วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 23 ม.ค. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 23 มกราคม 2568 ตลาดทองคำยังคงทำผลงานได้ดีต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์ หลังพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วทะลุแนวต้านสำคัญ โดยนักลงทุนเริ่มจับตาระดับราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ล่าสุดราคา XAU/USD เคลื่อนไหวที่ระดับ 2,755 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงมาจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศของประธานาธิบดี Donald Trump ที่เริ่มส่งสัญญาณแข็งกร้าวต่อประเทศคู่ค้าสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขู่เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน รวมถึงล่าสุดที่ขยายวงไปถึงสหภาพยุโรป ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกเริ่มกังวลถึงความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามการค้าครั้งใหม่ที่อาจรุนแรงกว่าครั้งก่อน จึงทยอยลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงและหันมาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น ผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในปี 2025 ที่ 2,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นอกจากนี้ Trump ยังได้ส่งสัญญาณผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขา โดยระบุว่าไม่ต้องการสร้างความเสียหายให้กับรัสเซีย พร้อมเชิญชวนประธานาธิบดี Vladimir Putin ให้ยุติสงครามในยูเครนโดยเร็ว แต่หากไม่ดำเนินการตาม เขาจะพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ รวมถึงการเพิ่มภาษีและอากรนำเข้าสินค้าจากรัสเซียเข้าสู่สหรัฐฯ

ความตึงเครียดในตะวันออกกลางก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดการเงินโลก หลังจากข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสถูกละเมิด เมื่ออิสราเอลได้ส่งโดรนโจมตีพื้นที่ Hasbaya ในเขตใต้ของเลบานอน ตามรายงานของสื่อเลบานอนที่ถูกอ้างอิงโดยนักข่าวชาวอิสราเอล Kai ยิ่งเพิ่มความกังวลต่อเสถียรภาพในภูมิภาค

StoneX Financial เผยรายงาน ชี้ทองคำมีลุ้นทะลุ 3,000 ดอลลาร์ในปี 2025

StoneX Financial สถาบันวิเคราะห์การลงทุนชั้นนำ ได้เปิดเผยรายงานประจำปี “2025 Annual Metals Outlook” ซึ่งจัดทำโดย Rhona O'Connell หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดประจำภูมิภาค EMEA (Europe, Middle East, and Africa) และเอเชีย ร่วมกับ Natalie Scott-Gray นักวิเคราะห์อาวุโสด้านโลหะมูลฐาน โดยประเมินว่าราคาทองคำจะยังคงได้รับอานิสงส์จากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศและความไม่แน่นอนในระบบการเงินโลกตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2025

อย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดได้สะท้อนปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เหล่านี้ไปมากแล้ว ทองคำอาจต้องสูญเสียความน่าสนใจในการลงทุนให้กับโลหะมีค่าอื่นๆ อย่างเงิน ทองแดง และดีบุก ซึ่งจะได้แรงหนุนจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด และเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงครึ่งหลังของปี

รายงานฉบับนี้ยังระบุว่าสถานการณ์โลกในช่วงต้นปี 2025 มีความไม่แน่นอนและความเสี่ยงสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2024 อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในหลายภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย ปัญหาความแตกแยกทางการเมืองในยุโรป ความไม่มั่นคงของรัฐบาลในหลายประเทศ รวมไปถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่อย่าง Donald Trump โดยเฉพาะนโยบายการค้าระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ

IMF เตือนหนี้สาธารณะทั่วโลกทะลุ 100 ล้านล้านดอลลาร์ หนุนทองคำทะยานต่อเนื่อง

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการที่น่าตกใจเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้สาธารณะทั่วโลกในปี 2024 ที่พุ่งทะลุระดับ 100 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 93% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของทั้งโลก สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบการเงินโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น

แม้ว่าบางประเทศจะมีแนวโน้มที่จะสามารถลดระดับหนี้สาธารณะลงได้ในปี 2025 แต่ประเทศที่คาดว่าจะมีหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้นนั้นกลับมีขนาดเศรษฐกิจรวมกันมากกว่าสองในสามของ GDP โลก ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากต่อเสถียรภาพของระบบการเงินโลกในระยะยาว

ระดับหนี้สาธารณะที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ส่งผลให้รัฐบาลของประเทศต่างๆ มีความยืดหยุ่นในการใช้นโยบายการคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากต้องจัดสรรงบประมาณจำนวนมากไปกับการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น ทำให้มีงบประมาณเหลือน้อยลงสำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังอาจทำให้การรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจหรือการเงินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตทำได้ยากขึ้น เนื่องจากขาดเครื่องมือทางการคลังที่จำเป็น

สถานการณ์ในสหรัฐอเมริกาก็น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สภาคองเกรสได้ปฏิเสธร่างกฎหมายของประธานาธิบดี Trump ที่เสนอให้ขยายเพดานหนี้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องยกเลิกข้อจำกัดเพดานหนี้ทั้งหมด ประกอบกับนโยบายลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐที่ Trump ได้หาเสียงไว้ระหว่างการรณรงค์เลือกตั้ง อาจทำให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้

Sprott Inc. แนะกลยุทธ์การลงทุนปี 2025 จัดพอร์ตถือทองคำ 15% รับมือความผันผวน

Ryan McIntyre ผู้จัดการกองทุนและหุ้นส่วนผู้บริหารของ Sprott Inc. บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในโลหะมีค่า ได้มีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะยาว แม้ว่าราคาอาจมีความผันผวนในระยะสั้น

McIntyre อธิบายว่าปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำที่สำคัญมาจากการที่รัฐบาลประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายที่ทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องผ่านการก่อหนี้ที่เพิ่มขึ้นและการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกแสวงหาสินทรัพย์ที่ช่วยปกป้องมูลค่าความมั่งคั่งมากขึ้น

นอกจากนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดยเฉพาะการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต้องพยายามรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย กับการประคับประคองการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับการลงทุนในทองคำ

McIntyre แนะนำให้นักลงทุนจัดสรรการลงทุนในทองคำที่ระดับ 10% ของพอร์ตการลงทุนเป็นสถานะถาวร และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเหมืองแร่อีก 5% เนื่องจากสภาวะตลาดปัจจุบันที่ตลาดหุ้นมีมูลค่าสูงเกินจริง (Overvalued) ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ โดยเชื่อว่าหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หุ้นกลุ่มเหมืองแร่จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการถือครองทองคำแท่งโดยตรง เนื่องจากได้ประโยชน์จากการทำ Operating Leverage

สำหรับทิศทางราคาทองคำในปี 2025 StoneX ได้คาดการณ์ว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 2,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีโอกาสที่จะทะลุระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในบางช่วง ก่อนที่จะปรับตัวลงมาปิดที่ระดับ 2,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงสิ้นปี ซึ่งยังคงให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจที่ 6.6% เมื่อเทียบกับราคาปิด ณ สิ้นปี 2024 ที่ระดับ 2,609 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สะท้อนให้เห็นว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในปี 2025 ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังคงปกคลุมตลาดการเงินโลก

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

ราคาทองคำยังคงแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยสามารถเคลื่อนตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ $2,752 และ $2,762 ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ในการวิเคราะห์ก่อนหน้า

เมื่อพิจารณาจากรูปแบบแท่งเทียนล่าสุด พบว่าราคาเกิดการพักตัวในลักษณะ Consolidation ในกรอบแคบระหว่าง $2,752-2,762 โดยมีแท่งเทียนขนาดเล็กแสดงถึงการชะลอตัวของโมเมนตัมการปรับตัวขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับที่ได้เตือนไว้เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการเกิด Exhaustion ในระยะสั้น

การเคลื่อนไหวของ RSI ในกรอบ 4 ชั่วโมงเริ่มปรับตัวลดลงจาก Overbought สอดคล้องกับ Stochastic RSI ที่เริ่มแสดงการเคลื่อนไหวในลักษณะ Crossover ลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการพักฐานในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มหลักในระยะกลางยังคงเป็นบวก สังเกตได้จากการที่ราคายังคงเคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งระยะสั้นและกลาง โดยเส้น EMA ระยะสั้น (เส้นสีแดง) ยังคงชี้ขึ้นในมุมที่ชัดเจน และห่างจากเส้น EMA ระยะกลาง (เส้นสีฟ้า) มากขึ้น แสดงถึงแรงเหวี่ยงของแนวโน้มขาขึ้นที่ยังคงแข็งแกร่ง

สำหรับกลยุทธ์การเทรดในระยะสั้น ควรระมัดระวังการเปิดสถานะใหม่ในช่วงนี้ เนื่องจากราคาอาจเกิดการพักฐานลงมาทดสอบแนวรับที่ $2,739 และ $2,726 ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมในการพิจารณาเข้าซื้อ โดยมีจุด Stop Loss ไว้ที่ระดับต่ำกว่า $2,712

ในกรณีที่ราคาสามารถยืนเหนือ $2,752 ได้อย่างมั่นคง โดยมีปริมาณการซื้อขายสนับสนุน อาจเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นการปรับตัวขึ้นรอบใหม่ โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ $2,762 และ $2,780 ตามลำดับ

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,739

• $2,726

• $2,712

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,752

• $2,762

• $2,790