วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 11 พ.ย. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ตลาดทองคำเผชิญความผันผวนครั้งใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ Donald Trump คว้าชัยชนะอย่างเด็ดขาด ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงแตะระดับ $2,640 ท่ามกลางการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งทะยานสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (US Dollar Index) ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 105.00
Matthew Jones นักวิเคราะห์โลหะมีค่าจาก Solomon Global ในลอนดอน อธิบายถึงปรากฏการณ์นี้ว่า “การแข็งค่าของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นได้สร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อราคาทองคำ ซึ่งโดยปกติจะมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Interest Rate) สะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ลดลงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากมองในมุมมองระยะยาวและภาพใหญ่ทางเศรษฐกิจมหภาค อนาคตของทองคำยังคงสดใสอย่างไม่ต้องสงสัย”
เจาะลึกสาเหตุการร่วงหนัก 3% ของราคาทอง นักวิเคราะห์ชี้เป็นจังหวะปรับฐานที่รอคอย
ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกิดขึ้นในคืนวันอังคาร เมื่อผลการนับคะแนนเริ่มชัดเจน ราคาทองคำเผชิญแรงเทขายอย่างหนักหน่วง ดิ่งลงจากระดับ $2,750 มาแตะระดับ $2,659 ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง Alex Kuptsikevich นักวิเคราะห์อาวุโสจาก FxPro ให้มุมมองเชิงลึกว่า ทองคำสูญเสียมูลค่ากว่า 3% ในวันที่มีการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี และหากนับจากจุดสูงสุดในช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงจุดต่ำสุดล่าสุด การสูญเสียมูลค่ารวมเกิน 5% อย่างไรก็ตาม ยังไม่ถือว่าเป็นวิกฤติร้ายแรง เนื่องจากในวันพฤหัสบดี ราคาได้แสดงสัญญาณฟื้นตัวอย่างน่าประทับใจ โดยดีดตัวขึ้น 2.5% จากจุดต่ำสุด ชดเชยการลดลงส่วนใหญ่จากวันก่อนหน้า
Colin Cieszynski หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดจาก SIA Wealth Management ได้วิเคราะห์เจาะลึกถึงพฤติกรรมราคาทองคำในช่วงนี้ว่าเป็นการปรับฐานที่สมเหตุสมผล หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงก่อนหน้าเนื่องจากความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมือง ถ้าย้อนกลับไปดูเมื่อเดือนที่แล้ว ทองคำอยู่ที่ระดับ $2,600 ปัจจุบันอยู่ที่ 2,677 และจุดสูงสุดอยู่ที่ประมาณ $2,780 ดังนั้นการปรับตัวลงครั้งนี้จึงเป็นเพียงการถอยกลับมาครึ่งทางของการปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ตลาดได้คาดการณืราคาไว้ล่วงหน้า (Price In) แล้ว
นักวิเคราะห์ชั้นนำทั่วโลกส่งสัญญาณเตือน หลังผลสำรวจชี้มุมมองขาลงทำสถิติใหม่
ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ประจำสัปดาห์โดย Kitco News สะท้อนภาพที่น่าวิตกเมื่อมุมมองเชิงลบจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน โดยมีเพียง 3 คนจากทั้งหมด 14 คน หรือคิดเป็น 21% เท่านั้นที่คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ ขณะที่ 9 คนหรือ 64% ทำนายว่าราคาจะปรับตัวลง และ 2 คนที่เหลือหรือ 14% คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือผลสำรวจจากนักลงทุนรายย่อยซึ่งปกติมักมีมุมมองเชิงบวกต่อทองคำ ก็เริ่มแสดงสัญญาณความกังวล โดยจาก 249 คนที่ร่วมตอบแบบสำรวจออนไลน์มีเพียง 114 คนหรือ 46% ที่ยังคงมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ ขณะที่ 91 คนหรือ 36% คาดว่าราคาจะปรับตัวลง และ 44 คนที่เหลือหรือ 18% มองว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่สัดส่วนผู้ที่มองบวกต่ำกว่า 50%
David Morrison นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Trade Nation ให้มุมมองเชิงลึกว่าภาพทางเทคนิคกำลังส่งสัญญาณเตือนถึงการปรับฐานที่อาจรุนแรงขึ้น “ทองคำร่วงลงอย่างรุนแรงในวันพุธหลังจากที่ผลการเลือกตั้งชี้ชัดว่าทรัมป์จะได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง แรงเทขายส่วนใหญ่เป็นผลจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งพุ่งขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่านโยบายการกีดกันทางการค้าและการปรับลดภาษีที่ทรัมป์สัญญาไว้จะกระตุ้นให้เงินเฟ้อกลับมาปะทุอีกครั้ง”
ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์อาจพลิกโฉมตลาดทองคำ นักวิเคราะห์ชี้โอกาสทะลุ $3,000
ท่ามกลางมุมมองเชิงลบในตลาด Daniel Pavilonis นายหน้าซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสจาก RJO Futures กลับมองเห็นโอกาสในวิกฤต โดยวิเคราะห์ว่าการผ่อนคลายความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์อาจเป็นดาบสองคม “ปัจจัยสำคัญที่อาจกดดันราคาโลหะมีค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีในระยะสั้น คือความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง”
อย่างไรก็ตาม Pavilonis เตือนว่าสถานการณ์อาจพลิกผันได้ตลอดเวลา “แม้ว่าปูตินจะออกมาส่งสัญญาณว่ารัสเซียไม่ได้พยายามที่จะละทิ้งดอลลาร์ แต่เราต้องไม่ลืมว่ากลุ่ม BRICS ยังคงเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงในทำเนียบขาวครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินโลกและกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง”
Mark Leibovit ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในโลหะมีค่า ยังคงมั่นใจในเป้าหมายระยะยาวของทองคำที่ $3,700 แม้จะยอมรับว่าในระยะสั้นอาจเห็นการปรับฐาน “กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในช่วงนี้คือการรักษาสถานะการลงทุนระยะยาวไว้ พร้อมกับใช้ ETF ที่เคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับราคาทองคำและเงิน เช่น GLL และ ZSL เพื่อป้องกันความเสี่ยง”
แนวโน้มระยะยาวยังสดใส แม้เผชิญแรงกดดันหนักในระยะสั้น
Marc Chandler กรรมการผู้จัดการจาก Bannockburn Global Forex มองว่าการปรับฐานครั้งนี้เป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนระยะยาว “ทองคำร่วงลงกว่า 3% ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จากแรงกดดันของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ และดอลลาร์ที่พุ่งขึ้นทันทีหลังผลการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ราคาได้ฟื้นตัวกลับมาประมาณครึ่งหนึ่งของการปรับตัวลง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่รอจังหวะเข้ามาสะสม การปรับตัวลงไปที่ระดับ $2,600 ในตลาดสปอตอาจเป็นจุดที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อหรือเพิ่มสถานะ”
Adrian Day ประธาน Adrian Day Asset Management ยังคงมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานระยะยาวของทองคำ “แม้ว่าการพักฐานในระยะสั้นจะเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนต้องการล็อกกำไร ในขณะที่การซื้อทองคำจากธนาคารกลางและผู้บริโภคจีนชะลอตัวลงจากระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ แต่ปัจจัยขับเคลื่อนหลักสำหรับผู้ซื้อทุกกลุ่มยังคงอยู่ ทั้งความต้องการของธนาคารกลางในการกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาดอลลาร์ ความกังวลของจีนเกี่ยวกับเศรษฐกิจและระบบธนาคาร รวมถึงความชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางอื่นๆ จะยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงินท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าเงินเฟ้อจะยังไม่ลดลงสู่เป้าหมายอย่างมั่นคง ในขณะที่การขาดดุลการคลังยังคงอยู่ในระดับสูง”
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำในกรอบ 4 ชั่วโมงแสดงสัญญาณอ่อนแอชัดเจน โดยราคาปัจจุบันที่ $2,677 เคลื่อนตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทั้ง EMA 12 และ EMA 26 ซึ่งเป็นสัญญาณการปรับฐานในระยะสั้น หลังจากที่ราคาได้ทำจุดสูงสุดที่ระดับ $2,790 ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
ค่า RSI ที่ปรากฏในกราฟแสดงการอ่อนแรงลง หลังจากดีดขึ้นจากโซน Oversold ก่อนหน้านี้ ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงอีกครั้ง
แนวรับสำคัญถัดไปอยู่ที่บริเวณ $2,673 ซึ่งเป็นระดับที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ และเป็นสัดส่วน Fibonacci หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับเหล่านี้ได้ อาจเห็นการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $2,682 และ $2,894
สำหรับแนวโน้มในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาจะยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง โดยมีแนวรับสำคัญที่ $2,673 - $2,659 เป็นระดับที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เ หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจเห็นการดีดตัวกลับในระยะสั้น แต่หากหลุดลงมา อาจเห็นการปรับตัวลงต่อไปที่แนวรับถัดไปที่ $2,642
นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาบริเวณแนวรับ $2,673 และ $2,659 อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของแรงซื้อที่จะเข้ามาพยุงราคา และระมัดระวังการเปิดสถานะใหม่จนกว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,673
$2,659
$2,642
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,682
$2,694
$2,710
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน