วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 18 มิ.ย. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ราคาทองปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวันจันทร์ ถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงเช่นกัน แต่ไม่ได้ส่งเสริมราคาทองคำมากนัก เนื่องจาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Neel Kashkari เจ้าหน้าที่เฟดจากสาขามินนิอาโปลิสกล่าวถึงนโยบายการเงิน โดยระบุว่า “เป็นการคาดการณ์ที่สมเหตุสมผล” ที่เฟดจะผ่อนคลายนโยบายลง 25 จุดพื้นฐาน ในปี 2024 ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้การถือครองทองคำดูไม่น่าดึงดูดนักในขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูง
เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Patrick Harker ประธานธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย เป็นอีกคนที่ออกมาให้ความเห็นต่อสาธารณะ โดยกล่าวว่า เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1 ครั้งในปีนี้ หากการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นจริง
แม้อัตราเงินเฟ้อในเดือนเมษายนชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 2.7% ซึ่งเป็นระดับที่เฟดพอใจ แต่ Harker เห็นว่าความคืบหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อตั้งแต่ต้นปีนั้นยังคงอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งเขาต้องการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงไตรมาสหน้า เพื่อประกอบการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เศรษฐกิจยังคงผันผวน
Harker กล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจำเป็นต้องทรงตัวในระดับปัจจุบัน เพื่อลดความเสี่ยงขาขึ้น เช่นการดื้อรั้นในระยะยาวของอัตราเงินเฟ้อในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่สูง เช่นเดียวกับอัตราเงินเฟ้อภาคบริการ โดยเฉพาะการประกันภัยรถยนต์และค่าซ่อมแซม
อย่างไรก็ตาม Harker ไม่ปิดกั้นความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนมุมมองต่ออัตราดอกเบี้ยเมื่อได้ข้อมูลทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเขามองว่าอาจมีการลดอัตรา 2 ครั้งหรือแม้แต่ไม่มีการปรับเลยในปีนี้ ซึ่งนั้นจะขึ้นอยู่กับทิศทางข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามา
แม้การคาดการณ์กลางของเฟดชี้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ แต่ที่ตลาดการเงินกำลังให้น้ำหนักกับโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งภายในสิ้นปี
ราคาทองคำยังแข็งแกร่งแม้เฟดส่งสัญญาณเข้มงวด
นักวิเคราะห์จาก Heraeus เห็นว่าราคาทองคำยังสามารถทำผลงานได้ดี ท่ามกลางท่าทีเข้มงวดของเฟดและการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย
เขาตั้งข้อสังเกตว่าทองคำสร้างผลกำไรได้แม้เฟดกลับมาแสดงท่าทีเข้มงวดอีกครั้ง หลังสหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี
แม้ประธานเฟด Jerome Powell จะส่งสัญญาณที่ระมัดระวังเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลังการประชุม FOMC แต่ก็ยังให้การสนับสนุนราคาทองคำบางส่วน
ในขณะที่ตลาดยังคงตั้งราคาโอกาส 42% ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุดพื้นฐานในปี 2024 แต่ราคาทองคำยังสามารถรักษากำไรได้ โดยมีแนวรับสำคัญช่วง $2,280
ทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น
นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าต้องจับตาแนวรับแนวต้านทางเทคนิคมากขึ้น เนื่องจากมีความแตกต่างระหว่างการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดกับความคาดหวังของตลาด ซึ่งอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดทองคำในระยะสั้น
James Stanley นักกลยุทธ์ตลาดอาวุโสจาก Forex.com เห็นว่าปัจจัยพื้นฐานที่มีความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และระดับหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำ แต่เขาระบุว่าในระยะสั้น แนวโน้มทางเทคนิคดูอ่อนแอลงเล็กน้อย เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคากำลังก่อตัวเป็นรูปแบบ head and shoulders bearish โดยมีโซนแนวรับ neckline อยู่ระหว่าง $2,300-$2,275
Stanley กล่าวว่า neckline ยังไม่หลุด แต่ก็ใกล้มากแม้ยังไม่เกิดขึ้น ตราบใดที่โซน $2,300 ยังสามารถยืนอยู่ได้ เขายังคงมีมุมมอง bullish แต่หากราคาหลุดจุดนี้ เขาก็พร้อมจะเปลี่ยนเป็น bearish ได้เหมือนกัน
นอกจากนี้ Stanley คาดว่า หากทองคำร่วงต่ำกว่าแนวรับที่ระบุ ราคาอาจอ่อนตัวลงไปถึง $2,100 และทดสอบแนวรับสำคัญที่ $2,075 ซึ่งเคยเป็นระดับแนวต้านสำคัญในช่วง 3 ปีก่อนหน้าที่จะมีการทะลุขึ้นในปีนี้
ยังต้องเฝ้าระวังแนวรับสำคัญของทองคำ
ทางด้าน Alex Kuptsikevich นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก FxPro กล่าวว่า แม้ทองคำจะสามารถยืนเหนือแนวรับที่ $2,300 ได้ในการทดสอบ 2 ครั้งล่าสุด แต่ระดับนี้ก็ดูเปราะบางลงเล็กน้อย เขาตั้งข้อสังเกตว่าปัจจัยลบจากตลาดหุ้นที่อ่อนแอและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง อาจสร้างแรงต้านให้กับราคาทองคำในระยะสั้น
Kuptsikevich ยกตัวอย่างในปี 2008, 2011 และ 2020 ที่การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในช่วงแรกท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นร่วงและดอลลาร์แข็งค่า กลับกลายเป็นการพังทลายของราคาทองคำในเวลาต่อมา ดังนั้นเขาแนะนำให้จับตาดูพัฒนาการในตลาดสกุลเงินและตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด เพราะหากความเสี่ยงยังดำเนินต่อไป การซื้อทองคำก็อาจเป็นเรื่องอันตราย
อย่างไรก็ตาม Stanley มองว่าแม้ความเสี่ยงด้านขาลงของทองคำจะเพิ่มขึ้น แต่การอ่อนตัวลงก็จะสร้างมูลค่าในระยะยาวให้กับตลาด เขากล่าวว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ราคาทองคำน่าจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลยังคงใช้จ่ายเงินและก่อหนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นการอ่อนตัวลงของราคาจะเป็นโอกาสในการซื้อระยะยาว
ขณะที่ Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank กล่าวว่า มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทองคำสามารถรักษาระดับได้ท่ามกลางแรงฉุดของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น เขาระบุว่าจุดแข็งของดอลลาร์มาจากความอ่อนแอของยูโร หลังประธานาธิบดีฝรั่งเศสตัดสินใจเลือกตั้งกะทันหัน หลังจากพรรคของเขาพ่ายแพ้อย่างหนักในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป ตลาดกังวลว่าหากพรรคขวาจัดมีชัยชนะอีกครั้ง อาจนำไปสู่วิกฤตหนี้และเพิ่มแรงหนุนราคาทองคำจากนักลงทุนที่วิตก
ตลาดได้พักหายใจมากขึ้น เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจเบาบางลง
การจับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจากมุมมองทางเทคนิคมากขึ้นนั้น มาพร้อมกับปฏิทินเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเบาบางในสัปดาห์นี้ ซึ่งตลาดจะได้รับข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาคและขั้นต้น รวมถึงข้อมูลภาคที่อยู่อาศัยบางส่วน
หลังจากที่เฟดประกาศมติด้านนโยบายการเงินไปแล้ว ตลาดจะหันความสนใจไปยังยุโรป เนื่องจากธนาคารกลางสวิส (SNB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะประกาศผลอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ โดย SNB เป็นธนาคารกลางแรกที่เริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินทั่วโลก ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งก่อน และนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราอีกครั้ง
ส่วนในอังกฤษ BoE คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางส่วนเห็นว่า BoE จะเริ่มวางรากฐานสำหรับการปรับลดอัตราในเดือนสิงหาคม
แม้ว่าเฟดจะยังลังเลที่จะเริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงสูง แต่นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าการลดลงของอัตราดอกเบี้ยในระดับโลกนั้น ยังคงเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำในบริบทของตลาดโลก
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ราคาปัจจุบันอยู่ที่ $2,322 โดยภาพรวมราคากำลังเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway เล็กน้อย ซึ่งอาจสะท้อนถึงความไม่แน่นอนในตลาด
เมื่อพิจารณาจากค่าเฉลี่ย EMA 200 ซึ่งเป็นตัวชี้วัดแนวโน้มระยะกลาง พบว่าราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ ชี้ให้เห็นว่าแรงซื้อยังมีจำกัด ต้องจับตาดูว่าราคาจะสามารถยืนเหนือ EMA 200 ได้หรือไม่ ซึ่งจะเป็นสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม โดยหากดูจากแนวโน้มระยะสั้นจากค่าเฉลี่ย EMA 12 และ EMA 26 ซึ่งบีบเข้ามาใกล้กันมากขึ้น ตอกย่ำแนวโน้มระยะสั้นที่อ่อนตัวเช่นกัน
ระดับแนวต้านที่สำคัญ ได้แก่ บริเวณ $2,330 - $2,335 ซึ่งเป็นระดับเส้น EMA 200 ที่คอยกดดันราคา ขณะที่แนวรับอยู่ที่บริเวณ $2,320 - $2,316 ที่เป็นเส้น EMA 12, 26
ทำให้แนวโน้มในวันนี้ ราคามีโอกาสจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ $2,310 - $2,335 โดยคาดว่าแนวต้าน EMA 200 จะยังคงเป็นอุปสรรคที่สำคัญ หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ การย่อตัวกลับมาทดสอบแนวรับที่ $2,310 และ $2,300 มีความเป็นไปได้สูง อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถปิดเหนือ $2,335 ได้ จะเป็นสัญญาณบวก และอาจมีแนวโน้มขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $2,350
แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,320 / $2,310 / $2,300
แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,330 / $2,335 /$2,350
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน