกาล

เมื่อวันศุกร์ตลาดเริ่มต้นได้ค่อนข้างดี โดยคาดว่าจะมีการเทขายทำกำไรหลังจากพุ่งขึ้นสามวัน ผลักดันให้ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือนเหนือ $2,050 ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม การเทขายทำกำไรดังกล่าวกลายเป็นการย่อตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจได้ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐยังคงเดินหน้าที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดพื้นฐานในเดือนหน้า

เมื่อถึงจุดหนึ่ง ราคาทองคำลดลงมากกว่า 2% ในวันศุกร์ ทำให้ราคาที่ปรับตัวขึ้นมาหายไป ในขณะที่การเคลื่อนไหวของราคาค่อนข้างน่ารุนแรง แต่ก็ยังมีเหตุผลที่จะยังคงมองโลกในแง่ดี แม้จะมีแรงเทขายที่แข็งแกร่ง แต่ทองคำก็สามารถประคองแนวรับเหนือ $2,000 ต่อออนซ์ได้ในช่วงสุดสัปดาห์

เมื่อมองผ่านความผันผวนในวันศุกร์ ทองคำยังคงอยู่ในเส้นทางที่จะแตะระดับสูงสุดตลอดกาลเหนือ $2,075 ต่อออนซ์ในช่วงปีนี้ แต่อาจจะไม่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้

ข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดยังชี้ให้เห็นถึงนักลงทุนที่มีสถานะที่เหมาะสมยิ่งขึ้นในทองคำ สัปดาห์ที่ผ่านมาทุกคนให้ความสนใจกับตัวเลขเงินเฟ้อ และในขณะที่ราคาผู้บริโภคมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีแนวโน้มบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ

เมื่อวันอังคารที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อประจำปีเพิ่มขึ้น 5% ในเดือนมีนาคม ลดลงอย่างมากจากที่เพิ่มขึ้น 6% ในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ราคาผู้บริโภคหลักซึ่งไม่รวมค่าพลังงานและค่าอาหารยังคงเดิมที่ 5.6% ขณะนี้ Federal Reserve ต้องรับมือกับภัยคุกคามที่ว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นกำลังฝังตัวอยู่ในระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง

แนวโน้มเดียวกันนี้พบได้ในดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ PPI ของสหรัฐฯ ราคาขายส่งทั่วไปเพิ่มขึ้น 2.7% ในปีนี้ ลดลงอย่างมากจาก 4.6% ในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวที่ 3.4%

ความท้าทายสำหรับทองคำคืออัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นภัยคุกคามที่ธนาคารกลางสหรัฐจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม

“เหตุใดอุปสงค์ที่เป็นขาขึ้นของทองคำจึงสนับสนุนราคาเพียงอย่างเดียว เป็นเพราะพวกเขายังคงถูกชดเชยด้วยการปรับขึ้นอัตราเงินเฟ้อที่นำโดย Fed” Tom Price นักวิเคราะห์จาก Liberum กล่าว

ข่าวดีสำหรับทองคำคือธนาคารกลางสหรัฐอาจถูกบีบให้ยุติวงจรการคุมเข้มในปัจจุบันหลังเดือนพฤษภาคม แม้จะมีอัตราเงินเฟ้อที่แข็งกระด้าง แต่ตลาดยังคงมองว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี

วิกฤตการเงินการธนาคารเมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่านโยบายการเงินของสหรัฐฯ กำลังผลักดันตลาดการเงินและเศรษฐกิจไปสู่จุดแตกหัก แม้แต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศยังยกธงเตือนภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยกล่าวว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะ “Hard Landing” หากดอกเบี้ย อัตรายังคงสูงขึ้นไปอีกนาน

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา IMF ระบุว่า GDP ทั่วโลกขยายตัว 2.8% ในปีนี้ ลดลงเล็กน้อยจากประมาณการในเดือนมกราคม

แม้จะมีภัยคุกคามจากเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง แต่ตลาดยังคงมองว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี ความคาดหวังเหล่านี้กำลังสร้างพื้นที่แข็งแกร่งในตลาดทองคำ นักวิเคราะห์สกุลเงินตั้งข้อสังเกตว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดในเดือนหน้าจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ในแนวโน้มขาลงในปัจจุบัน ซึ่งสร้างกระแสลมเพิ่มเติมสำหรับทองคำ

และแม้จะมีการปรับฐานในวันศุกร์ แต่นักวิเคราะห์สังเกตว่าทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งเหนือ $1,960 ถึง $1,950 ต่อออนซ์

James Robertson นักวิเคราะห์จาก Grant's Interest Rate Observer กล่าวว่า ศักยภาพที่ธนาคารกลางสหรัฐจะยุติวงจรการคุมเข้มที่รุนแรงที่สุด กำลังสร้างความผันผวนอย่างมากในตลาดการเงิน และทองคำยังคงเป็นการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่น่าสนใจ

Robertson กล่าวว่าทองคำมีโอกาสขยับสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยในตะวันตกเพิ่งเริ่มกลับเข้าสู่ตลาดทองคำ การเก็งกำไรตำแหน่งทองคำยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2022 แม้ว่าโมเมนตัมขาขึ้นจะเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

และในสัปดาห์นี้ ความสนใจจะอยู่ที่ผลประกอบการของธนาคาร ซึ่งรวมถึง Goldman Sachs และ Bank of America ซึ่งคาดว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลขาขึ้นสำหรับทองคำ แต่เราจะยังเห็นความผันผวนในตลาด”

เครื่องมือ CME FedWatch แสดงให้เห็นว่าขณะนี้ ตลาดกำลังกำหนดราคาโดยมีโอกาส 80.2% ที่ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานในเดือนพฤษภาคม เทียบกับโอกาส 70% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาทดสอบบริเวณแนวเส้น EMA 12 ในกราฟรายวันเมื่อวันศุกร์ และยังคงยืนอยู่บริเวณเส้นดังกล่าวได้ในขณะนี้ ซึ่งทำให้บริเวณ $2,000 ถือเป็นฐานได้ในช่วงสัปดาห์นี้

การปรับตัวลงกว่า 2%  เมื่อวันศุกร์ นอกจากข้อมูลทางด้านพื้นฐานแล้ว ส่วนหนึ่งก็เพราะสัญญาณทางเทคนิคที่น่าจะมีส่วนไม่มากก็น้อย

สัญญาณของ RSI Divergence เริ่มแสดงถึงผลกระทบ แต่อาจจะยังไม่ถึงจุดจบ สิ่งที่ต้องระวังต่อไปคือการที่ราคาจะสามารถกลับขึ้นไปเหนือ $2,050 ได้หรือไม่

เพราะหากราคาไม่สามารถกลับขึ้นไปสูงกว่าบริเวณดังกล่าวได้ เราอาจจะได้เห็นการย่อตัวลงของราคาอีกครั้ง 

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายระยะสั้นในวันนี้ คือการที่ราคาจะพยายามทรงตัวเหนือ $2,000 ให้ได้ แนวรับในวันนี้จึงอยู่ที่บริเวณ $2,005 - $1,998 ที่เป็นบริเวณเส้น EMA12 และแนวรับจิตวิทยา และหากราคาบริเวณดังกล่าวทะลุลงมา แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ $1,977 - $1,970

ขณะที่บริเวณใกล้ๆ นี้ ไม่ได้มีแนวต้านที่ชัดเจน ระดับที่ใกล้ที่สุดคือช่วง $2,030 ซึ่งถ้าหากในวันนี้ ราคาสามารถทรงตัวเหนือ $2,000 ได้ ก็อาจจะมีโอกาสกลับขึ้นไปอีกครั้ง

- แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,005 - $1,998 และ $1,977 - $1,970

- แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,030 และ $2,050

เทรดทองคำกับโบรกเกอร์ชั้นนำของโลก!บัญชีจริง >บัญชี Demo >ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำเลเวอเรจที่ยืดหยุ่น (1x/20x/50x/100x)เปิดบัญชีได้ง่ายและเร็วภายใน 3 นาทีกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่มีอำนาจฟรีเงินเสมือนจริง $50,000