วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 17 ก.พ. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ราคาทองคำ (XAUUSD) เจอกับความผันผวนค่อนข้างรุนแรง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลกที่อาจปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ผลักดันนโยบายภาษีตอบโต้ โดยล่าสุดราคาทองคำสปอตอยู่ที่ 2,891 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากแรงเทขายทำกำไรในช่วงปลายสัปดาห์

การเคลื่อนไหวของตลาดทองคำในช่วงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนต่อนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดี Trump ได้ลงนามเพื่อวางแผนการใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับประเทศต่างๆ อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้มาตรการดังกล่าวถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการเจรจากับประเทศที่อาจได้รับผลกระทบเป็นรายประเทศก่อน ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลกที่ลดลงชั่วคราวส่งผลให้ราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวลดลงบ้าง

นักวิเคราะห์การตลาดชี้ว่า การที่ทองคำยังคงรักษาระดับราคาใกล้ 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แม้จะมีแรงเทขายทำกำไรออกมา แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งในตลาด โดยเฉพาะจากกองทุนและนักลงทุนสถาบันที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น

นักลงทุนจับตาพัฒนาการเกี่ยวกับนโยบายภาษีของ Trump อย่างใกล้ชิด โดยหากมีสัญญาณของความตึงเครียดทางการค้าและความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่า หากความขัดแย้งทางการค้ายกระดับขึ้น ราคาทองคำอาจทะลุระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในอนาคตอันใกล้

ตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯ ร่วงหนัก กดดันดอลลาร์อ่อนค่า

เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าคาดส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยสำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐฯ รายงานว่ายอดค้าปลีกในเดือนมกราคมลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนธันวาคม ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ -0.1%

การปรับตัวลดลงของยอดค้าปลีกสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของการบริโภคภาคเอกชนในสหรัฐฯ โดยยอดค้าปลีกหลัก (Core Sales) ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ ลดลง 0.4% ในเดือนที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่จะเพิ่มขึ้น 0.3% นอกจากนี้ กลุ่มควบคุม (Control Group) ซึ่งไม่รวมยอดขายจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง สถานีบริการน้ำมัน และร้านเครื่องเขียน ซึ่งเป็นส่วนที่นำไปคำนวณ GDP ของสหรัฐฯ โดยตรง ลดลง 0.8% ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%

นักเศรษฐศาสตร์จาก Capital Economics ระบุว่า แม้จะมีการฟื้นตัวบ้างในเดือนกุมภาพันธ์ การเติบโตของการบริโภคในไตรมาสแรกอาจชะลอตัวลงเหลือประมาณ 2.5% ต่อปี และบ่งชี้ว่าการเติบโตของ GDP โดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 1.5%

ตัวเลขยอดค้าปลีกที่อ่อนแอปิดท้ายสัปดาห์ที่น่าผิดหวัง ทำให้นักเศรษฐศาสตร์มองว่าข้อมูลเศรษฐกิจเหล่านี้ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ในการพยายามรักษาสมดุลนโยบายการเงินระหว่างความเสี่ยงของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและเงินเฟ้อที่ยังคงดื้อรั้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ระบุว่านี่คือสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบสำหรับทองคำ ซึ่งโดดเด่นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น นักวิเคราะห์อธิบายว่า แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงจุดยืนนโยบายการเงินที่เป็นกลาง โดยรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูง แต่เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทำให้พันธบัตรมีความน่าสนใจน้อยลงเนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงลดลง ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทองคำจึงกลายเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงที่น่าดึงดูดมากขึ้น

ผู้ว่าการ Fed ดัลลัส เตือนยังไม่ถึงเวลาลดดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อใกล้เป้า 2%

ท่ามกลางความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ Lorie Logan ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาดัลลัส ได้ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนว่า แม้อัตราเงินเฟ้อจะใกล้เคียงเป้าหมายที่ 2% ในเดือนข้างหน้า ธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงในทันที

Logan ชี้ให้เห็นว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าเงินเฟ้อจะลดลงในระยะใกล้ โดยสังเกตจากรูปแบบในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่มักมีเงินเฟ้อสูงในช่วงต้นปี เมื่อบริษัทต่างๆ มักจะปรับขึ้นราคา ข้อมูลที่เผยแพร่ล่าสุดก็แสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อผู้บริโภคในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปีครึ่ง สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังเผชิญในการควบคุมเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ Logan ยังชี้ให้เห็นถึงสัญญาณที่อาจบ่งชี้ถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดยอ้างอิงจากผลสำรวจธนาคารที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างมากต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการสินเชื่อ ขณะเดียวกัน ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราการว่างงานในเดือนมกราคมลดลงเหลือ 4.1%

Bank of America คาดราคาทองพุ่งแตะ 3,000 ดอลลาร์ จีนเปิดทางประกันลงทุนทองคำ

ทางด้าน Bank of America หนึ่งในสถาบันการเงินชั้นนำของโลก ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำและคงการคาดการณ์ราคาที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม ธนาคารยอมรับว่าเป้าหมายนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น

Michael Widmer นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของ Bank of America กล่าวว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นส่วนใหญ่มาจากการซื้อโดยภาครัฐ ความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลการคลังของสหรัฐฯ ข้อพิพาททางการค้า สงคราม การคว่ำบาตร และการอายัดทรัพย์สิน ทำให้ธนาคารกลางและนักลงทุนอื่นๆ ผลักดันราคาทองคำสปอตไปสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Widmer อธิบายว่า ในขณะที่การซื้อทองคำของธนาคารกลางครองตลาด ความต้องการลงทุนทั่วโลกจำเป็นต้องเพิ่มขึ้นเพียง 1% เท่านั้นเพื่อให้โลหะมีค่านี้แตะเป้าหมายของธนาคาร ในขณะเดียวกัน การเพิ่มขึ้น 10% ในความต้องการลงทุนจะผลักดันราคาไปสู่ระดับ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ “นั่นเป็นตัวเลขที่สูง แต่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้”

ขณะที่จีนยังคงเป็นตลาดสำคัญที่ต้องจับตาดูในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการจีนได้เปิดตัวโครงการนำร่องใหม่ที่จะอนุญาตให้บริษัทประกันภัยของจีนลงทุนในทองคำได้ถึง 1% ของสินทรัพย์ของพวกเขา โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทประกันภัยของจีนได้ลงทุนทั้งหมด 32,000 ล้านหยวน หรือ 4.4 พันล้านดอลลาร์ ดังนั้น กระแสเงินทุนที่อาจไหลเข้าสู่ทองคำอาจอยู่ในช่วง 180,000-200,000 ล้านหยวน หรือ 25-28 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ยังมีความวุ่นวายในตลาด Exchange for Physicals (EFP) เนื่องจากสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จดทะเบียนใน CME มีการซื้อขายรวมภาษีนำเข้า Widmer ระบุว่าความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรได้ผลักดันราคาในตลาดซื้อขายล่วงหน้าให้สูงขึ้น นักลงทุนได้เคลื่อนย้ายทองคำและเงินเข้าสู่สหรัฐฯ เนื่องจากคาดการณ์ว่าประธานาธิบดี Donald Trump จะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% จากแคนาดาและเม็กซิโก

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

ราคาทองคำได้ปรับตัวลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 2,906 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 2,896 ดอลลาร์ในปัจจุบัน ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้อาจสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อขายในระยะสั้น

เมื่อพิจารณาจากภาพรวมทางเทคนิค เราสามารถสังเกตเห็นสัญญาณที่น่าสนใจหลายอย่าง ในด้านแนวโน้มหลัก ถึงแม้ราคาจะปรับตัวลงผ่านแนวรับ 2,906 ดอลลาร์ แต่ยังคงเคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 ซึ่งสะท้อนว่าแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางยังไม่ถูกทำลาย แต่อาจกำลังเข้าสู่ช่วงของการพักตัว

การวิเคราะห์ RSI แสดงให้เห็นการปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยค่า RSI ได้ลดลงมาต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งเป็นสัญญาณของการอ่อนแรงลงของแรงซื้อในระยะสั้น นอกจากนี้ Stochastic RSI ก็แสดงการปรับตัวลงเช่นกัน โดยทั้งสองเส้นเคลื่อนตัวลงในทิศทางเดียวกัน สะท้อนถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้น

สำหรับกลยุทธ์การเทรดในระยะถัดไป ควรให้ความสำคัญกับแนวรับสำคัญใหม่ที่บริเวณ 2,884 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 2,870 ดอลลาร์ ซึ่งกลายเป็นแนวต้านในระยะสั้น

ในมุมมองระยะกลาง แม้ว่าราคาจะมีการปรับฐานในระยะสั้น แต่ตราบใดที่ยังสามารถยืนเหนือแนวรับที่ 2,870 ดอลลาร์ได้ โอกาสที่ราคาจะฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2,940 และ 2,960 ดอลลาร์ยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามปริมาณการซื้อขายอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อราคาทดสอบแนวรับสำคัญ เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวรับและโอกาสในการฟื้นตัว

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,884

• $2,870

• $2,850

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,906

• $2,940

• $2,960