วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 8 ต.ค. 2567
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันที่ผ่านมา แต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงราคา $2,630 - $2,660 โดยมีปัจจัยกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำไม่ให้ปรับตัวลดลงมากนัก
บรรยากาศการลงทุนในตลาดโลกชะลอลงเนื่องจากสงครามในตะวันออกกลาง โดยอิสราเอลยังคงปฏิบัติการภาคพื้นดินในเลบานอน ขณะที่กลุ่มฮามาสยิงจรวดโจมตีเมืองเทลอาวีฟ ความหวังในการหยุดยิงลดน้อยลงเมื่อความขัดแย้งขยายวงกว้างขึ้น โดยมีกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มฮูตีเข้าร่วมโจมตีเรือในทะเลแดง สถานการณ์นี้ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังและหันมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งรวมถึงทองคำ
ตลาดคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนที่แข็งแกร่งเกินคาด ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนเริ่มมองข้ามความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 bps โดยข้อมูลจาก CME FedWatch Tool แสดงว่าโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps อยู่ที่ 83.5% ขณะที่โอกาสที่จะปรับลดลง 50 bps แทบไม่เหลือ แต่โอกาสที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เพิ่มขึ้นเป็น 16.5%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นกว่า 5.5 bps มาอยู่ที่ 4.026% สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps ในการประชุมนโยบายการเงินสองครั้งสุดท้ายของปี 2024 การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรนี้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโดยรวม โดยเฉพาะตลาดหุ้นและสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย เช่น ทองคำ
นักวิเคราะห์มองราคาทองคำมีความเสี่ยงปรับฐาน
Carley Garner ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทนายหน้าซื้อขาย DeCarley Trading กล่าวว่า ตลาดทองคำอาจมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น แต่กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะปรับฐานลง เนื่องจากผู้ซื้อในตลาดเริ่มลดลง โดยเมองว่าราคาทองคำกำลังเผชิญกับแรงต้านทานที่สำคัญ และยากที่จะปรับตัวขึ้นได้ที่ระดับราคาปัจจุบัน
Garner ชี้ว่าแม้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ แต่ก็ตั้งคำถามว่าปัจจัยเหล่านี้ได้ถูกสะท้อนในราคาปัจจุบันมากเพียงใดแล้ว นอกจากนี้ Garner ยังเตือนถึงความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงและสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ
Garner ยังเน้นย้ำว่าผู้จัดการกองทุนกำลังถือครองสถานะซื้อทองคำในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดสภาพคล่องในตลาดหากเกิดการเทขายพร้อมกัน Garner แนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังและพิจารณาการใช้กลยุทธ์ออปชั่นเพื่อจำกัดความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
ธนาคารกลางจีนหยุดซื้อทองคำเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน
ขณะที่ฝั่งธนาคารกลางจีน (PBoC) ไม่ได้เพิ่มทองคำในคลังสำรองระหว่างประเทศในเดือนกันยายน ทำให้การหยุดซื้อทองคำยืดเยื้อเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ปริมาณทองคำในคลังสำรองของจีนยังคงอยู่ที่ 72.8 ล้านทรอยออนซ์ หรือ 2,063.84 เมตริกตัน ณ สิ้นเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม มูลค่าของทองคำในคลังสำรองเพิ่มขึ้นเป็น 191.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ วันที่ 30 กันยายน จาก 182.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม เนื่องจากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น
Nitesh Shah นักกลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของ WisdomTree เชื่อว่าธนาคารกลางจีนต้องการถือครองทองคำเพิ่มขึ้น แต่กำลังรอจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าซื้อ อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าด้วยอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ลดลงและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ธนาคารกลางจีนอาจต้องรอนานขึ้นเพื่อให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง
นักวิเคราะห์จาก Capital Economics มองว่าการหยุดซื้อทองคำของธนาคารกลางจีนเป็นเพียงการชะลอตัวชั่วคราว และคาดว่าการซื้อทองคำของจีนยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และความพยายามในการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ พวกเขาคาดการณ์ว่าความต้องการทองคำของจีนจะเพิ่มขึ้นในทศวรรษนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นและอาจเป็นแหล่งที่มาของความผันผวนในตลาดทองคำในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
เจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์นี้ รวมถึง Michelle Bowman ผู้ว่าการเฟดและ Raphael Bostic ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา โดยนักลงทุนจะจับตาดูความเห็นของพวกเขาเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในอนาคต
Neel Kashkari ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขามินนีแอโพลิสกล่าวว่า เขารู้สึกว่าเศรษฐกิจมีความยืดหยุ่น ขณะที่ตลาดแรงงานแม้จะแสดงสัญญาณของการอ่อนตัวลงบ้าง แต่ก็ยังคงแข็งแกร่ง โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดมีเป้าหมายเพื่อรักษาความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน
Gennadiy Goldberg หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ของ TD Securities กล่าวว่า ตลาดเปลี่ยนจากการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 bps เป็นอาจจะไม่มีการปรับลดในเดือนพฤศจิกายนอย่างรวดเร็ว เพียงเพราะข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม เขามองว่าเป็นเรื่องแปลกที่เฟดจะยกเลิกการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเร็วเกินไป หลังจากที่เพิ่งปรับลดลง 50 bps ในการประชุมเดือนกันยายน
ทั้งนี้ ตลาดจับตาข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่จะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในอนาคต นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่เหนือเป้าหมายของเฟดที่ 2%
สุดท้าย ตลาดทองคำขณะนี้ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย ทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง การคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟดและแนวโน้มเศรษฐกิจโลก นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดพันธบัตร ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงินและสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาทองคำโดยตรง
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
การวิเคราะห์กราฟราคาทองคำรายชั่วโมง เผยให้เห็นภาพการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากระดับสูงสุดที่ $2,685 มาอยู่ที่ระดับปัจจุบัน $2,643 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแรงขายที่เข้ามากดดันตลาดในระยะสั้น
เมื่อพิจารณาจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เราจะเห็นว่าราคาทองคำได้เคลื่อนตัวต่ำกว่าเส้น EMA 12 (สีแดง) และ EMA 26 (สีฟ้า) แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ราคายังคงอยู่เหนือเส้น EMA 200 อย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มหลักในระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้น
การวิเคราะห์ดัชนี RSI แสดงให้เห็นว่าแรงซื้ออยู่ในระดับกลางๆ หลังลดตัวจากระดับ Overbought ก่อนหน้านี้มาที่ต่ำกว่าระดับ 40 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าราคาอาจจะเริ่มมีการฟื้นตัวในระยะสั้น
ในแง่ของแนวรับและแนวต้านในวันนี้ เริ่มที่แนวรับสำคัญที่ระดับ $2,633 และ $2,620 หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับเหล่านี้ได้ จะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการฟื้นตัว ในทางกลับกัน แนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ $2,657 และ $2,671 ซึ่งหากราคาสามารถทะลุผ่านไปได้ จะเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นแนวโน้มขาขึ้นใหม่
สำหรับแนวโน้มในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาทองคำอาจจะมีการแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีโอกาสที่จะเกิดการฟื้นตัวเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวรับที่ $2,633 ได้ อาจจะเห็นการปรับตัวลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ $2,620
นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณแนวรับและแนวต้านที่ระบุไว้ เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ ปัจจัยภายนอกอย่างนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำในระยะยาว
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,633
$2,620
$2,590
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,657
$2,671
$2,690
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน