วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 29 เม.ย. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 29 เมษายน 2568 เช้าวันนี้ราคาทองคำโลก (XAU/USD) ในตลาดเอเชียดูเหมือนจะแผ่วๆ ลงนิดนึง ขยับลงมาแถวๆ 3,326 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แล้วทำไมราคาไม่ไปต่อล่ะเนี่ย? หลักๆ เลยก็มี 2 แรงกดดันเบาๆ เข้ามา อย่างแรกคือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ดูจะแข็งค่าขึ้นมาหน่อยๆ พอดอลลาร์แข็ง ทองที่ซื้อขายเป็นดอลลาร์ก็เลยดูแพงขึ้นในสายตาคนนอกอเมริกา ความอยากได้ก็เลยลดลงนิดนึง

อีกปัจจัยคือ เรื่องราวระหว่างพี่ใหญ่ สหรัฐฯ กับ จีน ที่ดูเหมือนจะมีความตึงเครียดลดลง (นิดนึงมั้ง?) มีข่าวแว่วๆ มาว่าจีนยอมยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ บางรายการ ทำเอาหลายคนแอบใจชื้นว่าสงครามการค้าจะจบลงมั้ยนะ 

แต่แป๊บๆ ก็มีข่าวสวนมาว่าจีนปฏิเสธเรื่องเจรจาที่ประธานาธิบดี Donald Trump พูดถึง แถม Scott Bessent รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ก็บอกว่าจีนนั่นแหละต้องเริ่มลดกำแพงภาษีก่อน สรุปคือยังไงก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ดี

แต่ประเด็นคือ พอภาพรวมความขัดแย้งมันดูซอฟต์ลง (แม้จะยังงงๆ) ความต้องการที่จะวิ่งเข้าหาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) มันก็เลยลดลงไปโดยปริยาย คนรู้สึกว่ายังไม่ต้องรีบตุนทองเท่าเดิมก็ได้ อย่างที่ Tim Waterer หัวหน้านักวิเคราะห์จาก KCM Trade ว่าไว้เลย “ความหวังดีลการค้าสหรัฐฯ-จีน ทำให้ความต้องการทองคำในฐานะหลุมหลบภัยลดลง” พอมารวมกับดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ก็เลยกดดันราคาทองคำในช่วงสั้นๆ นี้แหละ

อย่าเพิ่งท้อ! Fed อาจเป็นฮีโร่? จับตาตัวเลขเด็ดวีคนี้!

แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งหมดกำลังใจเทขายทอง แม้จะมีแรงกดดันระยะสั้น แต่ก็ยังมีความหวังที่อาจจะมาช่วยพยุงหรือดันราคาทองคำให้กลับมาคึกคักได้เหมือนกัน ซึ่งนั่นคือ กระแสคาดการณ์ที่แรงขึ้นเรื่อยๆ ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจจะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ในการประชุมเดือนมิถุนายนนี้!

แต่ตอนนี้ Fed เค้าอยู่ในช่วง “Blackout Mode” คือจะเงียบๆ ไม่ให้ข่าวใดๆ ก่อนการประชุมใหญ่ (FOMC) วันที่ 7 พฤษภาคมนี้ เราก็ต้องรอกันไปก่อน แต่ที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือ ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ทั้งตัวเลข GDP ไตรมาส 1 (เบื้องต้น) และข้อมูลการจ้างงานเดือนเมษายน ตัวเลขพวกนี้จะเป็นเหมือน “เข็มทิศ” ชี้นำแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และที่สำคัญคืออาจจะมีผลต่อการตัดสินใจของ Fed ในอนาคตอย่างมาก

ตลาดคาดว่าเดือนเมษายนจะมีตำแหน่งงานเพิ่ม 135,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานอยู่ที่ 4.2% จุดไคลแม็กซ์คือ ถ้าตัวเลขจริงออกมา “ต่ำกว่า” ที่คาดไว้มากๆ ล่ะ? นั่นอาจจะเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัว ซึ่งอาจกดดันให้ Fed ต้องลดดอกเบี้ยเร็วขึ้นหรือแรงขึ้น ผลที่ตามมาคือ ดอลลาร์อาจจะอ่อนค่าลง และราคาทองคำก็มีโอกาสเด้งกลับขึ้นไปได้ เพราะงั้นสายเทรด สายลงทุนทองคำ วีคนี้ต้องเกาะติดหน้าจอ รอดูตัวเลขเหล่านี้ให้ดีเลย

เจาะลึกตลาดจีน ขาใหญ่ซื้อทอง มีอะไรน่าสนใจ?

มาส่องตลาดที่ทรงอิทธิพลต่อราคาทองคำโลกแบบสุดๆ กันบ้าง นั่นคือตลาดจีนนั่นเอง  จีนนี่ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่เบอร์ต้นๆ ของโลก ทั้งในฐานะผู้บริโภคและผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ การขยับตัวของตลาดจีนเลยส่งผลต่อภาพรวมราคาทองคำโลกไม่น้อยเลยทีเดียว

ด้าน Ray Jia จาก World Gold Council (WGC) วิเคราะห์ไว้ว่าแม้ตลาดจีน Q1 จะดูแข็งแกร่งในบางมุม (ราคาทองในประเทศพุ่งทำนิวไฮ, เงินไหลเข้า ETF ทองคำ, ธนาคารกลางยังซื้อต่อเนื่อง) แต่สาเหตุหลักที่ทำให้ยอดซื้อทองรูปพรรณและยอดนำเข้ามันแผ่วลง ก็เพราะราคาทองคำมันพุ่งสูงปรี๊ดเกินไปนั่นเอง คนเลยอาจจะชะลอการซื้อ รอดูท่าที ประกอบกับฐานตัวเลขของปีก่อนหน้ามันสูงมากอยู่แล้วด้วย โดยเฉพาะยอดนำเข้าในเดือนมกราคม 2025 ที่ลดลงเหลือแค่ 17 ตัน ต่ำสุดในรอบหลายปี (ไม่นับช่วงโควิด) แม้เดือนกุมภาพันธ์จะดีขึ้นเป็น 76 ตัน แต่ก็ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปี 2024 อยู่ดี

แล้ว WGC มองอนาคตตลาดทองคำจีนยังไง? เค้าคาดว่าความต้องการลงทุนทองคำในจีนจะยังคงแข็งแกร่ง เพราะปัจจัยหนุนอย่างสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่ยังยืดเยื้อ มันกระทบความเชื่อมั่นและสินทรัพย์อื่นๆ คนเลยหันมาลงทุนในทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยง บวกกับความผันผวนในตลาดโลก และล่าสุดยังมี บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ 4 แห่งในจีนเข้ามาเป็นสมาชิกตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (SGE) อีก ซึ่งน่าจะช่วยหนุนดีมานด์การลงทุนระยะยาวได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับทองรูปพรรณ Jia ก็ยังมองว่าราคาทองที่สูงลิ่วและความกังวลเศรษฐกิจยังคงเป็นปัจจัยกดดัน แม้จะมีวันหยุดยาวช่วยกระตุ้นก็ตาม

ทองคำยังแรง แต่ทำไมโลหะอื่นตามไม่ทัน สัญญาณอะไรซ่อนอยู่?

กลับมาที่ภาพใหญ่ของราคาทองคำกันอีกครั้ง เราจะเห็นว่าช่วงที่ผ่านมา ทองคำโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงสุดๆ มีการพุ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์แถวๆ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อสัปดาห์ก่อน ถือว่าโดดเด่นมากๆ

นักลงทุนมองว่าทองคำคือสินทรัพย์ที่น่าไว้วางใจที่สุดในยามที่สถานการณ์โลกผันผวน ในขณะที่สินทรัพย์อื่นๆ แม้แต่โลหะมีค่าด้วยกันอย่าง “เงิน (Silver)” ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมมากกว่า อาจจะยังคงถูกกดดันจากความกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ทำให้มันไม่สามารถวิ่งตามทองคำได้ทัน

ดังนั้น การที่ทองคำวิ่งนำอยู่ตัวเดียวแบบนี้ อาจตีความได้ว่า ตลาดโดยรวมยังไม่ได้มีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากนัก แต่กำลังให้น้ำหนักกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนมากกว่า ซึ่งทองคำตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม Sentiment หรืออารมณ์ของนักลงทุนที่มีต่อทองคำยังคงแข็งแกร่ง และปัจจัยหนุนเดิมๆ ที่เราคุยกันไปก่อนหน้า โดยเฉพาะความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยของ Fed ก็ยังคงเป็นตัวช่วยสำคัญที่อาจจะเข้ามาหนุนราคาทองคำได้เป็นระลอกๆ ตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้

ดังนั้น สำหรับนักลงทุนทองคำแล้ว การจับทิศทางลมของปัจจัยมหภาคเหล่านี้ ทั้งเรื่องนโยบายการค้าโลก, ท่าทีของ Fed, สถานการณ์ในจีน รวมถึงสัญญาณจากตลาดอื่นๆ ยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญสุดๆในการวางแผนและปรับกลยุทธ์การลงทุนในทองคำต่อไป

หลังจากเมื่อวานลุ้นกันตัวเกร็งแถวๆ แนวรับสุดแกร่ง $3,278 ว่าจะเอาอยู่มั้ย ปรากฏว่า เอาอยู่จ้า! แถมไม่ใช่แค่เอาอยู่ธรรมดา แต่เหมือนมีแรงฮึดสู้ ดันราคากลับขึ้นมาได้แรงด้วย โดยตอนนี้ราคาทองคำในกราฟ 4 ชั่วโมง พุ่งปรี๊ดมาอยู่ที่ประมาณ $3,330 เรียกว่าจากโซนอันตรายเมื่อวาน วันนี้พลิกกลับมาให้ใจชื้นขึ้นเยอะเลย

ดูจากกราฟล่าสุด จะเห็นชัดๆ เลยว่าหลังจากลงไปแตะๆ แนวรับ $3,278 (Fib 100.00%) แล้วไม่หลุด ก็มีแรงซื้อเข้ามา จัดหนักจัดเต็ม ดันราคาทะลุแนวต้านย่อยแถว $3,300-$3,310 ที่เรามองกันไว้เมื่อวานขึ้นมาได้สบายๆ ตอนนี้กำลังมุ่งไปทดสอบบริเวณ $3,366 อยู่ ซึ่งถือเป็นด่านสำคัญที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว

ด้าน RSI ก็ทะลุ 50 ขึ้นมาได้แล้ว บ่งบอกว่าโมเมนตัมฝั่งซื้อเริ่มกลับมาคุมเกมได้บ้าง หลังจากที่หน้าทิ่มอยู่ด้านล่างมาพักนึง ถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วน Stoch RSI นี่โหดจัด พุ่งทะยานจากโซนล่างขึ้นมาอยู่ในโซน Overbought เรียบร้อยแล้ว แปลว่าแรงซื้อระยะสั้นเข้ามาเยอะมากจริงๆ แต่มันก็แอบส่งสัญญาณเตือนเบาๆ ว่า ขึ้นมาแรงขนาดนี้ อาจจะมีพักหายใจหรือย่อตัวลงมาบ้าง เพราะการที่มันขึ้นไปสูงมากๆ (Overbought) ก็มักจะตามมาด้วยการปรับฐานระยะสั้นได้เหมือนกัน

สรุปและมองไปข้างหน้า สถานการณ์ตอนนี้กลับมาน่าลุ้นอีกครั้งในฝั่งขาขึ้น จุดวัดใจสำคัญห้ามกระพริบตาอยู่ที่แนวต้าน $3,366 นี่แหละ ถ้าราคาทองสามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปยืนเหนือได้อย่างแข็งแกร่ง มีโอกาสสูงที่เราจะได้เห็นราคา วิ่งต่อ ไปหาเป้าหมายถัดไปแถวๆ $3,409

ดังนั้น จับตาดู $3,366 ให้ดี เป็นจุดชี้วัดสำคัญเลยว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ถ้าผ่านได้ก็ลุ้นยาวๆ แต่ถ้าไม่ผ่านก็อาจจะต้องรอย่อแล้วหาจังหวะเข้ากันใหม่

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,278

• $3,200

• $3,136

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,366

• $3,409

• $3,474